สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 380 เจอว่าที่เจ้าบ่าว
บทที่ 380 เจอว่าที่เจ้าบ่าว
ไม่คิดเลยว่า พอรอ ก็รอไปหนี่งคืน
สีท้องฟ้าข้างนอกค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาว แสงสว่างสาดส่องเข้ามากระทบใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งของโห้หลีเฉิน
อุณหภูมิในห้องไม่ได้สูงขึ้นตามฟ้าที่สว่างเลยสักนิด กลับกลายเป็นยิ่งอยู่ยิ่งต่ำลง ยิ่งอยู่ยิ่งหนาว
โห้หลีเฉินเหมือนกับน้ำแข็งที่เคลื่อนที่ เหน็บหนาวสุดๆ
เย้นหว่านไม่ได้กลับมาทั้งคืน
เมื่อคืน เธอไปค้างคืนที่ไหนนะ สนุกอยู่ข้างนอกทั้งคืนเลยหรอ
ยัยนี่สมควรตายจริงๆ……
“ตู้ดตู้ดตู้ด——”
ตอนนี้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
โห้หลีเฉินทำหน้าเยือกเย็น รับโทรศัพท์อย่างไม่พอใจ เม้มริมฝีปากไม่พูดไม่จา ฟังคำรายงานของอีกฝั่ง
ในสาย เป็นเสียงผู้ชายที่สุภาพทางการ “คุณผู้ชายครับ ได้รับข้อความมาเมื่อกี้ คุณผู้หญิงเย้นหว่านได้เลื่อนเวลา บอกว่าจะถึงบ้านตอนแปดโมงครึ่ง”
คิ้วของโห้หลีเฉินขมวด ยกข้อมือขึ้น ก็เป็นเวลาแปดโมงแล้ว
จากโรงแรมไปถึงคฤหาสน์บ้านตระกูลหยู เร็วที่สุดก็ต้องใช่เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
ก็หมายความว่า เย้นหว่านจะไม่ได้กลับมาที่โรงแรมแต่แรกอยู่แล้ว
สีหน้าเย็นชาของโห้หลีเฉินหมองลงทันที หมองจนแทบจะหมดเป็นน้ำออกมา
เขาไม่ได้รอให้เธอมาถึงที่นี่ก่อน แต่ให้เธอกลับไปที่บ้านตระกูลหยูก่อน ถ้าเจอกับหยูซือห้านก่อน แล้วคุยเรื่องงานแต่ง ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ
โห้หลีเฉินเหม่อลอยแล้วยืนขึ้น ดึงเสื้อกันหนาวที่วางอยู่อีกฝั่งมา ก็สาวเท้ายาวออกไปข้างนอกทันที
เว่ยชีทำหน้ามึนงง “คุณผู้ชายจะไปไหนครับ ไม่รอคุณหนูเย้นหว่านแล้วหรอครับ”
“กลับบ้านตระกูลหยู”
โห้หลีเฉินส่งไปไม่กี่คำ ร่างกายที่สูงยาวก็เดินออกห้องไป
บนรถ
หน้าตาที่เพิ่งตื่นของเย้นหว่าน บ่นว่า “พี่ นัดไว้ว่าเก้าโมงครึ่งไม่ใช่รึไง ทำไมถึงให้หนูมาตั้งแต่แปดโมงครึ่งล่ะ คนอื่นคงมองว่าหนูอยากแต่งงานจนจะแย่ ถึงรีบมาขนาดนั้น”
เมื่อคืนเย้นโม่หลินจู่ๆก็คิดสนุกขึ้นมา พาเธอเล่นไปไกลเถิด เลยหาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก็มากพอแล้ว ยังลากให้เธอลุกจากเตียงตั้งแต่เช้า แล้วไปที่บ้านตระกูลหยูก่อนอีก
เย้นหว่านรู้สึกหนังตาแล้วก็ใต้ตาของตัวเองนั้นกำลังตีทะเลาะกันอยู่ จนจะปิดหมดแล้ว
แล้วเธอก็ยังมีใต้ตาดำอีกด้วย ไปเจอ”ว่าที่สามี”ที่หมั้นกันไว้ตั้งแต่เด็กในสภาพนี้ มันจะดีหรอ
เย้นโม่หลินตบไปที่หัวของเธอเบาๆอย่างไม่เห็นด้วย แล้วก็พูดอย่าง๓มิใจว่า “น้องสาวของฉัน ใครกล้าดีมาบอกว่าเธออยากจะแต่งงานล่ะลูกชายของบ้านตระกูลหยู รอคอยแกอย่างกับดวงดาวอย่างกับพระจันทร์ อย่างจะเจอแกใจจะขาดต่างหาก ถึงจะถูก”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมฉันถึงไม่มาช้ากว่าเดิมหน่อยล่ะ คนอื่นต่างก็บอกว่าผู้หญิงเวลานัดมักจะมาช้าเป็นชั่วโมง ถึงจะมีสไตล์”
เย้นหว่านและเย้นโม่หลินพูดหยอกล้อกัน แต่ในใจกำลังนึกว่า หยูซือห้านคนนี้ ไม่เคยเจอกันกับเธอมาก่อน ตอนนี้คิดว่าอายุเกือบจะสามสิบแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานอย่างเธอ หรือว่าเป็นเพราะจูบตั้งแต่เด็ก
แต่ตอนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นแล้ว แต่ถึงจะเป็นเมื่อก่อน น้อยมากที่จะมีคนที่รักษาสัญญาเหมือนคนโง่แบบนี้
เขารอเธอมาหลายปีขนาดนี้ ไม่มีอะไรมากกว่าการแต่งงานระหว่างบ้านเย้นหว่านและบ้านตระกูลหยู ช่วยให้เขายืนหยัดในบ้านตระกูลหยูได้ มีประโยชน์กับตำแหน่งของเขาด้วย
พอคิดแบบนี้แล้ว หยูซือห้านคนนี้ก็เป็นผู้ชายที่คิดลึกซึ้งแล้วก็มีความอดทนสุดๆเหมือนกัน ให้ความสำคัญผลประโยชน์แล้วก็อำนาจ ในสายตาของเขา อำนาจคงอยู่เหนือทุกอย่าง
ผู้ชายแบบนี้ เย้นหว่านนั้นไม่ชายตามองหรอก แล้วก็ยังจะต่อต้านด้วย
ในเมื่อโห้หลีเฉินแต่งงานกับเธอ ก็เพื่ออำนาจ……
เย้นหว่านเม้มปาก มองไปนอกหน้าต่าง พูดเบาๆว่า “พี่ เดี๋ยวฉันขอคุยกับหยูซือห้านเป็นการส่วนตัวได้ไหม ถึงจะเป็นคู่หมั้นในตอนเด็ก แต่เป็นการเจอกันครั้งแรก คนเยอะไปฉันรู้สึกไม่ชินน่ะ”
ถ้ามาถึงแล้วเจอกับญาติส่วนใหญ่ของบ้านตระกูลหยูเลย แล้วต้องได้ถูกแนะนำให้รู้จัก แล้วเธอจะล้มเลิกการหมั้นเด็กๆแบบนี้ได้ยังไงล่ะ
แน่นอนว่าต้องเจอกับหยูซือห้านเองก่อน แล้วก็พูดคุยให้รู้เรื่องกันก่อน
อีกอย่าง เธอก็มีเรื่องอยากจะปรึกษากันกับหยูซือห้านด้วย
เย้นโม่หลินไม่ได้มีข้อแย้งอะไร พยักหน้า “ได้ เดี๋ยวฉันจัดการให้”
ตามคำเรียกร้องของเย้นหว่าน หลังจากที่รถของพวกเขาขับมาถึงบ้านตระกูลหยู นอกจากการที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนรับใช้แล้ว ก็ไม่ได้เห็นการปรากฎตัวของเหล่าผู้ใหญ่และเจ้าของบ้านตระกูลหยูเลย
“คุณหนูเย้นหว่านคะ คุณผู้ชายรอคุณอยู่ที่ห้องรับแขก เชิญมากับดิฉันเลยค่ะ”
คนรับใช้สาวยืนอยู่หน้าเย้นหว่านอย่างสุภาพ ค่อยๆโน้มตัวลง ยื่นมือทำท่าเชิญ
เย้นหว่านมองดูเย้นโม่หลิน
เย้นโม่หลินยิ้มแล้วจับไปที่ผมของเธอ พูดอย่างอบอุ่นว่า “ไปสิ ผ่อนคลายหน่อย พี่จะรอแกอยู่ข้างนอก”
“ได้ โอเค”
เย้นหว่านพยักหน้า แล้วค่อยเดินตามสาวใช้ที่อยู่ข้างหน้าไป
การเจอกันถูกจัดให้อยู่ในห้องนั่งเล่นที่หรูกว้างใหญ่ เป็นห้องเดี่ยว ข้างนอกเป็นหน้าตากระจกจรดพื้น สามารถเห็นสวนหลังบ้านที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันได้
สภาพแวดล้อมไม่แย่ น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่ดึงดูดสายตาคนนั้น เป็นชายที่นั่งอยู่ในห้อง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาว ท่าทางไขว่ห้าง ท่าทางสง่า ก็เหมือนกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ในภาพวาดทศวรรษที่แล้ว
ส่วนหน้าของเขาก็ยิ่งหล่อเหมือนฝรั่ง ดวงตาสีฟ้าเข้า จมูกที่โด่ง ใบหน้าที่เพอร์เฟคนั้น เป็นชายลูกครึ่งที่ทำให้คนตะลึงตั้งแต่ครั้งแวบแรกที่มอง
พอเย้นหว่านมองหน้าอันหล่อเหลาของโห้หลีเฉินจนชินแล้ว แล้วก็นั่งตรงข้ามกับเย้นโม่หลินสุดหล่อทั้งวัน ตอนที่เห็นเขานั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งและตะลึงเล็กน้อย
นี่เป็นความหล่ออีกแบบนึง ดูสง่าแล้วก็มีความป่าเถื่อนอยู่ด้วย ก็เหมือนนกอินทรีย์ที่บินทะเยอทะยานได้เก้าวัน
“เย้นหว่าน”
พอหยูซือห้านเห็นเย้นหว่าน ริมฝีปากที่เซ็กซี่ก็ยกขึ้นทันที
เขาลุกขึ้นยืน เดินมาหาเธออย่างสุภาพบุรุษ
“ในที่สุดเราก็ได้เจอกันสักที”
เสียงของเขาชัดเจนน่าฟัง เหมือนเสียงของเชลโล
เย้นหว่านมองดูฝ่ามือที่เห็นข้อต่อชัดเจนที่ยื่นมา อึ้งเล็กน้อย แล้วก็ทำเป็นยิ้มแล้วจับมือ
“สวัสดีค่ะ”
หยูซือห้านปล่อยมือเย้นหว่านอย่างรวดเร็ว ทำมือเชิญอย่างสุภาพบุรุษ “เชิญนั่งครับ คุณอยากดื่มอะไร กาแฟหรือไวน์ดีครับ หรือจะเป็นชา”
จีนนั้นมีวัฒนธรรมดื่มชา คนส่วนใหญ่จะชอบดื่ม เขาพิจารณายันจุดนี้
เย้นหว่านเม้มปาก “กาแฟก็พอแล้วค่ะ”
“คุณนั่งก่อน รอผมแป้ปนึง”
พูดแล้ว หยูซือห้านก็เดินไปที่บาร์เครื่องดื่ม แล้วก็ลงมือชงกาแฟด้วยตัวเอง
เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ ไม่คิดว่าลูกชายของตระกูลใหญ่นี้นั้น ต่อไปจะเป็นผู้สืบต่อคนแรกของบ้านตระกูลหยู จะลงมือชงกาแฟเองกับมือ
เธออดคิดไม่ได้ เขาอยากจะทำต่อหน้าเธอหรอ
แต่เธอนั้นไม่ได้คิดจะหมั้นหรืออะไรกับเขาเลยจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ไม่ควรจะให้ความหวังลมๆแล้งๆกับเขา
เย้นหว่านจับกระเป๋าในมือแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที กำลังคิดว่าอีกเดี๋ยวจะเอ่ยปากยังไงดี จะปรึกษาเรื่องงานแต่งครั้งนี้ก็สูญเปล่าไปแบบนั้น
เร็วมาก หยูซือห้านก็ชงกาแฟเสร็จแล้วก็เอามาวางอยู่ตรงหน้าเย้นหว่านแล้ว
“ไม่ได้ทำกาแฟบ่อย แต่ทำได้ดีขนาดนี้ คุณเยี่ยมมาก”
หยูซือห้านยิ้ม แววตาจริงใจ “ต่อไปผมจะพยายามทำบ่อยๆหน่อย ให้คุณได้ดื่มกาแฟที่ผมชงเองบ่อยๆ”