สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 57 มาขอบคุณจริงๆ
บทที่ 57 มาขอบคุณจริงๆ
เมื่อเย้นหว่าน เดินออกไป มองดูกลุ่มคนที่ออกไปอย่างระมัดระวัง แต่ไม่มีใครเห็นเงาของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินเป็นกรรมการ เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย กรรมการและผู้เข้าร่วมการแข่งขันไม่สามารถทำตัวสนิทได้มากนัก
วันนี้เธอยังจะสามารถพบเขาได้หรอ?
เธอได้คะแนนที่สูงขนาดนี้ ต้องขอบคุณโห้หลีเฉินที่ให้สิบคะแนนโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
คิดไปคิดมา เธอจึงกดเปิดวีแชท ส่งข้อความถึงเขา
เย้นหว่าน:คุณโห้ วันนี้ขอบคุณมากนะคะ
โห้หลีเฉินก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
โห้หลีเฉิน : มันเป็นสิ่งที่เธอควรจะได้รับ
ข้อความสั้นๆตามสไตล์ปกติของเขา สามารถจินตนาการได้ถึงใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขา
ริมฝีปากเธอยกยิ้ม แล้วเก็บโทรศัพท์ลง
แต่หลังจากนั้นครู่นึง เสียงแจ้งเตือนจากวีแชทก็ดังขึ้น เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและคิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะส่งข้อความกลับมาหาเธออีกครั้ง
โห้หลีเฉิน : ถ้าอยากจะขอบคุณผมจริงๆ อยากให้ทำจากใจจริงๆ
ขอบคุณจริงๆงั้นหรอ?
เย้นหว่านมึนงงเล็กน้อย แต่พอคิดแล้ว จริงๆแล้วเธอควรจะขอบคุณคนในครอบครัว มันเป็นที่ทุกคนต้องการและเธอก็ปฏิเสธไม่ได้
ดังนั้น เธอจึงส่งข้อความกลับไป : โอเคค่ะ สองวันนี้ส่งให้คุณ
ในฝั่งของโห้หลีเฉินพอมองเห็นข้อความในมือถือ ก็ดูเหมือนจะอารมณ์ดี
ไม่ใช่จะเลี้ยงข้าวเขาแล้ว ครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ถือว่าจริงใจหน่อย
การแข่งขันจบลงไปแล้ว ตอนกลางคืนก็มีการเลี้ยงฉลอง
ดีไซน์เนอร์และคณะผู้บริหาร และพนักงานของกองประกวดได้รับประทานอาหารชุดใหญ่ด้วยกัน
“เย้นหว่าน แก้วนี้ดื่มเพื่อเธอ ฉันชอบโชว์ของเธอวันนี้มาก ขอแสดงความยินดีที่ได้ที่หนึ่งนะ ”
โกย่านี ยกแก้วเหล้าเพื่อดื่มฉลองให้เย้นหว่าน
เย้นหว่านรีบลุกขึ้นยืน “ขอบคุณมากนะคะคุณโก”
หลังจากดื่มไวน์หมดแก้ว คนที่สองก็รีบเดินเข้ามาดื่มเพื่อแสดงความยินดีกับเธออีก
“คุณเย้น ยินดีกับคุณที่ได้ที่หนึ่งด้วยนะ” การแข่งขันรอบต่อไปจะยากกว่านี้ พยายามเข้านะ สู้ๆขอให้ได้แชมป์นะ”
คุณเย้น แก้วนี้ดื่มเพื่อแสดงความยินดีกับคุณนะ”
เพราะเย้นหว่านได้ลำดับที่หนึ่ง ทุกคนจึงเวียนกันมาดื่มเพื่อยินดีกับเธอ หลายแก้วต่อหลายแก้ว
โอวน่อหย่าที่นั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
ทั้งๆที่ในวันนี้เธอก็ได้ลำดับที่หนึ่งเหมือนกัน แต่เย้นหว่านกลับได้หน้าเพียงคนเดียว
เย้นหว่านดื่มเหล้าได้ไม่มาก หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง สายตาเริ่มพร่ามัวเล็กน้อย
มู่จื่ออี้เป็นห่วงว่าเธอดื่มจนเมาเกินไป เขาจึงลุกขึ้นยืนเพื่อยกแก้วชนกับคนอื่น
“เย้นหว่านเธอเริ่มเมาแล้ว แก้วนี้เดี๋ยวผมช่วยเธอดื่มเอง”
พูดจบมู่จื่ออี้ก็รีบดื่มเหล้าในแก้วจนหมดอย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านตื้นตันใจและมองเขาแล้วพูดเสียงเบา “ขอบคุณนะ”
“เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เย้นหว่านส่ายหัวไปมา แล้วก็รู้สึกว่าเวียนศีรษะเล็กน้อย แต่ในสถานการณ์นี้เธอหลีกเลี่ยงที่จะดื่มหนักขนาดนี้ไม่ได้
มู่จื่ออี้ความปวดใจพาดผ่านดวงตา “เธอพักก่อนเถอะ แก้วต่อไปผมจะช่วยคุณดื่มเอง”
มู่จื่ออี้รินเหล้าเต็มแก้ว แล้วก็รอที่จะชนแก้วกับคนที่จะเข้ามาแสดงความยินดี
เสียงพูดจาถากถางของโอวน่อหย่า “คุณเย้นหว่านดื่มไม่ไหวแล้วหรอคะ หรือว่าได้ที่หนึ่งแล้ว ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาแล้ว พวกเราดื่มเพื่อฉลองแต่การให้คนอื่นมาช่วยดื่มมันเป็นการไม่ให้เกียรติหรือเปล่าคะ”
ในวงเหล้าถึงแม้การให้คนอื่นดื่มเหล้าช่วยจะไม่เป็นอะไรเลย แต่เมื่อโอวน่อหย่าพูดออกมาแบบนี้แล้ว ตรงมาเปลี่ยนรสชาติ
คนที่มาขอชนแก้วเพื่อดื่มฉลองคนนั้นมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
มู่จื่ออี้ขมวดคิ้ว “เธอคออ่อน ดื่มเยอะไม่ได้ครับ ”
”
“วันนี้คุณเย้นเป็นเจ้าภาพ ทุกคนมาเพื่อฉลองให้เธอ แค่คนละแก้วคงไม่เกินไปหรอกมั้งคะ”
โอวน่อหย่าพูดยุยงสารพัด “นอกจากนี้แล้ว ฉันก็ดื่มได้ไม่เยอะเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะดื่มกันคนละแก้วหรอ”
ได้ลำดับที่หนึ่งเหมือนกัน แต่ปฏิบัติไม่เหมือนกันเลยทำให้ เย้นหว่านรู้สึกถึงความแตกต่าง
เย้นหว่านเวียนหัวมาก และเมื่อได้ยินเสียงโอวน่อหย่าก็ยิ่งรำคาญ และอารมณ์โกรธก็ยากที่จะควบคุมได้
เธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนแก้วกับคนที่มาแสดงความยินดี
“วันนี้ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนคุณจนจบงาน!”
“เย้นหว่าน”
มู่จื่ออี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกังวล
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าฉันดื่มเยอะจนเมา คุณต้องพาฉันกลับบ้าน อย่าให้คนอื่นมาเก็บร่างฉัน”
เย้นหว่านยิ้มอย่างไม่แยแส วันนี้มีความสุข ถ้าเธออยากเมาก็เมา
โอวน่อหย่ารู้สึกรังเกียจเธอ และไม่อยากให้เธอประสบความสำเร็จ
หลังจากชนแก้วดื่มรอบวง เย้นหว่านที่ดื่มไปไม่น้อยเธอจึงเวียนศีรษะมาก
เธอจึงนั่งลง ไม่ทันระวังจนล้มพับลงมา มู่จื่ออี้ที่คอยสังเกตเธออยู่ข้างๆ รีบประคองเธอขึ้นมา
“ระวังหน่อย”
มู่จื่ออี้ประคองเย้นหว่านไปนั่งอย่างระมัดระวัง
ปฏิกิริยาของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของโอวน่อหย่า เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปสองคนนั้นอย่างเงียบๆ
“ถ้างั้น ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนก่อนนะคะ”
นั่งพักได้ไม่นาน เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายท้องและมวนท้องเล็กน้อย
เธอลุกขึ้นยืนจะออกไปข้างนอก มู่จื่ออี้ก็ลุกไปพร้อมกับเธอ
“ผมไปเป็นเพื่อนคุณเอง”
โอวน่อหย่ารีบผลักดีไซน์เนอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ และดีไซน์เนอร์คนนั้นก็เข้าใจเลยลุกขึ้นยืนและจับมือของเย้นหว่าน
“ฉันก็จะไปเข้าห้องน้ำพอดีเลยค่ะ คุณไปด้วยกันกับฉันเถอะ”
“โอเคค่ะ”
เย้นหว่าน ก็ไม่ได้ใส่ใจ
มู่จื่ออี้มองผู้หญิงคนนั้น แล้วกำชับกับเธออย่างคนไม่สบายใจว่า “เธอค่อนข้างเมา คุณต้องพาเธอกลับมาพร้อมกันกับคุณ”
“ได้ค่ะ คุณวางใจได้”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างคนใจดีแล้วพา เย้นหว่านเดินออกไป
เย้นหว่านเข้าห้องน้ำ แล้วอาเจียนออกมาทันที
หล่อนมองเย้นหว่านอยู่ข้างๆด้วยสายตาเย็นชา แต่แสร้งทำเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่โอเคมากเลยใช่ไหม? คุณรอแปปนึงนะ เดี๋ยวฉันจะทำให้คุณสร่างเมา”
พูดจบ หล่อนก็ลากรองเท้าส้นสูงเดินออกไป
หลังจากอาเจียนแล้ว เย้นหว่านก็รู้สึกว่ามีแรงบีบรัดภายในช่องท้อง เธอจึงพักอยู่พักหนึ่ง ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นถือสิ่งของที่จะช่วยให้เธอสร่างเมาเข้ามา
เธอขมวดคิ้ว และรีบเดินออกไปโดยไม่รอให้หล่อนเดินเข้ามา
แต่ว่าโรงแรมนี้ใหญ่มาก แล้วตอนนี้เธอก็ยังเวียนศีรษะอยู่ เธอจึงจำเลขที่ห้องไม่ได้
เธอเมาและเวียนศีรษะมาก เธอคลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะจำหมายเลขได้พอลางๆ จึงผลักประตูห้องหนึ่งเข้าไป
ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่มันไม่เหมือนกับห้องของเธอ ที่นี่มีเพียงแค่โต๊ะวางไว้หนึ่งตัวและมีคนนั่งอยู่
“ขอโทษค่ะ ฉันเข้าห้องผิด”
เย้นหว่านปิดประตูและกำลังจะเดินออกไป
แล้วคนที่อยู่ในห้องก็พูดขึ้นว่า “เย้นหว่าน ไหนๆก็มาแล้ว มานั่งคุยกันก่อนสิ”
คนที่พูดคือหนึ่งในคณะกรรมการของการประกวดในครั้งนี้
เย้นหว่านจึงมองคนที่อยู่ในห้องนี้อย่างชัดเจนและรู้ว่าพวกเขาคือกรรมการใหญ่ผู้ตัดสินในกองประกวดครั้งนี้และ——
เขาคือโห้หลีเฉิน
เขามีไวน์แดงหนึ่งแก้วในมือ และมองเธอด้วยตาที่ยากจะเดาความรู้สึก
หัวใจของเย้นหว่านเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอเขาที่นี่
“มาสิ รีบเข้ามาเถอะ”
ผู้หญิงในวัยสามสิบกว่าปีลุกขึ้นยิ้มแล้วดึง เย้นหว่านเข้ามา
เธอต้องการให้ เย้นหว่านนั่งข้างเธอ แต่โห้หลีเฉินกลับพูดว่า
“นั่งตรงนี้”
ที่นั่งข้างเขา
ผู้หญิงคนนั้นงงงวยอยู่สักครู่หนึ่ง และรู้สึกประหลาดใจมากที่สุด งานเลี้ยงในวันนี้มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะเชิญคุณโห้มาด้วย ตลอดทั้งงานโห้หลีเฉินไม่ได้พูดอะไรเลย คิดไม่ถึงว่าจะเอ่ยปากเชิญให้ เย้นหว่านมานั่งข้างเขา
หล่อนรู้สึกสงสัย กลับรู้สึกโหวงๆ รีบดันเย้นหว่านไปนั่งข้างโห้หลีเฉิน
เมื่อ เย้นหว่านนั่งลง เธอก็รู้สึกถึงอำนาจของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอรู้สึกไม่สบายใจและเขินอายจนหน้าแดง
โห้หลีเฉินมองเธอโดยไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย แล้วกระซิบถาม
“เธอดื่มเยอะหรอ?”
เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหูดังขึ้นมา คลุมเครือราวกับกระซิบข้างหู ดึงดูดผู้คน