สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 593 พี่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้
บทที่593 พี่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้
เมื่อ เย้นโม่หลินได้รับรู้ถึงสายตาของเย้นหว่าน มุมปากของเขาก็กระตุกเล็กน้อย
น้องสาวของเขาปกป้องเจ้าบ้านี่ขนาดนี้ ถ้าเขากล้าพูดว่าให้ออกไปเดี๋ยวนี้ เขาคงจะต้องถูกงอนอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น โห้หลีเฉินเป็นผู้ช่วยชีวิตเย้นหว่านไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบใจ แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำสิ่งที่ผิดจรรยาบรรณแบบนี้ได้
เย้นโม่หลินวางตะเกียบในมือลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ในเมื่อคุณเป็นผู้ช่วยชีวิตของเสี่ยวหว่านไว้ ผมก็มีหน้าที่ดูแลอาการบาดเจ็บของคุณเป็นธรรมดา และเมื่อคุณหายเป็นปกติ ผมจะเป็นคนส่งคุณกลับไปที่ตระกูลหยูเอง”
ในคำพูดท่อนสุดท้าย เย้นโม่หลินกัดฟันแทบจะทุกคำ
ท่าทางของเขามุ่งมั่นมาก
นั่นหมายความว่า เมื่อ โห้หลีเฉินหายดีแล้ว เขาจะถูกส่งกลับไปยังตระกูลหยู และไม่มีความหวังที่จะกลับไปตระกูลเย้นแน่นอน
แต่ถ้าไม่ไปที่ ตระกูลเย้น นั่นหมายความว่าระหว่างเขากับเย้นหว่านก็จะไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกันอีก
เย้นหว่านคิดไม่ถึงว่าเย้นโม่หลินจะพูดแบบนี้ด้วยท่าทีที่มั่นคงเช่นนี้
เธอคิดว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ ท่าทีของ เย้นโม่หลินจะอ่อนลงบ้างซะอีก
แต่ตอนนี้เขายังคงคัดค้านเหมือนเดิม
เย้นหว่านรู้สึกเหนื่อยใจและร้อนใจมาก เธอกำมือไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
โห้หลีเฉินดึงมือเล็กของเธอมากุมไว้ มือใหญ่ก็ประสานกับมือของเธอแน่น
เขามองลงมาที่เธอ แววตาของเขาอ่อนโยนราวกับว่ามีน้ำพุใสไหลผ่านหัวใจของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
โห้หลีเฉินปลอบจนเย้นหว่านสงบลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเย้นโม่หลิน
เขายังคงมีรอยยิ้มที่มุมปากและท่าทีของเขาก็ไม่ได้ถ่อมตนหรือเอาแต่ใจ
“คุณชายเย้น คราวนี้ผมหวังว่าคุณจะเห็นด้วยเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างผมกับเย้นหว่านครับ”
พูดเข้าประเด็นหลักเลยแล้วกันอย่างไร
ท่าทางของเย้นโม่หลินตกตะลึงไปทันที เขามองไปที่โห้หลีเฉินด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ก่อนจะพูด “แล้วถ้าผมไม่เห็นด้วยล่ะ”
“ผมจะทำทุกวิถีทางให้คุณเห็นด้วย”
โห้หลีเฉินพูดทุกคำด้วยท่าทีที่หนักแน่นอย่างหาที่ติไม่ได้
เหมือนว่า นี่จะเป็นความเป็นไปได้แค่หนึ่งเดียวเท่านั้น
ท่าทางมั่นอกมั่นใจนี้ ทำให้เย้นโม่หลินยิ่งไม่พอใจ เขาชื่นชมความกล้าหาญของโห้หลีเฉิน แต่เขาไม่พอใจที่สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการคือน้องสาวของเขา
เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “โห้หลีเฉิน ถ้าคุณคิดว่าคุณเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตเสี่ยวหว่านไว้ แล้วคุณจะสามารถเข้ามาในตระกูลในฐานะผู้ช่วยชีวิตได้ ตระกูลของผมจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อตอบแทนคุณ แต่มันต้องไม่ใช่ความสุขชั่วชีวิตของเสี่ยวหว่าน “
เย้นหว่านขมวดคิ้ว คำพูดของเย้นโม่หลิน ฟังดูเหมือนว่าจุดประสงค์ที่โห้หลีเฉินช่วยเธอไว้มันมีจุดประสงค์แอบแฝง ไม่บริสุทธิ์ใจ
เธออดที่จะพูดไม่ได้ “พี่คะ ทำไมพี่พูดแบบนั้นล่ะ โห้หลีเฉินเกือบจะเสียสละชีวิตเพื่อช่วยหนูไว้ เขาไม่ได้ช่วยหนูเพราะแค่แต่งงานกับหนูสักหน่อย”
“ถ้าไม่ใช่เพื่อแต่งงานกับน้อง เขาก็ไม่ต้องพูดเรื่องที่จะคบกับน้อง”
เสียงของ เย้นโม่หลินเย็นชาและแข็งกระด้างมาก
เย้นหว่านสะอึก “… “
นี่มันหลักการบ้าบออะไรกัน
เย้นโม่หลินขี้โกงและไร้เหตุผลชัดๆ
เย้นหว่านรู้สึกไม่พอใจ แต่โห้หลีเฉินยังมีท่าทางปกติ น้ำเสียงของเขายังคงสงบและสง่าตามเดิม
เขาเอ่ยพูด“ผมไม่เคยรู้สึกว่าฉันการช่วยชีวิตเย้นหว่าน จะเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการชื่นชมจากใคร เธอเป็นผู้หญิงของผมและเป็นคนที่ผมจะต้องปกป้องดูแลไปตลอดชีวิต”
ทุกคำพูดเขาพูดออกมาจากใจจริงแน่นอน
ดวงตาของเย้นหว่านกะพริบ และใจเต้นแรง ก่อนจะมองไปที่โห้หลีเฉิน
แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่ใกล้ ๆ เธอ แต่เธอก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเหมือนอาบไปด้วยแสงสว่าง เหมือนเทวดาที่ลงมาจากสวรรค์
“เหอะ”
เย้นโม่หลินยิ้มเยาะ “ ในเมื่อพูดเปิดอกกันเรื่องนี้แล้ว ผมเองก็อยากจะถามคุณชายโห้เหมือนกัน ว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่หยูซือห้านก่อขึ้น เรื่องที่คุณคือกู้ซึงคงไม่ถูกเปิดเผยออกมา คุณคิดจะใช้ฐานะของกู้ซึงนี้เพื่อใช้ชีวิตอยู่กับเสี่ยวหว่าน และแต่งงานกับเสี่ยวหว่านหรือเปล่า”
ถึงตอนนั้น ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว และแต่งงานออกไปแล้วพวกเขามารู้ทีหลังว่า กู้ซึงก็คือ โห้หลีเฉินมันก็สายเกินไปแล้ว
เขามีทะเบียนสมรส คนเขาก็ได้ไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ พวกเขาก็คิดถึงชื่อเสียงของเย้นหว่านและยินยอมตามไปด้วย
แต่ถ้า โห้หลีเฉินวางแผนไว้แบบนี้จริงๆ งั้นเขาก็น่ารังเกียจเกินไปแล้ว
คำพูดของเย้นโม่หลินเจาะตรงประเด็นและมีความเป็นปรปักษ์อย่างเห็นได้ชัด
เย้นหว่านฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ไม่รู้จะโต้เถียงอย่างไร
เธอเองก็สงสัยมาตลอดว่า โห้หลีเฉินแกล้งปลอมตัวเป็นกู้ซึงแน่นอนว่าเขาไม่ได้คิดที่จะแต่งงานกับเธอในฐานะกู้ซึง แต่เขาวางแผนจะทำอะไรในตอนแรกกันแน่
โห้หลีเฉินเผชิญหน้ากับสายตาที่ร้อนแรงของทั้งสามคน เขาเม้นปาก ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ผมจะแต่งงานกับเธอในฐานะโห้หลีเฉินเท่านั้นครับ”
คำพูดสั้น ๆ แต่มีความจริงจังเหมือนคำสาบาน
ฐานะของโห้หลีเฉินเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา และเขาจะมอบเขาที่สมบูรณ์ที่สุดให้เธอ และให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา โห้หลีเฉินคนนี้คนเดียว
นี่เป็นความตั้งใจเดิมของโห้หลีเฉิน และไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เย้นโม่หลินมองไปที่โห้หลีเฉินอย่างรวดเร็ว “ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากรู้มาก ในเมื่อตัวตนของคุณยังไม่ได้รับการยินยอม แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะแต่งงานกับเสี่ยวหว่านกัน”
สายตาของโห้หลีเฉินขยับ เขามองตรงไปที่ เย้นโม่หลินด้วยแววตาจริงจัง
เขาเอ่ยพูด “เพราะพวกคุณรักและเอ็นดูเย้นหว่านจริงๆ ไม่ช้าก็เร็วคุณจะเห็นความจริงใจของผม และยอมให้พวกเราได้อยู่ด้วยกัน
เขาพูดอย่างมั่นใจและมุ่งมั่น
มั่นใจเหมือนเขามัดใจคนอื่นไว้ได้หมดแล้ว
เย้นโม่หลินรู้สึกไม่พอใจและโกรธที่พยายามทำลายความมั่นใจในตัวเองของโห้หลีเฉิน แต่เมื่อคำพูดนั้นกลับติดอยู่ที่ริมฝีปากของเขาแต่กลับยากที่จะพูดออกมาได้
คำพูดของโห้หลีเฉินถูกต้องครึ่งหนึ่ง เขาและพ่อแม่ของเขา ต่างก็รักและเอ็นดูเย้นหว่านเอามากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลและให้ความสำคัญกับเรื่องการแต่งงานของเธอเอามากๆ
และพวกเขามีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียว นั่นก็คืออีกฝ่ายต้องรักเย้นหว่านจากใจจริง เพื่อให้แน่ใจว่าเย้นหว่านจะมีความสุขไปตลอดชีวิต
“ใช่ คนที่เย้นหว่านรัก และรักเธอจริงๆ พวกเราต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่คนคนนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคุณ”
เย้นโม่หลินพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชาและน้ำเสียงโอนเอนไปทางปฏิเสธท่าเดียว
แม้ว่า ในครั้งนี้ โห้หลีเฉินจะช่วยชีวิตเย้นหว่านไว้ และคอยปกป้องดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับเย้นหว่านมาก
แต่เย้นโม่หลินเองก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนได้เช่นกัน เขาเข้าใจดี ว่าผู้ชายนั้น นอกจากความรักแล้ว ยังมีความถูกต้องที่พวกเขาจะยอมเสียสละชีวิตไปช่วยคนอื่นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีความรักของคนในครอบครัว ถ้าเป็นเขา เขาก็จะทำเหมือนกับที่ โห้หลีเฉินทำ เขาไม่คิดว่าความพยายามเช่นนั้นจะต้องเป็นความรักเสมอไป
หรือจะพูดได้ว่า เขารู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและแตะต้องไม่ได้มาโดยตลอด
การหลอกลวงซ้ำ ๆ ของโห้หลีเฉิน เป็นอุปสรรคที่เขายากที่จะก้าวข้ามไปได้
เย้นโม่หลินมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยสายตาเย็นชาและพูดออกมา
“ โห้หลีเฉินผมยอมรับว่าคุณมีความสามารถมาก และมีฝีมือไม่เลว แต่ครั้งนี้ คุณคาดการณ์ผิดแล้วล่ะ
เรื่องที่คุณช่วยชีวิตเย้นหว่านไว้ ตระกูลเย้นจะต้องตอบแทนบุญคุณแน่นอน แต่ผม ไม่เห็นด้วยเรื่องการแต่งงานของพวกคุณ ถ้าอาการบาดเจ็บของคุณหายดี คุณก็ออกไปซะ “