สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 353 โห้หลีเฉิน อิตาบ้า
บทที่ 353 โห้หลีเฉิน อิตาบ้า
เขามองเธอด้วยความแปลกใจ เธอหลับตาไว้เห็นได้ชัดว่าหลับสนิทแล้ว แต่คำพูดเบาๆนั้น กลับพูดออกมาจากปากเธออย่างชัดเจนขนาดนั้น
เธออยู่ในฝัน ก็ยังรู้ว่าคือเขาเหรอ?
งั้นคนที่เธอกอดไว้ไม่ยอมให้ไป ก็คอเขาเหมือนกันเหรอ?
ที่จริงในใจของเธอมีเขาอยู่ใช่มั้ย?
ความคิดเหล่านี้ทำให้หัวใจที่ใกล้ตายของโห้หลีเฉินเต้นขึ้นมาอย่างแรงอีกครั้ง ตื่นเต้นจนแทบอยากจะเขย่าเธอจนตื่น ถามเธออย่างละเอียดรอบนึง ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แต่แล้ว เขายังไม่ทันได้ปฏิบัติก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของเย้นหว่านดังขึ้นอีก
“โห้หลีเฉิน……อิตาบ้า”
โห้หลีเฉินแข็งทื่อไว้ ความดีใจที่พลุ่งพล่านนั้นได้กลายเป็นจะหัวเราะก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ไม่ได้
เธอไม่ได้ตอบเขาเลยด้วยซ้ำ แค่พูดละเมอเฉยๆ
พูดละเมอ แถมยังด่าเขาด้วย
โห้หลีเฉินจนปัญญา ไม่เพียงค่อนข้างเยาะเย้ยตัวเอง แล้วเขากำลังคาดหวังอะไรอยู่ล่ะ?
คืนนี้ถ้าไม่ใช่เย้นหว่านเมาเหล้า พวกเขาก็ไม่มีการโอบกอดของตอนนี้หรอก มากสุดก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่เวลาเดินผ่านทักทายกันแค่นั้นเอง
มะรืนเธอก็จะไปจากเมืองหนานแล้ว ไปจากเขา วันนี้เป็นแค่การอำลาครั้งสุดท้าย
ใบหน้าหล่อเหลามีความมืดครึ้มปกคลุม โห้หลีเฉินยื่นแขนดึงผ้าห่มๆให้เขาและเธอ
ทุกอย่าง กลับสู่ความเงียบสงบ
——
ปวด
ปวดหัว
เจ็บเหมือนถูกล้อรถทับยังไงอย่างงั้น มันสมองเละเป็นโจ๊กแล้ว
เย้นหว่านตื่นมาก็จะใช้มือไปกดขมับ แต่พอดึงแล้ว มือกลับเหมือนถูกอะไรทับไว้จนขยับไม่ได้
นี่มันอะไรกันแน่?
เธอไม่เพียงปวดหัวอย่างไม่มีเหตุผล แต่ร่างกายก็ยังขยับไม่ได้อีก?
เธอรีบลืมตาขึ้น ก็เห็นผิวพรรณขาวผ่องที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะลึงงัน ในที่ๆใกล้มากยังมีเชอร์รี่เล็กๆลูกนึง
สมองของเธอเออเร่อแล้ว สายตาแข็งทื่อมองขึ้นไปด้านบน ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนคลาดสายตาไม่ได้ เป็นใบหน้าที่เธอเคยเห็นนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ตะลึงในความหล่อทุกครั้ง
หัวใจที่อกสั่นขวัญแขวนไว้ของเธอ พริบตาเดียวก็ได้วางลงแล้ว
ยังดีที่เป็นโห้หลีเฉิน
ไม่ใช่เธอเมาเหล้าแล้วไปนอนกับใครมั่ว
ไม่ใช่ นอน?!
เย้นหว่านมองไปที่ใต้ผ้าห่มทันที ก็เห็นรอยบนตัวเธอเต็มไปด้วยรอยจูบเขียวช้ำ กำลังเปลือยกายนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย ไม่ พูดแบบแม่นยำกว่าคือกอดคนอื่นไว้เหมือนกับปลาหมึก
อีกอย่าง เขาเองก็เปลือยกายล่อนจ้อนเหมือนกัน
“อ๊า——”
วินาทีต่อมา เสียงกรีดร้องที่แหลมและเศร้ารันทดได้ทำลายความเงียบสงบของยามเช้า
โห้หลีเฉินลืมตาขึ้น พูดออกมาคำนึงอย่างเย็นชา “เสียงดัง”
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขายังทำหน้าเหมือนไม่อะไร แค่หาว่าเธอเสียงดัง?
เย้นหว่านรู้สึกอาบอายสุดขีด กระชากผ้าห่มมาอย่างตื่นตระหนก ห่อหุ้มตัวเองไว้อย่างมิดชิด
เธอมองโห้หลีเฉินอย่างระมัดระวัง “เมื่อคืน คุณๆๆ ฉันๆๆ……”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย และลุกขึ้นมานั่ง สายตาก็มองไปที่ช่วงล่างของตัวเอง
ไม่มีผ้าห่ม ร่างกายของเขาได้เผยออกมาอย่างล่อนจ้อนอีกครั้ง
เขามองไปที่เย้นหว่าน และพูดหยอกล้อ “คุณชอบร่างกายของผมขนาดนี้เลยเหรอ?”
ทีนี้เย้นหว่านถึงสังเกตเห็น รูปร่างของโห้หลีเฉินที่เผยอยู่ตรงหน้าเธอหมดนั้น เพอร์เฟคไร้ที่ติ แล้วยังมีของใหญ่มหึมาที่ทำให้คนคิดลึกนั่น……
ไม่ถูกสิ ทำไมเธอต้องดูด้วย นี่เธอโฟกัสผิดจุดแล้วนี่นา!
แก้มของเย้นหว่านแดงเป็นลูกแอ๊ปเปิ้ลทันที กุมหน้าด้วยความรีบร้อน
“ไอ้โรคจิต!คุณรีบใส่เสื้อผ้าเลยนะ!”
โห้หลีเฉินเพ่งมองเย้นหว่านไว้ หน้าตาที่ทั้งอายทั้งโกรธนั้นน่ารักสุดๆ คนละคนกับอันธพาลหญิงของเมื่อคืนเลย
ดูท่าเธอคงหายเมาแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มปากและลุกขึ้น ลงจากเตียงด้วยเท้าเปล่า จากนั้นก็ได้หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่อย่างสง่าผ่าเผย
เย้นหว่านแอบเปิดช่องโหว่ของนิ้วมือเล็กน้อย ก็เห็นภาพที่โห้หลีเฉินใส่เสื้อผ้า ท่าทีนั้นคล่องแคล่วและสง่า เพอร์เฟคจนเหมือนดั่งภาพวาดภาพนึง
เธอเอ๋ออย่างห้ามใจไม่ได้ ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเกินไป หุ่นเซ็กซี่เกิน ไม่ว่าทำอะไรก็หล่อไปหมด
ถ้าสามารถได้มองดูตลอดคงจะดีมากเลย……
โห้หลีเฉินหันมา มองดูเย้นหว่านที่กุมหน้าไว้นั้น แต่กลับเปิดซอกนิ้วแอบดู เขายกมุมปากขึ้นอย่างห้ามใจไม่ได้
ถึงเธอหายเมาแล้ว ก็สนใจร่างกายเขาเหรอ?
นิ้วมือของเขาวางอยู่ที่เข็มขัด ทำท่าทางจะดึงออก“หรือไม่ผมให้คุณดูอีกหน่อย?คุณจะได้ไม่กระโจนเข้ามาหาผมอีก”
“คุณ คุณว่าอะไรนะ ฉันจะ ฉันจะกระโจนเข้าไปหาคุณ……”ได้ยังไง……
ระหว่างเย้นหว่านพูด ในหัวก็มีภาพของเมื่อคืนโผล่ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ติดๆขัดๆ แต่เธอกลับจำได้คร่าวๆ
เมื่อคืนเธอเหมือนอันธพาลหญิงจริงๆซะด้วย รวบหัวรวบหางโห้หลีเฉิน แถมยังกระชากผ้าเช็ดตัวของคนอื่น……
ใบหน้าของเย้นหว่านแดงเหมือนเลือดหยด อาบอายจนแทบอยากจะขุดหลุมมุดเข้าไป
เมื่อคืนเธอบ้าคลั่งจนทำอะไรลงไปกันแน่?!
“ฉันๆๆไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่ คุณออกไปก่อน ฉันจะใส่เสื้อผ้าแล้ว!”
เย้นหว่านถูกผ้าห่มห่อหุ้มไว้แน่น สีหน้าอึดอัด ตายก็ไม่ยอมรับ
ให้ตายสิ เรื่องอย่างเมื่อคืนจะยอมรับได้ยังไง?ขายหน้าจะตายอยู่แล้ว
เธอสงสัยอย่างห้ามใจไม่ได้ว่าตัวเองเมาเหล้าแล้วโง่ขนาดไหน หรือว่าความยึดมั่นที่มีต่อโห้หลีเฉินได้ลึกเข้ากระดูกดำแล้ว ถึงขั้นเมาแล้วก็ยังทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่น
โห้หลีเฉินพูดหยอก“นอนกอดมาทั้งคืนแล้ว ยังมีอะไรที่ไม่ได้ดูอีก?ตอนนี้คุณบังก็ไม่ทันแล้ว”
เย้นหว่านยิ่งหน้าแตกจนอยากตายแล้ว
ขายหน้าจะตายอยู่แล้ว
เธอหน้าแดงก่ำไว้ พูดอย่างไม่พอใจ “นั่น……นั่นเป็นเพราะว่าเมาเหล้า!ฉันไม่รู้เรื่อง!เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด!”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว เค้นถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “แค่เข้าใจผิด?”
“ก็ต้องเข้าใจผิดอยู่แล้ว ไม่งั้นยังจะอะไรได้?”
เย้นหว่านทั้งอายทั้งโกรธไม่กล้ามองเขา เธอแค่อยากรีบจบประเด็นนี้ “ต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นตอนเมาจริงจังไม่ได้”
ดีมาก เอาจริงเอาจังไม่ได้!
พริบตาเดียวสีหน้าของโห้หลีเฉินดำเหมือนก้นหม้อ ความสวยงามของเมื่อคืน จางหายเกลี้ยงในพริบตาเดียว
“ในเมื่อคุณหายเมาแล้ว งั้นก็อย่ามาราวีผมอีก”
ทิ้งคำเย็นชาไว้คำนึง โห้หลีเฉินก็สีหน้าเย็นชาเดินออกไปจากห้องนอนเลย
เย้นหว่านเอ๋อค้างไว้ มองร่างเงาเยือกเย็นของเขาอย่างตะลึงงัน
ภาพของเมื่อคืนฉายซ้ำอีกครั้ง ถึงแม้ค่อนข้างยุ่งเหยิง แต่เธอเป็นคนอาศัยเมาเหล้าแล้ว เกาะแกะเขาตลอด ไม่ยอมให้เขาไป
เมื่อคืนที่เขาอยู่ที่นี่ ก็เพราะดูแลเธอเนื่องจากมารยาทเฉยๆ
และความรักกุ๊กกิ๊กคลุมเครือระหว่างเธอกับเขา ยิ่งเพราะเธอเป็นฝ่ายไปเย้ายวนเอง
ตอนนี้เธอได้สติแล้ว เขาก็ไปจากอย่างเด็ดขาดเลย
เย้นหว่านมองดูประตูแล้วเหม่อลอย หัวใจว่างเปล่า ความทรมานเอ่อล้น
เว่ยชีได้รออยู่ที่ด้านนอกตั้งนานแล้ว เขาได้ส่งเสื้อผ้ามาสองชุด ชุดนึงของโห้หลีเฉิน อีกชุดของเย้นหว่าน
หลังจากโห้หลีเฉินได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องโถงเสร็จ มองประตูห้องนอนด้วยสายตาไร้ชีวิตชีวา สักพักถึงได้เดินออกไป
เว่ยชีวางเสื้อผ้าของเย้นหว่านไว้ที่บนโต๊ะของห้องโถงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และเดินออกไปพร้อมโห้หลีเฉิน
พอออกมาจากห้อง เขามองโห้หลีเฉินที่เดินอยู่ข้างหน้า ลังเลครู่นึงถึงเปิดปากพูด:
“คุณชายครับ ถึงแม้ผมเป็นแค่คนนอกคนนึงแต่ผมก็ดูออก เมื่อคืนคุณเย้นพึ่งพาคุณชายมาก ที่จริงครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสครั้งนึงนะครับ คุณชายจากไปแบบนี้เลยมันไม่น่าเสียดายไปหน่อยเหรอครับ?”