สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 570 แผนการหลบหนี
บทที่ 570 แผนการหลบหนี
“ฉันเคยลองแล้ว ตอนนี้ยังหาวิธีไม่ได้ ฉันทำได้อย่างเดียว ก็คือรับประกันว่าเข้ายังมีชีวิตอยู่”
เขาไม่ได้บอกเย้นหว่าน ว่าสามารถทำให้โห้หลีเฉินมีลมหายใจอยู่ตอนนี้นั้น ยากลำบากมากแล้ว
ใครจะไปรู้ว่าได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ทั้งยังลอยอยู่ในทะเลนานขนาดนั้น โห้หลีเฉินยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ยังไง
ผู้ชายคนนี้ เดิมทีก็เหมือนไม่ใช่คนปกติอยู่แล้ว
ได้ฟังประโยคนี้ แววตาของเย้นหว่านก็มืดลงทันที
เธอลังเลอยู่นาน และพูดด้วยความกระสับกระส่าย “ฉันลองออกไปอีกครั้งดีไหม?”
“เธออย่าออกไปเด็ดขาด!”
กู้ซึงรีบห้ามทันที “แม้ยังไม่รู้ว่าตอนนี้หยูซือห้านจะตายหรือยัง แต่ไม่ว่าเขาจะตายหรืออยู่ ลูกน้องของเขายังคงหาเธอไปทั่วแน่นอน กำลังที่ตามหาต้องมีมากกว่าตามหาฉันเยอะ แค่เธอออกไป ก็ง่ายที่จะถูกจับได้”
วันนี้สามารถพาเย้นหว่านหนีมาได้ ก็ถือว่าเป็นโชคดีอย่างคาดไม่ถึง
คิ้วของเย้นหว่านขมวดเน้น ในช่องอกก็ราวกับว่ามีหินก้อนโตทับอยู่ อึดอัดอย่างรุนแรง
ออกไปไม่ได้ หาวิธีไม่เจอ หรือว่าจะต้องมองดูโห้หลีเฉินหลับใหลอยู่แบบนี้ นั่งรอความตายหรือไง?
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ตอนนี้โห้หลีเฉินจะยังมีชีวิตอยู่ แต่บาดแผลพวกนั้นยังไม่ได้ผ่านการรักษาที่ดี บาดแผลบนร่างกายก็คงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ต้องถึงขีดสุด ที่ร่างกายทนรับไม่ไหว เขาต้องเกิดเรื่องเป็นแน่
อาจจะ มีอาการที่แสดงออกมาภายหลัง
หรืออาจจะ ไม่ตื่นตลอดไป
“พวกเราต้องไปจากที่นี่”
เย้นหว่านเงยหน้ามองกู้ซึง ด้วยความรู้สึกเด็ดเดี่ยว
เธอนั่งรอความตายได้ แต่โห้หลีเฉินไม่ได้
กู้ซึงไม่แปลกใจเลยที่เย้นหว่านตัดสินใจแบบนี้ เขาเม้มริมฝีปาก และพูดต่อ
“เข้าเมืองน่ะง่าย แต่ออกยาก ก่อนเธอมา วิธีที่ฉันพอจะคิดได้ก็ลองมาหมดแล้ว”
แต่ผลสุดท้าย ก็คือเขาและโห้หลีเฉินยังคงติดอยู่ที่นี่เหมือนเดิม
ถ้าไม่ใช่เพราะเมืองใหญ่ หยูซือห้านไม่กล้าค้นหามากเกินไป เขากับโห้หลีเฉินคงหลบมาได้ไม่ถึงวันนี้
“งั้น งั้น……”
เย้นหว่านอ้าปาก แต่กลับพูดไม่ออกสักประโยค
ต้องช่วยชีวิตโห้หลีเฉินที่สลบอยู่ ออกจากเมืองก็ไม่ได้ โทรศัพท์ก็ถูกดักฟัง หรือว่าพวกเขาต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ ?
ไม่มีทางไปแล้วเหรอ?
“ไม่ต้องกระวนกระวายไป แม้ว่าพวกเราจะออกไปไม่ได้ แต่ยังสามารถคิดวิธีให้เย้นโม่หลินมาที่นี่ได้”
กู้ซึงพูดคำต่อคำ
ดวงตาของเย้นหว่านเป็นประกาย รีบถามทันที “นายมีวิธีเหรอ?”
กู้ซึงตอบ “เดิมทียังไม่มีหรอก แต่วันนี้เธอแทงหยูซือห้านบาดเจ็บหนัก ถ้าเขาไม่ตาย ก็คงต้องทรมานอยู่นาน ลูกน้องข้างกายเขาคงลุกลี้ลุกลน เพื่อช่วยเขา
และฉันก็สามารถใช้ความวุ่นวายนี้ จัดหาคนสองสามร้อยคน ส่งข่าวและติดต่อกับเย้นโม่หลินในเวลาเดียวกัน แบบนี้ ถึงพวกเขาจะตรวจสอบข้อมูล แต่ในสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายก็ไม่สามารถบล็อกข้อมูลพวกนี้ได้ทันอย่างเร็วที่สุดหรอก
ขอเพียงแค่มีสักฉบับที่หลุดรอดไปได้ เย้นโม่หลินก็ต้องมาช่วยพวกเราอย่างแน่นอน”
เย้นหว่านหายตัวไป ไม่รู้เป็นหรือตาย เย้นโม่หลินต้องกังวลและโกรธมากแน่นอน ในตอนนี้แม้เป็นเพียงข่าวจากคนแปลกหน้า ที่พูดว่าเย้นหว่านยังมีชีวิตอยู่ เขาต้องรีบมาอย่างไม่สนใจอะไรอย่างแน่นอน
ขอเพียงแค่เขามา สถานการณ์ก็คงดีขึ้นแล้ว
แววตาของเย้นหว่านมืดมนลง นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้วจริง ๆ
“แต่ว่า ตอนนี้นายก็กำลังถูกตามจับเหมือนกัน ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ นายจะหาคนสองสามร้อยคนมาช่วยนายส่งข่าวได้ยังไง?”
คนเยอะขนาดนั้น เพียงแค่เริ่มดำเนินการ กู้ซึงกลัวว่าจะกลายเป็นเป้าหมาย ที่อาจถูกเจอได้ทุกนาที
อาจจะยังไม่ทันได้รอให้เริ่มส่งข่าว เขาก็ถูกจับแล้วก็ได้
กู้ซึงยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “เธอยังจำคนเร่ร่อนพวกนั้นที่เข้ามาในวันนี้ได้ไหม?”
“จำได้” เย้นหว่านพยักหน้า แล้วถาม “เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเหรอ?”
ตอนนี้คิดแล้วเธอก็ยิ่งรู้สึกแปลก คนเร่ร่อนพวกนั้นถึงเข้ามาช่วยกู้ซึงเป็นกลุ่มได้
ถึงแม้เขาจะสามารถจ่ายเงินให้พวกเขาได้ทันที แต่ในขณะนั้นคงไม่สามารถรวบรวมคนเยอะขนาดนั้นได้
กู้ซึงพูดอธิบาย “เสี่ยวหว่าน ไม่ปิดบังเธอก็แล้วกัน ในตอนที่ฉันว่ายน้ำพาโห้หลีเฉินขึ้นฝั่ง ก็ต้องทำสองอย่างพร้อม ๆ กัน ที่จริงฉันเป็นลมอยู่ในหาดทราย มีพี่น้องคนเร่ร่อนสองคนมาช่วยฉันไว้”
เย้นหว่านแปลกใจ “นายจึงสนิทกับพวกเขาแล้วงั้นเหรอ?”
ใบหน้าของกู้ซึงแดงระเรื่อ รู้สึกอายเล็กน้อย
“ก็ประมาณนั้นแหละ ฉันรู้จักพวกเขาสองสามคน ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขาไม่น้อย หลังจากนั้นพวกเขาก็แนะนำ คนเร่ร่อนคนอื่น ๆ ในเขตนี้”
เย้นหว่านรู้สึกตะลึงเล็กน้อย
มองไปยังกู้ซึงอย่างเหลือเชื่อ รู้สึกทึ่งและมีความสุขไปด้วย
เธอนึกไม่ถึงเลยว่าคุณชายผู้สูงศักดิ์ที่ใช้เวลาทั้งวันในสังคมชั้นสูง วันหนึ่งจะอยู่ร่วมกับคนเร่ร่อนจน ๆ และเป็นพี่น้องกันได้
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถือโอกาสอยู่ในอาคารที่ทรุดโทรมแบบนี้
กู้ซึงยังพูดต่อ “ฉันทำความรู้จักกับคนเร่ร่อนพวกนั้น ก็เพื่อให้พวกเขารวบรวมจำนวนคน และติดต่อเย้นโม่หลิน เดิมทีฉันกำลังเตรียมตัวอยู่ แต่เธอก็เข้ามา ทำฉันได้มีโอกาสมากขึ้น
เวลาเหมาะเจาะ ทั้งหมดเตรียมพร้อมหมดแล้ว
เย้นหว่านครุ่นคิดสักครู่ และถามด้วยความเป็นห่วง
“คนเร่ร่อนพวกนี้เชื่อใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม? จะมีคนปล่อยข้อมูลให้หยูซือห้านรึเปล่า”
ยังไงแล้วมันเกี่ยวข้องกับชีวิตตนเองและครอบครัวของพวกเขาทั้งสามคน เย้นหว่านต้องระวังอย่างมาก
กู้ซึงส่ายหัว “ในสภาพที่อันตรายแบบนี้ จะเอาชีวิตของตัวเองและครอบครัวมาเสี่ยงด้วยฝีมือคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด”
“ฉันเลือกคนสนิทที่มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มคนเร่ร่อนพวกนั้นไว้แล้ว และให้พวกเขากระจายเรื่องนี้ไป ทีละชั้น หลายคนต่างก็ไม่รู้ว่าฉันคือใคร
อีกทั้ง ไม่มีคนเร่ร่อนที่รู้ตำแหน่งของที่นี่ โห้หลีเฉินอยู่ที่นี่ปลอดภัยที่สุด รับรองได้ว่าไม่มีใครหาเจอ”
เห็นกู้ซึงพิจารณาอย่างรอบด้านขนาดนี้ หัวใจของเย้นหว่านจึงก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ยังไงตอนนี้ก็ยังมีความหวังอยู่
เธอถาม “งั้นนายวางแผนจะไปติดต่อเมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้?” เย้นหว่านงงงวย
ตอนนี้สถานการณ์ของหยูซือห้านคงกำลังแย่ ยิ่งในช่วงที่พวกเขากำลังวุ่นวาย ใช้โอกาสที่พวกเขาไม่รู้ตัวนี้ ยิ่งส่งข่าวเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ?
สายตาของกู้ซึงซับซ้อน มืดสลัว เขามองไปที่โห้หลีเฉินอย่างไม่เหลือร่องรอย และพูดอย่างใจเย็น
“ยาของโห้หลีเฉินใช้หมดแล้ว ฉันนัดกับคนไว้แล้วว่าจะไปเอายาให้เขาวันนี้”
เมื่อข่าวถูกส่งออกไปแล้ว ภายในเมืองต้องวุ่นวายกว่าเดิมแน่ ไม่ว่าคนของหยูซือห้านจะยุ่งแค่ไหน ก็ต้องให้ความสำคัญกับการตามหาพวกเขา
ถึงตอนนั้น พวกเราอาจจะต้องหลบอยู่ที่นี้ และไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูด้วยซ้ำ
ถ้าหากไม่มียา ก็จะแย่เอาได้
เย้นหว่านรีบพยักหน้า พูดอย่างมุ่งมั่น “นายคิดจะทำยังไง ฉันจะร่วมมือกับนายทุกอย่าง นายต้องการอะไร ก็จัดการให้ฉันไปทำได้เลย”
กู้ซึงส่ายหน้า มองไปยังโห้หลีเฉินด้วยสายตาไม่พอใจอย่างมาก
พูดอย่างรังเกียจ “ดูแลเขามาหลายวัน ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ก็มอบให้เธอแล้วล่ะ ฉันจะไม่สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว”
จะเป็นคนรับใช้เป็นหมอและเป็นพยาบาล ชีวิตนี้เขาไม่เคยบริการใครขนาดนี้มาก่อน
แถมคนที่ต้องมาดูแลยังเป็นผู้ชายซะนี่