สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 403 วางไม่วาง?
บทที่ 403 วางไม่วาง?
ตลอดทาง โห้หลีเฉินก็เย้นหว่านพูดคุยกัน พูดเรื่องธรรมดา แต่กลับเป็นเรื่องที่อบอุ่นหัวใจมาก
ไม่ทันรู้ตัว เขาก็เข้ามาในโรงแรมแล้ว โรงแรมหรูห้าดาว
เย้นหว่านแม้จะไม่เคยไป แต่ก็รู้ว่า โรงแรมนี้ใกล้บ้านตระกูลเย้นมากที่สุด
โห้หลีเฉินเลือกอยู่ที่นี่ ก็เพื่อเธอ
ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอีก เย้นหว่านมองดูโห้หลีเฉินเข้าโรงแรมไป ขึ้นลิฟต์ จนเดินมาถึงห้อง
ห้องเป็นห้องสูท หรูหรามาก ของของโห้หลีเฉินมีไม่มาก แต่บนโต๊ะชา กลับมีคอมตั้งใจสองเครื่อง
เย้นหว่านสงสัย “นายใช้คอมสองเครื่องเหรอ?” เครื่องเดียวไม่พอเหรอ
สายตาโห้หลีเฉินส่ายเล็กน้อย สายตามีความมืดมนที่ยากจะเดาถูก
ต่อมา เขาก็พูดว่า: “อืม มีธุระที่ต้องจัดการอยู่มาก เธอง่วงหรือยัง?”
เย้นหว่านส่ายหน้า อยู่กับเขา เธอมีพลังงานเต็มที่เลย
โห้หลีเฉินหัวเราะพูดว่า “งั้นอยากจะคุยกับฉันต่อเหรอ?”
เย้นหว่านใบหูแดงขึ้น และตอบโต้ไปอย่างเขินอายว่า: “ไม่ใช่นะ ถ้านายถึงแล้ว ก็รีบอาบน้ำนอนเถอะ”
“เธอล่ะ?”
“ฉันก็จะนอนแล้วเหมือนกัน ฉันนอนบนเตียงอยากจะนอนตั้งนานแล้ว”
เย้นหว่านปากไม่ตรงกับใจ ทั้งที่คำก่อนเธอยังบอกว่าไม่ง่วงอยู่เลย
โห้หลีเฉินยิ่งแสยะยิ้มอย่างได้ใจไปอีก
เมื่อก่อนเย้นหว่านก็ชอบปากไม่ตรงกับใจ แต่ว่าตอนนั้นพวกเขายังไม่ได้แสดงความรักกันจริงจัง และมีการเข้าใจผิดกันบ้าง แต่ตอนนี้ดูท่าทางของเธอ กลับรู้สึกน่ารักมาก
เขาเม้มปาก นานมาก กว่าจะพูดว่า: “ได้ งั้นวางแล้วนะ”
“……ได้”
เย้นหว่านชะงักและตอบกลับไป ในใจรู้สึกเสียดายมากไม่อยากจะวางสายเลยจริงๆ
วิดีโอคอลไปกว่าชั่วโมงแล้ว เธอไม่รู้สึกเบื่อเลย ยังอยากจะโทรต่อไปแบบนี้เรื่อยๆอีก
โห้หลีเฉินรออยู่หลายวินาที เห็นเย้นหว่านมองดูเขาอยู่ แต่กลับยังไม่วางสายสักที
เขากระตุกยิ้ม และแสยะยิ้มออกมา
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก แต่แค่ถือโทรศัพท์ เดินไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดเสื้อด้านนอกออกมา
ต่อมา ก็ปลดเสื้อเชิ้ตด้วยมือเดียว กระดุมถูกเปิดออกทีละเม็ด มีลำคอยาวของเขาโผล่ออกมา กระดูกไหปลาร้า……
กล้ามเป็นมัดๆที่ได้รูป เย้นหว่านที่เห็นแล้วก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
เธอพูดอย่างเขินอายว่า: “นายทำอะไรน่ะ?”
โห้หลีเฉินตอบเสียงเรียบว่า “ถอดเสื้อผ้าไง” สักพัก เขาก็พูดเสริมไปว่า “เสื้อมีฝุ่นเกราะอยู่ ใส่ไม่สบายน่ะ”
เย้นหว่านรู้ โห้หลีเฉินเป็นคนรักความสะอาดมาก บนเสื้อผ้าไม่เคยมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเลย แต่เขาพึ่งเดินออกจากป่าไป สิ่งแวดล้อมไม่ค่อยดีมาก คงทำเสื้อผ้าสกปรกบ้าง
เย้นหว่านทั้งซึ้งใจทั้งหน้าแดง “งั้นนายวางโทรศัพท์แล้วถอดเถอะ” ยังเอาโทรศัพท์ถ่ายเรือนร่างตัวเองอีก ตั้งใจจะไลฟ์สดให้เธอดูหรือไงกัน?
เลือดกำเดาเธอไหลได้นะ
เหมือนจะเดาใจเย้นหว่านออก โห้หลีเฉินหัวเราะ: “ฉันให้เธอดูได้”
ในคำพูดนั้น กระดุมเม็ดที่สามของเขาก็ปลดออกแล้ว คอเสื้อเปิดออกกว้างๆ เผยให้เห็นถึงแผงอกที่กว้างขวางของเขา
เย้นหว่านมองตาตรง
ร่างกายของโห้หลีเฉินดีมากดีจนไร้ที่ติ
เย้นหว่านรู้สึกได้ว่า โลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียงหญิงสาวที่มีเสน่ห์ ชายหนุ่มก็ทำได้เช่นกัน
มองดูสีหน้าของเย้นหว่าน สายตาของโห้หลีเฉินก็มืดมนลง
ไฟที่ปะทุขึ้นมากว่าจะบังคับลงได้ ก็ปะทุในร่างกายเขาขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้หญิงคนนี้ เพียงแค่สายตาเดียวก็ทำเอาเขา……
โห้หลีเฉินพูดเสียงเบาว่า: “เย้นหว่าน คืนพรุ่งนี้ฉันไปหาเธอ”
“อะไรนะ?”
เย้นหว่านอึ้งเล็กน้อย มองดูชายบนหน้าจอสายตาที่ลึกซึ้งดั่งหมาป่า รู้สึกแน่นหัวใจไปหมด
พอมาแล้ว ต้องทำอะไรสักหน่อย นี่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดก็คิดได้เลยนะ
เรื่องที่ยังทำไม่เสร็จในคืนนี้ คืนพรุ่งนี้ค่อยต่องั้นเหรอ?
ใบหน้าของเย้นหว่านแดงจนร้อนฉ่า เธอเม้มปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไรตอบกลับเขา
โห้หลีเฉินก็ไม่พูดอะไรอีก บรรยากาศดูเงียบลง แต่ความอบอุ่นนั้นกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่ลดลงเลย
นิ้วมือของเขาแกะกระดุมออกทีละเม็ด ซิกแพคก้อนโตปรากฏขึ้นตรงหน้า
ซิกแพคได้รูปทรงสวย และเป็นเส้นตรงเท่ากันหมด
เทียบกับดูหนังแล้วตื่นเต้นมากกว่าอีก หัวใจของเย้นหว่านเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว
เป็นทั้งการรอคอยและโชคลาภ นานๆทีจะเห็นโห้หลีเฉินถอนเสื้อ เย้นหว่านกลับรู้สึกว่ายังดูไม่พอ
เธออดดูถูกตัวเองไม่ได้ เธอลามกจริงๆเลย
แต่ว่า ยังดีที่ถอดไม่หมด
เย้นหว่านกำลังหาประเด็นเรื่องอื่นคุยเพื่อให้เรื่องนี้ผ่านไป ก็เห็นโห้หลีเฉินเอามืออีกข้างยื่นไปเข็มขัดตรงเอว
“แครก” เสียงดังขึ้น ชัดเจนและกระตุ้นเข้าถึงหูของเธอ
ใบหน้าของเย้นหว่านแดงไปหมด “นายทำอะไรน่ะ?”
โหหลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง หัวเราะเสียงต่ำพูดว่า: “กางเกงก็สกปรกแล้ว”
ต้องถอดจริงๆ
แต่ถอดกางเกงต่อหน้าเธอแบบนี้ เขาไม่อาบเลยงั้นเหรอ? ยังไงเย้นหว่านไม่มีอารมณ์ดูต่อไปแล้วจริงๆ
เธอรีบใช้มือปิดตาไว้
เห็นท่าทางเย้นหว่านที่เขินอาย โห้หลีเฉินก็ยิ้มอย่างได้ใจกว่าเดิม อดไม่ได้พูดแซวเธอ
“อาบอะไรกัน เมื่อกี้ใช่ว่าไม่เคยเห็น”
และยังหน้าต่อหน้าอีก ระยะใกล้กันขนาดนั้น
นึกถึงก่อนหน้านั้นตอนที่โห้หลีเฉินอยู่ในห้องตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น การสัมผัสที่อ่อนโยนนั้น ทำเอาเย้นหว่านหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง
เธอพูดอย่างเขินอาย: “ตาบ้า”
“บ้าแค่กับเธอคนเดียวนั่นแหละ”
เสียงของโห้หลีเฉินมีเสน่ห์มาก
หัวใจของเย้นหว่าน เต้นแรงไม่หยุด แม้จะเป็นคำพูดที่หน้าด้านมาก พอโห้หลีเฉินเป็นคนพูด เธอกลับรู้สึกหวานมากจริงๆ
ว่ากันว่าคนที่ตกอยู่ในหวงแห่งความรักไอคิวต่างก็พากันตกไปหมด งั้นตอนนี้ ขนาดศีลธรรมยังตกลงไปด้วยเลย
“ฉันไม่พูดกับนายแล้ว ฉันนอนละ วางแล้วนะ”
เย้นหว่านพูดอย่างเขินอาย
โห้หลีเฉินยิ้มอ่อนๆ น้ำเสียงเอ็นดูอย่างมาก “ได้”
เสียงนั้นน่าฟังจนทำให้คนเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
เย้นหว่านที่จะวางสาย ก็ใจอ่อนลงอีกครั้ง
เธอปล่อยมือที่ปิดตาลง มองดูโห้หลีเฉินที่สวมชุดนอนเสร็จแล้ว กำลังเดินออกไปด้านนอก
ไม่มีภาพเมื่อกี้แล้ว
ใบหน้าเธอแดงก่ำ เม้มปาก มองเขา ก็ยังไม่ยื่นมือไปตัดสายทิ้ง
โห้หลีเฉินมองดูเธอและยิ้ม “ทำไมยังไม่วางล่ะ?”
เย้นหว่านปากแข็ง “นายวางสิ”
สายตาโห้หลีเฉินจริงจังขึ้นมา เขาพูดเสียงต่ำว่า: “เย้นหว่าน ฉันเป็นผู้ชายของเธอ ไม่ตัดสายเธอก่อนแน่นอน”
หัวใจเย้นหว่านเต้นแรง
โห้หลีเฉินที่สง่า กลับมองดูจับจ้องเธออย่างละเอียดแบบนี้
เย้นหว่านอดยิ้มไม่ได้ เธอพูดเสียงอ่อนว่า “งั้นฉันวางแล้วน้า?”
“ได้” โห้หลีเฉินตอบอย่างมีความอดทน
เย้นหว่านยื่นมือออกไป นิ้วมือยังคงหยุดอยู่บนหน้าจอตลอด ไม่อยากจะวางสายเลยจริงๆ
เธอจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของโห้หลีเฉินนิ่ง อยากจะจ้องมองแบบนี้ไปตลอดเลย
สายตาเธอลึกซึ้งอย่างมาก สายตาของโห้หลีเฉินมืดมนลงอีก ร่างกายเหมือนมีไฟผลุดขึ้นมา ปะทุขึ้นอีกรอบ
แทบจะควบคุมไว้ไม่อยู่แล้ว
เสียงแหบของโห้หลีเฉินพูดขึ้นว่า: “เย้นหว่าน เธอดูฉันแบบนี้อีก ฉันจะไปหาเธอตอนนี้เลยนะ”