สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 548 ปราบปรามด้วยความแข็งกร้าว
บทที่ 548 ปราบปรามด้วยความแข็งกร้าว
เห็นหน้าประตูมีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ รอบตัวมีอุณหภูมิหนาวเย็นที่น่ากลัวฟุ้งกระจายอยู่
ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่ก็หล่อกระชากใจ และหล่อพิฆาตสุดๆ
ใบหน้านั้น ยิ่งเป็นใบหน้าเดิมเดิมของโห้หลีเฉินที่เย้นหว่านไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว
เธอสิ้นหวังจนราวกับตกไปอยู่ในนรก กลับแม้แต่ฝันก็ยังคิดไม่ถึงว่าเวลานี้โห้หลีเฉินจะมา! เขาเหมือนเทพบุตรที่เหยียบอยู่บนพระอาทิตย์ที่สว่างไสว โผล่อยู่ที่สายตาของเธอ
สีหน้าของหยูซือห้านเปลี่ยนไป จ้องโห้หลีเฉินอย่างเหลือเชื่อ “มึง มึง เป็นไปได้ยังไง?”
ลูกน้องที่จงรักภักดีที่สุดของเขาเป็นคนรายงานเขาเอง ว่าเห็นกับตาว่าโห้หลีเฉินถูกคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ไปตระกูลหยู
ตอนนี้ เขาต้องอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ที่ไปตระกูลหยูสิถึงจะถูก!
เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?
อีกอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เย้นหว่านหนีและเหตุไม่คาดคิด เขาได้ให้บอดี้การ์ดเฝ้าไว้ทุกจุดอย่างแน่นหนา
ถึงโห้หลีเฉินจะบุกเข้ามา ก็ไม่มีทางที่จะไม่มีความเคลื่อนไหวสักนิดก็บุกเข้ามาแบบนี้เลย!
“เฮ้ย! มาจับตัวมันไว้!”
ในใจรู้สึกช็อก แต่สุดท้ายหยูซือห้านก็ยังดึงสติกลับมาไวอยู่ เขาตะโกนเสียงดังออกคำสั่งในทันที
บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ในโบสถ์ได้หยิบปืนที่พกติดตัวออกมาทันที และห้อมล้อมไปที่โห้หลีเฉิน
แต่ด้านนอก กลับไม่มีคนพุ่งเข้ามาสักคนเลย
สีหน้าของหยูซือห้านซีดเซียว รู้สึกกระวนกระวายใจ ตระหนักได้ถึงเรื่องที่แย่มาก
เย้นหว่านเห็นโห้หลีเฉินแล้วดีใจจนเกือบจะกระโดดขึ้นมา ต่อมากลับได้ยินคำสั่งของหยูซือห้านอีก เห็นพวกบอดี้การ์ดต่างก็หยิบปืนออกมา ทันใดนั้นเธอตื่นเต้นขึ้นมาสุดขีดอีก
เธอสลัดมือของหยูซือห้านทิ้ง และจะวิ่งไปหาโห้หลีเฉินในทันที
“โห้หลีเฉิน รีบหลบเร็ว!”
เธอกำลังจะวิ่ง หยูซือห้านก็ได้จับแขนเธอไว้ และดึงเธอมาในอ้อมกอดเขาอย่างหยาบกระด้าง
หยูซือห้านสีหน้าดูแย่สุดขีด
เมื่อครู่ตอนที่เย้นหว่านหลุดพ้น สมาธิได้จดจ่ออยู่ที่โห้หลีเฉิน ยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมา แหวนวงนั้นก็ได้หลุดออกมาจากมือ และไม่รู้ตกไปอยู่ที่ไหน
เย้นหว่านได้ทำแหวนของเขาหายติดต่อกันสองวงแล้ว
ปฏิเสธการขอแต่งงานของเขามาสองครั้งแล้ว!
ตอนนี้ยังอยากวิ่งไปที่โห้หลีเฉินอีก? ฝันไปเถอะ!
“ถึงโห้หลีเฉินมา คุณก็หนีไม่รอดหรอก มันมาก็ได้แค่มาชมพิธีแต่งงานของเราสองคนเท่านั้น”
หยูซือห้านกัดฟันพูด สายตาร้ายกาจสุดๆ
“ในเมื่อมันมานี่แล้ว งั้นผมก็จะช่วยตระกูลหยูจัดการคน ลงมือฆ่ามันเอง!”
สีหน้าของเย้นหว่านซีดเซียว ยิ่งขัดขืนรุนแรงขึ้น
โห้หลีเฉินเพ่งมองเย้นหว่านไว้ จู่ๆสายตาเย็นชาลงมา เปลี่ยนมาเฉียบคมมาก
เขาเม้มริมฝีปากบางไว้ ก้าวเท้ายาวเดินมาทางเย้นหว่านอย่างไว
สายตาของเขาจ้องมองเธอไว้ ในสายตามีแค่เธอคนเดียว ไม่เห็นบอดี้การ์ดที่เข้ามาใกล้พวกนั้นอยู่ในสายตาเลย ส่วนบอดี้การ์ดพวกนั้นได้ล้อมรอบมาทั่วทุกทิศแล้ว——เย้นหว่านมองจนอกสั่นขวัญแขวน โห้หลีเฉินไม่แคร์ไม่สนแบบนี้ จะถูกบอดี้การ์ดพวกนั้นทำร้ายเอาได้นะ
เธอตะโกนอย่างตื่นตกใจ “โห้หลีเฉิน คุณอย่ามา ระวัง!”
“เย้นหว่าน มีผมอยู่ ไม่ต้องกลัวนะ”
เสียงทุ้มต่ำมีแรงดึงดูดของเขา หนักแน่นและมั่นใจ
เสียงที่คุ้นเคย เหมือนไฟฟ้าช็อตอยู่ในใจของเย้นหว่าน
เธอมองเขาอย่างเซ่อๆ ตื่นเต้นและกลัวสุดขีด แต่ก็เชื่อใจเขาว่าจะสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างมหัศจรรย์
“ฮื้อ! มึงแค่ตัวคนเดียว ตอนนี้ยังมาทำเป็นเก๋าอะไรอีก? รนหาที่ตายชัดๆ!”
หยูซือห้านด่าทออย่างประชดประชัน คอยมองลูกน้องของเขากระโจนไปหาโห้หลีเฉินด้วยสายตาอำมหิต
บอดี้การ์ดมากมายขนาดนี้ รุมเข้ามาด้วยกัน แถมยังถือปืนไว้ด้วย สามารถจับตัวเขาได้แน่นอน!
แต่แล้ว……
คนพวกนั้นกำลังจะเข้าใกล้มาในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร จู่ๆกระสุนหลายนัดไม่รู้พุ่งมาจากไหน แต่ละนัดล้วนยิงอยู่ที่บนตัวของบอดี้การ์ดเหล่านี้อย่างแม่นยำ
“เอื๊อก….”
“โอ๊ย!”
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งหลายล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น เลือดสีแดงสดไหลเต็มพื้น
หยูซือห้านเบิกตากว้างอย่าช็อก สีหน้าซีดเหมือนไข่ต้ม
ยังมีคนซุ่มอยู่ในที่ลับด้วย!
ทันใดนั้นเขามองสังเกตการณ์ดูรอบๆทันที จากนั้นได้ดึงเย้นหว่านมาเป็นเกราะกำบังที่ตรงหน้าตัวเอง
ในขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งได้บีบคอของเย้นหว่านไว้ และพูดข่มขู่ด้วยเสียงเย็นชา “โห้หลีเฉิน มึงหยุดนะ! ถ้ามึงก้าวมาอีกแม้แต่ก้าวเดียว กูจะบีบคอเย้นหว่านให้ตายไปเลย!”
ถึงจะไม่อยากยอมรับแค่ไหน เขาก็ต้องยอมรับว่าลูกน้องมากมายที่เขาใช้ใจจัดเตรียมและคุ้มกัน ได้ถูกโห้หลีเฉินจัดการจนหมดอย่างไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงแล้ว!
แต่ตอนนี้รอบโบสถ์ล้วนมีสไนเปอร์ที่ฝีมือยิงปืนแม่นยำซุ่มอยู่
ตอนนี้เขาได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือแล้ว!
ถูกบีบคอไว้ เย้นหว่านหายใจลำบากขึ้นมาทันที
เธอกลับไม่กลัวเลยสักนิด มองโห้หลีเฉินที่ยืนอยู่ไม่ไกล เม้มปากครู่หนึ่ง แล้วยกมุมปากขึ้นพร้อมกัดฟันพูดทีละถ้อยคำ “ไม่ต้องสนใจฉัน ฆ่ามันทิ้งซะ!”
หยูซือห้านตาย ทุกอย่างก็จะจบลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เขาตายไป ตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลของโห้หลีเฉินก็จะไม่ได้รับการข่มขู่อีก
หยูซือห้านขมวดคิ้วอย่างโหด และใช้แรงบีบคอเธอหนักขึ้นอีกหลายส่วนทันที บีบคอของเย้นหว่านเจ็บจนเหมือนจะขาด
เขาตะคอกอย่างโหด “โห้หลีเฉิน ตอนนี้ชีวิตของเย้นหว่านอยู่ในมือของฉัน ถ้านายกล้า….อ๊า…..!”
หยูซือห้านยังพูดไม่จบ ก็ตกตะลึงจนตาค้าง เห็นโห้หลีเฉินที่เดิมทียังยืนห่างอยู่หลายก้าว จู่ๆกลับโผล่มาอยู่ที่ตรงหน้าเขาเหมือนอย่างกับผี
เขารวดเร็วมาก พริบตาเดียวก็ชิงตัวเย้นหว่านไปจากมือของหยูซือห้านได้ จากนั้นตามมาด้วยเท้ากระทืบใส่ท้องของหยูซือห้านอย่างโหด
หยูซือห้านไม่ทันตั้งตัว ร่างกายล้มไปด้านหลังอย่างน่าอนาถ กระแทกไปทางกองดอกไม้สดที่จัดวางอยู่ข้างๆ
ในขณะเดียวกัน เสียงปืนได้ดัง“ปังๆๆ”
กระสุนพุ่งทะลุผ่านอากาศมาอย่างไวพุ่งไปยังจุดที่อันตรายถึงตายของหยูซือห้านทุกนัด
โห้หลีเฉินจะฆ่าเขา
ไม่มีการลังเลเลยแม้แต่น้อย!
จะเอาชีวิตเขาจริงๆ!
หยูซือห้านสะพรึงกลัว ไม่มีเวลามาคำหนึ่งถึงความเจ็บปวดที่ท้องเลยด้วยซ้ำ เขารีบพลิกตัว หลบกระสุนให้พ้นจากตำแหน่งที่อันตรายถึงตายอย่างเฉียวเฉียด
ยังไงเขาก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง พลิกหลายตลบอย่างคล่องแคล่ว ก็หาตำแหน่งที่หลบซ่อนเจอ จากนั้นได้หลบเข้าไปในนั้น
กระสุนของสไนเปอร์ จึงยิงไม่ถูกตัวเขาในชั่วขณะ
แต่บนตัวเขาก็โดนกระสุนไปสองนัดอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ตำแหน่งไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เลือดสีแดงสดก็ย้อมเสื้อผ้าจนแดงอย่างไว
เขาเจ็บจนหน้าซีด ต้องฝืนสุดๆถึงจะยืนทรงตัวนิ่ง
แค่พริบตาเดียว เย้นหว่านก็ตกเข้าไปในอ้อมกอดที่เธอคุ้นเคย
กลิ่นไอที่คุ้นเคยของผู้ชายเตะจมูกมา อ้อมกอดของเขาอบอุ่นจนทำให้หัวใจที่ล่องลอยและหวาดกลัวของเธอ จู่ๆได้หาที่ที่บังฝนบังลมเจอ
ทันใดนั้นเธอจับเสื้อสูทของเขาไว้แน่นแนบชิดเขาและหลบอยู่ในอ้อมกอดของเขา
มีฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าหลายวันมานี้เธอคิดถึงเขามากแค่ไหน ตอนที่มีตื่นอยู่ก็เป็นห่วง ตอนที่ฝันอยู่ก็คิดถึง
ตอนนี้ เขาปรากฏตัวอยู่ที่ตรงหน้าเธออย่างกับปาฏิหาริย์ ได้ช่วยเหลือเธอและกลายเป็นฮีโร่ของเธอ
ความหวาดกลัวที่เย้นหว่านได้ประสบพบเจอในช่วงนี้ ล้วนได้รับการปลอบโยนในนาทีนี้
สายตาลุ่มลึกของโห้หลีเฉินมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเอง ใบหน้าซีดเซียวและหน้าตาหวาดผวาของเธอ ทำให้เขาเจ็บปวดใจสุดๆ
ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับใบหน้าเรียวเล็กของเธอไว้ และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ขอโทษครับ ผมมาช้าไป”
นี่ถึงได้ให้เธออยู่ข้างกายของหยูซือห้านอย่างอกสั่นขวัญแขวน ได้รับความทุกข์ทรมานมากขนาดนั้น
เย้นหว่านรีบส่ายหัว “ไม่ช้าค่ะ มาทันเวลาพอดีเลยค่ะ”
เธอมองหน้าเขา สำรวจเขาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ไม่มีรอยแผลที่เห็นได้ชัด ทีนี้เธอถึงรู้สึกโล่งอกพร้อมถามเขาว่า “ทำไมจู่ๆคุณถึงปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้คะ? คุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันอยู่ที่นี่? เรื่องที่คุณปลอมตัวเป็นกู้ซึงถูกเปิดโปง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
คำถามรวดเดียวสามคำถาม ที่ถามออกมาอย่างไม่หยุด ได้ออกมาจากปากของเย้นหว่าน
โห้หลีเฉินมองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเธอแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
ผู้หญิงที่ไม่มีหัวจิตหัวใจคนนี้ ตัวเองเพิ่งจะหลุดพ้นออกมาจากความลำบาก ไม่เป็นห่วงว่าคอตัวเองเจ็บหรือเปล่า ก็เป็นห่วงเขาก่อนเลย
นี่ทำให้หัวใจเขาจะละลายอยู่แล้ว
โห้หลีเฉินก้มหน้าจูบหน้าผากเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู และพูดเสียงเบา “เดี๋ยวกลับไปผมค่อยอธิบายให้คุณฟัง ตอนนี้จัดการหยูซือห้านก่อน”