สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 293 เธอกลายเป็นแขก คนนอก
บทที่ 293 เธอกลายเป็นแขก คนนอก
“เสี่ยวหว่าน” จูเหลียนอีงเดินเข้าไป หน้าตาเมตตาและอ่อนโยน
เย้นหว่านคาดไม่ถึงว่าจะเจอกับจูเหลียนอีงที่นี่ รีบลุกขึ้นยืน เอ่ยปากอย่างสุภาพ
“คุณย่า คุณย่าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
จูเหลียนอีงมองเย้นหว่าน ยังทำให้คนชอบขนาดนั้น หล่อนพูดอย่างอ่อนโยน
“เสี่ยวหว่าน ย่าตั้งใจมาหาหนู หนูไม่รู้ว่าหลายวันนี้ย่าอยู่ที่บ้าน หลีเฉินก็ไม่กลับมา ในใจอึดอัด วันนี้ตอนเช้ายังเกือบจะเป็นลมไป
หมออะ แนะนำให้ย่าผ่อนคลายอารมณ์ พบปะคนที่อยากเจอ และคนที่ย่าอยากเจอก็คือหนู”
เย้นหว่านได้ยินว่าจูเหลียนอีงจะเป็นลม รีบพยุงแขนของหล่อนไว้ด้วยความเป็นห่วง สอบถามอย่างห่วงใย
“คุณย่าคะ งั้นร่างกายคุณย่ามีปัญหาอะไรมากรึเปล่าคะ? ปกติต้องระวังดูแลให้ดี”
“พอเห็นหนู ตอนนี้อารมณ์ก็ดีขึ้นมากเลย เสี่ยวหว่าน กลับไปกับย่านะ กินข้าวเป็นเพื่อนย่าสักมื้อแล้วกัน” จูเหลียนอีงน้ำเสียงน่าสงสาร
เหมือนรู้ว่าเย้นหว่านจะปฏิเสธ หล่อนเสริมอีกประโยค “ย่าขอร้องง่ายๆ แบบนี้ หนูจะทนปฏิเสธย่าได้เหรอ?”
เย้นหว่านลำบากใจอย่างมาก มองกู้จื่อเฟยทีหนึ่ง กู้จื่อเฟยยักๆ ไหล่ แสดงว่าไม่มีทาง
โดยเฉพาะความปรารถนาของผู้อาวุโสง่ายมากจริงๆ
แถมยังเป็นคนป่วยอีก
เย้นหว่านจำใจ คิดว่าโห้หลีเฉินน่าจะไม่อยู่ที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคุณย่าคงไม่มาหาเธอ สุดท้ายเม้มริมฝีปาก ตอบรับ
“ก็ได้ค่ะ”
“เสี่ยวหว่าน ย่ารู้ว่าหนูกตัญญูที่สุดเลย” บนหน้าจูเหลียนอีงฉีกรอยยิ้มขึ้น ไม่ลืมดึงมือเย้นหว่านออกไป
เย้นหว่านได้แต่โบกมือลากับกู้จื่อเฟย บอกจะกลับไปค่ำหน่อย จากนั้นขึ้นรถไปกับจูเหลียนอีง
คฤหาสน์เก่า
เพราะมีคำสั่งของคุณนายใหญ่ อาหารเที่ยงในวันนี้จึงหลากหลาย
เย้นหว่านประคองผู้อาวุโสเดินไปที่โต๊ะอาหาร ยื่นมือเตรียมหยิบถ้วยขึ้นมาตักซุปให้หล่อน กลับได้ยินหล่อนบอกว่า
“เสี่ยวหว่าน ไม่รีบ หลีเฉินยังมาไม่ถึงเลย”
โห้หลีเฉินก็จะกลับมาด้วย!
ฝ่ามือเย้นหว่านสั่นเทา ถ้วยในมือเกือบร่วงลงไป
“คุณย่าคะ หนู……” หนูจะไปแล้วกัน……
คำพูดยังไม่ทันจบ เสียงของผู้ดูแลบ้านก็ดังขึ้นมา “คุณนายใหญ่ครับ คุณชายกลับมาแล้วครับ”
ไม่ถึงครึ่งนาที ชายหนุ่มร่างสูงชะลูดสูงส่งเดินเข้ามา
ภายใต้สายตาที่สว่างจ้า เขายังคงหล่อสง่าสมบูรณ์แบบ ใบหน้าที่งดงามเย็นชาราวกับแกะสลักมาอย่างประณีต สมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติ
สูงศักดิ์อย่างเขา
เย้นหว่านมองเห็นเขา ก้นบึ้งหัวใจสั่นสะเทือน
ไม่เจอหลายวัน กลับเหมือนไม่เจอหลายชาติ ยิ่งเหมือนพึ่งเคยเจอวินาทีก่อน
ในขณะเดียวกัน โห้หลีเฉินก็สังเกตเห็นเย้นหว่านที่อยู่ในห้องอาหาร
เธอใส่กระโปรงยาวสีม่วงอ่อน รูปร่างอ่อนช้อยผิวดี ใบหน้างดงามสง่า มีความประหม่า
เหมือนกับเมื่อก่อน ดึงดูดสายตาของเขาได้ตั้งแต่วินาทีแรก
โห้หลีเฉินอดรู้สึกตลกไม่ได้
เดิมทีเขาคิดว่าหมกมุ่นทำงานหลายๆ วันจะสามารถทำให้เขาลืมเธอได้ แต่ตอนนี้เพียงเจอเธอเข้า สติล้วนสับสน ระลึกถึงคำพูดไร้จิตใจของเธอในคืนนั้น
ดังนั้นเพียงแค่มองเธอแวบเดียว เขาก็ย้ายสายตา เดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารอย่างเย็นชา ถามจูเหลียนอีง
“คุณย่า ที่บ้านมีแขก ทำไมไม่บอกผมล่วงหน้าสักหน่อยครับ?”
ความหมายภายใต้คำพูด เย้นหว่านเป็นแขก เป็นคนนอก
เย้นหว่านฟังความหมายของเขาเข้าใจ กระอักกระอ่วนอยู่บ้าง
เธอปฏิเสธเขาแล้ว ยังวิ่งมาที่บ้านเขาอีก หน้าไม่อายเสียจริงเลย
สมองของเธอหมุนขยับ อยากหาข้ออ้างออกไป จูเหลียนอีงกลับเอ่ยปากก่อน
“หลีเฉิน หลานพูดอะไรกัน! เสี่ยวหว่านเป็นหลานสะใภ้ของย่า ถือว่าเป็นแขกได้ยังไง!” น้ำเสียงของจูเหลียนอีงโกรธอยู่บ้าง พูดๆ อยู่ หล่อนก็ดึงเย้นหว่านนั่งลง พูดเสียงละมุน
“เสี่ยวหว่าน หนูนั่งก่อน”
เย้นหว่านไม่มีโอกาสปฏิเสธสักนิด นั่งลงบนเก้าอี้
ตอนนี้เธอได้แต่วิงวอน ให้ช่วงเวลาอาหารนี้ผ่านไปเร็วหน่อย ทานเสร็จเธอก็จะออกไป
แต่ว่าแผนการของจูเหลียนอีงไม่ง่ายขนาดนั้น
หล่อนไม่ได้ขยับตะเกียบ แต่ว่าพูดไปตามตรง
“เมื่อเช้านี้ย่าให้ผู้ดูแลบ้านหาวันเวลา กำหนดช่วงแต่งงานของพวกหลาน จากนั้นแต่งงานกันทันที
คงจะไม่ช้าเกินไป น่าจะประมาณครึ่งเดือนนี้ พวกหลานจัดการงานในมือกันก่อนสักหน่อย”
แต่งงานทันที!
เย้นหว่านมึนงงอย่างมาก คุณย่าอย่ากะทันหันขนาดนี้ได้หรือเปล่า?
ตอนนี้เธอกับโห้หลีเฉินก็เลิกรากัน………
เวลานี้โห้หลีเฉินจะคิดว่าเธอมาที่บ้านนี้ มีความคิดอย่างอื่นหรือไม่?
เธอควรจะอธิบายกับคุณย่าอย่างไรดี?
โห้หลีเฉินที่นั่งตรงข้าม ย่อมเก็บอารมณ์สารพัดบนหน้าของเย้นหว่านเข้ามาในสายตาเป็นธรรมดา
เขาสีหน้าอึมครึม ริมฝีปากบางเย็นเอ่ยขึ้น “คุณย่า ผมกับเย้นหว่านตัดสินใจยกเลิกงานแต่งแล้ว”
พูดจบ ร่างสูงชะลูดของเขาลุกขึ้น ถีบเก้าอี้ออกไปโดยตรง
เย็นชา เหลือไอเย็นไว้ที่โต๊ะอาหาร
เย้นหว่านมองร่างสูงชะลูดนั้นหายไปจากห้องอาหาร ก้นบึ้งหัวใจผุดความเจ็บนิดหน่อย
เขาเป็นอย่างที่เธอพูดไว้จริงๆ จะไม่พัวพันอีก แต่ภาพเบื้องหลังที่เด็ดขาดของเขา ท่าทีเย็นยะเยือก ทำให้เธอรู้สึกหายใจลำบาก
รู้จักกับเขามานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเมินเฉยกับเธอขนาดนี้
เย็นเฉียบเข้ากระดูก ทิ่มหัวใจ
จูเหลียนอีงที่อยู่ด้านข้าง สองนาทีเต็มๆ ถึงได้สติกลับมาจากอาการตกตะลึง
หล่อนโกรธจนตบโต๊ะ “เหลวไหล! เหลวไหลกันจริงๆ! ผู้ดูแล ไปเรียกคุณชายกลับมาให้ฉัน!”
ผู้ดูแลบ้านตกอกตกใจ รีบหมุนตัวอยากออกไปตาม
“คุณย่าคะ ไม่ต้องหรอกค่ะ” เย้นหว่านเอ่ยปากเรียกไว้
จูเหลียนอีงมองทางเย้นหว่านด้วยความสงสัย เห็นสีหน้าเธอไม่สู้ดี หล่อนจึงเอ่ยปากปลอบใจ
“เสี่ยวหว่านอ่า หนูไม่ต้องกังวล หลีเฉินเขาต้องแต่งงานกับหนู เรื่องแต่งงานของพวกหลาน ย่าเป็นคนตัดสินใจเอง”
เย้นหว่านเห็นว่าตอนนี้จูเหลียนอีงยังปกป้องเธออยู่ ในใจก็รู้สึกผิด
หากหลอกลวงต่อไปอีก นั่นคือเธอทำไม่ถูกต้อง
เธอเอ่ยปาก พูดอย่างระมัดระวัง
“คุณย่าคะ ความจริงนั่นคือการตัดสินใจหลังจากที่หนูกับคุณโห้ปรึกษากันเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“อะไรนะ?” จูเหลียนอีงทำหน้าแปลกใจ
เย้นหว่านอธิบาย “หนูกับคุณโห้หมั้นกันนานมาก ถึงตอนนี้ก็รู้จักกันมานานแล้ว แต่ระหว่างพวกเรา ไม่เหมาะสมกันจริงๆ ค่ะ
คุณย่าคะ คุณโห้ดีเลิศขนาดนั้น จะต้องเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาแน่ค่ะ คุณย่าไม่ต้องคิดมากเกินไป
หนูยังมีงาน ขอกลับไปก่อนนะคะ คุณย่าระวังสุขภาพด้วย ต่อไปมีเวลาว่างหนูจะมาเยี่ยมคุณย่าค่ะ”
เย้นหว่านพูดจบ ลุกขึ้นออกไปอย่างไม่หยุดรอสักนิด
เธอไม่อยากจะอธิบายไปมากกว่านี้ แบบนั้นต่างฝ่ายต่างจะยิ่งลำบากใจมาก
จูเหลียนอีงคาดไม่ถึงว่าคำตอบจะเป็นอย่างนี้ มึนงงและหมดคำจะพูดพอสมควร แต่ยังสั่งกำชับอย่างมีสติ
“ไปส่งเสี่ยวหว่านสักหน่อย”
หล่อนมองออก ตอนนี้ทั้งสองคนอารมณ์ไม่ดี บางทีนี่อาจเป็นเพียงคำพูดชั่ววูบของพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ว่าอย่างไร หล่อนไม่เห็นด้วยให้ยกเลิกงานแต่งอย่างง่ายดาย
คนขับรถพาเย้นหว่านส่งมาถึงหน้าประตูบ้านกู้จื่อเฟยโดยตรง
หลังเธอกล่าวขอบคุณคนขับรถ ถึงลงรถไป
พึ่งลงรถ เย้นหว่านกลับแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูบ้านกู้จื่เฟย เป็นป่ายฉี
หลังจากที่ครั้งก่อนป่ายฉีปีนหน้าต่างมาดูอาการ เย้นหว่านก็ไม่เคยเจอป่ายฉีอีกเลย คิดว่าเขาไปจากเมืองหนานแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะเจอกับเขาที่นี่
เห็นท่าทางเขาพิงหน้าประตูบ้านของกู้จื่อเฟยอยู่ เห็นได้ชัดว่าจงใจมารอเธอ
เย้นหว่านเดินไปทางเขาโดยตรง “ป่ายฉี”
“ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว”
บนหน้าป่ายฉียกรอยยิ้มที่เหมือนป้ายยี่ห้อขึ้น
เย้นหว่านสงสัยอยู่บ้าง “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันพักอยู่ที่นี่?”
ครั้งก่อนตอนที่เธอพักในบ้านโห้หลีเฉินชั่วคราว ป่ายฉีก็หาจนเจอเช่นกัน