สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 476 คุณคิดว่า ฉันคือใคร
บทที่ 476 คุณคิดว่า ฉันคือใคร
เย้นหว่านผงะอย่างกะทันหัน ลมหายใจหยุดลงในทันที
เธอมองเขาอย่างตื่นตระหนก แล้วถามเขาอย่างร้อนรน “นายหมายความว่ายังไง”
ความหมายของตัวอักษรนั้น
กู้ซึงยิ้มออกมาอย่างสบายๆ และขยับเข้าไปใกล้เธออีกเล็กน้อย น้ำเสียงคลุมเครือ
“ไม่ว่าฉันหรือโห้หลีเฉินก็ใช้ใบหน้านี้เหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้เธอได้บอกกับทุกคนว่าคนที่เธอชอบคือกู้ซึง งั้นก็มาอยู่กับฉันเสียเลยสิ ”
ลมหายใจของชายหนุ่มพ่นออกมา แต่กลับเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่ทำให้เย้นหว่านต้องขัดขืน
เธอผงะและรีบถอยหลังไปสองสามก้าว รักษาระยะห่างที่เพียงพอกับเขา
สายตาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง “กู้ซึง ระวังคำพูดหน่อย!”
“เธอไม่เห็นด้วยเหรอ?”
กู้ซึงลูบใบหน้าของตนเอง สีหน้าดูผิดหวังมาก “จริงๆแล้วฉันสามารถแทนที่โห้หลีเฉินได้ทุกอย่าง และอยู่กับเธอต่อไปได้”
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างต่อต้าน
สิ่งที่เธอรักมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อแท้ของโห้หลีเฉินงดงามกว่ากู้ซึงมาก
เย้นหว่านจับจ้องไปที่กู้ซึง พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับนาย รีบบอกมาว่าตอนนี้โห้หลีเฉินอยู่ที่ไหน”
คนตรงหน้าไม่ใช่โห้หลีเฉิน แม้แต่จะรับมือก็รู้สึกจิตใจสับสนไปหมด
ยิ่งไปกว่านั้นเพราะคำพูดของกู้ซึงรู้สึกถึงความตื่นตระหนก กู้ซึงกลับมาแล้ว โห้หลีเฉินก็ไม่มีความจำเป็นจะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว นี่มันหมายความว่ายังไง?
“ฉันก็ไม่รู้”
กู้ซึงตอบอย่างสบายๆ เย้นหว่านก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป ก้าวขาเดินออกไปยังระเบียงอีกฝั่ง
ที่นั่นก็คือสวนดอกไม้เล็กๆของเย้นหว่าน
ทันใดนั้นหัวใจของเย้นหว่านก็วูบขึ้นมา
เธอรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอามากๆ หรือว่าโห้หลีเฉินต้องการรับมือกับข่าวลือพวกนี้ จึงให้กู้ซึงออกมา ส่วนเขาก็จากไปแล้ว
ท้ายที่สุด ผู้คุ้มกันของตระกูลเย้นนั้นเข้มงวดมาก ถ้าหากเกินมาสักคนหนึ่ง ก็ง่ายมากที่จะถูกจับได้
เย้นหว่านกระวนกระวายใจมาก รีบหยิบโทรศัพท์โทรไปหาโห้หลีเฉินทันที
“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าเธอ
เหลือบตามองไปก็เห็นกู้ซึงกำลังถือโทรศัพท์ออกมา
เขามองดูหน้าจอโทรศัพท์ แล้วยิ้มอย่างขบคิด ถือโทรศัพท์เดินพุ่งไปยังเย้นหว่านและส่ายไปมา
“เสี่ยวหว่าน ฉันพึ่งออกไปไม่นานเธอก็คิดถึงฉันแล้วเหรอ ? ถ้างั้นให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ดีไหม?”
เย้นหว่านเบิกตาโพลง แทบจะเป็นลม
โทรศัพท์ของโห้หลีเฉินทำไมถึงไปอยู่กับกู้ซึงได้!
ถ้าไม่มีโทรศัพท์แล้วเธอก็ไม่มีทางที่จะหาโห้หลีเฉินเจอ
เย้นหว่านรู้สึกกลุ้มใจจนจะเป็นบ้า ไม่อยากสนใจกู้ซึงที่กวนประสาทอยู่ตรงหน้า แต่เขาเป็นคนเดียวในเวลานี้ที่อาจหาโห้หลีเฉินเจอ
เย้นหว่านกัดฟันแน่น เดินเข้าไปหาเขาด้วยความโกรธจัด
“บอกฉันมาว่าโห้หลีเฉินอยู่ที่ไหน! “
“สีหน้าเธอดุจัง หรือว่าเธอยังหยากจับฉันกดหรือไง?
กู้ซึงวางมือแนบอกทันที ถอยหลังด้วยใบหน้าหวาดกลัว
ขมับของเย้นหว่านเต้นอย่างรุนแรง
จับกด? พูดมาได้ยังไงหน้าไม่อาย!
มองดูใบหน้าที่โห้หลีเฉินมักใช้บ่อยๆ ในตอนนี้แสดงออกมาด้วยความเสแสร้ง เย้นหว่านดูยังไงก็รู้สึกอึดอัด แทบรอไม่ไหวที่จะหยิบกองโคลนมาปาใส่เขา
เธอกัดฟันแน่นแต่กลับเดินเข้าไปหาเขา
กู้ซึงซ่ายหัวไปมา พูดอย่างเสแสร้ง “ดุจริงๆ เธออย่าเข้ามา ฉันจะเป็นผู้ชายที่ดี”
เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็หันหลังและวิ่งออกไปแบบคาดไม่ถึง
ขายาวหนึ่งเมตรแปดนั้น หนึ่งก้าวเท่ากับสามก้าวของคนอื่น ๆ แค่พริบตาเขาก็วิ่งไปไกลหลายเมตรแล้ว
มุมปากของเย้นหว่านกระตุกอย่างแรง คิดไม่ถึงเลยว่าไอ้ทึ่มคนนี้จะวิ่งหนีไป!
ขายหน้าไหมล่ะ?
เธอไม่ยอมปล่อยให้เขาไปแบบนี้ รีบใช้ความสามารถความเร็วในการวิ่งร้อยเมตรตามไป
กู้ซึงวิ่งเร็วมาก แค่พริบตาก็ไปถึงในสวนดอกไม้ แค่เลี้ยวตรงหัวมุมก็มองไม่เห็นเงาของเขาแล้ว
เย้นหว่านกังวลมาก รีบวิ่งตามอย่างรีบร้อน ก็เห็นมุมหนึ่งของเสื้อเขา
แต่เมื่อมองดูทิศทางที่กู้ซึงไปแล้ว เย้นหว่านกลับไม่รีบร้อนอีกต่อไป
ที่นี่คือสวนดอกไม้ของเธอ เธอคุ้นเคยที่สุด กู้ซึงเพิ่งจะมายังไม่รู้จักเส้นทาง ที่เขาวิ่งไปทางนั้นคือทางตัน
ครั้งนี้ รอดูว่ากู้ซึงจะวิ่งไปต่อได้อย่างไร
เย้นหว่านชะลอความเร็วลงเล็กน้อย วิ่งเหยาะๆตามเขาไป
คิดไม่ถึงเมื่อเธอวิ่งเข้าไป อยู่ ๆ ก็มีเงาของคนคนหนึ่งออกมาจากด้านหน้า และกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
เมื่อเหลือบตาไปมอง แท้จริงแล้วเป็นกู้ซึง
เย้นหว่านเกร็งไปหมดทั้งตัว และพูดด่าด้วยความโกรธ “ไอ้คนบ้า ปล่อยฉันนะ!”
ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้กินหัวใจหมีดีเสือดาวไปหรือยังไง กล้าลวนลามเธอ ที่นี่ก็เป็นสวนดอกไม้ของเธอ ทางตัน…
เย้นหว่านตัวแข็งทันที ตกใจจนหน้าขาวซีดไปหมด หรือว่ากู้ซึงจะตั้งใจหลอกเธอให้มาที่นี่
วางแผนทำเรื่องไม่ดีกับเธอ
“ไอ้คนเลว!ปล่อยฉันนะ ถ้านายกล้าจะทำอะไรฉัน ฉันจะตะโกนเดี๋ยวนี้ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาจัดการนาย”
เย้นหว่านกล่าวเตือนด้วยความตื่นตระหนก
แต่ทว่า กู้ซึงกลับไม่สนใจคำขู่ของเย้นหว่านเลยสักนิดเดียว ใบหน้าหล่อกลับยกยิ้มเจ้าเล่ห์
เขาพูดด้วยเสียงเบา “ที่แท้เธอก็ยังมีด้านที่ดุขนาดนี้”
“ฉันมีส่วนที่ร้ายอีกมาก นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ถ้าหากนายยังไม่ปล่อยฉันอีก ฉันจะฆ่านาย!”
เย้นหว่านกัดฟันขู่ และยังใช้สายตาเข้มมองชายตรงหน้า
แต่กลับไม่เห็นความหวาดกลัวของเขาสักนิด
แต่ทว่า บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มที่ทำให้คนต้องเวียนหัวนั้น นิสัยที่ไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ
เย้นหว่านผงะตะลึงงัน
ความรู้สึกที่คุ้นเคยทำให้หัวใจของเธอพลาดเต้นผิดจังหวะ
เธอตะลึงไปเกือบสามวินาที ถึงจะอ้าปากพูดอย่างไม่มั่นใจ “นาย….นายคือ..”
“เธอคิดว่าไงล่ะ ฉันเป็นใคร?”
ริมฝีปากของชายหนุ่มยกยิ้มเบาๆ ริมฝีปากบางเคลื่อนไปข้างหน้าและจูบเบาๆที่หน้าผากของเย้นหว่าน
ความร้อนอ่อนๆทำให้ผิวหนังของเธอดูเหมือนจะลุกเป็นไฟทันที
เบ้าตาของเย้นหว่านเป็นสีแดงทันที คว้าแขนของเขามาจับไว้ เรียกด้วยความดีใจ “โห้หลีเฉิน! ทำไมนายถึงเพิ่งจะมา ฉันตกใจแทบแย่!”
เธอยังคิดว่าเขาจะไม่อยู่ที่ตระกูลเย้นอีกแล้ว
โห้หลีเฉินยกมือขึ้นมาลูบผมของเย้นหว่านด้วยความรักสุดหัวใจ
เกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหัน แม้กระทั่งเธอยังไม่มีเวลามาบอกด้วยซ้ำ ก็เลยให้กู้ซึงออกมา
ทำให้เธอต้องตื่นตระหนกตกใจ
“หลังจากนี้มีเรื่องอะไร ฉันก็จะบอกเธอก่อน”
โห้หลีเฉินให้คำสัญญาด้วยน้ำเสียงต่ำ
เย้นหว่านสะอึกสะอื้นอยู่ในลำคอ ในที่สุดก้อนหินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในหัวใจก็หล่นลงมา ไม่ว่าก่อนหน้าจะตกใจและกลัวขนาดไหน เหมือนกับว่าแค่มีเขาอยู่ เธอก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
เย้นหว่านพยักหน้า พูดอย่างเบาๆ “ฉันเชื่อใจนาย”
อีกด้านหนึ่ง กู้ซึงยืนพิงกำแพงดอกไม้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูก
“เฮ้ พวกเธอเลี่ยนกันเสร็จแล้วยัง? คิดบ้างไหมว่ายังมีหมาโสดตัวหนึ่งที่ยืนอิจฉาอยู่ตรงนี้?”
เย้นหว่านผละนิดหน่อยแล้วมองไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ก็เห็นใบหน้านั้นของกู้ซึงที่เหมือนกับชายหนุ่มที่เธอกำลังกอดอยู่ไม่มีผิด
ทั้งสองปลอมตัวเหมือนกัน ยังดูราวกับว่าไม่มีความแตกต่างสักนิดเลยจริงๆ
ได้สัมผัสระหว่างความแตกต่างแล้ว เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
เพียงแต่ เห็นได้ชัดว่าเหมือนกันเพียงใบหน้า โห้หลีเฉินทำให้เธอรักไปถึงข้างใน แต่กับกู้ซึงนั้นกลับทำให้เย้นหว่านชอบไม่ลงจริงๆ
ถึงขนาดยังรู้สึกโกรธเคืองที่เขาเพิ่งจะลวนลามเมื่อสักครู่