สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 362 ฉันจะตามหาเธอให้เจอให้ได้
บทที่ 362 ฉันจะตามหาเธอให้เจอให้ได้
“ ฉันจะตามหาเธอให้เจอให้ได้!”
คำพูดทีละคำของโห้หลีเฉิน เด็ดเดี่ยวและมั่นคง
ไม่ว่าใครจะพาเธอหนีไป แม้ว่าจะซ่อนตัวอยู่ในพื้นดิน เขาก็จะขุดหาพวกเขาออกมาให้ได้โดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายในการดำเนินทั้งหมด
เย้นหว่านเป็นของเขา ใครก็ไม่สามารถพาเธอหนีไปได้
ในเวลาต่อมา เว่ยชีกระทืบเท้าไปมาอย่างวุ่น ไม่มีเวลาแม้แต่จะหลับตาและนอนหลับเลย
สมองของเขาเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเย้นหว่าน การตามหาเธอ ตามหาเธอโดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายในการดำเนินทั้งหมด กลายเป็นงานยุ่งในทุกๆวันของเขา
โห้หลีเฉินก็ทิ้งงานทั้งหมดลง และทุ่มเทหมดใจเพื่อไปตามหาเย้นหว่าน และหาตระกูลเย้น
แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นมา เย้นหว่านก็ดูเหมือนจะระเหยไปจากโลก แม้ว่าระดมพลทั้งโลกแล้ว แต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับเธอเลยสักนิดเดียว
โห้หลีเฉินโทรหาเบอร์โทรศัพท์มือถือของเย้นหว่านทุกวัน แต่กลับโทรไม่เคยติดสักครั้งเดียว
และเธอก็ไม่เคยตอบ WeChat กลับ
หลังจากเย้นหว่านจากไป ก็หายไปอย่างสะอาดหมดจด โดยไม่เหลือช่องทางติดต่อใด ๆเลย
เว่ยชีตาแดงเพราะนอนดึกติดต่อกัน บนปากมีหนวดที่ไม่มีเวลาโกนขึ้น เขารายงานด้วยเสียงแหบแห้ง:
“คุณผู้ชายครับ พลังที่ระดมพลได้ และเบาะแสทั้งหมด ได้ถูกค้นหามาหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสของคุณเย้น และตระกูลเย้น… ”
เว่ยชีหยุดไปชั่วขณะ และพูดด้วยความยากลำบากเป็นอย่างมาก “เบาะแสทั้งหมดที่เกี่ยวกับตระกูลเย้นหายไปหมดแล้ว จากการตรวจสอบ ก็พบว่าพวกนี้เหมือนเป็นตำนานมากกว่า ไม่มีใครรู้ว่า ตระกูลเย้นอยู่ที่ไหน พวกเราจะตามหาแบบนี้ต่อไป เกรงว่าจะหาตระกูลเย้นไม่เจอนะครับ ”
ทำงานมาตั้งหลายปี เว่ยชีจัดการเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่กับโห้หลีเฉินมานับไม่ถ้วน และก็เป็นคนที่มีประสบการณ์มากๆคนหนึ่งด้วย
แต่การตามหาตระกูลเย้นในครั้งนี้ แต่กลับทำให้เขารู้สึกหมดพลังอย่างมาก จนถึงกับตกใจมากๆ
เขาใช้วิธีการทั้งหมด ล้วนแต่ไม่เจอที่อยู่ของตระกูลเย้น และสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับตระกูลเย้น ก็เหมือนเป็นตำนานมากกว่า โดยไม่สามารถหาคนที่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับตระกูลเย้นได้เลย
ถ้าไม่เคยเจอเย้นโม่หลินตัวจริงๆ เว่ยชีก็ต้องสงสัยว่า ตระกูลเย้นเป็นเพียงแค่ตำนานที่ไม่มีอยู่จริงใช่ไหม
“เพล้ง” หนึ่งเสียง คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตในมือของโห้หลีเฉินก็แตกออกจากกันทันที
ข้อมูลที่แสดงด้านบนก็กลายเป็นสีดำทันที
สีหน้าของเขามืดลึกไร้ที่เปรียบ และโหดร้าย จนทำให้ผู้คนรู้สึกมีอันตรายอันน่ากลัว
ตระกูลเย้นซ่อนตัวเก่งมากกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
“ไปเรียกการ์ดมา!”
แววตาของโห้หลีเฉินเย็นชาเป็นที่สุด
เว่ยชีตัวสั่นทั้งตัว และมองไปคุณผู้ชายของตนอย่างเหลือเชื่อ สงสัยว่าหูของตัวเองมีอะไรผิดปกติไป
ในรอบหลายปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่เขาถามการตัดสินใจของโห้หลีเฉินอีกครั้ง “คุณผู้ชายครับที่คุณพูด … เป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินแน่วแน่ “ไปจัดการซะ”
ในที่สุดเว่ยชีถึงจะแน่ใจได้ว่า โห้หลีเฉินต้องการเรียกใช้การ์ดจริงๆ!
เขาแข็งทื่อและไม่ขยับตัว แม้แต่เนื้อบนใบหน้าก็ยังสั่น“ คุณผู้ชายครับ การ์ดเป็นถึงกับดักที่ท่านได้วางมือมาตั้งหลายปีแล้ว เป็นไพ่หลุมหลักที่สำคัญที่สุดของท่านนะครับ! ถ้าการ์ดพวกนี้ถูกเปิดเผยออกมา คนส่วนใหญ่ก็จะสูญเสียคุณค่าของตัวเองนะครับ ”
ใช้การ์ดเพื่อไปตามหาคนเพียงเท่านั้น สำหรับเว่ยชี ไม่คุ้มเป็นอย่างยิ่ง!
เขายอมที่จะนอนดึกจนตาแดงต่อ และตามหาทั้งโลกอีกห้าครั้ง
โห้หลีเฉินหัวเราะเยาะ “ ไม่ว่าจะมีค่ามากแค่ไหน ก็เทียบกับเย้นหว่านไม่ได้”
เขายอมที่จะโค้นล้มทุกอย่างตั้งแต่ต้นใหม่ แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะใช้แผนแล้วตามหาเย้นหว่านไม่เจอ
เขาจะต้องหาเธอให้เจอให้ได้
ยิ่งผัดวันประกันพรุ่ง เขาก็ยิ่งตื่นตระหนก วิตกกังวล และดูเหมือนว่าจะคว้าเธอไม่ได้แล้ว
คำพูดที่หนักแน่นเหล่านั้น ก็เหมือนกับค้อนที่กระแทกหัวใจของเว่ยชี ทำให้เขารู้อย่างชัดเจนว่า ในสายตาของคุณผู้ชายในขณะนี้ ความปณิธานอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด และการเตรียมการที่เพียรพยายามทั้งหมดมาหลายปีนั้น กลับเทียบกับผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้เลย
การที่เขาให้ความสำคัญกับเย้นหว่าน มากกว่าเกินกว่าสิ่งอื่นใด
แต่เว่ยชีกลับไม่รู้ว่า ทำแบบนี้ มันคุ้มค่าหรือไม่ ความคิดของคุณผู้ชายจะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน แม้กระทั่งก้าวผิดเพียงก้าวเดียว ก็กระทบต่อส่วนรวมทั้งหมด
แผนการในหลายปีที่ผ่านมา ก็จะล้มเหลวทั้งหมด
ในเวลานี้เว่ยชีถึงเข้าใจความหมายของคำหนึ่งคำ ความงามเป็นหายนะ
ในเวลา 72 ชั่วโมง
เว่ยชีเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ยื่นเอกสารหนาๆหนึ่งชุดให้โห้หลีเฉิน
“คุณผู้ชายครับ พบเบาะแสหนึ่งอย่างแล้ว!”
น้ำเสียงของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย และนี่เป็นเบาะแสมีค่าอย่างหนึ่ง ที่พวกเขาพบ–ตั้งแต่เย้นหว่าน หายตัวไปในช่วงเวลานี้
และมีความหวังที่จะหาเย้นหว่านเจออีกด้วย
แววตาของโห้หลีเฉินกะพริบเล็กน้อย เขาเอื้อมมือออกไปรับข้อมูลมา นิ้วมือขาวและยาวเรียวก็พลิกไปมาอย่างกระตือรือร้น
สแกนเนื้อหาของข้อมูลอย่างรวดเร็วภายในชั่วพริบตา
เว่ยชียืนตรงที่หน้าโต๊ะทำงาน เอ่ยรายงาน:
“หลังจากผ่านการสืบสวนของการ์ด พบว่าท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาในตอนนี้ เป็นคนของตระกูลเย้น”
ข้อมูลนี้เป็นชุดข้อมูลเกี่ยวกับท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์ เขาเป็นบุคคลสูงศักดิ์ ตอนนี้อาศัยอยู่ในปราสาทแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ปลอดภัยและราบรื่น และดูไม่มีปัญหากับใคร
แน่นอนว่า เขาก็มีอุปสรรคในวัยรุ่น แต่สุดท้ายเขาก็ชนะหมด
ข้อมูลของเขาไม่ต่างจากเอิร์ลธรรมดาๆมากนัก และดูเหมือนว่าเขาจะไม่พบอะไรที่แตกต่าง แต่คนแบบเขาเช่นนี้ กลับเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลไฮโซลับโลก
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังการตรวจสอบของการ์ด เกรงว่ามันตัวตนของท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์ จะไม่มีใครรู้ตลอดชีวิตแน่ๆ
ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลเย้นถึงทรงพลังขนาดนั้น กลับสามารถซ่อนตัวจากโลกได้ และซ่อนตัวตนได้ดีขนาดนี้ คนนอกจะหาเบาะแสเจอได้อย่างไร
เว่ยชีเอ่ย: “ถ้าเริ่มลงมือกับเขา น่าจะหาจับตำแหน่งของตระกูลเย้นได้”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง พลิกอ่านเอกสารในมืออย่างละเอียด และตอนที่หยุดในหน้าใดหน้าหนึ่งนั้น สายตาของเขาจ้องมองไปที่รูปถ่ายด้านบนหนึ่งรูป ซึ่งเป็นรูปถ่ายคู่ของเวนเดลล์กับผู้หญิงคนหนึ่ง และผู้หญิงคนนั้น คือมู่หรุงชิ่น
มู่หรุงชิ่นก็เป็นครอบครัวใหญ่เช่นกัน คิดไม่ถึงว่าจะมีความสัมพันธ์กับเวนเดลล์
เว่ยชีมองตามสายตาของโห้หลีเฉิน มองเห็นภาพใบนั้น ก็พูดทันที
“ท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์มักจะไม่เพบเจอแขก แต่อีกสองวันจะเป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขา และเขาได้เชิญคุณหนูมู่หรุงชิ่นเข้าร่วมด้วย”
คุณผู้ชายอยากจะพบท่านเอิร์ลแก่เวนเดลล์ วันนั้นก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุด
โห้หลีเฉินเคาะนิ้วบนโต๊ะ ดวงตาลึกเป็นที่สุด
“จัดการหน่อยแล้วกัน ไปที่ตระกูลมู่หรุง”
หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้น เขาก็ไม่เคยเจอมู่หรุงชิ่นอีกเลย ผ่านไปนานขนาดนี้ ก็ได้เวลาไปดู ‘คนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก’แล้ว
ตระกูลมู่หรุง
“เพล้ง” ดังขึ้น ถ้วยซุปก็หล่นบนพื้น และน้ำซุปก็ไหลไปทั่วพื้น
สาวใช้ทั้งสองคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความกลัว สีหน้าซีดเซียว “คุณหนู ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ไม่ควรทำให้วางซุปให้เย็นขนาดนั้น พวกเราจะไปทำมาใหม่ คุณอย่าโกรธเลยนะคะ”
“ ฉันมีเวลารอให้พวกแกทำใหม่นานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
มู่หรุงชิ่นเตะร่างของสาวใช้ สีหน้าเหี้ยมโหด และดุร้ายอย่างหาที่เปรียบมิได้
“ เห็นว่าตอนนี้ฉันถูกขังไว้ ออกไปข้างนอกไม่ได้ พวกแกก็รู้สึกว่างมากใช่ไหม?เวลาของฉันต้องถูกพวกแกทำให้เสียเวลาอย่างเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นเหรอ?”