สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 522 ผมสวมแหวนให้คุณ
บทที่ 522 ผมสวมแหวนให้คุณ
การเต้นของหัวใจเย้นหว่าน แทบจะหยุดลง
สภาพแวดล้อมที่แสนโรแมนติกเตรียมอย่างตั้งใจแหวนขอแต่งงานที่สวยงาม และยังมีคำขอแต่งงานจากปากคนที่เธอรักอย่างสุดซึ้ง
ที่ไม่เหมือนกันคำสัญญาก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ ไม่ว่าอะไรก็คือการขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ
ก็เหมือนกับครั้งนั้นตอนแรกที่เมืองหนาน โห้หลีเฉินตกแต่งคฤหาสน์เพื่อเธอ แต่งสวนดอกไม้ด้านหลังใหม่ ใช้ดอกไม้สดขอเธอแต่งงาน ให้เธอแต่งงานกับเขา
ครั้งนั้น เธอไม่เข้าใจหัวใจของเขา จึงพลาดไปแล้ว
ครั้งนี้ พวกเขามีความเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี อย่างเช่น ต่างมีความรักต่ออีกฝ่าย เธอไม่อาจใจร้ายปฏิเสธเขาได้อีก
ขอบตาเธอแดง พยักหน้าสะอึกสะอื้น “ค่ะ”
ด้านหลัง มีเสียงหัวเราะอย่างผ่อนคลายของชายหนุ่ม
เขาพูดว่า “ผมสวมแหวนให้คุณ”
เย้นหว่านสะอื้น “ค่ะ”
ความสุข ที่แท้ก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง
เสียงฝีเท้าเดินมาดังมาจากด้านหลัง ระยะห่างระหว่างชายหนุ่มกับเธอยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ไม่นาน ร่างสูงใหญ่ของเขาก็ยืนอยู่ด้านหลังเธอ แนบชิดเบากับด้านหลังเธอ เอาเธอมากอดไว้ในอ้อมกอด
มือของเขายื่นผ่านเธอ หยิบแหวนขึ้นมา อีกมือหนึ่ง จับมือเล็กๆของเธอขึ้นมา
เย้นหว่านยืดตัวเกร็งอย่างตื่นเต้น
สวมแหวน นี่เป็นครั้งแรก
ไม่รู้ว่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกหรือไม่จึงเป็นสาเหตุให้ตื่นเต้นเกินไป เธอรู้สึกว่าถูกกอดจนไม่เป็นตัวของตัวเอง อ้อมกอดของเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ขณะที่มองเขาจับมือเธออยู่นั้น มือของเขาเย็นเยียบ ความเย็นนั้นเสียดแทงเข้าไปในผิว ทำให้ผิวของเธอหนาวสั่น รู้สึกไม่ค่อยสบาย
ที่ผ่านมา ตอนที่มือของโห้หลีเฉินเย็น ปกติแล้วเขาจะไม่แตะต้องเธอ ต้องถูจนมืออุ่นจึงจับมือเธอ
บางครั้งเธอก็เป็นฝ่ายถูมือเขาให้อุ่น แม้ว่าจะจับมือที่เย็นเยียบของเขา แต่กลับไม่รู้สึกไม่สบายมาก่อน ตรงข้ามอยากที่จะกุมไว้อยู่ตลอด
แต่ตอนนี้เวลานี้ อ้อมกอดนี้ทำให้เธอตื่นกังวล มือของเขาทำให้เธอรู้สึกหนาว ทุกอย่าง ล้วนต่างกันเหลือเกิน
ตอนแรกสุดมีความสุขอย่างมาก ราวกับว่าตื่นขึ้นมาจากความหนาวเย็น เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย สงสัยนิดหน่อย ว่าเธอเป็นอะไร
ก้มหน้าอีก มองมือที่ข้อกระดูกชัดเจนถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่ เตรียมจะสวมเข้าไปที่นิ้วของเธอ
ลมหายใจของเธอติดขัด มีความวิตกกังวลและต่อต้านเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในใจ
เย้นหว่านขนหัวลุก ดิ้นหลุดออกมาจากอ้อมกอดชายหนุ่ม อาจจะเป็นความสามารถ ที่หลุดออกมาจากอ้อมกอดชายหนุ่มได้ วิ่งไปข้างหน้าสองก้าว
จากนั้น หมุนตัวทันที มองไปทางเขา
มองใบหน้าชายหนุ่มอย่างชัดเจน ดวงตาเธอเบิกโพลงทันที สีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ และยังมี ความโกรธที่เกิดขึ้นตามมา
“หยูซือห้าน ทำไมเป็นคุณได้!”
ปฏิกิริยาเย้นหว่านเมื่อครู่เร็วเกินไป หยูซือห้านไม่ทันได้ระวังตัว แหวนในมือถูกตีจนร่วงหล่นลงไป ไม่รู้ว่าหล่นไปตรงไหน
สีหน้าเขานิ่งขรึม มุมปาก ยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนอยู่
“เสี่ยวหว่าน เมื่อครู่คุณตกลงจะแต่งงานกับผมแล้ว จะเสียใจทีหลังไม่ได้นะ ”
นึกถึงบทสนทนาเมื่อครู่ เย้นหว่านก็โมโหจนอยากจะบีบขอเขาให้ตาย
หยูซือห้านจงใจแน่นอน
ใช้ข้อความของกู้ซึงล่อเธอมา ทั้งยังตกแต่งด้วยดอกไม้สดมากขนาดนั้นอีก และดอกกุหลาบพวกนั้นก็ถูกปลูกเอาไว้นานแล้ว เธอคิดแค่ว่าโห้หลีเฉินปลูกไว้ก่อนหน้านี้ แทบไม่ได้นึกเชื่อมโยงถึงคนอื่นเลย
ดังนั้นเขาจึงคิดบัญชีกับเธอ ไม่เปิดเผยใบหน้า จงใจกดเสียงให้ต่ำ ขอเธอแต่งงานอย่างเบลอๆงงๆ
เธอคิดว่าอีกฝ่ายคือโห้หลีเฉิน จึงได้ตอบตกลงเลย!
เย้นหว่านหงุดหงิดอย่างที่สุด “ที่ฉันตกลงไม่ใช่คุณ! อีกอย่าง ที่นี่ก็ไม่มีใครเป็นพยาน ฉันไม่ยอมรับก็พอ คุณอยากจะเอาเรื่องนี้ไปทำอะไร”
หยูซือห้านยิ้มอย่างมั่นใจ
เขาหยิบปากกาอัดเสียงสีเงินขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกง
กดเบาๆ ด้านบนก็มีเสียงดังออกมา
“เย้นหว่าน แต่งงานกับผม ได้ไหม”
“ค่ะ”
“ผมจะสวมแหวนให้คุณ”
“ค่ะ”
คือบทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ เหมือนกันเป๊ะ!
และยังเป็นบทสนทนาที่ตอบตกลงการขอแต่งงาน!
เย้นหว่าสีหน้าซีดเผือดทันที เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างภายในใจ “หยูซือห้าน ตกลงคุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”
ใบหน้าหนูซือห้านมีรอยยิ้มอันอบอุ่น แต่สีหน้า กลับมีแต่ความชั่วร้ายที่ทำให้คนหวาดผวา
เขาสาวเท้ามา เดินมาทางเย้นหว่านทีละก้าวๆ
“จุดประสงค์ของผม ชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร เสี่ยวหว่าน คุณไม่รู้ใจผมอีกเหรอ ผมแค่อยากจะแต่งงานกับคุณเท่านั้น นับตั้งแต่วินาทีที่คุณเกิด ก็รอคุณมาจนถึงปัจจุบัน”
คำพูดที่ลึกซึ้งกินใจ เย้นหว่านกลับฟังแล้วขนลุกซู่
หยูซือห้านไม่ได้มีความรักลึกซึ้งกับเธอขนาดนั้นที่เขาต้องการ ก็แค่ผลประโยชน์ที่ได้จากการแต่งงานครั้งนี้
เย้นหว่านขมวดคิ้ว น้ำเสียงหนักแน่น
“ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคุณ! ต่อให้มีเทปบันทึกเสียงนี้แล้วยังไง ฉันไม่แต่งก็คือไม่แต่ง อย่างมากก็แค่ยกเลิกงานแต่ง กลับคำ ต่อหน้าทุกคน!”
“คุณสามารถยกเลิกการแต่งงานได้ กลับคำได้”
หยูซือห้านแอบยิ้มมุมปาก น้ำเสียงกลับน่ากลัวเป็นพิเศษ “แต่ คุณไม่ได้มีโอกาสจะเอ่ยปากแบบนี้”
เย้นหว่านตกใจมาก นี่เขาหมายความว่าอย่างไร
วิกฤตการณ์ที่รุนแรงพุ่งขึ้นมาในใจ เธอถอยหลังอย่างหวาดกลัว ไม่พูดพร่ำทำเพลง หมุนตัวก็คิดจะวิ่งหนี
แต่เพิ่งจะวิ่งไปสองก้าว ก็มีผู้ชายร่างสูงใหญ่สี่ห้าคนโผล่ออกมาจากในป่า ขวางทางเธอเอาไว้ด้วยท่าทางดุร้ายน่า
แขนขาเล็กๆของเย้นหว่าน จะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้อย่างไร
เย้นหว่านตะโกนอย่างตื่นตกใจ “หยูซือห้าน ที่นี่ยังเป็นเขตของบ้านตระกูลเย็น คุณคิดจะทำอะไรฉัน! หากเกิดเรื่องอะไรกับฉัน พ่อแม่และพี่ชาย เดี๋ยวก็ต้องรู้อยู่ดี!”
“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ผมก็แค่ อยากจะแต่งงานกับคุณเท่านั้นเอง”
หยูซือห้านเดินมาทางเย้นหว่านด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย “รอให้พวกเราแต่งงานกันแล้ว ขอแค่คุณเป็นเด็กดี ผมก็จะดีกับคุณให้มาก”
ท่าทางมั่นใจของหยูซือห้าน ทำให้เย้นหว่านเกิดความกลัวในใจ
เธอไม่รู้ว่าเจาจะทำอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้มั่นใจมาก เขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปแน่
ตกอยู่ในเงื้อมมือของหยูซือห้าน เธอก็จะสูญเสียอำนาจความเป็นผู้นำ
“ต่อให้ฉันตายก็ไม่มีทางแต่งงานกับแก!”
เย็นหว่านตะโกนอย่างเลือดขึ้นหน้า หมุนตัว วิ่งไปทางด้านในของสวนกุหลาบทันที
เธอไม่ได้มองทาง วิ่งเหยียบแปลงดอกไม้ไปเป็นวงกว้าง
เธอวิ่งพลาง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพลาง โทรหาเย้นโม่หลินด้วยความเร็วสูงสุด
หยูซือห้านสีหน้าเครียดทันที ออกคำสั่งอย่างดุร้ายว่า“จับตัวเธอไว้!”
ชายชุดดำหลายคนได้รับคำสั่ง ก็รีบพุ่งตัวไปทางเย้นหว่านอย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่กลับวิ่งไปได้ไม่ถึงสามเมตร ก็ถูกชายชุดดำซ้ายคนขวาคนจับเอาไว้ได้
อีกคนหนึ่ง แย่งโทรศัพท์มือถือเธอไปทันที
“พี่——”
เธอร้องตะโกน แต่กลับมองอย่างสิ้นหวัง โทรศัพท์ที่เพิ่งจะกดรับสายได้แต่วินาทีเดียว ก็ถูกตัดสายไปเลย
“เอามือถือมาให้ฉัน”
หยูซือห้านเดินมาด้วยสีหน้าดูไม่ได้ หยิบเอาโทรศัพท์มือถือไป
พอมาอยู่ในมือเขา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก
คือเย้นโม่หลินโทรมา
“ไอ้บ้าเอ้ย”
เขาด่าพึมพำอย่างเคร่งเครียด
อะไรก็ควบคุมได้หมดแล้ว คิดไม่ถึงว่าเย้นหว่านจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองว่าจะได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว จะวิ่งเข้าไปในแปลงดอกกุหลาบ
โทรศัพท์นี้โทรออกไป ด้วยนิสัยดื้อรั้นของเย้นโม่หลิน ไม่ได้ถามเย้นหว่านให้กระจ่างว่าโทรมาด้วยเรื่องอะไร ก็จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆแน่นอน