สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 352 สาวน้อย คุณกำลังเล่นกับไฟ
บทที่ 352 สาวน้อย คุณกำลังเล่นกับไฟ
เย้นหว่านนั่งอยู่ที่โซฟาได้ไม่นาน ก็ฉุดดึงโซฟาไว้ แบกร่างกายที่อ่อนยวบยาบลุกขึ้นมา
สายตาพร่ามัวของเธอมองดูรอบๆห้อง หน้านิ่วขมวดคิ้วไว้แน่น
ที่นี่คือที่นี่?เธออยู่ที่ไหน?
สมองมีเครื่องหมายคำถามโผล่ขึ้นมาหลายอัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ห้องน้ำอยู่ไหน? เธอรู้สึกอยาก……อ้วก
เย้นหว่านกุมท้องที่ทรมานไว้ กว่าจะแยกทิศทางของห้องน้ำได้ไม่ใช่ง่ายๆ เธอเดินโซเซไปอย่างรีบร้อน “แอ๊ด”เสียงนึงก็เปิดประตูออกเลย
เธอไม่คิดอะไรก็พุ่งเข้าไปหาชักโครกเลย
แต่แล้ว แวบแรกที่เธอเห็นไม่ใช่ชักโครก แต่เป็นผิวที่ขาวเนียนและกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของผู้ชาย หุ่นที่เพอร์เฟคไร้ที่ติ ทำให้เธอเอ๋อค้างในพริบตาเดียว
ผู้ชายรูปงาม
หุ่นดีจังเลย!
เย้นหว่านกระพริบตาปริบๆ มองดูเขาอย่างเอ๋อ แถมยังพยักหน้าด้วย “ใหญ่จังเลย”
โห้หลีเฉินที่อยู่ใต้ฝักบัวน้ำอาบรู้สึกไม่ดีแล้ว
เขาแค่อาบน้ำ ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเย้นหว่านจะบุกเข้ามากะทันหัน บุกเข้ามาก็แล้วไป ไม่นึกเลยว่ายังจ้องเขาอย่างกับสาวหื่น ดูก็แล้วไป แถมยังมาประเมินค่าอีก?!
เธอรู้หรือไม่ว่าคำพูดของเธอ สำหรับผู้ชายแล้วมันสื่อถึงอะไร!
“ออกไป!”
โห้หลีเฉินตะคอกด้วยเสียงแหบแห้ง แล้วรีบเอาผ้าเช็ดตัวที่อยู่ข้างๆมาคลุมร่างกายไว้
เย้นหว่านไม่พอใจทันที “คุณเอาผ้าเช็ดตัวออก อย่าบังฉัน”
ระหว่างพูด เธอยังเดินมายื่นมือฉุดผ้าเช็ดตัวออก
โห้หลีเฉินแข็งทื่อจนเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่แช่แข็งมาเป็นหมื่นปี
และด้านในของภูเขาน้ำแข็ง กลับกำลังหมักบ่มภูเขาไฟระเบิดอยู่
เขาหน้าบึ้งไว้ ดึงผ้าเช็ดตัวออกจากกรงเล็บของเย้นหว่าน แล้วตัวเองก็ได้ถอยหลังไปสองก้าว
จากนั้นได้พูดตักเตือนด้วยเสียงทุ้มต่ำ“เย้นหว่าน ถึงคุณเมาเหล้า ก็อย่ามากวนประสาทผม!ผลที่ตามมาไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทนรับได้”
เย้นหว่านที่เมาเละเทะตั้งนานแล้ว ยังจะฟังความหมายของโห้หลีเฉินออกได้ยังไง
สมองที่ยุ่งเหยิงของเธอมีแค่ความคิดเดียว นั่นก็คือดึงผ้าเช็ดตัวออกแล้วชื่นชมต่อ เมื่อกี๊เธอยังดูไม่หมดเลยนะ
เธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวอย่างโซซัดโซเซ ร่างเล็กๆนั่นยืนอยู่ที่ตรงหน้าของโห้หลีเฉินอีกครั้ง ระยะกระชั้นชิดมาก
เธอก้มหน้าไว้ มองผ้าเช็ดตัวด้วยสายตาเปล่งประกาย
เย้นหว่านยื่นมือไปดึงอีก“เอาออกๆ เร็วๆ”
ขมับของโห้หลีเฉินกระตุก
แววตาของเธอก็เหมือนเปลวไฟ ได้จุดไฟที่หัวใจของเขา นิ้วมือของเธอยิ่งแล้วใหญ่คอยสัมผัสผิวกายเขาทีแล้วทีเล่า ทำให้ไฟที่สะสมไว้ตรงนั้นยิ่งอยู่ยิ่งลุกลาม แทบจะถึงขั้นควบคุมตัวเองไม่ได้
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น
มือข้างนึงของโห้หลีเฉินกุมผ้าเช็ดตัวไว้ มืออีกข้างจับมือเล็กๆของเย้นหว่านที่ก่อกวนไปมั่วไว้
เขาบังคับให้เธอเงยหน้า บังคับให้เธอมองเขาไว้
สายตาของเขาลุ่มลึกสุดๆ พูดออกมาจากลำคอทีละถ้อยคำ น้ำเสียงทุ้มต่ำได้น่าหลงใหลมาก
“คุณรู้มั้ยว่าผมคือใคร?”ถึงกล้าใจกล้าดึงผ้าเช็ดตัวของเขาออกแบบนี้
สายตาเย้นหว่านพร่ามัว แต่ศีรษะน้อยๆนั่นกลับพยักหน้าอย่างเฉียบขาดมาก
“ก็โห้หลีเฉินไง”
เธอเรียกชื่อเขาอย่างชัดเจน ดูเหมือนจะชอบมาก มุมปากยังประดับด้วยรอยยิ้มที่ชอบใจ
โห้หลีเฉินถูกรอยยิ้มของเธอทำเอาตาลาย จู่ๆจุดนึงของหัวใจได้ถลำลึกลงไป
เธอรู้ว่าคือเขา ยัง……
“ใหญ่จริงๆ!”
วินาทีที่โห้หลีเฉินเหม่อลอย เย้นหว่านกลับยื่นมือเล็กๆไปด้านหน้า กระชากผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนช่วงเอวของโห้หลีเฉินออก
เธอกระพริบตาปริบๆ เหมือนเด็กที่ได้แอบกินยังไงอย่างงั้น จ้องมองด้วยสีหน้าเซอร์ไพรส์
ตรงนั้นของโห้หลีเฉิน ยังเป็นครั้งแรกที่ถูกคนเพ่งมองอย่างนี้!
ใบหน้าหล่อเหลานั้น นอกจากบูดบึ้งจนแข็งกระด้าง ยังแดงก่ำอย่างไม่ปกติ
ดูเหมือนเย้นหว่านจะมีความสนใจมาก มองแล้วยังไม่พอใจ นิ้วมือเล็กๆนั่นยังยื่นออกไปจิ้มๆๆอีก
โห้หลีเฉินแข็งทื่อทันที
เย้นหว่านกลับยิ้ม “ยังเปลี่ยนแปลงได้ด้วย”
“เย้น!หว่าน!”
เส้นประสาทที่เรียกว่าสติของโห้หลีเฉินได้ขาดไปแล้ว
ความสัมพันธ์อะไรระยะห่างอะไรก็ถูกเขาทิ้งไปหมดแล้ว เขาโกรธจนแค่อยากลงโทษเธอ!
เขาจับไหล่ของเธอไว้ กดเธอไว้ที่ผนัง ก้มหน้าและจูบลงไปอย่างแข็งกร้าว
จูบของผู้ชายทั้งดุทั้งโหด เหมือนหมาป่าที่หิวโซมาหลายปี จู่ๆได้กินเนื้อสัตว์ ท่าทางดุดันจนจะฉีกเธอจนแหลกแล้วกลืนลงไป
เย้นหว่านอึ้งเล็กน้อย
กระพริบสายตาที่พร่ามัว รู้สึกความรู้สึกที่ถูกกัดริมฝีปากไม่สบายเป็นอย่างมาก นี่คือกำลังรังแกเธอเหรอ?
เธออ้าปากกัดกลับไปอย่างแรง
“ซี๊ด——”
โฆ้หลีเฉินเจ็บ ช่องปากได้ลิ้มลองถึงกลิ่นคาวเลือด
เขาอึ้งเล็กน้อย เย้นหว่านกลับอ้าปากกลืนริมฝีปากล่างของเขาเข้าไป
เธอไม่เพียงจะกัดเอาคืน แต่ยังจะกัดลงมากินด้วย
เย้นหว่านใช้แรงอย่างมาก
แต่ความเจ็บแค่นั้น สำหรับผู้ชายที่เลือดลมพลุ่งพล่านแล้ว กลับเป็นความเสียวที่ยากจะต่อต้าน
สติเสี้ยวสุดท้ายของโห้หลีเฉินถูกกลืนกินไปอย่างสิ้นเชิง
เขาโอบเธอไว้ จากฝ่ายถูกกระทำกลายมาเป็นฝ่ายรุก จูบยิ่งดูดดื่มขึ้น
ฝ่ามือของเขายิ่งหล่นอยู่ที่บนตัวเธออย่างเหิมเกริม ไต่เข้าไปจากช่วงเอว ถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นๆ
สมองเย้นหว่านมึนตึ๊บ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ความรู้สึกของร่างกายกลับดีงามมาก เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งสบาย ทำให้เธอไปโอบกอดและแนบชิดด้วยจิตใต้สำนึก
การเป็นฝ่ายรุกของเย้นหว่านยิ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้โห้หลีเฉิน เขาอุ้มเธอขึ้นมาโยนใส่เตียงโดยตรง
ไม่นาน ร่างเล็กๆของเธอก็ถลำลงไปที่ฟูกอันนิ่มนวล
บนตัว มีร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินทับลงมา
เขาจูบริมฝีปากเธอ ได้เคลื่อนย้ายจากคาง ไหปลาร้าแล้วลงไปเรื่อยๆ
เย้นหว่านนอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนระทวย รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลของแผ่นหลัง การนวดสบายๆบนตัว หนังตาเริ่มหย่อน อืม ง่วงนอนแล้ว
ควรจะนอนแล้ว
เธอหลับตาลงอย่างเงียบๆ พริบตาเดียวก็หลับสนิทเลย
โห้หลีเฉินคอยจูบเธอ เตรียมพร้อมในการบุกรุก “เย้นหว่าน ผมจะเข้า……”มาแล้ว……
ในขณะที่เห็นหน้าตาเธอ ไม่นานเสียงแหบแห้งของเขาก็ได้ติดอยู่ที่คอ
เขามองเธออย่างตะลึงงัน ใบนั้นเล็กๆนั้นแดงก่ำ หลับสบายมาก
แต่เธอหรือเปล่ากันแน่ว่าตอนนี้กำลังทำเรื่องใหญ่อะไรอยู่? เธอยังนอนหลับอีก?!
เลือดที่เดือดพลุ่งพล่านในตัวโห้หลีเฉิน เหมือนถูกน้ำเย็นกะละมังนึงสาดใส่ เย็นเข้าไปถึงหัวใจ ได้ดับไฟของเขาลงอย่างสิ้นเชิง
เขาโน้มตัวมองดูเธอ และถอนหายใจอย่างจนปัญญา
ถือสาอะไรกับคนเมา?
โห้หลีเฉินหน้าบึ้งไว้ พลิกตัวนอนลงที่ข้างกายของเย้นหว่านกะทันหัน กระหืดกระหอบไปพักนึง ถึงสะกดความร้อนรุ่มในตัวลงไปได้นิดหน่อย
เขาไม่ทำอะไรเธอที่หลับอยู่หรอก
เขาอาจจะยังต้องอาบน้ำเย็นอีกสักรอบ
โห้หลีเฉินกำลังจะลุกไปห้องน้ำ จู่ๆแขนที่เรียวยาวพาดมาที่บนตัวเขา ตามมาด้วยขา พาดไปที่ขาของเขาอย่างกำเริบเสิบสาน
เย้นหว่านก็เหมือนกำลังกอดตุ๊กตาตัวใหญ่อยู่ กอดโห้หลีเฉินไว้แน่น หาท่าทางสบายได้แล้วก็นอนต่อ
โห้หลีเฉิน “……”
ผู้หญิงคนนี้นี่กำลังเล่นกับไฟช็ดๆ นึกว่าเขาโกรธไม่เป็นจริงๆใช่มั้ย?!
โห้หลีเฉินหน้าเขียวหน้าดำไว้ ยกแขนของเย้นหว่านขึ้นเบาๆ แล้วยกขาของเธอขึ้น ผลักเธอไปข้างๆ
จากนั้นก็จะลุกขึ้น แต่เย้นหว่านกลับกลิ้งมาเหมือนลูกบอล เกาะแกะเขาเหมือนกับโคอาลา
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ในปากพูดพึมพำ “อย่าไป”
เสียงของเธอนุ่มนวลมาก ยังมีความตื่นตระหนกที่ทำให้คนเจ็บปวดใจ
แววตาโห้หลีเฉินเปลี่ยนเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณรู้มั้ยว่าผมคือใคร?”ถ้ารู้ว่าคือเขา ก็จะไม่รั้งเขาไว้แล้ว
เย้นหว่านตอบอย่างสะลึมสะลือ “โห้หลีเฉิน……”
สามคำนี้ ก็เหมือนกระแสไฟที่ช็อตเข้าไปในใจของโห้หลีเฉิน