สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 627 เริ่มหว่านแห
บทที่ 627 เริ่มหว่านแห
ท่านอาวุโสผมสีเงินออกจากห้องหนังสือ ก็เร่งฝีเท้าเดินไปยังที่คุมขังหยูซือห้าน
แม้ว่าสถานที่จะยังเป็นอาณาเขตของตระกูลหยู แต่ว่าตอนนี้ให้เย้นโม่หลินใช้แล้ว บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่โดยรอบก็ล้วนเป็นคนของตระกูลหยู
ท่านอาวุโสผมสีเงินเดินไปทางสถานที่นี้ เดินไปยังไม่ถึง ก็มองเห็นเย้นโม่หลินเดินอยู่กับป่ายฉีอยู่ไกลๆ
ตอนนี้ป่ายฉีไม่ได้อยู่ในห้องทดลองแล้ว อยู่ที่นี่ทำอะไร
หรือว่า ผลตรวจออกมาแล้ว
หัวใจของท่านอาวุโสผมสีเงินก็ชะงักค้างทันที แม้แต่จะหายใจยังตื่นเต้น
เขารีบเร่งฝีเท้าเดินไป
ตอนที่จะเดินไปถึงนั้น ก็ได้ยินเสียงบทสนทนาของทั้งสอง
“พี่ใหญ่ พี่จะช่วยโห้หลีเฉินปิดบังจริงเหรอ”
ปิดบังเหรอ
ได้ยินประเด็นสำคัญนี้ สายตาของท่านอาวุโสผมสีเงินก็มืดลงทันที หมุนฝีเท้า เบี่ยงตัวแอบอยู่ด้านหลังดอกไม้ตรงระเบียงทางเดินโดยไม่ต้องคิด
เขายืนยืดหลังตรง ฟังบทสนทนาของทั้งสองคนด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง
เย้นโม่หลินและป่ายฉีเห็นชัดว่ายังไม่ได้สังเกตเห็นเขา ทั้งสองยังคงเดินเคียงกันช้าๆ เวลาเดียวกัน ก็พูดคุยไปด้วย
เย้นโม่หลินพูดว่า “เขามีบุญคุณที่ช่วยชีวิตเสี่ยวหว่านไว้ ฉันต้องช่วยเขา”
น้ำเสียงป่ายฉีลำบากใจ “แต่ว่า โกหกคนตระกูลหยูแบบนี้ ไม่ดีเท่าไหร่ใช่มั้ย นี้เท่ากับว่าเอาเกียรติศักดิ์ศรีของตระกูลเย้นของพวกเราผูกติดเข้าไปด้วยนะ”
เย้นโม่หลินน้ำเสียงหนักแน่น “เพื่อเสี่ยวหว่าน ต้องทำเรื่องอะไรก็คุ้ม”
ป่ายฉีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า
พูดว่า “ก็ได้ อย่างนั้นผมจะไปบอกคนตระกูลเย้น ว่าสมรรถภาพการมีบุตรของร่างกายโห้หลีเฉิน ไม่ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น เขายังพอมีโอกาส”
ท่านอาวุโสผมสีเงินเบิกตาโตทันที เดือดอย่างที่สุด
เย้นโม่หลินและป่ายฉีถึงขั้นกล้าวางแผนหลอกลวงคนตระกูลหยูจริงๆ
ช่างยโสโอหังนัก
สมควรตายจริงๆ!
เวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกดีใจ โห้หลีเฉินเป็นหมันแล้ว อย่างนั้นหยูซือหานก็มีทางรอดแล้ว
ท่านผู้นำจะต้องไม่นั่งดูเฉยๆโดยไม่ทำอะไรเด็ดขาด
ขอแค่ส่งคนตระกูลเย้นออกไป ให้คนตรวจร่างกายโห้หลีเฉินใหม่ ตำแหน่งทายาทของโห้หลีเฉิน ก็จะไม่ปลอดภัย
ในใจของท่านอาวุโสผมสีเงินรีบวางแผนอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดในสายตาตอนนี้ ก็คือไปบอกข่าวดีนี้กับหยูซือห้าน ให้เขาต้องหนักแน่นเอาไว้!
อดทนรอจนถึงตอนที่พวกเขามาช่วย
ท่านอาวุโสผมสีเงินแอบอยู่หลังช่อดอกไม้ ไม่ขยับเขยื้อน รอจนเย้นโม่หลินและป่ายฉีเดินไปไกล
เย้นโม่หลินและป่ายฉีเดินด้วยความเร็วที่ไม่มาก แต่กลับไม่ถือว่าช้า
ไม่นาน ก็เดินไปไกลแล้ว
ท่านอาวุโสผมสีเงินได้ยินป่ายฉีถามว่า “อย่างนั้นโห้หลีเฉินกับเสี่ยวหว่าน……พี่ยังจะเห็นด้วยมั้ย”
“ตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่ได้เห็นด้วยที่จะให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน”
น้ำเสียงเย้นโม่หลินหนักแน่น
ป่ายฉีถามอีกว่า “แต่เสี่ยวหว่านไม่ยอมแน่นอน ถ้าเธอยืนยันที่จะอยู่กับโห้หลีเฉิน……”
“ฉันยอมขังเธอไปตลอดชีวิต”
เย้นโม่หลินเอ่ยอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในน้ำเสียง แฝงด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างบ้าคลั่ง
หัวข้อสนทนานี้ทำให้ในใจเขาไม่พอใจ แม้แต่ฝีเท้า ยังเดินเร็วขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับว่าไฟจะลุกไหม้ขึ้นมา
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่นานพวกเขาสองคนก็เดินไปไกลมากแล้ว
ตำแหน่งของท่านอาวุโสผมสีเงิน ก็มองไม่เห็นคนอีกแล้ว ยิ่งไม่ได้ยินเสียงแล้ว
ท่านอาวุโสผมสีเงินนี่เพิ่งจะออกมาจากด้านหลังช่อดอกไม้ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยของความสะใจ
ช่างดีเหลือเกิน!
เย้นหว่านและโห้หลีเฉินไม่มีทางได้แต่งงานกัน แบบนี้ต่อไป โห้หลีเฉินอาศัยอยู่ที่ตระกูลหยูเพียงลำพัง ในเมื่อมีการปกป้องจากตระกูลเย้นก็อยู่ไกลเกินเอื้อม
รอให้ตระกูลหยูจัดการโห้หลีเฉิน ฆ่าเขาแล้ว ค่อยบอกตระกูลเย้น ตระกูลเย้นก็ไม่มีอะไรจะพูด
ผลสรุปพัฒนามาเป็นแบบนี้ สำหรับท่านอาวุโสผมสีเงินแล้ว ก็คือสมบูรณ์แบบ
บนใบหน้าอดไม่ได้ที่จะฉีกรอยยิ้มออกมา หมุนตัวก้าวขาเดินไปยังสถานที่กุมขังหยูซือห้าน
เดินไปถึงประตู ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางไว้อย่างที่ควรจะเป็น
ต้วนอานยืนอยู่ที่ประตู สีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก พูดอย่างหาเรื่องว่า
“ท่านอาวุโสใหญ่ คุณมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้คุณชายไม่อยู่”
แน่นอนว่าท่านอาวุโสผมสีเงินรู้ว่าเย้นโม่หลินไม่อยู่ และเขายังเป็นส่งเขาจากไปด้วยตาตัวเองด้วย
เขามีสีหน้าดุดัน พูดว่า “คุณชายของพวกคุณรับปากผมแล้ว อนุญาตให้ผมมาเยี่ยมหยูซือห้านได้ ตอนนี้ผมก็มาเยี่ยมเขาด้วยตัวเอง”
ต้วนอานยืนหลังตรง ไม่ขยับเขยื้อน
“คุณชายออกไปแล้ว คุณควรจะรอให้เขากลับมาก่อน ค่อยไปเยี่ยมนะ”
สายตาท่านอาวุโสผมสีเงินคมกริบขึ้นมาเล็กน้อย “ผมก็แค่มาเยี่ยมหยูซือห้าน ไม่ได้มาเยี่ยมคารวะคุณชายของพวกคุณ เย้นโม่หลินจะอยู่หรือไม่ก็ไม่เป็นไร
นี่เป็นเรื่องที่คุณชายพวกคุณรับปากเอาไว้แล้ว คุณอย่าขวางผมเลย ให้ผมเข้าไปเถอะ!”
หลายคำข้างท้าย ลงเสียงหนักขึ้น เป็นคำสั่งที่เฉียบคม
ท่านอาวุโสของตระกูลอื่น วิ่งมาออกคำสั่งในถิ่นของตนเอง ในใจต้วนอานรู้สึกอึดอัดขึ้นมาชั่วขณะ
สีหน้าของเขายิ่งไร้ความรู้สึก พูดเสียงเย็นเยือกว่า
“จะไปพบหยูซือห้าน ต้องได้รับความเห็นชอบจากคุณชาย จึงจะเข้าไปได้”
ท่านอาวุโสผมสีเงินขมวดคิ้วอย่างแรง ความโกรธในท้องของเขาพลุ่งพล่าน แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะชกหน้าต้วนอานสักหมัด
คนผู้นี้ น่ารังเกียจมากจริงๆ!
แต่สถานการณ์ตอนนี้ ยังไม่เหมาะสมที่จะฉีกหน้าตระกูลเย้นตรงๆ จะช่วยหยูซือห้านจะต้องจัดการแบบส่วนตัวลับๆจึงจะถูก
ท่านอาวุโสผมสีเงินสะกดกลั้นความโกรธที่น่าหงุดหงิดในท้องนั้นเอาไว้ หน้าบึ้งพูดว่า
“ตอนนี้คุณโทรหาเย้นโม่หลิน ถามเขาเรื่องที่เขารับปากผม ยังถือว่ามีสัจจะอยู่มั้ย ตอนนี้ผมจะเข้าไปเยี่ยมหยูซือห้านได้มั้ย”
ต้วนอานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
กดโทรออกไปยังโทรศัพท์ส่วนตัวของเย้นโม่หลิน
ผ่านไปพักหนึ่งทางนั้นจึงรับสาย ต้วนอานเอ่ยถามคนในสายอย่างนอบน้อมว่า
“คุณชายครับ ท่านอาวุโสใหญ่ของตระกูลหยูอยากจะเข้าไปเยี่ยมหยูซือห้านตอนนี้ ให้เขาเข้าไปไหมครับ”
พอสิ้นเสียงต้วนอาน จู่ๆท่านอาวุโสผมสีเงินก็ยื่นมือ แย่งโทรศัพท์มา
เขาพูดว่า “คุณชายเย้น คุณรับปากผมแล้ว คนตระกูลหยูสามารถมาเยี่ยมดูสถานการณ์ของหยูซือห้านได้”
ปลายสายนั้น เสียงเย้นโม่หลินเย็นชา
“รอผมกลับไปก่อนค่อยเยี่ยม”
“คุณชายเย้น ตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลาแล้ว ผลตรวจของคุณป่ายฉีก็ใกล้จะออกมาแล้วกระมัง ที่ผมมาก็เป็นความประสงค์ของท่านผู้นำ ที่จะมาเยี่ยมดูความปลอดภัยของหยูซือห้านก่อนผลตรวจจะออกมา เกรงว่า……”
ท่านอาวุโสผมสีเงินจงใจหลุดชะงัก แล้วจึงพูดด้วยเสียงเบาว่า“สถานการณ์ของโห้หลีเฉินไม่สู้ดี มีคนจะมาฆ่าหยูซือห้าน เพื่อป้องกันตัวเอง ทำให้ความคิดที่คุณชายเย้นจะทรมานหยูซือห้านล้มเลิกไป”
ความหมายของคำพูดนี้ ภายนอกเหมือนจะคำนึงถึงเย้นโม่หลิน
แต่ความจริงแล้ว กลับเป็นการคุกคามที่แอบซ่อนอยู่
บังเอิญว่า พูดตรงกับเรื่องที่เย้นโม่หลินกำลังกังวลอยู่ในใจพอดี
สถานการณ์ของโห้หลีเฉินไม่สู้ดีนัก เขาและป่ายฉีตอนนี้จะไปป่าวประกาศที่ตระกูลหยู ถ้าหากท่านอาวุโสผมสีเงินอยู่ด้วย จะต้องเสนอข้อสงสัยต่างๆนานา ไม่เชื่อถือ
ถ้าหาไม่กลัวจริงๆ แต่กลับเป็นคนที่ชอบหลอกลวง ก็มักจะหวาดระแวง
นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง เย้นโม่หลินเสียงดังขึ้นอีกนิด พูดว่า
“ในเมื่อคุณไม่วางใจ อยากจะเยี่ยมก็ไปเยี่ยม