สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 402 วิดีโอคอลหวานแหวว
บทที่ 402 วิดีโอคอลหวานแหวว
รับโทรศัพท์แล้ว บนหน้าจอ ก็มีใบหน้าอันหล่อเหลาของโห้หลีเฉินปรากฏขึ้น
แต่ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ รอบด้านเขามืดไปหมด ไม่เห็นอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ยังไม่อยู่บนรถ อาจจะยังออกไปได้ไม่ไกลมาก
เย้นหว่านพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นายโทรมาหาฉันตอนนี้ทำไมเนี้ย?” ไม่กลัวคนอื่นจะเห็นหรือไงกัน
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านนิ่งๆ สายตาที่ลึกซึ้งนั้นแทบจะทะลุหน้าจอออกมาอยู่ข้างเธออยู่แล้ว
เขาพูดเสียงต่ำว่า: “ให้เธอดูไงว่าฉันปลอดภัยไหม”
เย้นหว่านอึ้งไปชั่วขณะ ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
เธอถามสถานการณ์ของเขา เขาก็โทรมาให้เธอแน่ใจเลย ไม่ต้องตรงไปตรงมาขนาดนี้ก็ได้มั้ย
แต่ภายในใจ กลับหวานเหมือนได้กินน้ำผึ้งเข้าไปทั้งขวด
เย้นหว่านพูดเสียงเบาว่า: “ฉันแค่ถามเท่านั้น ถ้านายไม่สะดวก ก็วางสายเถอะ”
“ไม่ได้ไม่สะดวกหรอก”
โห้หลีเฉินเม้มปากหัวเราะ ภาพวิดีโอคอลเริ่มกระตุกเล็กน้อย เหมือนกำลังเดินอยู่
เย้นหว่านก็เริ่มเห็นภาพด้านหลังของโห้หลีเฉินชัดมากขึ้น ด้านหลังเขาเป็นต้นไม้ทั้งหมด เหมือนเขาจะอยู่ในป่านะ
ส่วนป่าอยู่ไหน เย้นหว่านก็ไม่รู้ได้
เธอถามขึ้น: “นายอยู่ไหนน่ะ? นายมายังไงเหรอ?”
เธอก็คุ้นเคยก็ที่นี่แล้วบ้างเล็กน้อย เพราะสร้างอยู่ครึ่งดอย รอบข้างเป็นป่าต้นไม้ทั้งหมด แต่ว่าในลานแม้จะเป็นป่า ก็จะมีบอดี้การ์ดมาสำรวจอยู่ตลอดเวลา
โห้หลีเฉินแอบเข้ามา ก็ไม่กล้าถือโทรศัพท์ขึ้นมาเดินไปเดินมาอยู่แล้ว ไม่งั้นคงถูกจับได้นานแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มปากบาง ไม่ได้ตอบคำถามเย้นหว่านทันที และกดหันกล้องให้เย้นหว่านดูทางตรงหน้าของเขา
เขาพูดว่า: “ใกล้ถึงข้างถนนแล้ว”
ภายในป่าที่มืดทั้งแถบ มองเห็นไฟข้างถนนสลัวๆ มีรถจอดอยู่คันหนึ่ง
ครึ่งเขานี้ถูกตระกูลเย้นครอบครองแล้ว คนที่เข้าออกส่วนมากก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย้นทั้งนั้น ในเวลานี้มีรถอยู่ตรงนั้น ก็คงจะเป็นของโห้หลีเฉินคนเดียวแล้วล่ะ
เห็นเขาเดินไปทางด้านรถ เย้นหว่านที่กังวลอยู่นั้น ก็รู้สึกวางใจขึ้นมาแล้วบ้าง
“งั้นนายกลับไประวังหน่อยนะ ฉันไม่รบกวนนายแล้ว” เย้นหว่านกำลังจะวางสาย เพราะยังไงโทรไปด้วยขับไปด้วย เป็นเรื่องที่อันตรายมาก
โห้หลีเฉินหยุดเดิน หัวเราะมองดูเย้นหว่านในวิดีโอ
พูดเสียงเบาว่า: “ไม่เห็นฉันเข้าห้องโรงแรมอย่างปลอดภัย เธอจะวางใจเหรอ?”
ขึ้นรถไปแล้ว ถึงก็ค่อยโทรมาบอกก็ได้ไหม มีอะไรไม่วางใจกัน
เย้นหว่านกำลังจะพูด กลับได้ยินโห้หลีเฉินพูดต่อว่า:
“ฉันถึงแล้วค่อยวาง”
เสียงต่ำนั้น ตัดสินใจทันที
เย้นหว่านนิ้วมือที่กำลังจะกดวางสาย ก็ยื่นออกไปไม่ได้อีก ในใจก็สับสนอย่างมาก ทั้งสับสนทั้งหวานแหวว โห้หลีเฉินทำไมถึงอยากจะวิดีโอคอลกับตัวเองขึ้นมานะ?
เขาพึ่งไป ก็เสียดายเธอขนาดนี้เลยเหรอ?
ในระหว่างที่พูดนั้น โห้หลีเฉินก็เดินไปที่รถแล้ว
เว่ยชีรีบลงไปเปิดประตูรถให้ และถามว่า: “คุณครับ ทำไมออกมาเร็วขนาดนี้ หรือว่ายังไม่เห็นคุณหนูเย้น?”
พอได้ยินคำนี้ ใบหน้าของเย้นหว่านก็แดงขึ้นมาทันที
นึกถึงผ่านอันเร่าร้อนของเธอกับโห้หลีเฉินในห้อง ถ้าไม่ใช่เพราะเย้นโม่หลินมา โห้หลีเฉินคงไม่ออกไปเร็วขนาดนี้
แต่เรื่องแบบนี้ น่าอับอายขนาดนั้น เว่ยชีก็ยังรู้เลย
เธอไม่เอาหน้าแล้วหรือไง?
โห้หลีเฉินก้มตามองดูหญิงสาวในวิดีโอที่ตอนนี้ใบหน้าแดงจัด เขาก็กระตุกยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
เขามองดูเธอ พูดเสียงอ่อนโยนว่า: “เห็นแล้ว”
ยังกอดหอมและจูบด้วย
เหลือแต่เรื่องสำคัญสุดท้ายที่ยังไม่ได้ทำเท่านั้น
เว่ยชีสงสัยขึ้นมาทันที “เห็นแล้วทำไมคุณไม่อยู่ต่อครับ? คุณกับคุณหนูเย้นแยกกันนานขนาดนี้ นานๆทีจะได้เจอกัน ผมคิดว่าพวกคุณจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนเสียอีก”
เมื่อกี้เขายังเตรียมจะนอนบนรถอยู่เลย ใครจะรู้ว่าโห้หลีเฉินจะเดินออกจากป่ามาเร็วขนาดนี้
ได้ยินเว่ยชียิ่งพูดก็ยิ่งลึกเข้าไปอีก ใบหน้าของเย้นหว่านแดงจนร้อนฉ่าไปหมด เธอไม่อยากฟังที่พวกผู้ชายพูดกันเลย ต่อไปจะพบเจอผู้คนยังไงเนี้ย
ดังนั้น เธอตั้งใจทักทายเสียงดังว่า “ผู้ช่วยเว่ย ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เว่ยชีตกใจ มองโทรศัพท์โห้หลีเฉินอย่างตะลึง และเห็นหน้าเย้นหว่านปรากฏขึ้นบนจอ
ในใจเขามีความคิดมากมายพุ่งกระฉูดเข้ามา ให้ตายสิ คุณชายกับคุณหนูเย็นวิดีโอคอลกันก็ไม่บอกเขาก่อน เขาพูดเรื่องผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกันนะ
อายจริงๆ ต่อไปคุณหนูเย้นจะมองเขายังไงเนี่ย จะแก้แค้นเขาทีหลังไหม?
เว่ยชีในใจทุกข์ แต่ใบหน้าก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “คุณหนูเย้น ไม่เจอกันนานเลย คิดถึงจริงๆ คุณยังสบายดีไหมครับ?”
เย้นหว่านกำลังจะตอบกลับอย่างมีมารยาท จะทำให้เรื่องนี้ผ่านไป แต่ไม่คิดว่า ข้างๆจะมีเสียงของโห้หลีเฉินดังขึ้น
บอกกับเว่ยชีว่า “คิดถึงจริงๆ?”
สายตาที่ดุร้ายนั้น เหมือนกำลังมองเว่ยชีเป็นเหยื่อ และจะฉีกกินเว่ยชีเป็นชิ้นๆ
ร่างกายของเว่ยชีกระตุกขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่ สักพักหน้าผากเขาก็มีเหงื่อไหลออกมาเต็ม
เขารีบปิดปาก อธิบายว่า: “คุณผู้ชาย ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ ผมแค่ แค่ทักทายอย่างมีมารยาท ไม่ได้คิดถึงคุณหนูเย้นจริงๆ!”
ไร้สาระ ผู้หญิงของคุณชายเป็นคนที่เขาคิดได้เหรอ นอกจากไม่ห่วงชีวิตตัวเองแล้ว
เย้นหว่าน: “……” เว่ยชีพูดปลอมต่อหน้าเธอ ดีแล้วจริงเหรอ?
แต่ว่า ดูจากมุมมองของเธอแล้ว มองเห็นใบหน้าของโห้หลีเฉินจากมุมเสย ท่าทางที่ดุร้ายนั้น ดูแล้วก็หล่อมากกว่าปกติอีก
โห้หลีเฉินก็หึงเป็นเหมือนกันเหรอเนี้ย
มุมปากเย้นหว่านอดไม่ได้ยิ้มหวานออกมา
เว่ยชีกลัวแล้วจริงๆ คุณชายบ้านเขามีความรักขึ้นมา ก็ดูเหมือนจะบ้าคลั่งมาก ขนาดพูดเล่นก็ยังไม่ได้ เขาพูดผิดติดต่อกันสองครั้ง ไม่กล้าพูดอะไรต่อแล้วจริงๆ ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นกขคเอา
“คุณครับ ผมไปขับรถนะ”
พูดแล้ว เว่ยชีก็รีบไปนั่งประจำที่คนขับ ขึ้นรถแล้ว จากนั้นก็มองด้านหน้าโดยไม่ละสายตา แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินไม่เห็นอะไรสักอย่าง
คนขวางตาเดินไปแล้ว สีหน้าของโห้หลีเฉินก็ถึงดีขึ้นมาบ้าง
เขาก้มหน้าลง มองดูเย้นหว่านอย่างอ่อนโยน
“ฉันขึ้นรถแล้วนะ”
เย้นหว่านรีบพยักหน้า “ได้” ที่จริงเรื่องเล็กแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกกับเธอก็ได้ แต่เขาพูดแล้ว เธอก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาเบาๆ
แม้จะเป็นแค่วิดีโอ แต่กลับรู้สึกว่า ระยะทางระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน กำลังย่นเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ
พอขึ้นรถไป ไฟด้านหลังที่นั่งรถก็ตั้งใจเปิดไว้ เพื่อให้เย้นหว่านได้เห็นใบหน้าโห้หลีเฉินชัดๆ
เย้นหว่านคุยวิดีโอคอลกับโห้หลีเฉินแบบนี้เป็นครั้งแรก ใบหน้ายังคงแดงระเรื่ออยู่ตลอดเวลา หัวใจที่เต้นแรงก็ไม่ช้าลงเลย
ไม่คิดเลยว่า ความรู้สึกที่ได้อยู่กับเขา กลับดีและหอมหวานขนาดนี้