สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 438 กลางคืนไร้ผู้คน ฉันกำลังรอคุณ
บทที่ 438 กลางคืนไร้ผู้คน ฉันกำลังรอคุณ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของหยูซือห้านขาวซีดขึ้น เขาพูดขึ้นด้วยความตกใจ “คุณรู้ได้อย่างไร”
เรื่องของตระกูลเย้นกับตระกูลหยู เป็นความลับมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ่งไม่มีทางที่จะพูดกับคนนอกอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะถอนหมั้นแล้ว แต่เรื่องนี้ คนที่อยู่เมืองหนานอย่างกู้ซึงไม่มีทางที่จะรู้ได้
กู้ซึงคนนี้ เป็นแค่เพียงคนธรรมดาในเมืองหนานจริงหรือ
ดวงตาของหยูซือห้านยิ่งดูยิ่งฉายแววคมกล้าราวกับคมดาบที่เหมือนจะมองกู้ซึงให้ทะลุปลอดโปร่งถึงเนื้อใน
หัวใจของเย้นหว่านตกลงไปในตาตุ่ม กำมือแน่นด้วยความกลัว เธอรู้สถานะที่แท้จริงของกู้ซึง หยูซือห้านก็มีชั้นเชิงที่ไม่ธรรมดา ถ้าหากว่าเขาเกิดสงสัยขึ้นมา เรื่องต้องแย่แน่ๆ
เย้นหว่านกระวนกระวาย ลนลานหาเหตุผลขึ้นมาพูด แต่กลับรู้สึกว่าแขนของกู้ซึงได้โอบมาที่ไหล่ของเธออย่างแนบชิด
เขาโอบกอดเธอแล้วพูดติดตลกว่า : “แน่นอนว่าเย้นหว่านเป็นคนบอก”
น้ำเสียงนั้น ราวกับเย้นหว่านต้องการบอกให้เขาทราบ เพราะกลัวว่าเขาเข้าใจผิดก็ไม่ปาน
ทันใดนั้นสีหน้าหยูซือห้านถึงกับแย่จนดูไม่ได้
เรื่องแบบนี้เย้นหว่านยังบอกกับคนที่เพิ่งรู้จักกันอย่างกู้ซึงอย่างนั้นรึ
ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับกู้ซึงแม้แต่นิดเดียว อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ!
หยูซือห้านรับรู้ถึงความไม่ปลอดภัย รู้สึกถึงการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของกู้ซึงคนนี้ จะต้องมาเป็นคู่แข่งของเขาอย่างแน่นอน
“เสี่ยวหว่าน พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่”
ขณะที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดอยู่นั้น จู่ๆกู้จื่อเฟยก็โผล่มาจากข้างๆแล้วได้เดินเข้ามา ยื่นมือไปดึงเย้นหว่านมายืนข้างๆ ช่วงระยะห่างจึงได้เว้นไปจากหยูซือห้านฉับพลัน
เดิมทีเธอกำลังหาเหตุผลที่จะรั้งเย้นโม่หลินไว้ เพื่อให้เย้นหว่านมีโอกาสอยู่กับกู้ซึงสองต่อสอง แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเห็นหยูซือห้านเดินเข้ามา กลัวว่าหยูซือห้านจะจับพิรุธได้ เธอจึงรีบวิ่งเข้ามาทันที
“มาหาของกินนิดหน่อย”
เย้นหว่านตอบกลับ และก็ส่งสายตาให้กับกู้จื่อเฟย แล้วพูดขึ้น : “เธอบอกว่าอยากจะไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้หลังบ้านของฉันไม่ใช่เหรอ ไปสิ ฉันจะพาเธอไปเดิน”
“ ใช่ๆ” กู้จื่อเฟยรีบตอบเห็นด้วยขึ้นทันใด แล้วก็มองกู้ซึงแวบหนึ่ง “พี่ของฉันก็ไม่เคยไปเดิน พวกเราไปด้วยกันนะ”
ถ้าได้อยู่ด้วยกันกับกู้ซึง เย้นหว่านย่อมเต็มใจเป็นที่สุด
เย้นโม่หลินที่อยู่ข้างๆหน้าขรึมแล้วพูดขึ้นว่า : “ผมก็ไปด้วย”
เย้นหว่าน : “…..”
พี่ตามมาด้วยจะไม่สะดวกนะ แม้แต่คำกระซิบก็คงจะไม่ได้คุยแล้ว
ทั้งสี่คนจึงตกลงกันตามนี้ โดยเย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยเดินหน้านำ จูงมือกันเดินมุ่งหน้าไปที่สวนดอกไม้หลังบ้าน
เย้นโม่หลินกับกู้ซึงต่างมองหน้ากันครู่หนึ่ง แล้วก็เดินตามไป
ส่วนหยูซือห้านตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่มีคนสนใจเขา ราวกับเขาเป็นแค่เพียงอากาศ
“เพล้ง”
เสียงดังคมชัด แก้วไวน์ในมือของหยูซือห้านได้แตกลง
ไวน์ในแก้วได้ไหลผ่านมือของเขาลงสู่พื้น
เขาใช้ชีวิตอย่างผู้ดีมีเกียรติจนโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยมีใครหน้าไหนทำกับเขาแบบนี้ เย้นหว่าน! เจ้าตัวแสบ!
ถึงแม้ว่าจะสลัดตัวหยูซือห้านทิ้งไปได้ แต่กลับยังมีเย้นโม่หลินที่ตามติดต้อยๆ
เย้นหว่านเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้กับพวกเขา เดินกันทั้งหมดสี่คน จึงไม่ได้คุยกับกู้ซึงสองต่อสองตั้งแต่นั้นมา
หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกแล้ว กู้จื่อเฟยที่มาจากแดนไกล และยังเป็นเพื่อนสนิทของเย้นหว่าน เป็นธรรมดาที่ต้องพักเป็นแขกอยู่ที่บ้านตระกูลเย้น
เนื่องจากเธอกับเย้นหว่านที่เคยนอนร่วมเตียงเดียวกัน จึงจัดห้องนอนให้ติดอยู่ข้างๆกับเย้นหว่าน คนในบ้านตระกูลเย้นต่างก็ไม่คัดค้าน
เพียงแต่ สำหรับที่พักของกู้ซึง…..
“ทุกคนล้วนต่างเป็นเพื่อนกัน ห้องนอนที่บ้านของฉันยังมีอีกเยอะ อย่างนั้นกู้ซึงก็นอนที่บ้านด้วยแล้วกันนะ”
เย้นหว่านพูดขึ้น
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว ให้ชายหนุ่มนอนใต้ชายคาเดียวกันกับเย้นหว่านอย่างนั้นหรือ
ที่นั่นมีห้องนอนเยอะก็จริง แต่ว่าดูไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไร
“กู้ซึงพักอยู่ตรงนั้นคงจะไม่สะดวก…..”
“ทำไมจะไม่สะดวกล่ะ”
เย้นหว่านไม่ปล่อยให้เย้นโม่หลินมีโอกาสได้พูดต่อไปอีก จึงได้พูดขัดคำพูดของเย้นโม่หลินขึ้น “กู้ซึงอายุรุ่นเดียวกันกับฉัน และก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของจื่อเฟย พักอยู่ที่นี่ถึงจะสะดวกเจอหน้ากันแล้วคุยกันได้”
ชะงักไปชั่วครู่ กลัวว่าเย้นโม่หลินจะไม่เห็นด้วย เย้นหว่านจึงเดินมาที่ด้านหน้าของกงจืออวี แล้วก็ออดอ้อนออเซาะขึ้น
“คุณแม่ขา ที่บ้านนานๆจะมีแขกมาเยี่ยมเยือน หนูยังอยากจะพูดคุยกับพวกเขาอีก คึกคักด้วย ท่านโปรดอนุญาตให้จื่อเฟยกับกู้ซึงพักที่นี่เถิดนะ ที่บ้านหนูยังมีห้องนอนอีกตั้งหลายห้อง ไม่มีที่จะไม่สะดวกตรงไหนเลยนะคะ”
กงจืออวีไม่ค่อยจะเห็นเย้นหว่านที่มีสีหน้าสดใสเช่นนี้บ่อยนัก และก็ไม่บ่อยนักที่จะออดอ้อนขอร้องเธอแบบนี้ เรื่องขี้ปะติ๋วเช่นนี้ แน่นอนว่าเธอไม่มีทางที่จะปฏิเสธ
กงจืออวีพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ หนูมีความสุขก็พอ”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว “แม่…..”
กงจืออวียิ้มแล้วส่ายหน้า : “ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้นอนห้องเดียวกันสักหน่อย ลูกจะกลัวไปทำไม ลูกเป็นพี่ชายยังเข้มงวดยิ่งกว่าคนเป็นแม่เสียอีก”
มันไม่ได้เกี่ยวกับเข้มงวดหรือไม่เข้มงวด เขาเพียงแค่ไม่ชอบให้ผู้ชายคนนี้มาปรากฏตัวอยู่รอบๆอาณาเขตของน้องสาวเท่านั้น
กงจืออวีพูดขนาดนี้ เย้นโม่หลินก็จนปัญญา จึงพูดอย่างแข็งกระด้างว่า : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณก็พักอยู่ที่ห้องตรงข้ามของห้องเสี่ยวหว่านก็แล้วกัน”
ห้องที่เย้นหว่านพักเป็นรูปวงรี ตรงกลางคั่นด้วยห้องนั่งเล่นส่วนตัว ฝั่งตรงข้ามห้องของเธอ เป็นห้องที่ไกลจากห้องของเธอที่สุดในบ้าน
เย้นโม่หลินช่างจัดห้องได้…..
เป็นตายร้ายดีเขาก็ต้องการที่จะให้กู้ซึงอยู่ห่างจากเย้นหว่านให้ได้
เย้นหว่านรู้สึกจนปัญญา แต่ทว่าสามารถให้กู้ซึงพักอยู่ในบ้านของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
ห้องนอนได้จัดแจงเสร็จสรรพเรียบร้อย หญิงสาวคนรับใช้ได้นำสัมภาระของกู้จื่อเฟยและกู้ซึงไปไว้ที่ห้องของแต่ละคน เมื่อทำการจัดของวางให้เรียบร้อยเหมาะสมแล้ว เวลาก็ประมาณเที่ยงคืน และก็ใกล้ถึงเวลานอน
เย้นหว่านรู้สึกดีใจ เดิมที่ยังอยากไปหาไปคุยกับกู้ซึง แต่ว่าเย้นโม่หลินนั้นกลับยังอยู่ที่ห้องของเธอ จนกระทั่งเห็นเธอขึ้นเตียงนอนหลับไปแล้ว ถึงได้จากไป
ก่อนจากไปยังช่วยเธอปิดไฟแล้วก็ปิดประตู
“ฝันดี เจอกันพรุ่งนี้นะ”
เย้นหว่าน : “…..” พี่ทำถึงขนาดนี้ ราวกับว่ากำลังกันบางสิ่งยางอย่างอยู่ มันดีจริงหรือ
เย้นหว่านขดอยู่ใต้ผ้าห่ม เงียบๆสักพัก
รอจนกว่าเย้นโม่หลินจากไปแล้ว เย้นหว่านจึงคลานออกมาจากผ้าห่ม แล้วเดินมาที่ประตูอย่างเงียบๆ แล้วแง้มประตูมองดูด้านนอก
ไฟในห้องโถงได้ถูกปิดลง เงียบสงัดไร้เสียงคน ดูแล้วเย้นโม่หลินคงจากไปแล้วจริงๆ
เย้นหว่านจึงแอบถอนหายใจโล่ง แล้วก็สาดสายตาส่องไปที่ห้องที่อยู่ตรงกันข้าม
ประตูห้องนั้นได้ถูกปิดแน่นสนิท มีเพียงแสงไฟที่ส่องลอดออกมาจากใต้ประตู
กู้ซึงอยู่ตรงนี้ ระยะที่อยู่ใกล้กับเธอมาก
หัวใจของเย้นหว่านเต้นดัง “ตึกๆ” จังหวะการเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงเวลาดึกสงัดไร้ผู้คนเช่นนี้ เขาจะฝ่าฟันความมืดมาหาเธอไหมนะ
เรื่องแบบนี้เมื่อก่อนนั้นเขามักจะทำเป็นประจำ…..
เพียงแค่คิด นิ้วเท้าเย้นหว่านก็ได้บีบรัดแน่น จิตใจก็ตั้งหน้าตั้งตารอ
เธอปิดประตูลง แล้วเดินกลับมาที่ห้อง จากนั้นเดินไปที่อ่างล้างหน้า เพื่อล้างหน้า แปรงฟัน แล้วก็พ่นสเปรย์ฉีดปากเพื่อเพิ่มลมหายใจให้สดชื่นยิ่งขึ้น…..
เย้นหว่านมองดูตัวเองในกระจก แก้มแดงระเรื่อ สายตายั่วยวน เขินอาย และเต็มไปด้วยการรอคอย
เธอกำลังรอเขา