สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 527 เขาเป็นมีด ฉันเป็นเนื้อปลา
บทที่ 527 เขาเป็นมีด ฉันเป็นเนื้อปลา
“ไม่เป็นไร ไม่นานก็แก้ออกแล้ว”
เย้นหว่านไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แก้มัดต่อไป
ตอนนี้ในใจเธอเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอยู่ สิ้นหวังจนแม้แต่หายใจก็ยังอึดอัด ก็ได้แต่หาเรื่องมาทำ จะได้เบี่ยงเบนความสนใจ ไม่กลัวขนาดนั้น
กู้ซึงหันข้างไปมองใบหน้าเล็กๆของเย้นหว่าน นัยน์ตาฉายความสงสาร
เขาถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้ง “ถ้าไม่ใช่เพราะเช้าวันนี้ประมาท พบกับหยูซือห้านและยังพูดคุยกับเขา ก็คงไม่ถูกเขาจับมาแบบนี้”
บ้านตระกูลเย้นมีกล้องวงจรปิดและบอดี้การ์ดที่เข้มงวดขนาดนั้น เขากลับถูกหยูซือห้าน บังคับเอาตัวไปได้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาทำตัวเองทั้งสิ้น
และยังพลอยทำให้เย้นหว่านเดือดร้อนไปด้วย
เย้นหว่านส่ายหน้า “เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้นานแล้ว ไม่โทษคุณหรอก”
ได้ยินประโยคนี้ กู้ซึงก็ยิ้มออกมาทันที “เย้นหว่านจู่ๆคุณก็ดีผมขนาดนี้ ผมรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชิน คุณเห็นผมตกระกำลำบากก็เลยตกหลุมรัก รักผมแล้วใช่มั้ย”
ในการกระทำที่มือของเย้นหว่านชะงักไปครู่หนึ่ง ยกมือขึ้นด้วยสัญชาตญาณอยากจะตบที่ศีรษะ
นี่มันเวลาอะไรแล้ว ยังจะมาล้อเล่นอยู่อีก
สมแล้วที่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมา กู้ซึงก็ยังเป็นกู้ซึงคนนั้น กู้ซึงคนที่ทำให้คนอื่นรังเกียจจนอยากจะต่อย
“ฝันไปเถอะ”
เย้นหว่านเกลียดเขา มือก็ยังคงไม่หยุดการเคลื่อนไหว
อารมณ์ท้อแท้หดหู่ก็กลับมาสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง เพราะคำพูดล้อเล่นของเขา
หยูซือห้านนั่งอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับมองสองคนที่ยังมีอารมณ์ล้อเล่นกัน สีหน้าที่สะใจก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันทีในชั่วพริบตา
โห้หลีเฉินทำให้เขาเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กู้ซึงคนนี้ก็ทำให้เขาไม่ถูกชะตาอย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ซึงมีชีวิตอยู่ยังมีประโยชน์อยู่ เขาก็คงเอาปืนยิงเขาตายไปนานแล้ว!
เขาตำหนิชายคนขับรถด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า
“ชักช้าอืดอาดอะไรอยู่ ขับเร็วหน่อยสิ!”
ชายคนขับรถตกตะลึง ความเร็วที่เขาขับนี่ก็ถือว่าไม่ช้าแล้วนะ
มองสีหน้าไม่สู้ดีของหยูซือห้านอีก เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่า คงเป็นเพราะคุณชายเขาเห็นสองคนด้านหลังยังพูดจาหยอกล้อกัน เลยอารมณ์ไม่ดี
หึงหวงแล้ว
“ทราบแล้วครับ คุณชาย”
ดังนั้น จู่ๆเขาจึงเหยียบคันเร่งอย่างเต็มที่ เสียงดัง“บรืน” รถก็พุ่งทะยานออกไปราวกับจรวด
ทั้งเร็วทั้งแรง
“ปึง!”
เย้นหว่านไม่ทันได้ตั้งตัว พุ่งตัวไปกระแทกที่ข้างหลัง ไม่นานก็ชนเข้ากับพนักเก้าอี้
ความเจ็บพุ่งมาที่ไหล่ทันที
กู้ซึงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เชือกที่มัดอยู่บนตัวยังไม่ได้แก้ออก แทบไม่มีการทรงตัว ร่างเอียง หัวไปกระแทกกับหน้าต่างรถ
เสียงดัง “ตึ้ง” ฟังแล้วยังเจ็บ
เขาด่ากราดอย่างโมโห “ขับรถเป็นมั้ยเนี่ย! ใบขับขี่ของนายนี่เก็บมาได้เหรอ!”
หยูซือห้านมุมปากยกขึ้นอย่างสะใจ ยิ้มแล้ว
ชมว่า “ขับได้ไม่เลว กลับไปมีรางวัล”
ชายคนขับรถดวงตาเป็นประกาย ดีใจอย่างที่สุด
ติดตามหยูซือห้านมานานหลายปี สุดท้ายเขาก็ได้รับคำชมครั้งแรก!
ทันใดนั้นนั้นทั่วร่างเขาก็เปี่ยมไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า เหยียบไปที่คันเร่งอย่างแรงอีก หมุนไปได้ร้อยแปดสิบองศา
“ปึง! ปึง! ปึง!”
กู้ซึงกลิ้งเป็นลูกบ๊ะจ่าง แทบไม่มีเรี่ยวแรงเลย ถูกสะบัดชนไปทั่วในรถ
ครู่หนึ่งก็ร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด อยากจะฆ่าคน
เย้นหว่านถูกสะบัดล้มไปสองครั้ง กระแทกจนเจ็บหลายที่
ยังดีที่ตอนหลังเธอตั้งตัวได้แล้ว เกาะที่จับในรถไว้แน่น จึงทำให้ร่างตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคงขึ้นบ้าง
จากนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปช่วยกู้ซึง แต่กู้ซึงเป็นผู้ชายตัวใหญ่บึกบึน เรี่ยวแรงเธอไม่อาจเทียบกับน้ำหนักเขาได้ จับเขาเอาไว้ ได้แต่ผ่อนแรงให้เบาลงเท่านั้น กลับไม่ได้ช่วยให้ถูกกระแทกได้เลย
พักเดียว กู้ซึงก็ถูกกระแทกแม้แต่เสียงจะร้องยังไม่มีแรงร้องเลย
เย้นหว่านออกแรงจับเขาเอาไว้เต็มที่ เจ็บไปทั้งแขนจนแทบจะหลุดออกแล้ว
ในใจเธอโกรธอย่างที่สุด
ไอ้บ้าหยูซือห้าน ถึงขั้นใช้วิธีแบบนี้มาทรมานพวกเขา
ยังสามารถต่ำช้ากว่านี้อีกได้มั้ย
หยูซือห้านเหลือบมองเห็นเย้นหว่านและกู้ซึงสีหน้าขาวซีด ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว จึงพูดอย่างเบาๆว่า
“เสี่ยวหว่าน คุณขอร้องวิงวอนผมได้ กับคุณผมจะใจอ่อนมาก”
เสียงของเขา คำพูดของเขา ทำให้เธอรังเกียจจนขมวดคิ้ว
แต่มองเห็นกู้ซึงที่อยู่ข้างๆใกล้จะตายอยู่รอมร่อแล้ว……
“อย่าขอร้องเขา ก็แค่กระแทกนิดหน่อย กูยังไม่ตายหรอก”
ไม่รอให้เย้นหว่านเอ่ยปาก กู้ซึงก็พูดขึ้นมาก่อนด้วยความโมโห
รอยยิ้มหยูซือห้านเย็นลงไปทันที “ขับต่อไป!”
ชายที่อยู่บนเบาะคนขับรับคำสั่ง เริ่มโยกส่ายไปมาล้อเล่นกับชีวิตคนอีก
สีหน้าเย้นหว่านซีดเผือด รีบกอดกู้ซึงเอาไว้ ยากมากที่จะรั้งกู้ซึงไว้ไมให้กระแทกประตูรถ จากนั้นก็เป็นการเลี้ยวอย่างกะทันหัน เธอกับกู้ซึงชนเข้ากับประตูอีกด้านพร้อมกัน
เสียงดัง “ปึง” กระแทกจนหัวของเย้นหว่านจะแตกแล้ว
นี่มันไม่ใช่การขับรถ แต่เป็นการฆ่าคน!
หยูซือห้าน ชีวิตนี้อย่าได้ตกมาอยู่ในกำมือเธอนะ ไม่อย่างนั้น เธออาจจะทนไม่ไหวที่จะฆ่าเขา!
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เย้นหว่านตายทั้งเป็นอยู่ในรถ เจ็บจนเวียนหัวแทบจะสลบแล้ว
รถที่จะเอาชีวิตนี้ ในที่สุดก็หยุดลง
เธอยกศีรษะที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้น รีบมองออกไปทางหน้าต่าง
ก็มองเห็น ด้านนอกคือทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ที่นี่ คือท่าเรือแห่งหนึ่ง
บนท่าเรือ มีเรือยอร์ชที่หรูหราจอดเทียบท่าอยู่หนึ่งลำ
เสียงดัง “แคร็ก” ประตูรถถูกดึงเปิดจากด้านนอก
บอดี้การ์ดยื่นมือมาทางเย้นหว่าน “ลงมา!”
พูดพลาง ดึงกระชากเธอลงมาอย่างรุนแรง
เย้นหว่านถูกกระแทกมาตลอดทาง เหมือนกระดูกใกล้จะหักไปทั้งร่างต้องรวมตัวใหม่อีกรอบ เจ็บอย่างมาก ตอนนี้ก็ถูกฉุดกระชากลากถู รู้สึกแค่ว่าเจ็บจนหายใจไม่ออกแล้ว
โตจนป่านนี้แล้ว เธอยังไม่เคยได้รับความเจ็บปวดทรมานแบบนี้มาก่อนจริงๆ
เธอถูกลากลงจากรถ สองขาเซไปเซมา แทบจะยืนไม่อยู่
“เสี่ยวหว่าน ได้ยินว่าคุณชอบทะเลมาก ผมเลยมาพาคุณมาเที่ยวทะเล ชอบมั้ย”
หยูซือห้านเดินมาตรงหน้าเย้นหว่านอย่างสง่างาม แววตามองเย้นหว่านอย่างอ่อนโยน
ถ้าไม่เพราะตอนนี้เย้นหว่านถูกเขาทรมานจนอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง ยังคิดว่า เขาดีต่อเธอด้วยความจริงใจ พาเธอมาเที่ยว
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ เสียงอ่อนแรง แต่กลับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“แกจะพาฉันไปไหน”
สภาพแวดล้อมรอบตัวแปลกตาไม่คุ้นเคย เธอไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาดึกสงัด ฟ้ายังไม่สว่าง บนท่าเรือยังไม่มีใครเลยสักคน เธออยากจะร้องตะโกนดังๆให้คนช่วยก็ไม่ได้
หยูซือห้านยื่นมือออกมา โอบเอวของเย้นหว่านเอาไว้ บังคับให้เธอแนบชิดอ้อมอกเขา
เขามองชายทะเล เสียงอ่อนโยน อย่างเฝ้ารอ
“ไปบ้านใหม่ที่พวกเราแต่งงานกัน ผมเตรียมให้คุณโดยเฉพาะ คุณต้องชอบแน่”
บ้านใหม่หลังจากแต่งงานเหรอ หรือว่าสถานที่กักบริเวณเธอกันแน่
ความหนาวเย็นในใจเย้นหว่านเป็นระลอกไม่หยุดจิตใจตระหนกหวาดกลัวอย่างมาก
เธอกัดฟัน “หยูซือห้าน ต่อให้ฉันตายก็ไม่แต่งงาน กับคุณ เรื่องนี้คุณตัดใจซะเถอะ!”
จดทะเบียนสมรสกับเขา ผูกมีชีวิตทั้งชีวิตกับคนวิปริตคนนี้ เธอยอมตายเสียยังดีกว่า
หยูซือห้านหัวเราะเบาๆ “เสี่ยวหว่าน รอคุณถึงแล้ว คุณจะต้องไม่ปฏิเสธผมแน่นอน”
เขาพูด อย่างมั่นอกมั่นใจ
เย้นหว่านไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน แต่เขายิ่งมั่นใจ เธอก็ยิ่งกลัว รู้สึกกังวลใจ
ทุกสิ่งอย่างล้วนเกินขอบเขตของกฎหมายแล้ว
เขาเป็นมีด เธอเป็นเนื้อปลา