สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 272 ความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่าเพื่อน
บทที่ 272 ความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่าเพื่อน
ในเมื่อหล่อนไม่ได้รับ มีสิทธิ์อะไรต้องให้เย้นหว่านไปเหยียบเรือสองแคม?
ขอเพียงเย้นหว่านยังเป็นคู่หมั้นของโห้หลีเฉิน ขอเพียงเย้นหว่านแต่งงานกับโห้หลีเฉิน เธอกับฉูรั่วไป๋ก็ไม่มีทางแต่งงานกันได้ หล่อนก็มีโอกาส
หล่อนจะไม่ปล่อยฉูรั่วไป๋ไปง่ายดายขนาดนั้นอย่างเด็ดขาด
“รั่วไป๋ ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณถูกยัยจิ้งจอกนั้นยั่วยวนใจ ถึงเป็นแบบนี้ แต่ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องมองด้านแท้จริงของเย้นหว่านออก หลังเล่นเสร็จ คุณจะเบื่อผู้หญิงที่เปลี่ยนใจไปเรื่อยแบบหล่อน”
เย้นหว่านฟังจนมุมปากหดลง
เธอเป็นเพียงผู้ชมคนหนึ่ง เป็นคนนอก อย่างมากสุดถือว่าก้างขวางคอ แต่ว่าทำไมถึงถูกดึงเข้าสนามรบด้วย ยังกลายเป็นคนนั้นที่ถูกโจมตีจนบาดเจ็บมากที่สุด?
ไม่มีความผิดสักนิด
เย้นหว่านคิดว่าซวยไปอย่างไร้ความผิด อย่างไรเธอก็ต้องอธิบายให้ตนเองสักหน่อย
เธอเดินออกมาจากด้านหลังของฉูรั่วไป๋ เผชิญหน้ากับอานฉีเอ๋อ
“คุณผู้หญิงคะ ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันกับคุณฉูเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานและเพื่อนกัน ระหว่างฉันกับเขาบริสุทธิ์ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแบบนั้น”
“บริสุทธิ์?”
อานฉีเอ๋อเหมือนจะได้ยินเรื่องตลกมาก สายตาที่มองเย้นหว่านยิ่งเพิ่มความหน้าไม่อาย และรังเกียจ
“พวกดัดจริตก็เคยเห็นมามากแล้ว นึกไม่ถึงเธอจะเป็นแบบนี้ เป็นโสเภณี แถมยังสร้างซุ้มคนต่ำอีก”
ถูกคนชี้หน้าด่าแบบนี้ ถึงเย้นหว่านจะนิสัยดีแค่ไหน ก็มีโกรธบ้างเช่นกัน
เธอหน้าอึมครึม น้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณผู้หญิง ขอให้คุณสังวรในคำพูดด้วย อย่าคาดคะเนเอาเอง มาใส่ร้ายทำร้ายคนอื่น นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระและปัญญาอ่อนที่สุด”
“เธอคิดว่าเธอปากแข็ง ไม่ยอมรับก็ได้แล้วเหรอ? ได้สิ งั้นฉันจะถามเธอ ช่วงเวลานี้ ฉูรั่วไป๋ดูแลเธอเป็นพิเศษรึเปล่า? เธอไปไหน ก็รับส่งเธอโดยเฉพาะ เอาอาหารเช้ามาให้กินข้าวเป็นเพื่อนเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขอบเขตความเชี่ยวชาญของเขา พาเธอไปตรวจเสื้อผ้าด้วยตัวเอง สอนความรู้ให้เธอละเอียดไม่ตกหล่น ไขข้อสงสัยให้เธอ”
ถึงแม้จะเป็นการประณาม พอถูกคนสรุปออกมาขนาดนี้ สำหรับเย้นหว่านเรื่องที่ฉูรั่วไป๋ทำในช่วงเวลานี้ ยังรู้สึกประทับใจอยู่หน่อย
เธอตอบว่า “ใช่ คุณฉูดีกับฉันจริง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนร่วมงานและเพื่อน”
“มิตรภาพ? ยุคสมัยนี้ ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงยังมีมิตรภาพบริสุทธิ์ด้วยเหรอ? ฉูรั่วไป๋เป็นใคร คนที่ผู้หญิงส่วนมากในเมืองเจียงก็รู้จักกันทั้งนั้น เขาดีต่อผู้หญิงคนไหนหมด ดีจนทำให้คนเดือดดาล และเป้าหมายสุดท้ายไม่ใช่ความสนุกคืนนั้นเองเหรอ
แต่ไหนแต่ไรเขามีเป้าหมายทั้งนั้น ปกติเห็นเขาเคยอดทนดีกับคนอื่นที่ไหนกัน? และทำไมเขาถึงดีกับเธอ?
บอกว่าขอบเขตงาน ถึงแม้จะเป็นลูกศิษย์ที่เขาเคยคุม นักเรียนที่ดูด้วยตนเอง ล้วนไม่มีการอธิบายละเอียดยิบขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังพาออกไปเที่ยว ไปเรียนด้วยตัวเอง เย้นหว่าน เธอคิดว่าเขามีสิทธิ์อะไรต้องทำตัวพิเศษกับเธอขนาดนี้ ดีกับเธออย่างนี้?”
คำพูดของอานฉีเอ๋อแต่ละประโยค พูดจนเย้นหว่านสำลักค้าง เวลานี้มึนงงอยู่เล็กน้อย
คิดดูวันแรกที่เธอพึ่งมา ฉูรั่วไป๋ก็ดีต่อเธอสารพัด เป็นสุภาพบุรุษและเอาใจใส่อย่างยิ่ง แต่ว่าเป้าหมายสุดท้ายก็แค่เพื่อกลิ้งบนเตียงกับเธอ
เริ่มแรก เธอกับฉูรั่วไป๋ไม่ได้บริสุทธิ์ขนาดนั้นจริงๆ
แต่หลังจากนั้นฉูรั่วไป๋กลับเป็นคนที่เปิดเผยและซื่อตรง บอกว่าเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อนกับเธอจริง ช่วงเวลานี้ดีต่อเธอมาก กลับไม่เคยเกิดเรื่องเกินเลยสักนิด
เย้นหว่านเห็นเขาเป็นเพื่อนด้วยความจริงใจ เหมือนไม่เคยไปคิดว่าคนที่โดดเด่นอย่างฉูรั่วไป๋แบบนี้ ทำไมต้องดีต่อเพื่อนอย่างเธอขนาดนี้
เมื่อก่อนเธอก็ไม่เคยระลึกว่าฉูรั่วไป๋ สำหรับคนอื่น สำหรับเพื่อนคนอื่นเป็นท่าทีอย่างไร
ตอนนี้พอพูดอย่างนี้ เย้นหว่านกลับมึนงงนิดหน่อย
ฉูรั่วไป๋มองเห็นเย้นหว่านท่าทางครุ่นคิดอย่างหนัก ในใจพูดไม่ออกว่าเป็นอารมณ์อะไร
ระหว่างเขากับเย้นหว่าน ความจริงค่อนข้างบริสุทธิ์จริงๆ แม้กระทั่งเย้นหว่านก็เห็นเขาเป็นเพื่อนจริงๆ เป็นเขาเองที่จิตใจไม่ซื่อมาโดยตลอดเอง
เดิมทีเขาวางแผนค่อยๆ มา ฝนตกเล็กน้อยให้ของเปียกจนหมด จากนั้นค่อยๆ ทำให้เย้นหว่านชอบเขาโดยไม่รู้ตัว ทว่าการปรากฏตัวของโห้หลีเฉิน ทำทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่มีความมั่นใจ แต่จิตใจที่มีต่อเย้นหว่าน เขาวางแผนจะบอกเธอแล้ว
แต่กังวลว่าจะกะทันหันไป ทำให้เย้นหว่านไม่มีทางรับได้ ส่วนอานฉีเอ๋อโวยวายขนาดนี้ เหมือนเปลี่ยนมาช่วยเขาสารภาพรัก ทำให้ในใจเย้นหว่านมีการเตรียมพร้อม
เพียงแต่สีหน้าของฉูรั่วไป๋กลับไม่ดีเอามากๆ
ถึงแม้เขาอยากให้เย้นหว่านทำใจเตรียมพร้อม และไม่ใช่อยากใช้วิธีแบบนี้ทำให้เย้นหว่านลำบากใจ
“พอแล้ว!”
ฉูรั่วไป๋ตวาดเสียงเย็นเฉียบ
เขามองอานฉีเอ๋อด้วยสายตาเย็นยะเยือกเป็นพิเศษ “ฉันกับเย้นหว่านมีความสัมพันธ์อะไร ยังไม่ถึงขั้นที่เธอคนนอกนี้มาชี้ไม้ชี้มือบอก”
อานฉีเอ๋อไม่ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ดวงตากะพริบ น้ำตาก็ร่วงลงมา
“รั่วไป๋ คุณไม่ได้รำคาญผู้หญิงแอ๊บแบ๊วที่สุดมาตลอดเหรอ ทำไมถึงยังชอบหล่อนอยู่อีก? เย้นหว่านแม้แต่ความสัมพันธ์กับคุณ หล่อนยังไม่ยอมรับ ทำไมตอนนี้คุณยังปกป้องหล่อนอีก”
ที่อานฉีเอ๋อรู้คือฉูรั่วไป๋เป็นคนที่ยิ่งยโสมากแค่ไหน แต่ฉูรั่วไป๋ในวันนี้กลับทำให้หล่อนรู้สึกว่าเหมือนเจอผู้ชายอีกคน
เย้นหว่าน “……” เธอไม่ใช่พวกใสซื่อนะเข้าใจมั้ย?
กลัดกลุ้ม เดิมทีเธอมีความมั่นใจมากพอ บริสุทธิ์ใจกับฉูรั่วไป๋ แต่กลับถูกอานฉีเอ๋อพูดมาขนาดนี้ เธอจึงหาเหตุผลที่ดีมากมาตอบโต้ไม่เจอ
เธอพยายามคิดให้ลึกตรวจสอบการกระทำของตนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉูรั่วไป๋เหมือนจะดีเกินไปหน่อย ดีจนทำให้คนเข้าใจผิดได้
ฉูรั่วไป๋มองท่าทางที่ดื้อด้านอย่างมากของอานฉีเอ๋อยิ่งรู้สึกรำคาญ ขมับเต้นลงหน่อย หงุดหงิดตัวเองในอดีตมาก ทำไมถึงตาบอดนอนกับผู้หญิงคนนี้ได้
“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าโทษว่าฉันไม่ปรานีเธอ”
เสียงของฉูรั่วไป๋เย็นยะเยือก ซ่อนความโมโหไม่ได้สักนิด
อานฉีเอ๋อยังอยากพูดอะไร ตกใจจนสำลักค้างไปเล็กน้อย
หล่อนอยากเป็นผู้หญิงของฉูรั่วไป๋มาก และรู้ว่านิสัยของฉูรั่วไป๋ ความจริงเป็นประเภทที่หาเรื่องไม่ได้จริงๆ
ดังนั้นจึงกดอารมณ์ไม่พอใจมากลงไว้ในใจ ในใจอานฉีเอ๋อเต็มไปด้วยความแค้นเคืองถลึงตาใส่เย้นหว่านทีหนึ่ง
หล่อนกัดฟัน “ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้แน่! เย้นหว่าน ฉันขอประกาศศึกกับเธอ ดีที่สุดเธอไปจากฉูรั่วไป๋แต่โดยดี ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจเธอ”
เย้นหว่าน “……”
อานฉีเอ๋อยิ้มเยาะนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ท่าทางนั้นยังมีครั้งต่อไปอีกเป็นแน่
ฉูรั่วไป๋กดๆ ขมับที่ปวดอยู่บ้าง มองเย้นหว่านอย่างเกรงใจมาก
“ทำให้คุณไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว คุณอย่าไปสนใจหล่อนเลย ผมจะจัดการให้เรียบร้อย”
“ไม่เป็นไร” เย้นหว่านส่ายหน้า จำใจอยู่บ้าง
ถึงแม้กลัดกลุ้ม แต่ใครใช้ให้เธอมีฉูรั่วไป๋คนนี้เป็นเพื่อนกันล่ะ เจ้าชู้ไม่มีขอบเขต ผึ้งเป็นฝูง
ฉูรั่วไป๋ยังคงขมวดหัวคิ้ว “ที่หล่อนพูด……”
“ฉันไม่ได้เอามาใส่ใจ”
เย้นหว่านยิ้มขัดคำพูดของฉูรั่วไป๋ พูดล้อเล่นอย่างสนุก “ถ้าหล่อนไม่พูด ฉันคงยังไม่รู้สึกว่าที่จริงคุณดีกับฉันขนาดนี้ ฉูรั่วไป๋ เพื่อนแบบคุณนี้ฉันเก็บมาช่างคุ้มเหลือเกิน”
ทั้งเป็นไอดอล ทั้งเป็นผู้แนะนำ ทั้งยังเป็นเพื่อนอีกด้วย
เย้นหว่านรู้สึกว่าเมืองเจียง อาจจะเป็นแดนสุขาวดีของเธอมั้ง
เย้นหว่านพูดคำว่าเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติขนาดนั้น ไม่มีลังเลสักนิด ทำให้ฉูรั่วไป๋เจ็บหน้าอกนิดๆ
ความจริงเขาไม่ถือสาสักนิดถ้าเย้นหว่านจะมีความคิดอะไรกับเขาสักหน่อย
ฉูรั่วไป๋ขยับๆ ริมฝีปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น