สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 336 เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
บทที่ 336 เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
จิตใจของเย้นหว่านมีความซับซ้อน และยังไม่ได้มีความรักที่อบอุ่นที่เริ่มก็จบลงแล้ว จู่ๆก็ส่งพี่ชายลงมา ทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน
นี่เป็นการยืนยันสิ่งที่จูเหลียนอีงพูดในห้องพักคนไข้ยิ่งขึ้นไปอีกว่าเป็นความจริง เพราะเธอเป็นลูกสาวที่หายไปของตระกูลเย้น และเป็นน้องสาวของเย้นโม่หลิน ดังนั้นเธอจึงได้รับการคัดเลือกจากตระกูลโห้
ตั้งแต่แรก เรื่องนี้คือการหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบ
เย้นหว่านไม่รู้สึกถึงความรู้สึกที่ออกมาจากโรงพยาบาลในวันนั้นอีกต่อไป ร้องไห้เจ็บปวดอย่างขมขื่น แต่ทว่าเธอก็ยังไม่สามารถมีชีวิตชีวาขึ้นได้ อารมณ์หนักหน่วง ราวกับว่าท้ายที่สุดเธอถูกปกคลุมด้วยเมฆดำอยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและยิ้มได้ เป็นเรื่องที่เปลืองแรงอย่างหนึ่ง
ใบหน้าของเย้นหว่านแทบไม่มีสีหน้าใดๆ เธอเม้มริมฝีปาก เปิดผ้าห่มเพื่อลุกจากเตียง
ก่อนที่เท้าของเธอจะแตะพื้น ร่างสูงใหญ่ของเย้นโม่หลินก็เข้ามาใกล้ๆ เอื้อมมือไปโอบกอดตัวเธอ ราวกับจะอุ้มเธอขึ้นมา
“เธอสุขภาพยังไม่ค่อยดี อยากจะไปไหน ทำอะไร พี่จะพาเธอไป”
กลิ่นอายบนตัวของชายหนุ่มหอมมากๆ สง่างามและให้ความรู้สึกใกล้ชิด แต่สำหรับเย้นหว่านแล้ว มันกลับแปลกมากเป็นพิเศษ
เธอผลักเขาออกไปอย่างอึดอัดเล็กหน่อย “ฉันไปเองได้”
ขณะที่พูด เย้นหว่านจึงลุกจากเตียงด้วยตัวเอง
ดูเหมือนเธอจะมีไข้ ร่างกายอ่อนแอ ไม่มีแรงเดิน แต่เธอก็ยังกัดฟัน เดินไปที่ห้องน้ำทีละก้าว
เย้นโม่หลินยืนดูอยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วมองยังร่างดื้อรั้นของเย้นหว่าน
ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยเล็กน้อย น้องสาวยังคงห่างเหินกับเขามากๆ ไม่ยอมให้เข้าใกล้
หลังจากที่เย้นหว่านอาบน้ำในห้องน้ำเสร็จ เดินออกมาก็เห็นเย้นโม่หลินที่นั่งรออยู่บนโซฟา
เขาสวมชุดสบายๆในบ้านอย่างเรียบง่าย ท่าทางผ่อนคลายอิสระ แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบังนิสัยเฉพาะตัวระดับสูงลงได้
นิสัยโดยกำเนิดของเจ้าชายเช่นนั้น ไม่ว่าจะสบายๆแค่ไหน ก็ไม่สามารถซ่อนมันได้
เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ในวันธรรมดาๆเย้นโม่หลิน เป็นคนแบบไหน? เขาเป็นพี่ใหญ่ที่อ่อนโยนและจิตใจดีแบบนี้เหรอ?
“ออกมาแล้วเหรอ?”
เมื่อเย้นโม่หลินมองเห็นเย้นหว่าน ก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน
เขาเดินไปตรงหน้าของเย้นหว่าน มองไปที่ผมเปียกของเธอ และขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันเป่าให้เธอไหม?”
เย้นหว่านปฏิเสธตามจิตใต้สำนึก “ไม่ต้อง ปล่อยให้มันแห้งเองตามธรรมชาติก็พอ”
“ไม่ได้ สุขภาพของเธอยังไม่หายดี ตอนนี้เปียกนิดหน่อยก็ไม่ได้”
น้ำเสียงของเย้นโม่หลินอ่อนโยน แต่ท่าทางของเขากลับอันธพาล เขาพูดต่อว่า “ถ้าเธอไม่ชิน ก็เรียกให้ช่างทำผมมาเป่าผมให้”
แค่เป่าผม ต้องหาช่างทำผมมืออาชีพมาด้วยเหรอ?
เย้นหว่านรีบส่ายมือ“ไม่ต้องหรอก”
“ฉันและช่างทำผม เธอเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง”
เย้นหว่าน “…”
“ฉันจะเป่าผมเอง”
เธอจนปัญญา เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เพิ่งจะหยิบไดร์เป่าผมเตรียมตัวจะเป่าผม ในตอนนี้ มีคนนำไดร์เป่าผมไปจากมือเธอ
เป็นชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง บนใบหน้ามีหนวดเครา แต่ตรงหว่างคิ้วดูอ่อนโยนและสุภาพ
น้ำเสียงของเขาเหมือนกับผู้หญิงที่สวยและนิ่มนวลมากขึ้นไปอีก “คุณผู้หญิงครับ ผมเป็นช่างทำผมมืออาชีพในยุโรป โปรดให้ผมรับใช้คุณด้วยนะครับ”
ภาษาจีนที่เขาพูดค่อนข้างเงอะงะเล็กน้อย และเชื่องช้า แต่คำพูดของเขาค่อนข้างชัดเจน
เย้นหว่านมองผ่านกระจก ไปที่ชาวต่างชาติคนนี้ด้วยความประหลาดใจ เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? แถมยังเป็นช่างทำผมมืออาชีพในยุโรปด้วย คิดไม่ถึงว่าจะมารับใช้ในบ้าน และเข้ามาทำงานในห้องนอนแล้ว?
“ในคฤหาสน์หลังนี้ มีคนทำงานอาชีพบริการทั้งหมด เธออยากทำอะไร พวกเขาจะมารับใช้เธอทันที”
เย้นโม่หลินอธิบายเบาๆ
สำหรับเขา นี่เป็นเรื่องปกติมากๆ แต่สำหรับเย้นหว่าน กลับรู้สึกว่ามุมปากกระตุก(น่าแปลกใจ)ซึ่งงงมากๆ-จริงๆเลย!
สำหรับช่างทำผมมืออาชีพนี้ เย้นหว่านจะไม่ปฏิเสธ ปล่อยให้เขาทำผมของตัวเองตามสบาย
แม้ว่า นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
หลังจากที่เป่าผมเสร็จ ช่างทำผมก็จากไป และเย้นโม่หลินก็เดินมาพร้อมกับชุดกระโปรงสองชุด
“เสี่ยวหว่าน เธอชอบชุดนี้ไหม?อาการป่วยของเธอยังไม่หายดี สวมเสื้อคลุมตัวเล็กจะทำให้อุ่นขึ้นหน่อย”
เย้นโม่หลินหยิบเสื้อผ้า และสีหน้าก็ประหม่าเล็กน้อย ราวกับกลัวว่าเย้นหว่านจะไม่ชอบ
หลังจากที่ตามหาน้องสาวกลับมาได้ เขาก็ไม่รู้ว่าเย้นหว่านชอบแต่งตัวแบบไหน
เย้นหว่านมองไปที่ชุดซุดนี้ รู้สึกซาบซึ้งในใจเล็กน้อย
ความตั้งใจของเย้นโม่หลิน แน่นอนว่าเธอรู้ จนกระทั่งเขาคำนึงถึงสุขภาพร่างกายของเธอ และหาเสื้อผ้าสองชุดเป็นพิเศษ
“อืม ชอบ”
เย้นหว่านเม้มริมฝีปาก และรับเสื้อผ้าเข้ามา “ขอบคุณนะ”
“ต่อจากนี้ไปไม่ต้องพูดขอบคุณกับฉันอีก สิ่งที่ทำให้เธอ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ควรทำ”
เย้นโม่หลินสีหน้าจริงจัง และตามใจ
ถ้าเป็นไปได้ เขายินดีที่จะตามใจเย้นหว่านแบบนี้ตั้งแต่วัยเด็ก และตามใจจนเธอโตขึ้น
แทนที่จะปล่อยให้เธออยู่ข้างนอกเพียงคนเดียวเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้
เขาเคยอ่านข้อมูลก่อนหน้านี้ของเธอ เคยเป็นเด็กกำพร้า และเคยเป็นลูกสาวบุญธรรม แต่สิ่งที่น่ารังเกียจก็คือถูกขับไล่ออกมา และอาศัยอยู่ในบ้านของโห้หลีเฉินมาเป็นเวลานาน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณในบุญคุณที่โห้หลีเฉินเก็บเธอมาในเวลานั้น แต่เขาก็รู้สึกแค้นเคืองเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงเวลานั้นชายและหญิงอยู่ในห้องเดียวกัน เย้นหว่านก็จะไม่มีความรู้สึกใดๆต่อโห้หลีเฉิน
ตอนนี้ก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการอกหัก
ดังนั้น คนที่ผิดที่สุดคือ โห้หลีเฉิน
ในใจของเย้นโม่หลินรังเกียจโห้หลีเฉินอีกครั้ง และตัดสินใจกับตัวเองว่า ต่อจากนี้ไปเขาจะต้องให้เย้นหว่านอยู่ห่างจากโห้หลีเฉิน จะไม่ปล่อยให้เย้นหว่านแต่งงานกับโห้หลีเฉินอย่างแน่นอน
เขาจะพาเธอไปอยู่ในยุโรปสักพัก ปกป้องเธออย่างดี ใช้ชีวิตเหมือนเจ้าหญิงที่แท้จริง และแต่งงานกับผู้ชายที่รักเธอจริงๆ
เย้นหว่านตื้นตันเล็กน้อย สำหรับพี่ชายที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันคนนี้ การเป็นห่วงต่างๆของเขา ทำให้เธอยังคงไม่คุ้นชิน
แม้ว่าเขาจะมีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาสำหรับเธอนั้น ก็ยังคงเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่อยู่ดี
หลังจากเย้นหว่านจัดการตัวเองเสร็จแล้ว ก็ถูกพาไปที่ชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหาร
ห้องรับประทานอาหารห้องเดี่ยวเช่นเดียวกับตระกูลโห้ ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม แม้กระทั่งพื้นก็ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยเงินหยวนอย่างหรูหรา
โต๊ะยาวสไตล์ยุโรป ด้านบนของโต๊ะมีดอกไม้และเทียนสีขาววางอยู่
สาวใช้หลายๆคนยืนอยู่ข้างๆ เหมือนกับแจกันดอกไม้ และเข้ามารับใช้ทุกเมื่อ
เย้นหว่านตกตะลึงเล็กน้อย พวกเขาทานอาหารแบบนี้มาตลอดเลยเหรอ?
ป่ายฉีนั่งอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเขามองเห็นเย้นหว่าน เขาก็กวักมือเรียกอย่างกระตือรือร้น
“เสี่ยวหว่าน มานั่งข้างๆฉันสิ”
ขณะที่พูด เขาตบไปที่ตำแหน่งที่นั่งข้างๆตัวเขา
และเย้นโม่หลินซึ่งนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งสีหน้าดูไม่สู้ดี มองป่ายฉีอย่างเย็นชาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน และเดินตรงหน้าของเย้นหว่าน
“เสี่ยวหว่าน มานั่งข้างๆฉันสิ”
ในขณะที่พูด เขาก็จับมือเล็กๆของเสี่ยวหว่าน และพาเธอไป
มือใหญ่ที่เห็นเส้นกระดูกอย่างชัดเจน เย็นเล็กน้อย นำพาความไม่คุ้นเคยกระตุ้นจนทำให้ผิวของเย้นหว่านระคายเคือง ทำให้เธออึดอัดเป็นที่สุด
เธอดึงมือกลับตามจิตใต้สำนึก
เย้นโม่หลินตกตะลึงเล็กน้อย สีหน้าได้รับการบาดเจ็บเล็กน้อย
ดวงตาของเย้นหว่านกะพริบ “ฉันนั่งตรงไหนก็ได้หมด”
เธอก้มศีรษะ เดินตรงไป และหาที่นั่งข้างโต๊ะนั่งลงอย่างสบายๆ
ห่างจากป่ายฉีเล็กน้อย และห่างจากจุดที่เย้นโม่หลินนั่งอยู่เล็กน้อย
ป่ายฉียิ้มอย่างติดตลก “ฮ่าฮ่าฮ่า เฮีย เสี่ยวหว่านเค้าไม่อยากนั่งกับนายอะ”
ทันใดนั้นแก้มของเย้นหว่านก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอก็แค่ไม่คุ้นเคยเฉยๆ
เธอกำลังอยากที่จะอธิบาย ในขณะนี้ เธอก็เห็นเงาร่างสูงของชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเธอ
เย้นโม่หลินนั่งข้างๆเย้นหว่าน และพูดอย่างใจเย็น “ถ้าอย่างนั้นฉันนั่งข้างๆเธอก็ได้แล้ว ไม่ว่า เสี่ยวหว่านจะชอบทำอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นแล้วกัน