สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 529 อย่าแตะต้องตัวฉัน !
บทที่ 529 อย่าแตะต้องตัวฉัน !
เป็นเกียรติเหรอ ขยะแขยงเธอยังคิดว่าใกล้เคียงกว่า!
เย้นหว่านหดตัวอย่างตื่นกลัว ฝ่ามือใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มียันบ่าเขาเอาไว้ ไม่ให้เขาเข้าใกล้
“หยูซือห้าน ถ้าคุณแตะต้องตัวฉัน อย่าคิดว่าฉันจะร่วมมือกับคุณอีกไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น”
เธอขู่เขา
แต่เขา ไม่ได้กลัวการขู่ของเธอเลย
หยูซือห้านยอกมือขึ้นมากดข้อมือของเย้นหว่าน ควบคุมสองมือของเธอกดเอาไว้เหนือศีรษะ
ร่างที่สูงใหญ่ ค่อยๆกดลงไปทีละนิด
“เย้นหว่าน ตกอยู่ในมือผม นอกจากคุณต้องเชื่อฟังแล้ว ก็ต้องทำตามที่ผมบอกด้วย ”
เธอสำหรับเขา ก็เหมือนดอกกุหลาบที่มีหนาม และเขาต้องการที่จะดึงหนามของเธอออกมา
สีหน้าเขาโหดเหี้ยม ก้มศีรษะมาอย่างรวดเร็ว จูบลงไปที่เธอ
ลมหายใจของชายแปลกหน้าพุ่งเข้ามา ทำให้เซลล์ทั่วร่างกายของเย้นหว่านเกร็งไปหมด มีอาการขยะแขยง คลื่นไส้ ตื่นตระหนกอย่างรุนแรงออกมาจากหน้าอกของเธอ
ท่ามกลางความตื่นตระหนก เธอรีบเอียงหน้าหลบ
ริมฝีปากของหยูซือห้าน ประทับลงบนแก้มของเธอ
ริมฝีปากที่เย็นเฉียบ เหมือนกับน้ำแข็ง แนบติดกับใบหน้าเธอ ทำให้ความเจ็บปวดทิ่มแทงมาที่ผิวเธอ
เย้นหว่าขมวดคิ้วอย่างขยะแขยง ดิ้นขัดขืนด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี
“หยูซือห้าน แกไปให้พ้น! แกอย่ามาแตะต้องตัวฉัน! อย่าแตะต้องฉัน!”
เธอกรีดร้องอย่างตระหนก สติแทบจะขาดผึงออกจากกัน
หยูซือห้านมองเย้นหว่านที่เริ่มกลัวแล้ว มุมปากยิ้มอย่างสะใจ อารมณ์ มีความสุขอย่างยิ่ง
เขาแค่ต้องการทำลายเธอ ทำลายความภาคภูมิใจและความกล้าหาญทั้งหมดของเธอ
“ตักตวงความสุขกับ ผม!”
หยูซือห้านลูบไล้นิ้วเย็น ไปตามคาง คอ ของเย้นหว่าน มาหยุดที่ไหปลาร้า จากนั้นก็ปลดกระดุมของเธออย่างว่องไว
ทีละเม็ดๆ……
เสื้อผ้าที่หน้าอกแหวกออก อากาศเย็นๆแทรกซึมเข้ามา แนบชิดกับผิว
ทำให้เย้นหว่านตัวแข็งเกร็ง กลัวจนตัวสั่น
เธอตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งตัวใกล้จะแหลกสลายแล้ว “ปล่อยฉัน อย่าแตะต้องฉัน อย่าแตะต้องฉัน!”
เธอกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก แต่กลับไม่เคยรับความเห็นอกเห็นใจจากชายคนนี้เลย ในทางกลับกันดูเหมือนว่าจะกระตุ้นความสนใจของปีศาจมากขึ้น
แสงในแววตาของหยูซือห้านยิ่งมืดสลัวลงเรื่อยๆ
นิ้วมือเขาออกแรง จัดการกระดุมที่เหลืออยู่ แหวกออกจนหมด
เสียงดัง “แควก” เสื้อผ้าของเย้นหว่าน ขาดแยกเป็นสองชิ้น!
เย็น
เย็นจนถึงกระดูก
เย้นหว่านกรีดร้องอย่างหวาดกลัว ความตึงเครียดในหัวสมอง ใกล้จะขาดออกแล้ว
“สารเลว! ปล่อยฉัน! ไปให้พ้น! แกไปให้พ้นนะ!”
“ร้องไห้เต็มที่ ร้องไห้ดังๆ ไม่มีใครช่วยคุณได้!”
หยูซือห้านหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง สายตาโหดเหี้ยมดุร้าย อันตรายอย่างยิ่ง
นิ้วมือเขาลูบลงไปข้างล่าง ไปตามเอวของเย้นหว่าน ฉีกลงไปข้างล่าง
นั่นคือที่ล้ำค่าลึกลับที่สุดของผู้หญิง
ไม่ยอมให้ผู้ชายอื่นแตะต้องได้ง่ายๆเด็ดขาด
เย้นหว่านหนาวไปทั่วทั้งร่างแล้ว สั่นเหมือนกับตะแกรง ภายในใจมืดมืดมิดด้วยความสิ้นหวัง
เธอไม่เอา ไม่เอา
ใครก็ได้มาช่วยเธอ มาช่วยเธอด้วย
เสียงดัง “แควก”ขึ้นอีกครั้ง กางเกง และเข็มขัดของเย้นหว่านถูกฉีกออก
เปลวไฟในดวงตาของหยูซือห้านลุกพรึบ ลมหายใจหนักหน่วง เขาเตรียมจะยื่นมือลงไปอย่างตื่นเต้น
“ติ๊งต่อง——”
“ติ๊งต่อง——”
เวลานี้ เสียงโทรศัพท์ดังบาดหูขึ้นมา
คือโทรศัพท์มือถือของเย้นหว่าน และยังเป็นเสียงที่เธอตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อโห้หลีเฉิน หยูซือห้านยังไม่ได้เปลี่ยน
เย้นหว่ามีความหวังริบหรี่ขึ้นมาจากความสิ้นหวัง รีบร้องตะโกนว่า
“คือโห้หลีเฉิน! ถ้าฉันไม่ตอบกลับข้อความเขา เขาจะต้องสงสัยแน่นอน!”
เธอเดิมพัน เดิมพันว่าในแผนการของหยูซือห้าน จะขาดโห้หลีเฉินไม่ได้เด็ดขาด
หยูซือห้านลมหายใจหนักหน่วงเหมือนวัว ไฟโกรธที่ไม่พอใจลุกโชนในดวงตา
ไอ้บ้าเอ๊ย
ทำไมต้องส่งข้อความมาตอนนี้ด้วย!
ช้าอีกหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร
แม้ว่าจะหงุดหงิด แต่เขากลับพลิกตัวลุกขึ้นอย่างว่องไว หยิบสูทที่ถอดวางไว้ข้างๆขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือของเย้นหว่านออกมา
เขาเปิดออกอย่างรวดเร็ว สายตากวาดดูเนื้อหาข้อความอย่างรวดเร็ว
ยิ่งอ่าน ความโกรธเกรี้ยวในดวงตาของเขา ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่จะคิดบัญชีอย่างน่ากลัว
เย้นหว่านได้รับอิสระ ก็รีบเก็บเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดขึ้นมา ใส่ไปบนร่างตนเองอีกครั้ง
สองมือกอดตัวเอง ห่อตัวเองไว้อย่างมิดชิดแน่นหนา จากนั้นก็กระโดดลงจากเตียงทันที วิ่งไปที่ปากประตู
เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่ ต่อให้วิ่งออกไปโดดทะเลจมน้ำตาย ก็ไม่อยากถูกหยูซือห้านข่มเหง
เย้นหว่านวิ่งไปที่ประตูด้วยเท้าเปล่าเปลือย เปิดประตูทันที แต่ว่ากลับมีเสียงดังออกมา “แกร็กๆ” ก็คือเปิดไม่ออก
ประตูถูกล็อคแล้ว!
ทันใดนั้นหัวใจของเย้นหว่านก็เย็นวูบวาบ หยูซือห้านระมัดระวังตัวมากเกินไป ปิดตายทางด้านหลังที่เธอจะวิ่งหนี
เย้นหว่านตื่นตระหนก ยืนตัวเกร็งอยู่ที่ข้างประตู สับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
หยูซือห้านเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย้นหว่าน
พูดด้วยเสียงออกคำสั่ง “มานี่”
ถ้าเธอเดินไปก็โง่มาก
เย้นหว่านมองเขาอย่างระแวงระวัง แนบชิดกับประตู พร้อมสังเกตสภาพแวดล้อมรอบข้าง ว่ามีมีดหรือไม้ที่เธอสามารถใช้ได้หรือไม่
หยูซือห้านเห็นเย้นหว่านไม่ขยับ ก็ไม่พอใจเล็กน้อย
เขาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “คุณไม่อยากเห็นเหรอว่าโห้หลีเฉินส่งข้อความอะไรให้คุณ”
“ไม่อยากรู้!”
เย้นหว่านตอบกลับอย่างไม่ลังเล
ตอนนี้เธอไม่อยากรู้จริงๆ ไม่ว่าโห้หลีเฉินจะส่งอะไรมา ล้วนถูกหยูซือห้านหลอกใช้ และไม่อาจช่วยเธอได้
เธอตกอยู่ในมือของหยูซือห้าน ไม่อาจทำให้โห้หลีเฉินเดือดร้อนด้วยเหตุนี้อีก
หยูซือห้านหัวเราะอย่างเยาะเย้ยดูถูก “ดูท่าแล้วความรู้สึกที่คุณมีต่อเขา ก็ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นนี่”
จากนั้น เขาก็ยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นหันไปทางเย้นหว่านโบกไปโบกมา
“เขาแค่บอกว่า เขาคิดถึงคุณแล้วนะ”
หัวใจของเย้นหว่าน เต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
ภายในใจ มีความเศร้าและหดหู่ทับซ้อนกันทีละชั้น
โห้หลีเฉินไม่ค่อยจะพูดคำหวานเลี่ยนแบบนี้ง่ายๆ แต่น่าเสียดาย โอกาสที่หาได้ยากอย่างนี้ เธอกลับไม่สามารถตอบกลับเขาได้
แววตาหยูซือห้านมองสำรวจปฏิกิริยาของเย้นหว่าน นัยน์ตาฉายรอยยิ้มที่เข้าใจอย่างถ่องแท้
จากนั้น เขาก็ใช้นิ้วกดปุ่ม พิมพ์ข้อความตอบกลับอะไรบางอย่าง
เย้นหว่านมองความเคลื่อนไหวของเขา ในใจตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
หยูซือห้านใช้โทรศัพท์มือถือของเธอ แอบอ้างตัวตนของเธอ พูดอะไรกับโห้หลีเฉิน
เขาไม่ใช่คนที่พูดคุยเรื่อยเปื่อยไร้สาระเด็ดขาด เขาจะต้องมีแผนร้ายอะไรแน่!
เย้นหว่านกังวลอย่างมาก อยากเดินเข้าไปดูที่หน้าจอ แต่การจู่โจมของหยูซือห้านเมื่อครู่แม้จะผ่านไปแล้วในใจก็ยังหวาดผวาอยู่ดี เธอยืนตัวแข็งเกร็ง ไม่กล้าขยับเข้าใกล้เขาแม้แต่นิดเดียว
“ติ๊งต่อง——”
ไม่นาน ก็มีเสียงข้อความส่งเข้ามาอีก
หยูซือห้านมุมปากยกขึ้นเป็นการหยอกเย้า ดูถูกอย่างที่สุด เขายิ้มพลางเอ่ยอย่างเยาะเย้ยกับเย้นหว่านว่า
“เสี่ยวหว่าน ผมว่าโห้หลีเฉินก็ไม่ได้รักคุณจริงๆ ไม่อย่างนั้น ทำไมแม้แต่ใครเป็นคนส่งข้อความให้เขา ก็ยังไม่รู้!”
ข้อความเป็นของตายตัว ไม่มีเสียงไม่มีภาพ แม้แต่อารมณ์ความรู้สึกก็มองไม่ออก
โห้หลีเฉินจะใช้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัว ก็ดูออกว่าไม่ใช่เธอได้อย่างไร
ในใจของเย้นหว่านหดหู่อย่างมาก นิ้วเกร็งกำหมัดแน่น แต่ละคำบีบออกมาจากในลำคอ
“หยูซือห้าน ตกลงคุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”