สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 589 ใกล้ชิดไม่ห่าง
บทที่ 589 ใกล้ชิดไม่ห่าง
เธอมองไปรอบๆ แค่เห็นว่าเหล่าลูกโป่งกำลังลอย แต่มันเหมือนถูกดึง ส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังทางเดินที่นำไปสู่สวนด้านหลัง
แต่ละลูกลอยไปตามทางเดิน
เย้นหว่านดวงตาเป็นประกาย ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตามลูกโป่งไป รีบวิ่งก้าวเล็กๆ ไปที่ทางเดินด้านนอกทันที
ทางเดินด้านนอก เป็นสวนดอกไม้เล็กๆ กลางสวน มีสระน้ำพุ
และที่ยืนอยู่หน้าน้ำพุ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก
การก้าวเดินของเย้นหว่านชะงักอยู่กับที่ นิ่งค้างมองเขา ทันใดนั้นดวงตาก็เริ่มแดง จมูกแสบเจ็บ ทั้งตื่นเต้นและมีความสุข ยินดีจนทนไม่ไหวอยากร้องไห้
เป็นเขา
เป็นโห้หลีเฉิน
เขาใส่สูทสวยเนี้ยบ ยืนอยู่ด้านหน้าสระน้ำพุ ในมือมีช่อดอกกุหลาบสวย ร่างกายอาบแสงอาทิตย์ เหมือนกับเทพเจ้าที่เดินออกมาจากแสงแดดอันอบอุ่น
สายตาลึกล้ำของเขามองเธอด้วยความรักอันลึกซึ้ง ริมฝีปากบางเซ็กซี่ยกยิ้มเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหลพาให้คนสั่นไหว
เขาเอ่ยพูดแผ่วเบา เสียงทุ้มต่ำ เป็นเสน่ห์น่าดึงดูดที่ทำให้คนตายได้
“เย้นหว่าน ขอโทษนะ ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว”
เป็นตัวเขา
เป็นเสียงเขา
เป็นเขาจริงร้อยเปอร์เซ็นต์
เย้นหว่านหลั่งน้ำตาแห่งความตื่นเต้นออกมาอย่างทนไม่ไหว เธอเอามือปิดปากพร้อมกับส่ายหน้าอย่างแรง
ไม่เลย ไม่ต้องขอโทษ
ตราบใดที่เขาฟื้น ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งล้วนดีทั้งนั้น
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ “เย้นหว่าน ตอนที่ผมหมดสติ ได้ยินเสียงของคุณตลอด สิ่งที่คุณพูดกับผมทุกวัน ผมฟังอยู่ ผมอยากตอบคุณ ตลอดเวลาอยากฟื้นขึ้นมาตอบคุณ”
เย้นหว่านมองเขาด้วยดวงตาพร่ามัวน้ำตา ลำคอสะอึกสะอื้น
แต่ในใจกลับมีความสุขมากจนบรรยายไม่ได้
หลายวันมานี้ที่เขาหมดสติ เธอเอาแต่พร่ำบอกถ้อยคำใส่หูเขา มันมากมายจนเธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
เธอก็เคยคาดหวังว่าเขาจะได้ยิน แต่ไม่คิดว่าที่แท้เขาก็ได้ยินมันอยู่ตลอด และอยู่กับเธอตลอดเวลา
เย้นหว่านพูดเสียงสะอึกสะอื้น “ฉันจู้จี้มากเลยใช่ไหม”
โห้หลีเฉินยิ้มบาง ถือกุหลาบไว้ในมือข้างหนึ่ง อ้าแขนทั้งสองข้างออกเปิดรับเธอ
“ผมอยากให้คุณจู้จี้กับผมแบบนี้ไปตลอดชีวิต”
จู้จี้ ถูกเขาพูดให้กลายเป็นคำหวานที่น่าเบื่อหน่ายไปเสียแล้ว
เย้นหว่านมีความสุขจนแม้แต่พูดยังพูดไม่ออก
ใจเธอเคยกังวลและเสียใจ เก็บกดและไม่สบายใจ เศร้าโศกและเจ็บปวด ในตอนนี้ ทั้งหมดถูกชะล้างออกไป กลายเป็นความยินดีและความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้
เธอราวกับโอบกอดโลกทั้งใบเอาไว้อีกครั้ง
เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว พุ่งเข้าไปหาโห้หลีเฉินทันที ทิ้งตัวเข้าหาอ้อมแขนของเขา
โอบกอดเขาแน่น
เนื่องจากการกระแทกของเย้นหว่านตัวของโห้หลีเฉินจึงสะเทือนเล็กน้อย แต่ริมฝีปากของเขากลับยิ้มกว้างออกมา
เขาโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน กระชับอ้อมกอดแน่น
เขาก้มหน้า ริมฝีปากบางกดลงบนเส้นผมของเธอ ประทับรอยแนบแน่น
เย้นหว่านฝังศีรษะไว้ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน ราวกับนกหลงทางที่ในที่สุดก็พบบ้าน
อ้อมกอดของเขาคือความปรารถนาของเธอ ความอบอุ่นที่แสนคำถึง
ในที่สุด ในที่สุดก็กอดเขาได้อย่างปลอดภัย อยู่ในรังแห่งความสุขที่เป็นอ้อมแขนของเขา ให้ลมหายใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดของเธอ
ให้หัวใจของเธอได้เติมเต็ม
ชีวิตนี้เธอไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอแค่โห้หลีเฉินเพียงคนเดียวเท่านั้น
“คุณฟื้นขึ้นมาเมื่อไร คุณรู้หรือเปล่าว่าเมื่อครู่ฉันไปหาคุณที่ห้องแล้วไม่พบใคร กลัวแทบตาย”
ท่ามกลางความสุข เย้นหว่านบ่นกระเง้ากระงอด
เธอเงยหน้ามองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า ยกกำปั้นเล็กขึ้นช็อกงอนเขา
โห้หลีเฉินก้มหน้ามองเธอ เมื่อกำปั้นตกลงมา สีหน้าก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
เขาพูดอย่างหมดหนทาง “เจ็บ”
“คะ?”
เย้นหว่านชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วหน้าก็เครียดขึ้นมาทันที “คุณเจ็บตรงไหน ยังเจ็บตรงไหนอยู่เหรอ”
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยสายตาอ่อนแสง กำกำปั้นเล็กของเธอไว้ แล้ววางแนบไว้ตรงที่ที่เธอเพิ่งชกไป
“เจ็บตรงนี้”
เย้นหว่านอึ้ง
เธอพูดโดยจิตใต้สำนึกว่า “ฉันไม่ได้ใช้แรง แค่แตะลงไปเบาๆ นิดเดียวเอง”
“ครับ” โห้หลีเฉินพยักหน้า กดมือเล็กของเธอลงบนหน้าอกตัวเอง “บาดแผลของผมยังไม่หายดี แค่แตะเบาๆ ก็เจ็บแล้ว”
เย้นหว่านใจสั่น
เธอมึนศีรษะไปด้วยความสุข เกือบลืมไปแล้วว่าโห้หลีเฉินบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ที่หน้าอกมีผ้าพันแผลพันไว้เป็นชั้นๆ แน่นอนว่าแค่แตะนิดเดียวก็เจ็บมากแล้ว
เธอกำลังจะสำนึกผิด แต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา กลับได้ยินเขาพูดอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
“คุณต้องดูแลผมอย่างใกล้ชิดไม่ห่างถึงจะพอ ตอนนี้ผมยังดูแลตัวเองไม่ได้”
เย้นหว่าน “………”
เธอมองโห้หลีเฉินอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะรู้ตัวภายหลัง เขาเจ็บที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าฉวยโอกาสเล่นโกงสร้างเงื่อนไข
เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็สามารถแต่งตัวหล่อเหลาได้ ทั้งยังจัดกองกลีบกุหลาบและลูกโป่งมากมาย เขาฟื้นตัวดีขึ้นมากแล้ว อยู่ในสภาพที่ดี
เมื่อเห็นเล่ห์เหลี่ยมของโห้หลีเฉิน แต่มันก็สายเกินไปที่จะปฏิเสธคำขอของเขา
หายากที่เขาจะเล่นเล่ห์เหลี่ยมกับเธอ หายากที่เขาจะมีด้านที่ไร้เดียงสาเช่นนี้
เย้นหว่านใจอ่อนมากจนเธอพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ได้ค่ะ ก่อนที่คุณจะดีขึ้น ฉันจะดูแลคุณอย่างใกล้ชิดไม่ห่าง”
ดวงตาโห้หลีเฉินฉายแววของการทำสำเร็จ ทันใดนั้นเขาก็ก้มหน้าลง ใบหน้าหล่อโน้มเข้าใกล้ใบหน้าเล็กของเธอ
สองคนอยู่ใกล้กันมาก คำพูดร้อนแรงของเขาพุ่งเข้าปะทะใบหน้าของเธอ
น้ำเสียงของเขาลุ่มลึกและคลุมเครือ “ใกล้ชิดไม่ห่าง คืนนี้ก็ไม่ต้องนอนโซฟาแล้ว”
เย้นหว่านดวงตาเบิกกว้าง
โห้หลีเฉินยิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอก แขนเปลี่ยนมากระชับเอวเย้นหว่าน เพื่อให้เธอใกล้ชิดเขามากขึ้น
“เรานอนบนเตียงด้วยกัน”
นอนร่วมเตียงเคียงหมอน
เย้นหว่านดวงแก้มแดงเรื่อ ดวงตากะพริบปริบมองโห้หลีเฉิน
เขาๆๆ เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็คิดเรื่องนี้แล้ว!
ที่แท้อะไรดูแลอะไรใกล้ชิดไม่ห่าง ล้วนแล้วแต่ปลอม จุดประสงค์ก็แค่หลุมของการใกล้ชิดไม่ห่าง หลอกลวงเธอให้นอนกับเขา
เย้นหว่านพูดอย่างทั้งโกรธทั้งอาย “โห้หลีเฉิน คุณ คุณบาดเจ็บยังไม่หายดี สงวนตัวหน่อยไม่ได้หรือไง”
“คุณตกลงแล้วว่าจะดูแลผมใกล้ชิดไม่ห่าง ตอนนี้มากลับคำก็สายไปแล้ว”
โห้หลีเฉินหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงเอาแต่ใจมาก
“แต่คุณ…อื๊อ!!!”
เย้นหว่านยังอยากจะเถียง แต่ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ ริมฝีปากของโห้หลีเฉินก็กดลงมา จูบอย่างหนักหน่วง คำที่เธอจะพูดต่อถูกกลืนลงไปหมด
ไม่อนุญาตให้เธอมีโอกาสโต้แย้งอีก
เย้นหว่านดวงตาเบิกกว้าง มองเธออึ้งๆ ทั้งใบหน้าแดงเหมือนแอปเปิ้ล ช่วงปากและฟันร้อนแรงจนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วสุดขีด
ร่างกายอ่อนแรงไปทั้งตัวจนมือไม้ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน
สมองของเธอขาวโพลน ท่ามกลางความรู้สึก มีเพียงจูบที่หนักหน่วงของเขา ทำให้ลมหายใจปั่นป่วนและใจสั่น