สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 626 อย่าใจร้อน
บทที่ 626 อย่าใจร้อน
ท้องก่อนแต่งงานเหรอ
ดังนั้นคือนอนด้วยกันก่อนค่อยแต่งงานเหรอ
อย่างนั้นตอนนี้ก็……
เย้นหว่านอยากจะผลักเขาออกด้วยความเขินอาย แต่ในหัวสมอง กลับมีความคิดที่ว่าโห้หลีเฉินเป็นหมันแวบขึ้นมา มือของเธอก็เกร็งแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นเลย
ถ้าหากโห้หลีเฉินเป็นหมันจริง เขาก็ไม่เพียงจะต้องได้รับการบีบคั้นจากตระกูลหยู พ่อแม่ของเธอก็อาจจะไม่ยอมเห็นด้วยง่ายๆเรื่องที่เธอจะอยู่กับโห้หลีเฉิน
อุปสรรคระหว่างพวกเขา ยิ่งใหญ่มากมายขนาดไหน
แต่ถ้าเธอท้องลูกของโห้หลีเฉินจริงๆ อุปสรรคทั้งหมดที่ดาหน้าเข้ามาหาพวกเขาตอนนี้ก็จะกลายเป็นฟองอากาศไปหมด ถูกเป่าเบาๆก็แตกสลายไป
แต่เธอและเขา จะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้จริง จนมีลูกแต่งงานกัน
นี่คือสิ่งที่เย้นหว่านพอจะนึกได้ทั้งหมด อนาคตที่สมบูรณ์แบบที่สุด
คิดมาถึงตรงนี้ มือที่คอยดิ้นรนขัดขืนของเย้นหว่าน ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกุมมือของโห้หลีเฉินไว้
ใบหน้าแดงก่ำของเธอมองใบหน้าหล่อเหลาซึ่งอยู่ในระยะที่ใกล้อย่างยิ่ง รวบความกล้า โน้มไปข้างหน้าจูบริมฝีปากบางของเขา
โห้หลีเฉินตกตะลึง แปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเย้นหว่านอย่างกะทันหัน
เย้นหว่านสายตาเปล่งประกายไม่หยุด กัดริมฝีปาก หลับตาลงเบาๆ
เธอซุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก็เหมือนกับดอกไม้ที่กำลังผลิบานดอกหนึ่ง ดอกไม้สดที่สวยงามรอให้บุรุษมาเด็ดดอม
โห้หลีเฉินมองเธอตรงๆ สายตาในชั่ววินาทีนั้น ลึกล้ำเหมือนบ่อน้ำบ่อหนึ่งที่ลึกมาก
ลมหายใจของเขาเหมือนกับถูกแผดเผาในชั่วพริบตา เร่าร้อนและหนักหน่วง จะแผดเผาเธอและเขาให้กลายเป็นเถ้าธุลี
ห้องที่อยู่ลับตาคน หนุ่มสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง ยินยอมพร้อมใจกัน
ทั้งหมดนี้ ล้วนเหมาะสมพอดี
ปล่อยให้เขาเลือก
โห้หลีเฉินสะกดกลั้นความปรารถนามาตลอด วินาทีที่พลุ่งพล่านขึ้นมาถึงจุดสูงสุดนั้น สัตว์ร้ายที่ถูกควบคุมไว้ในร่าง คำรามต้องการที่จะฉีกเย้นหว่านกลืนกินเข้าไปในท้อง
เขาเข้าใกล้เธอ แทบจะไม่อาจควบคุมได้
การอยากจะเอาหัวใจของเธอ ดูเหมือนว่าจะเข้าครอบงำจิตใจของเขา
เอ่อ——
ระยะห่างจากริมฝีปากชมพูของเย้นหว่านเหลือเพียงไม่มิลลิเมตร ทั้งร่างของโห้หลีเฉิน กลับเหมือนแช่แข็งไว้ ไม่อาจขยับไปด้านหน้าได้อีก
สีหน้าของเขาร้อนผ่าว ค่อยๆเปลี่ยนเป็นจริงจังหนักแน่น ดิ้นรน
เขาต้องการเธอ แน่นอนว่าทำได้
แต่สภาพร่างกายเขาตอนนี้ กลับไม่แน่นอน ว่าจะสามารถให้ความสุขกับเธอไปตลอดชีวิตได้หรือไม่
เขาอยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดทุกอย่างให้เธอ ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ชีวิตที่มีความสุขที่สุด รวมทั้งลูกที่น่ารักที่สุด
เขาไม่อยากให้ชีวิตเธอมีความเสียใจหรือข้อบกพร่องใดๆ
ยิ่งไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าอย่างไร ถ้าหากข้อบกพร่องนั้นเกิดมาจากเขา……
ภายในใจโห้หลีเฉินหนักอึ้ง ทั้งสับสน
อารมณ์ที่หดหู่เหมือนถูกราดด้วยน้ำเย็น จากศีรษะลงมา ทำให้ความร้อนทั้งหมดของเขา ถูกดับมอดลง
ตอนนี้ ยังทำไม่ได้
สายตาลึกล้ำของเขามองไปที่เธอ ริมฝีปากบางพลาดจากริมฝีปากแดงของเธอ ลงไปที่ข้างใบหูของเธอ
เสียงอ่อนโยน กระซิบเบาๆข้างหู “อย่าใจร้อน คืนนี้ค่อยว่ากัน” กลางคืน ผลตรวจก็ต้องรู้หมดแล้ว มีข้อสรุปแล้ว
ได้ยินประโยคนี้ เย้นหว่านก็ลืมตาขึ้นทันที แก้มแดงก่ำข้นทันทีเหมือนตูดลิง
อย่าใจร้อนเหรอ
อย่าใจร้อนเหรอ!
เธอคิดว่าโห้หลีเฉินตอนนี้ก็จะทำ ไม่ง่ายที่เธอจะเกลี้ยกล่อมตัวเองได้ และยังเป็นฝ่ายรุกไปจูบก่อน โห้หลีเฉินกลับบอกเธอว่าอย่าใจร้อน……
ทำเสียจนเธอกระวนกระวายอยากจะทำอะไรกับเขาเป็นพิเศษ
เย้นหว่านอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี จากนั้นก็ผลักโห้หลีเฉินออก ลุกจากโซฟายืนขึ้นมา
เธอรีบเดินหนีไปหลายก้าว พูดอ้ำๆอึ้งๆว่า
“ใคร ใคร ใครใจร้อน ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย!”
สายลึกล้ำที่มองโห้หลีเฉิน ก็รู้ว่าคำที่ตนเองพูดนั้นเป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เย้นหว่านเบือนหน้าหนีไปอย่างดื้อๆ หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก
“ฉันหิวน้ำ ฉันจะไปหาน้ำดื่ม”
แผ่นหลังที่ลุกลี้ลุกลน เป็นการเสแสร้งทั้งหมด ต้องเรียกว่าหนีหัวซุกหัวซุน
สายตาลึกล้ำของโห้หลีเฉินมองเย้นหว่านเดินหนี แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากเตือนเธอ ว่าในห้องก็มีตู้กดน้ำอยู่แล้ว
เขารู้ เธอก็แค่หนีไปเพราะความเขินอาย
ส่วนเขา อารมณ์หนักหน่วงหดหู่ ไม่กล้ารั้งตัวเย้นหว่านเอาไว้ มิฉะนั้น อาจจะทำให้เธอพบพิรุธ
โห้หลีเฉินกำหมัดแน่น ควบคุมอารมณ์ที่สับสนพลุ่งพล่านอยู่ในใจ
อีกประเดี๋ยว ก็จะรู้ผลตรวจของป่ายฉีแล้ว
แค่รออีกหน่อย รอหน่อย
——
ห้องหนังสือในเรือนหลัก
หยูฉู่สองนั่งอยู่บนตำแหน่งประธานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ด้านหน้าเขาท่านอาวุโสผมสีเงินยืนอยู่สีหน้าจริงจัง กระสับกระส่าย
เขารีบพูดอย่างร้อนใจว่า “ท่านผู้นำ คุณต้องช่วยหยูซือห้านนะ!”
หยูฉู่สองขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นเยือก “ท่านอาวุโสใหญ่ สถานการณ์ตอนนี้คุณก็รู้ดี หยูซือห้านกรรมตามสนอง ลักพาตัวเย้นหว่านไปแต่งงานก็พอทน ประเด็นคือ ยังทำล้มเหลวอีก ถูกตระกูลเย้นจับพิรุธได้ จับตัวคนได้
ตัวเขาเองความสามารถไม่พอ ตกอยู่ในสภาพนี้ ก็คือชีวิตของเขาเอง”
“แต่หยูซือห้านเป็นทายาทตระกูลหยูที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ความสามารถของเขา ทุกอย่างของเขาล้วนถูกกำหนดมาอย่างเหมาะสมเพื่อตระกูลหยู มีเพียงเขา จึงจะสามารถนำพาตระกูลหยูพัฒนาก้าวหน้าไปยิ่งขึ้น
จุดนี้ โห้หลีเฉินทำไม่ได้เด็ดขาด! เขาเป็นคนดื้อรั้น ไม่ความรู้เกี่ยวกับตระกูลหยูเลยสักนิด ทำงานก็ไม่เคยคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูลหยูเลย
ยิ่งไปกว่านั้น ยานั้นของหยูซือห้านผมก็รู้ดี ชีวิตนี้ไม่มีทางมีลูกได้
กฎระเบียบของตระกูลหยู เป็นหมันไม่สามารถเป็นทายาทได้เด็ดขาด ต่อไปอาจจะนำมาซึ่งสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ ยิ่งก่อให้เกิดการขัดแย้งของผู้นำที่ไม่แน่นอน
ตอนนี้ไม่ว่าจะมองจากด้านไหน โห้หลีเฉินก็ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำ ช่วยหยูซือห้านกลับมา จึงจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม”
พิจารณาอย่างหนัก ในใจหยูฉู่สองก็เหมือนกับกระจกเงา
สายตาของเขามองท่านอาวุโสผมสีเงินอย่างเคร่งขรึม พูดอย่างดุดันว่า
“ผมรู้ว่าคุณอยากช่วยหยูซือห้าน ในใจก็ยังอยากให้หยูซือห้านดำรงตำแหน่งทายาทต่อ
แต่การตัดสินใจทั้งหมดของผม ก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูลหยูก่อนเป็นหลัก รอดูอีกเดี๋ยวเถอะ รออีกเดี๋ยว ป่ายฉีก็จะเอาผลตรวจมาให้ ถ้าหากโห้หลีเฉินยังสามารถมีลูกได้ ตำแหน่งทายาทนี้ ก็คงไม่มีคุณสมบัติที่ต้องปลดออก”
คิ้วของท่านอาวุโสผมสีเงินขมวดเข้าหากันอย่างแรง แทบจะบีบแมลงวันให้ตายเป็นกอง
เขากัดฟันพูดว่า “ถ้าหากโห้หลีเฉินไม่สามารถมีลูกได้แล้วล่ะ”
หยูฉู่สองขมวดคิ้วอย่างแรง
สายตาเขามืดมน พูดด้วยเสียงเบามากว่า “ช่วยหยูซือห้าน โดยไม่คำนึงถึงผลเสีย”
ตระกูลหยู ต้องการทายาท
ความมืดมนในดวงตาท่านอาวุโสผมสีเงิน ในที่สุดก็เกิดความหวังขึ้นมา
เขาเชื่อมั่นว่า โห้หลีเฉินจะต้องไร้ความสามารถที่จะให้กำเนิดลูกได้แน่นอน
ตอนนี้ขอแค่ ก่อนหน้าที่ผลตรวจจะออกมา รักษาชีวิตหยูซือห้านไว้ให้ได้ก็พอแล้ว!
“เย้นโม่หลินรับปากผมแล้ว จะให้ผมไปเยี่ยมเขา ตอนนี้ผมก็จะไปเยี่ยมเขาก่อนที่ผลตรวจจะออก บอกให้เขาอดทนเอาไว้ให้ได้”
ท่านอาวุโสผมสีเงินพูดพลาง แทบจะรอไม่ไหวที่ออกไปข้างนอก
อีกอย่าง เขาก็กังวลว่าถ้าหากป่ายฉีได้รับผลตรวจว่าโห้หลีเฉินไม่อาจมีลูกได้แล้ว ตระกูลเย้นจะฆ่าหยูซือห้านทิ้งไปเสียก่อน เพื่อปกป้องโห้หลีเฉิน