สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 330 ในเมื่อพูดมาตั้งเยอะขนาดนี้แล้ว ก็อย่าไปเลย
- Home
- สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
- บทที่ 330 ในเมื่อพูดมาตั้งเยอะขนาดนี้แล้ว ก็อย่าไปเลย
บทที่ 330 ในเมื่อพูดมาตั้งเยอะขนาดนี้แล้ว ก็อย่าไปเลย
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปนั่งลงที่ข้างเตียง
พูดกระซิบว่า “เฉิน ทำไมสีหน้าของนายยังคล้ำขนาดนี้อยู่อีกล่ะ?ผู้หญิงเค้าล้วนแต่อยากจะแต่งงานกับนายแล้ว นายยังจะเป็นแบบนี้อีก ถ้าหากนายทำให้หลานสะใภ้ของฉันตกใจจนหนีไปล่ะก็ ฉันจะคิดบัญชีกับนายแน่ๆ”
แต่งงานกับเขา?
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง น้ำเสียงเย็นชา “เธอจะไม่แต่งงาน”
“เธอจะแต่งงานอย่างแน่นอน”
จูเหลียนอีงปฏิเสธโห้หลีเฉิน ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “และที่ย่ามองดูนะ ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลเธอต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่ว่าต้องเกี่ยวข้องกับนาย”
โห้หลีใบหน้านิ่งเงียบ และไม่พูดจา
เกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน เพราะจะตัดความสัมพันธ์กับเขา
จูเหลียนอีงมองไปที่ใบหน้าคล้ำอย่างต่อเนื่องของโห้หลีเฉินนั้น ก็พอเดาได้ว่าหลานชายของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ และอดที่จะจนปัญญาไม่ได้เล็กน้อย
แม้ว่าความฉลาดทางสติปัญญาของเขาจะล้ำเลิศ ในตลาดทางธุรกิจก็ไม่มีใครที่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่EQในเรื่องความรักของเขา ไม่เฉียบคมเหมือนผู้หญิงกับผู้หญิงเลย
จูเหลียนอีงกล่าวอย่างมีความอดทนว่า “เฉิน งั้นพวกเรามาลองเดิมพันกันก็ได้”
โห้หลีเฉินไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นเลยสักนิด ก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจในที่เรียกว่าการเดิมพันนี้เลยสักนิดเดียว และไม่ต้องการฟังเนื้อหาด้วยซ้ำ
จูเหลียนอีงก็ไม่ได้สนใจ และพูดต่อไปว่า
“ก็เดิมพันเรื่องพรุ่งนี้นายออกจากโรงพยาบาล คำตอบที่แน่นอนของเย้นหว่าน ก็คือแต่งงานกับนาย หรือไม่แต่งงาน”
หลังจากนั้นไม่นาน แสงสว่างที่คมชัดก็วาววับไปทั่วดวงตาของจูเหลียนอีง และพูดว่า “ถ้าหากว่านายแพ้ และเธอบอกว่าจะแต่งงานนาย นายก็ต้องแต่งงานกับเธอโดยทันที”
แต่งงานกับเธอ? นี่แทบจะกลายเป็นความฝันของโห้หลีเฉินไปแล้ว
เขายักไหล่ “ตามใจ”
อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้ว พอถึงตอนนั้น เขาก็จะตายใจอย่างสมบูรณ์
แม้ว่าเขาจะชอบผู้หญิงคนหนึ่งอีกครั้ง เขาก็จะไม่ไปตามตื๊อไม่เลิก เพื่อให้เธออยู่เคียงข้างเขาอีก
ในช่วงเวลานี้ที่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ว่าสุดท้ายจะอาลัยอาวรณ์และตัดใจไม่ลงขนาดไหน ก็มักจะจบลงอยู่ดี
เวลาออกจากโรงพยาบาลของโห้หลีเฉินกำหนดไว้ที่เวลาบ่ายสี่โมงเย็น
เย้นหว่านดูโห้หลีเฉินล้างแผล และหลังจากที่แน่ใจในกำหนดเวลาแล้ว ก็เตรียมตัวที่จะออกไป
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินไม่สูงหรือต่ำก็ดังขึ้นมา “วันนี้คุณยังจะออกไปอีกเหรอ?”
“อืม”
เย้นหว่านพยักหน้า สองวันมานี้เวลาค่อนข้างเร่งรัดมากเกินไป เธอต้องตกแต่งคฤหาสน์ และต้องกลับไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลโห้หลีเฉิน เวลาไม่เพียงพอ
วันนี้เป็นเวลาในวันสุดท้ายแล้ว และเธอยังมีสิ่งของอีกมากมายที่ต้องทำ
เมื่อเห็นท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและทนรอไม่ไหวเช่นนั้นของเย้นหว่าน ใบหน้าของโห้หลีเฉินก็มืดลงอีกครั้ง
น้ำเสียงต่ำลง “ผมจะออกจากโรงพยาบาลในตอนสี่โมงตรง ภายในห้องพักคนไข้จะว่างสำหรับคนไข้คนอื่นๆ คุณไม่เก็บของล่วงหน้าเหรอ?”
เย้นหว่านตะลึงไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าห้องนี้จะถูกโอนไปให้คนอื่นโดยทันที
แต่ว่าเธอดูเวลา เวลาที่เหลืออยู่มีไม่เยอะแล้ว เธอยังต้องตกแต่งคฤหาสน์ก่อนที่โห้หลีเฉินจะออกจากโรงพยาบาล
ถ้าเสียเวลาต่ออีกกลัวว่ามีเวลาไม่พอ
เย้นหว่านพัวพันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หยิบกระเป๋าของตัวเองอย่างรวดเร็ว และนำเอกสารที่จำเป็นของออกมาโดยทันที
“แคก เอิ่ม สิ่งของอื่นๆของฉันมีไม่มาก ถ้าหากรีบเร่งจัดห้องพอถึงตอนนั้น ก็สามารถโยนมันทิ้งได้”
ใบหน้าของโห้หลีเฉินมืดลงกลายเป็นก้นหม้อโดยทันที
ในใจของเย้นหว่านคิดถึงแต่ความเร่งรัดของเวลา และไม่สังเกตเห็นอารมณ์ของโห้หลีเฉิน เธอมองนาฬิกาอีกครั้ง
“ฉันออกไปก่อนนะคะ”
เธอโบกมือไปทางโห้หลีเฉิน และรีบเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
โห้หลีเฉินมองไปที่เงาด้านหลังของเธอด้วยใบหน้าที่เย็นชา สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีมากขึ้นเรื่อยๆกลิ่นอายที่ทำให้คนหวาดกลัวอย่างไร้เหตุผลได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
เหอะ
เธอวิ่งไปเร็วมากจริงๆ ใจกว้างจนขนาดกระเป๋าเดินทางและสิ่งของของเธอก็ไม่ต้องการแล้วด้วยซ้ำ
ก็เหมือนกับการหลบหนีไปยังเมืองเจียงในครั้งนั้น
ครั้งนี้เธอคิดจะหลบหนีไปที่ไหนอีกนะ?เพียงแค่ครั้งนี้ กลัวว่าเขาจะไม่ไปตามหาเธออีกแล้ว
เย้นหว่าน ปล่อยให้คุณอิสระแล้วล่ะ ดีใจไหม
——
เย้นหว่านมาถึงอินเตอร์เนชันแนลวิลล่าส้ายน่าอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่มาถึง กู้จื่อเฟยที่ยืนอยู่หน้าประตูก็เร่งรีบแล้ว “คุณหนูคนโตของฉันเอ๋ย ทำไมเธอถึงมาสายขนาดนี้อีกแล้วล่ะ?ภารกิจในวันนี้ของเราหนักหนาเชียวนะ และยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำนะ”
“ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว ปะ ฉันเปิดประตู”
เย้นหว่านวิ่งเหยาะๆไปที่หน้าประตูคฤหาสน์ และใช้ลายนิ้วมือเปิดประตูอย่างไม่หยุด
ถ้าเธอไม่ได้มีแค่ลายนิ้วมือ และไม่มีกุญแจประตูนี้ ก็ให้กู้จื่อเฟยเข้าไปก่อนแล้ว
สิ่งที่เย้นหว่านต้องการมอบให้โห้หลีเฉินก็คือเซอร์ไพรส์ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือสิ่งที่ทำจากใจของเธอการตกแต่งทุกๆอย่างเธอล้วนแต่ทำด้วยแรงของตัวเองทั้งนั้น ทำจนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นผลให้ เธอและกู้จื่อเฟยสองคน ยุ่งมากจนไม่มีเวลาดื่มน้ำ
ในที่สุดก็เสร็จก่อนเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง ได้อย่างไม่ง่ายดาย
เย้นหว่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยืนขึ้นมา ลูบไหล่และคอที่เจ็บปวด และมองไปที่บ้านหลังนี้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ภายในบ้านเต็มไปด้วยริบบิ้นหลากสี มีลูกโป่ง และบนพื้นเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ ดอกกุหลาบสีแดงทำให้มองเห็นทุกที่ในบ้าน บ้านทั้งหลังเปรียบเสมือนทะเลดอกไม้ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติก
ใจกลางห้องที่เต็มไปด้วยกลีบดอกไม้และลูกโป่งนั้น มีกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งอยู่ ด้านบนมีริบบิ้นห้อยอยู่ เหมือนกล่องของขวัญขนาดใหญ่
“สวยมากจริงๆ! ถ้าฉันเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เจอฉากขอแต่งงานเช่นนี้ จะต้องรู้สึกประทับใจและตอบตกลงโดยทันทีแน่นอน”
กู้จื่อเฟยมองไปที่บ้านทั้งหลัง พร้อมกับกอดเย้นหว่านจากด้านหลัง “จากนั้นก็จะผลักเธอ และจะจัดการเธอให้สิ้นซาก”
แก้มของเย้นหว่านแดงขึ้น และผลักกู้จื่อเฟยออกไป
“ให้มันน้อยๆหน่อย เธอคิดว่าทุกคนจะโรคจิต เหมือนเธอเหรอ”
“หรือจะไม่ใช่?ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้ชายกับผู้หญิงโสดอยู่ด้วยกัน จะมีผู้ชายคนไหนที่ยอมได้กันล่ะ?”
กู่จื้อเฟยขยิบตาให้เย้นหว่านอย่างติดตลก “ไหนบอกมาสิว่าโห้หลีเฉินไม่เคยเจาะไข่แดงเธอมาก่อน?”
ในสมองของเย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะเผยฉากสนิทชิดเชื้อกับโห้หลีเฉินโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำถึงขั้นสุดท้าย แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ใช้ใจมอบให้ซึ่งกันและกันแล้ว
ถ้าคืนนี้ โห้หลีเฉิน…เธอ
จู่ๆแก้มของเย้นหว่านก็แดงขึ้นไปอีก เดินออกไปข้างนอกอย่างเขินอาย
“พอแล้วสายแล้ว ฉันจะต้องไปโรงพยาบาลแล้ว”
“ดูท่าทางที่รีบร้อนของเธอสิ โห้หลีเฉินไม่หนีไปไหนหรอก”
กู้จื่อเฟยหยอกล้อ และเดินตามเย้นหว่านออกไปข้างนอก เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูใหญ่ ตอนที่เธอประตูนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะมองเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
สิ้นเปลือง และหวานชื่น
อืม เธอกำลังพิจารณาว่าจะซื้อถุงยางให้เย้นหว่านสักกล่องดีหรือไม่ หรือว่าจะแสดงออกตามอิสระกันนะ?
“จื่อเฟย รถที่ฉันเรียกมาถึงแล้ว ฉันออกไปก่อนนะ เธอขับรถกลับระมัดระวังด้วยนะ”
เย้นหว่านยืนอยู่ข้างถนน และตะโกนบอกกู้จื่อเฟยที่ยังอยู่ติดตรงประตูอยู่
เพื่อไม่ให้โห้หลีเฉินสังเกตเห็นอะไรล่วงหน้าได้ เย้นหว่านเรียกแท็กซี่ไปกลับคฤหาสน์ ไม่ได้ให้กู้จื่อเฟยไปรับมาส่ง
ดังนั้นการไปกลับล้วนแต่แยกทางกัน
กู้จื่อเฟยหันศีรษะกลับมา และกวักมือเรียก “รู้ว่าเธอรีบไปพบผู้ชาย เธอไปก่อนเถอะ ไปเถอะ”
“เธอน่ะพูดจาเรื่อยเปื่อย”
เย้นหว่านยิ้มด่าไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็นั่งบนรถ มองผ่านหน้าต่าง และเธอพูดว่า”รอให้ฉันทำสำเร็จ จะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เธอ”
“ฉันล้างท้องรอ เพื่ออาหารมื้อใหญ่แล้ว”
กู้จื่อเฟยลูบท้อง พร้อมกับรอยยิ้มหน้าทะเล้น
เย้นหว่านอารมณ์ดี ถึงจะกวักมือ ให้คนขับรถขับออกไปได้
หลังจากขึ้นรถ เย้นหว่านก็ดูเวลาก่อน ยังเหลือเวลาอีกยี่สิบกว่านาที มาถึงโรงพยาบาลก่อนสี่โมงเย็นพอดิบพอดี