สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 554 พี่ฟังฉันอธิบายก่อน
บทที่ 554 พี่ฟังฉันอธิบายก่อน
ตระกูลเย้น
หลังจากหยูซือห้านก่อเรื่องแบบนั้นขึ้นในที่ประชุม จึงจะโทรไปคอนเฟิร์มด้วยตนเอง จากนั้นได้รับอนุญาตจากหัวหน้าตระกูลให้แต่งงาน
พอเขาโทรศัพท์ปุ๊บ โห้หลีเฉินที่เตรียมตัวพร้อมตั้งนานก็จับตำแหน่งที่ตั้งของเขาได้ในทันที
“มันอยู่ที่ฝั่งทะเลโอชิรี่”
“ไม่นึกเลยว่ามันจะอยู่ที่นั่น!”
เย้นโม่หลินพูดอย่างช็อก เห็นได้ชัดว่าเหนือความคาดหมายมาก
เขาคิดไม่ถึงว่าหยูซือห้านจะใจกล้าขนาดนี้ กล้าอยู่ฝั่งทะเลโอชิรี่ที่ไม่ไกลเท่าไหร่ต่อ
เขาใช้ที่ที่อันตรายที่สุดมาเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด
พอถูกพบเจอปุ๊บ ถ้าไม่ใช่จับตำแหน่งที่ตั้งของเขาได้ ไม่มีทางนึกถึงทะเลโอชิรี่เป็นอันดับแรกแน่นอน เพราะตามเวลาของหยูซือห้านแล้ว จะต้องหนีไปไกลกว่าถึงจะถูกสิ
ส่วนโลเคชั่นนี้ ก็จะกลายเป็นจุดประเมินเลินเล่อของการค้นหา
วางอุบายได้ดีจริงๆ
แต่เสียดาย สุดท้ายมันก็ยังอ่อนไปหน่อย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโห้หลีเฉิน โลเคชั่นถูกเปิดเผยออกมาโดยตรง
“เฮลิคอปเตอร์เตรียมพร้อมแล้ว ออกเดินทางทันที!”
เขาจะบุกไปฆ่าหยูซือห้านให้ตาย
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบางไว้ สายตาเฉียบคมลุ่มลึก แสงที่ถึงขั้นเอาชีวิตคอยระยิบระยับอย่างอันตราย
เขาไม่ได้พูดจา แค่ก้าวเท้ายาวเดินออกไปข้างนอกทันที
รอบตัวอากาศหนาวเย็น อบอวลด้วยแรงอาฆาตที่จะฆ่าคน
เขามีใจอยากฆ่าหยูซือห้านให้ตายกว่าใครๆ วินาทีที่หยูซือห้านกล้าลงมือกับเย้นหว่าน หยูซือห้านก็สมควรตายแล้ว
ทั้งสองต่างก็ใจร้อนรนเป็นไฟ ไม่ให้เสียเวลาเลยสักนิด ก้าวเท้ายาวเดินออกไปข้างนอก
ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู จู่ๆทั้งสองที่เดินเรียงกันได้เปลี่ยนท่าทาง เย้นโม่หลินได้เอากุญแจมือสีเงิน“คลิก”ใส่ไปที่มือของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินสีหน้าเย็นชา แต่กลับไม่ขัดขืนเลยสักนิด ปล่อยให้มือทั้งสองถูกใส่กุญแจมือ
ในขณะเดียวกัน บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูได้ยืนประกบซ้ายขวาโห้หลีเฉิน เหมือนกับคุมตัวเขาเดินไปข้างหน้า
เมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลหยูได้ติดต่อกับเย้นโม่หลิน หนึ่งคือขอโทษตระกูลเย้น สองคือ ให้ส่งโห้หลีเฉินกลับตระกูลหยู ให้พวกเขาเป็นคนจัดการเอง
เย้นโม่หลินย่อมรับปากอยู่แล้ว เขาจะส่งโห้หลีเฉินไปตอนนี้เลย
ในที่ลับ คนสอดส่องได้คอยติดตามอย่างเงียบๆ
พวกเขาได้เดินมาถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ หน้าเฮลิคอปเตอร์ มีบอดี้การ์ดเสื้อดำที่รูปร่างสูงใหญ่บึกบึน สีหน้าท่าทางดุร้ายยืนอยู่สี่คน
ท่าทีของพวกเขาเคารพนอบน้อม แต่ก็ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนเกินไปจนดูต้อยต่ำ
“ขอบคุณที่คุณชายเย้นที่ส่งโห้หลีเฉินมานะครับ หัวหน้าตระกูลบอกแล้ว หลังจากนำตัวโห้หลีเฉินไปแล้ว จะให้
คำตอบที่พึงพอใจกับตระกูลเย้นแน่นอนครับ”
พูดจบ พวกเขาก็จะก้าวมาข้างหน้า และคุมตัวโห้หลีเฉินไป
จู่ๆเย้นโม่เหลินก้าวมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่บังอยู่ที่ตรงหน้าของโห้หลีเฉิน
น้ำเสียงเย็นชาไม่อาจโต้แย้ง “ฉันจะไปตระกูลหยูเอง จะไปดูตระกูลหยูลงโทษโห้หลีเฉินเองกับตา”
บอดี้การ์ดชักจะลังเลแล้ว “เอ่อคือ…….”
ยังไงซะก็เป็นเรื่องส่วนตัวของตระกูลหยู และเรื่องใหญ่ที่ลงโทษผู้สืบทอดตระกูลอย่างนี้ ให้นายน้อยตระกูลเย้นดูเองกับตา ยังไงก็คงไม่ค่อยดีมั้ง?
เย้นโม่หลินหรี่ตา ทันใดนั้นเสียงเย็นชาลงเยอะเลย “ทำไม ไม่ได้รึไง? งั้นก็ให้โห้หลีเฉินอยู่ตระกูลเย้นต่อ ฉันจะเป็นคนลงโทษเอง!”
“ไม่ได้ครับ!”
บอดี้การ์ดรีบปฏิเสธในทันที แต่กับท่าทีที่เฉียบขาดของเย้นโม่หลิน พวกเขาก็ไม่กล้าหยาบคายใส่ รู้สึกลำบากใจสุดๆ พวกเขาลังเลอยู่พักหนึ่งถึงพูดว่า “คุณชายเย้นครับ ขอพวกผมถามความคิดเห็นของหัวหน้าตระกูลก่อนครับ”
เรื่องใหญ่แบบนี้ พวกเขาไม่กล้าตัดสินใจบุ่มบ่าม
เย้นโม่หลินเชิดคางขึ้นอย่างจองหอง น้ำเสียงเฉียบคม “และถือโอกาสบอกหัวหน้าตระกูลหยูของพวกนายด้วย ถ้าตระกูลหยูไม่มีความคิดจะคบกับตระกูลเย้นอย่างแน่นแฟ้นอีก งั้นต่อไปก็สามารถตัดความสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดได้”
คำพูดนี้ พูดได้แรงมาก!
ถึงแม้เย้นโม่หลินยังไม่ได้เป็นหัวหน้าของตระกูลเย้น แต่เขาเป็นลูกชายและผู้สืบทอดเดียวของตระกูลเย้น อีกอย่างตอนนี้แทบทุกเรื่องของตระกูลเย้นล้วนเป็นเขาที่คอยเคลียร์ มีสิทธิ์ตัดสินใจเทียบเท่าตำแหน่งหัวหน้าตระกูล
ถ้าเขาจะตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลหยูจริง เรื่องนี้มีความเป็นไปได้จริงๆด้วย
นี่เกี่ยวพันถึงเรื่องความเป็นความตายของตระกูลหยูเชียวนะ
บอดี้การ์ดตกใจจนเหงื่อแตก ต่างก็มองหน้ากันไปมาด้วยแววตาระยิบระยับ และตัดสินใจในทันที
“หัวหน้าตระกูลก็น่าจะอยากเจอคุณชายเย้นเหมือนกัน งั้นคุณชายเย้นไปเมืองเฟยกับพวกเราก็ได้ครับ ไปเป็นแขกที่ตระกูลหยูครับ”
คำพูดนี้ ถึงแม้ไม่ได้พูดเรื่องที่เข้าร่วมการลงโทษอย่างชัดเจน แต่ก็ถือว่าได้ให้คำสั่งเดินทางด้วยกัน
ไปถึงตรงนั้น เย้นโม่หลินค่อยพูดความต้องการออกมา ก็ถูกรับปากอย่างไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้ว
ทีนี้สีหน้าของเย้นโม่หลินถึงดูดีขึ้นมาบ้าง ก้าวเท้าตรงดิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์
บอดี้การ์ดทั้งหลายถึงโล่งอกไปที ทีนี้ถึงเดินขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตามไปด้วย
“รอก่อน!”
เสียงสั่งหยุดพร้อมหายใจหอบหืดของผู้หญิงดังขึ้น
กู้จื่อเฟยวิ่งมาอย่างรีบร้อน ยังไม่ทันได้หายใจ ก็วิ่งมาถึงตรงหน้าของโห้หลีเฉินและดึงแขนเสื้อของเขาไว้แล้ว
เธอคอยปกป้องเขา สีหน้าท่าทางตื่นเต้นมาก “พี่เย้น นี่พี่ทำอะไรคะ ทำไมต้องใส่กุญแจมือคุณโห้ด้วย? พี่จะพาคุณชายโห้ไปไหน?”
สองวันนี้จู่ๆเย้นหว่านไม่อยู่ และไม่ได้บอกสาเหตุด้วย เดิมทีกู้จื่อเฟยก็เป็นห่วงและไม่สบายใจอยู่แล้ว ก็เลยให้เสี่ยวฮวนสังเกตความเคลื่อนไหวของลานบ้านและคอยติดตามเย้นโม่หลินทุกวินาที
พอตามปุ๊บ ถึงรู้ว่าเย้นโม่หลินจับตัวโห้หลีเฉิน แถมยังใส่กุญแจมือและจะส่งเขาไปด้วย
กู้จื่อเฟยตกใจหมด ไม่ทันคิดพิจารณาอะไรก็วิ่งมาเลย
ตอนนี้เย้นหว่านไม่อยู่ ในฐานะที่เธอเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจของเย้นหว่าน ย่อมต้องช่วยเย้นหว่านปกป้องว่าที่สามีของเธออยู่แล้ว
เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟยที่คอยปกป้องโห้หลีเฉินแล้วสายตามืดมนเล็กน้อย เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ กลับไป”
ท่าทีที่เคร่งขรึมแบบนี้ของเย้นโม่หลิน ทำให้กู้จื่อเฟยยิ่งตื่นตระหนกและไม่สบายใจขึ้นไปอีก
เธอกางแขนบังอยู่ที่ตรงหน้าของโห้หลีเฉิน และพูดด้วยความตื่นเต้น “พี่เย้น พี่จะลงมือกับคุณโห้อีกไม่ได้นะคะ ถ้าเสี่ยวหว่านรู้เข้าต้องเสียใจและเป็นห่วงมากแน่ๆเลย พี่ถือว่าทำเพื่อเสี่ยวหว่านแล้วกันนะ ปล่อยคุณโห้ไปเถอะ มีอะไรค่อยๆพูดก็ได้”
“เศร้าโศกเสียใจ?”
เย้นโม่หลินทวนซ้ำคำนี้ จู่ๆสายตาเปลี่ยนมาเฉียบคมสุดๆ
เขามองกู้จื่อเฟยด้วยสายตาสำรวจ คำพูดเดียว พูดออกมาจากปากอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “คุณรู้ตั้งนานแล้วว่ากู้ซึงก็คือโห้หลีเฉิน? !”
คือการเค้นถาม
สีหน้าของกู้จื่อเฟยซีดลงมาทันที คำพูดเดียว ได้หลุดออกมาจากปากอย่างไม่ทันคิด “คุณรู้หมดแล้วเหรอคะ? !”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วแน่น แววตามีแสงเยือกเย็นระยิบระยับอยู่
กู้จื่อเฟยหลอกเขา!
กู้จื่อเฟยโกหกเขาตั้งแต่แรกแล้ว
คิดๆแล้วมันก็ใช่น้อ กู้ซึงเป็นลูกพี่ลูกน้องของกู้จื่อเฟย และเป็นคนที่กู้จื่อเฟยพามาเองด้วย ถ้าบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องเลย มันฟังไม่ค่อยสมเหตุสมผลจริงๆ
แต่ตอนนี้ได้คอนเฟิร์มเอง ตั้งแต่แรกเธอก็หลอกเขา เย้นโม่หลินไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อน
ทรวงอกราวกับว่าเจ็บปวดอัดอั้นจนจะระเบิดอยู่แล้ว
ข้างกายเขามีคนที่สนิทชิดเชื่อไม่มาก กู้จื่อเฟยเป็นการดำรงอยู่ที่แยกตัวออกจากกันแต่ก็พิเศษ เขาเคยสัญญาว่าจะปกป้องเธอ แต่ก็เคยบอกกับว่าเธอห้ามโกหกเขา
เขาเกลียดการโกหก
ยิ่งเกลียดชังกับการหลอกลวงของเธอ
กู้จื่อเฟยถูกสายตาเย็นชาของเย้นโม่หลินมองจนแข็งทื่อไปทั้งตัว รู้สึกหัวใจหนาวสั่น
เขาไม่เคยมองเธอด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน เย็นชาห่างเหิน ยิ่งกว่ามองคนแปลกหน้าเสียอีก
เธอลนลานและรีบเดินไปหาเขา
“พี่เย้น พี่ฟังฉันอธิบายก่อน..