สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 603 ใครไปรับ
“งั้นยังชักช้าอยู่ที่นี่ทำไม? รีบไปหาเธอสิ!”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วพูด ก้าวเท้ายาวเดินไปที่ลานจอดเครื่อง เดินไปด้วยและสั่งการไปด้วย “เตรียมเฮลิคอปเตอร์”
ต้วนอานไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับปฏิกิริยาของเย้นโม่หลินแล้ว
ช่วงนี้ เขาตามหากู้จื่อเฟยด้วยกันกับเย้นโม่หลิน แค่มีข่าวนิดหน่อย เย้นโม่หลินก็วิ่งไปไวดั่งสายลม ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว
ในที่สุดตอนนี้ก็แน่ใจว่าหากู้จื่อเฟยเจอร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เขาย่อมต้องบินไปทันทีอยู่แล้ว
แต่ว่า ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว เขาก็ยังได้พูดเตือนอย่างมีจรรยาบรรณวิชาชีพมากอยู่ดี “คุณชายครับ คุณท่านยังรอคุณชายอยู่ที่บ้าน บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาหารือกับคุณชายนะครับ”
เดิมที พวกเขาคือเตรียมกลับตระกูลเย้น
แต่ไหนแต่ไรความเคลื่อนไหวที่พวกเขาทำอยู่ข้างนอก ถึงแม้ได้ปิดบังคนในครอบครัวไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกเย้นเจิ้นจื๋อดูความผิดปกติออกอยู่ดี
เพราะฉะนั้น ถึงได้เรียกเย้นโม่หลินกลับไปถาม
แต่ว่า ตามระดับความแคร์ที่เย้นโม่หลินมีต่อกู้จื่อเฟย ไม่ต้องคิดพิจารณาเลยด้วยซ้ำ กลับบ้านจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตามหากู้จื่อเฟยต้องไปเดี๋ยวนี้
ต้วนอานเดินตามเย้นโม่หลินไปโดยที่ไม่คิด แต่เพิ่งเดินได้สองก้าว หัวก็ชนเข้ากับแผ่นหลังของเย้นโม่หลิน
เขาตกใจจนหน้าซีด รีบถอยหลังไปสองก้าวอย่างสีหน้าซีดเซียว “คุณชาย ผมไม่ได้ตั้งใจครับ”
เย้นโม่หลินที่เดินอย่างรีบร้อน ทำไมจู่ๆถึงหยุดลงมาได้ล่ะ?
ให้ตายสิ
เย้นโม่หลินไม่ได้สนใจเขา แววตาเคร่งขรึมมืดมน ดูเหมือนกำลังยับยั้งชั่งใจอะไรอยู่
เขาเพ่งมองเย้นหว่านและพูดเสียงต่ำ “พ่อยังรอพี่อยู่ พี่ต้องกลับตระกูลเย้นก่อน เธอไปรับกู้จื่อเฟยเถอะ”
ต้วนอานยืนตื่นตะลึงอยู่ข้างๆ จนลูกตาจะทะลักออกมาอยู่แล้ว
เขาฟังไม่ผิดใช่มั้ย?
คุณชายบอกจะกลับตระกูลเย้นก่อน!
แต่ไหนแต่ไรเรื่องรายงานแบบนี้เขาชิวๆที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ?
เย้นหว่านได้ยินคำนี้แล้วเหนือความคาดหมายมาก
ดูออกว่าปฏิกิริยาแรกของเย้นโม่หลินคืออยากไปหากู้จื่อเฟยมาก แต่ทำไมตอนนี้กลับเปลี่ยนใจแล้วล่ะ?
ไม่มีทางเป็นเพราะสาเหตุของพ่อแน่นอน
เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเย้นโม่หลินอย่างงงงวย เธอพูดว่า “ฉันจะดูแลโห้หลีเฉิน ไม่ค่อยสะดวกไป พี่ไปดีกว่า”
สายตาเยือกเย็นและเฉียบคมเหมือนกระบี่ของเย้นโม่หลินจ้องไปที่โห้หลีเฉิน
เขาพูดเยาะเย้ย “อาการเขาดีขึ้นเยอะแล้ว และสามารถเดินเล่นได้ทั่วลานบ้าน มีอะไรต้องดูแลอีก? ด้านความปลอดภัยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่จะให้บอดี้การ์ดอยู่ที่บ้านหมด”
ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้โห้หลีเฉินบอกเธอว่า ไม่ว่าเย้นโม่หลินพูดอะไรหรือทำอะไร เธอก็อย่าหวั่นไหว และอย่าตอบตกลงว่าจะไปรับกู้จื่อเฟย
เธอยังคิดไม่ออกว่าทำไมเป็นแบบนี้
ตอนนี้กลับเกิดขึ้นที่ตรงหน้าเธออย่างสมจริง ไม่นึกเลยว่าเย้นโม่หลินจะหาข้ออ้างไม่ไปรับกู้จื่อเฟยจริงๆ
ถ้าไม่ใช่โห้หลีเฉินทำการป้องกันตั้งแต่แรก เย้นหว่านไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงจริงๆ
เธอรีบทำสีหน้าลำบากใจออกมาทันที จากนั้นยื่นมือควงแขนของโห้หลีเฉินไว้แล้วพูดว่า “ให้ผู้ชายมาทำเรื่องกินข้าวใส่เสื้อผ้าพวกนี้ มือหยาบกระด้างเกินไปไม่รู้จักหนักเบา ฉันไม่ไว้ใจหรอก แต่ถ้าเป็นแม่บ้านหญิงฉันก็ยิ่งไม่ไว้ใจเข้าไปใหญ่”
เย้นหว่านมองหน้าเย้นโม่หลิน เสียงไม่ดัง แต่ท่าทีกลับหนักแน่นมาก สีหน้าเหมือนกำลังปกป้องลูกรักตัวเอง
เย้นโม่หลินยกมุมปากขึ้น ที่เขาคิดคือเรื่องความปลอดภัย แต่น้องสาวเขากลับคิดเรื่องละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถละเอียดอ่อนอีก
อีกอย่างเหตุผลที่พูดออกมา เขาถึงกับไม่รู้จะตอบโต้ยังไง
เย้นโม่หลินกัดฟันพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ในเมื่อแบบนี้ ถ้าเธอไม่ไปจริงๆ งั้นพี่ก็สั่งให้ลูกน้องไปรับกู้จื่อเฟยก็แล้วกัน”
ความหมายก็คือไม่ไปกันสักคน
ต้วนอานสีหน้ามึนตึ๊บยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกหูของวันนี้ใช้การได้ไม่ค่อยดีเลย
ตอนที่หาตัวไม่เจอ คุณชายรีบร้อนและกระตือรือร้นจะแย่ ตามหาทั่วทุกสารทิศ แต่ตอนนี้พอเจอตัวแล้ว เขากลับหาข้ออ้างสารพัด ไม่ไปรับคุณกู้แล้ว
หรือว่า สมองไม่ดีเหรอไง
เย้นหว่านสำรวจเย้นโม่หลิน สีหน้าท่าทางเย็นชาจนอึดอัด
จู่ๆเขากลับไม่ไปแล้ว นี่มันอะไรกันแน่?
ไม่ว่ายังไง จะต้องเกี่ยวข้องกับกู้จื่อเฟยแน่นอน
นึกถึงคำสั่งการของโห้หลีเฉินในก่อนหน้านี้ จึงได้พูดเตือนว่า“จื่อเฟยไม่สนิทกับลูกน้องพี่ เห็นคนแปลกหน้า ถึงบอกว่าเป็นคนของพี่ เธอก็ไม่เชื่อและไม่มากับลูกน้องพี่หรอก”
แววตาของเย้นโม่หลินมืดมน
เย้นหว่านกลอกตาไปมา แล้วพูดต่อ “อีกอย่าง ก่อนหน้านั้นจื่อเฟยจากไปเพราะเสียใจ ตอนนี้ก็ทนทุกข์ทนลำบาก ไม่แน่อาจจะได้รับบาดเจ็บด้วย เธอต้องเสียใจมากแน่ๆเลย ถึงทนทุกข์ก็อาจจะไม่ยอมกลับมาด้วยหรอก”
คำพูดเหล่านี้ เหมือนตะปูคอยตอกอยู่ที่หัวใจของเย้นโม่หลิน
ในหัวของเขา มีหน้าตาน่าสงสารและน่าอนาถจนเหลือทนของกู้จื่อเฟยแว็บผ่านอย่างควบคุมไม่ได้อีก
หัวใจเขากระตุก เป็นห่วงจนอยากจะรีบไปหาเธอและรับเธอกลับมาทันที
แต่ว่า…….
สายตาเย้นโม่หลินเคร่งขรึม พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เสี่ยวหว่าน เธอไปรับกู้จื่อเฟย กู้จื่อเฟยต้องกลับมากับเธอแน่นอน โห้หลีเฉินดีขึ้นมากแล้ว พี่ให้ป่ายฉีอยู่ดูแลเขาเอง เธอวางใจได้”
นี่คือคิดหาทุกวิถีทางก็จะให้เธอไปรับกู้จื่อเฟยให้ได้
เย้นหว่านมองเย้นโม่หลินอย่างแปลกใจสุดขีด นี่เขาจะมาเถียงอะไรนักหนาเนี่ย?
เธอหดหู่จริงๆ ตอนที่เตรียมหาข้ออ้างอะไรมาปฏิเสธอีก ขณะนี้ จู่ๆแขนของโห้หลีเฉินกลับทับลงมาที่ไหล่ของเธออย่างหนัก “ผมยืนนานเกินไป รู้สึกเจ็บแผลนิดหน่อย”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ ฟังแล้วอ่อนเพลียอ่อนแอมาก
เย้นหว่านแทบจะพยุงเอวของเขาด้วยสัญชาตญาณ แววตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และพูดอย่างเป็นห่วงเป็นใย “คุณปวดมากมั้ยคะ?”
โห้หลีเฉินส่ายหัวช้าๆ และพูดเสียงเบา “สงสัยคงจะยืนนานไม่ได้”
เย้นหว่านก็พูดโดยไม่คิด “ฉันพยุงคุณกลับห้องค่ะ”
ระหว่างพูด เย้นหว่านก็ได้พยุงโห้หลีเฉินอย่างระมัดระวังและเตรียมตัวจะเดินจากไป
ใบหน้าหล่อเหลาของเย้นโม่หลิน มืดมนลงมาอย่างสิ้นเชิง
แววตาของเขาเหมือนหนามที่แหลมคม ทิ่มแทงอยู่ที่บนตัวโห้หลีเฉิน
เขากล้าพูดว่า ที่โห้หลีเฉินอิดโรยกะทันหันแบบนี้คือเสแสร้งแน่นอน!
แต่เขาก็กล้ารับประกัน ถึงเขาเปิดโปงและแฉออกมา น้องสาวโง่เขลาของเขาก็ไม่เชื่อแน่นอน แถมยังจะส่งสายตารังเกียจให้เขาด้วยซ้ำ
เย้นโม่หลินหงุดหงิดพร้อมพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เสี่ยวหว่าน กู้จื่อเฟยยังรอเธอไปรับอยู่นะ”
“พี่ ฉันไปไม่ได้แล้วจริงๆ พี่ไปเถอะ ถ้าไม่ได้จริงๆ พี่ให้ต้วนอานลองไปรับดู ถ้าจื่อเฟยไม่กลับมาด้วย พวกเราค่อยคิดหาวิธีนะ”
เย้นหว่านก็ไม่ได้หันหน้ากลับมา เธอพยุงโห้หลีเฉินไว้อย่างระมัดระวัง เดินไปด้วยและพูดไปด้วย ท่าทีนั้นแน่วแน่เฉียบขาดมาก
ขมับของเย้นโม่หลินกระตุก ไฟในใจเดือดพลุ่งพล่านและหงุดหงิดมาก
เขาพูดเสียงต่ำ “ป่ายฉีอยู่ไหน? ให้เขาไปรับ”
กู้จื่อเฟยรู้จักป่ายฉีอยู่ ถ้ามีป่ายฉีออกหน้ากู้จื่อเฟยก็จะไม่มาเพราะไม่เชื่อใจแน่นอน
ต้วนอานยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ และพูดเสียงเบา “คุณชายครับ ตอนนี้ป่ายฉียังคับแค้นใจอยู่ อยากเอาคุณจื่อเฟยให้ตายนะครับ”
เย้นโม่หลิน “….