สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 238 มองดูเธอ เดินเคียงไหล่ไปกับคนอื่น
บทที่ 238 มองดูเธอ เดินเคียงไหล่ไปกับคนอื่น
หลายวันที่ผ่านมานี้ เธอแทบจะไม่ได้เห็นหน้าเขาดีๆเลยสักครั้ง
ถึงแม้ว่าจะเจอเข้าระหว่างทาง ก็รีบหลีกเลี่ยงอย่างรีบร้อน ส่วนโห้หลีเฉินเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาทักทายเธอ ก็แค่เดินผ่านเธอไปเฉยๆเท่านั้น
ที่ต้องเผชิญหน้ากันแบบวันนี้ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรก
เย้นหว่านมองดูชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว ในใจก็ตื่นเต้นจนแทบจะเกร็งอยู่แล้ว เธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเขายังไง
จากนั้น ร่างกายเธอก็เร็วกว่าสมอง เลยลุกพรวดขึ้นมาทันที
ฉูรั่วไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เย้นหว่าน ?”
มองดูโห้หลีเฉินเดินเข้ามา ที่เธออดกลั้นมาหลายวันนี้ สุดท้ายก็อดกลั้นต่อไปไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ
เขาบีบตะเกียบในมือแน่น ภายในใจหนักอึ้งราวกับกำลังจะตกลงไปในน้ำ
แววตาสั่นเครือ และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อ “ฉันกินอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็แทบไม่กล้าสบตากับโห้หลีเฉิน หันหน้าเดินตรงไปอีกทางทันที
ไม่ว่าโห้หลีเฉินจะมาหาเธอหรือเปล่า เธอก็ตื่นเต้นจนแทบจะหยุดหายใจอยู่แล้ว ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นไปได้แบบไหนทั้งนั้น แม้แต่การเข้าใกล้เขา
ก่อนอื่น เธอก็ควรหลบเลี่ยงเอาไว้ก่อนดีกว่า
ฝีเท้าของโห้หลีเฉินชะงักไป
สายตาของเขาทอดมองไปที่เย้นหว่าน ที่เดินเลี่ยงเขาไปยิ่งอยู่ก็ยิ่งไกล
หลายวันที่ผ่านมา แค่เธอเห็นเขาเข้าก็เป็นแบบนี้ตลอด เอาแต่หลบเลี่ยงไว้ก่อน ขนาดจะเข้าใกล้ยังไม่มี
วันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ แค่เพราะว่าการมาของเขา แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ก็ไปเสียแล้ว
นี่เขาเป็นภัยพิบัติหรือสัตว์ร้ายหรืออย่างไร ถึงได้ทำให้เธออยากจะหลบเลี่ยงได้ถึงขนาดนี้
ในอกรู้สึกคับแน่นขึ้นมา โห้หลีเฉินก้าวเท้ายาวๆออกไป แล้วดึงตัวเย้นหว่านที่อยู่หน้าประตูห้องอาหารเอาไว้
จ้องมองร่างสูงที่จู่ๆก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ย่างก้าวของเย้นหว่านก็หยุดชะงักลง หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น
เธอจ้องมองเขา น้ำเสียงแข็งทื่อขึ้นมาเล็กน้อย “คุณโห้ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
ท่าทางทีเหินห่าง ยิ่งกว่าคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันเสียอีก
สีหน้าของโห้หลีเฉินย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม จ้องเย้นหว่านเขม็ง ขนาดลมหายใจเองก็ยังลึกขึ้น
เขาขมวดคิ้วแน่น ผ่านไปครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ชมอาหารให้ฉัน”
เสียงทุ้มต่ำสี่คำ เป็นโทนเสียงที่ใช้ออกคำสั่ง
ใจของเย้นหว่านกระตุกวูบอย่างควบคุมไม่ได้ จนเผลอคิดถึงตอนที่อยู่เมืองเฉิงหนาน เขาชอบพูดสี่คำนี้กับเธออยู่บ่อยๆ
และในตอนนั้น เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ทุกครั้งไป และคอยทำหน้าที่เหมือนแม่ครัวของเขา คอยชิมอาหารอยู่นานสองนาน
แล้วตอนนี้ยังจะให้ชิมอาหารอีก แล้วเพื่ออะไรกันแน่
เย้นหว่านตัดสินใจเด็ดขาด จะทำอะไรก็ต้องเด็ดขาด เธอตอบกลับไปอย่างเย็นชา
“ขอโทษค่ะ ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ไม่มีเวลา”
โห้หลีเฉินตัวแข็งทื่อทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปฏิเสธคำขอแบบนี้ของเขา
ในใจของเย้นหว่านสับสนวุ่นวาย ไม่กล้ามองตาของโห้หลีเฉิน สายตามองตรงไปด้านหน้า
“ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อพูดจบ เย้นหว่านก็เดินอ้อมโห้หลีเฉินไป เด็ดขาดเป็นที่สุด
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว จิตใต้สำนึกต้องการหยุดเธอไว้ แต่นิ้วมือที่ขยับแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้ยื่นมือออกไป
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอในตอนนี้……
นี่มันเลวร้ายจริงๆ
ฉูรั่วไป๋รีบร้อนเดินตามออกมา และก็เห็นการโต้ตอบระหว่างเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินเข้าอย่างชัดเจน
ขอแค่มีหัวคิดสักหน่อย ก็คงต้องดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินไม่ค่อยจะลงรอยกันขนาดไหน
และนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาคาดหวังอยากจะเห็น เขาจะได้มีโอกาส
ฉูรั่วไป๋อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก และก็ยังไม่ลืมที่จะซ้ำเติมคนเจ็บ ตะโกนบอกเย้นหว่านอย่างมีความสุขว่า
“เสี่ยวหว่าน รอฉันด้วยสิ เดี๋ยวฉันกับเธอไปห้องเอกสารด้วยกันนะ”
ฉูรั่วไป๋วิ่งเหยาะๆตามขึ้นไป ราวกับสายลมที่พัดผ่านโห้หลีเฉินไป แถมยังหันมายิ้มให้เขาอีก จงใจยั่วยุเต็มที่
จากนั้น ก็วิ่งไปอยู่ข้างเย้นหว่าน และเดินเคียงไหล่ออกไปด้วยกัน
เพราะว่าเดินไป ระยะห่างของทั้งสองก็ไม่ไกลกัน ไหล่ก็เลยกระทบกันอยู่บ่อยๆ ดูแล้วท่าทางสนิทสนมกันมาก
สีหน้าของโห้หลีเฉินก็เลยยิ่งย่ำแย่เข้าไปมากกว่าเดิม
สีหน้าที่แสนเยือกเย็น ตอนที่มองไปทางฉูรั่วไป๋อีกครั้ง แววตาก็เต็มไปด้วยเจตนาที่มุ่งร้ายเต็มที่
เว่ยชีที่ยืนอยู่ด้านข้างพอได้ยินเสียงข้อนิ้วดัง “กรอบ กรอบ”ออกมาจากตัวของโห้หลีเฉินนั้น ทั่วทั้งร่างก็เกร็งขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม และถอยหลังไปก้าวสองก้าวเพื่อความปลอดภัยทันที
เจ้าฉูรั่วไป๋คนนี้ช่างหาเรื่องตายจริงๆ จะต้องถูกคุณท่านหั่นเป็นแปดท่อนแน่
แต่……
เว่ยชีทำใจดีสู้เสือ แล้วพูดเตือนด้วยความหวาดหวั่นว่า “คุณท่านครับ ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับคุณเย้นกำลังอยู่ในช่วงคับขัน ถ้าเกิดไปยุ่งกับฉูรั่วไป๋ตอนนี้ แล้วคุณเย้นรู้เรื่องเข้า เกรงว่า…. มันจะยิ่งเลวร้ายไปกว่าเดิมนะครับ”
โห้หลีเฉินกำหมัดแน่น ราวกับจะบดขยี้อะไรบางอย่าง แรงระเบิดนั้นทรงพลังจนน่ากลัว
ราวกับพร้อมจะฆ่าฉูรั่วไป๋ได้ตลอดเวลา
สีหน้าของเขาเย็นชา ทุกคำที่ออกมาดูเหมือนว่าจะเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน
“ไม่งั้นนายคิดว่าทำไมฉูรั่วไป๋มันถึงได้ลอยนวลมาถึงตอนนี้ได้ล่ะ”
เว่ยชีเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที
ใช่แล้ว คุณท่านเห็นว่าฉูรั่วไป๋ขัดหูขัดตามาตั้งนานแล้ว จากนิสัยของคุณท่าน ฉูรั่วไป๋คงต้องถูกคนฆ่าล้างมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแน่ เป็นไปไม่ได้ที่จะได้อยู่ที่นี่ต่อ
ที่ตอนนี้ฉูรั่วไป๋ยังมีชีวิตอยู่ที่นี่แบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าคุณท่านคำนึงถึงเย้นหว่าน เลยไม่เคยลงมือมาตลอด
แต่ฉูรั่วไป๋คนนี้ เป็นเพลย์บอยชื่อดัง ฝีไม้ลายมือในการจีบหญิงเป็นที่หนึ่ง อีกอย่างหลังจากที่เย้นหว่านมาที่นี่ เขาก็เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทันที และไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
เรื่องราวที่ผ่านมาของฉูรั่วไป๋ก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่จากที่เห็น เขาจะต้องคิดไม่ซื่อกับเย้นหว่านเป็นแน่
อีกอย่าง การที่พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวเย้นหว่านคนเดียวแบบนี้ ดูเหมือนจะลงทุนลงแรงกับเย้นหว่านไปมากเหมือนกัน ทะเยอทะยานจน…….
และเย้นหว่านก็หัวช้าในด้านเรื่องพวกนี้อยู่ด้วย คิดว่าฉูรั่วไป๋เป็นแค่ที่ปรึกษา และเพื่อนเท่านั้น
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็ว เย้นหว่านจะต้องถูกฉูรั่วไป๋กลืนกินแน่ๆ แม้แต่หัวใจก็คงมอบให้เขาแน่ๆ
แล้วคุณท่านของเขาล่ะจะเป็นยังไง
เว่ยชีติดตามโห้หลีเฉินมานานหลายปีขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นโห้หลีเฉินชอบผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ อีกอย่างช่วงที่ผ่านมา ก็เห็นกับตาแล้วว่าโห้หลีเฉินใส่ใจเย้นหว่านขนาดไหน
นั่นจะต้องเป็นเพราะว่าเขามีใจแล้วแน่นอน
คุณท่านเองก็คงไม่มีวันยอมปล่อยเย้นหว่านไปแน่ๆ ไม่ควรอ่อนข้อแบบนี้ต่อไปอีกแล้ว ถ้าปล่อยฉูรั่วไป๋ไว้แบบนี้ เขาจะต้องเข้าเส้นชัยไปก่อนเป็นแน่
เว่ยชีเดินเข้าไปใกล้โห้หลีเฉินอีกเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “คุณท่านครับ ผมคิดว่าคุณไม่ควรทำสงครามเย็นกับคุณเย้นต่อไปแล้วนะครับ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว “ฉันทำสงครามเย็นกับหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็สองวันที่ผ่านมาพวกคุณไม่ได้คุยกันเลยไม่ใช่เหรอครับ พอเห็นอีกฝ่ายก็หลบเลี่ยงตลอด”
“นั่นเพราะเธอเป็นฝ่ายหลบเลี่ยงฉันต่างหาก”
โห้หลีเฉินเอ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์ คิ้วขมวดกันจนแน่น
หลังจากวันนั้น เขาก็รู้ว่าเธอรีบตัดสินใจเพราะอารมณ์โกรธ และก็ตัดสินใจแล้วว่าจะถอนหมั้นกับเขา
วิธีการอันชาญฉลาดที่ใช้กับการตลาด แต่พออยู่บนตัวของเย้นหว่าน โห้หลีเฉินกลับไม่รู้เลยว่าจะรับมือยังไง ทำได้เพียงแค่รอให้เย้นหว่านหายโกรธในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แล้วจึงค่อยๆเดินหน้าต่อ
ดังนั้นหลายวันที่ผ่านมาเธอก็เลยเอาแต่ซ่อนตัวจากเขา เขาเอาก็ไม่ได้ไปหาเธอด้วย
วันนี้อยากผ่อนคลายความสัมพันธ์ แต่เห็นได้ชัดว่าความโกรธของเย้นหว่านยังไม่สงบลง ท่าทีที่มีต่อเขาก็เย็นชามาก……
เมื่อคิดถึงตรงนี้ โห้หลีเฉินก็นวดขมับ รู้สึกหมดเรี่ยวแรง
เว่ยชีถึงได้รู้แจ้งว่า ที่จริงเขาก็เข้าใจความหมายของคุณท่านของเขาผิดไป แต่วิธีการรับมือของคุณท่านแบบนี้ ขนาดเขาที่เป็นคนนอกดูแล้วก็ยังคิดว่ากำลังเล่นสงครามเย็นกันอยู่เลยนะ
นี่มันไม่ใช่วิธีการที่ดีในการผ่อนคลายความสัมพันธ์เลยสักนิด
เขารู้สึกหดหู่ ก่อนจะพูดออกมาว่า “คุณท่านครับ จะปลอบผู้หญิงยังไงก็ควรอยู่ข้างกายนะครับ ถึงแม้จะเป็นการปั้นหน้าก็ตาม แบบนั้นความสัมพันธ์ถึงจะผ่อนคลายลงนะครับ”
สีหน้าของโห้หลีเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขามองไปทางทิศทางที่เย้นหว่านเดินจากไปด้วยสายตาเลื่อนลอย ยังคงจำภาพเลือนรางที่เธอเดินเคียงไหล่ไปกับฉูรั่วไป๋ได้
ภายในใจยิ่งเต็มไปด้วยความหงุดหงิดที่ท่วมท้น