สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 650 หาเจอแล้ว
บทที่ 650 หาเจอแล้ว
สายตาของทุกคนรีบจับจ้องไปที่แขนของกู้ซึงทันที
เห็นแต่กู้ซึงใส่ชุดนอนตัวใหญ่ พลันเห็นเลือดค่อยๆ ซึมจนออกมาจน ขยายเป็นวงกว้างและกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เห็นได้ชัดว่า การปะทะกันเมื่อครู่นี้ ทำให้บาดแผลของเขาฉีกขาดแล้ว
สีหน้าของบอดี้การ์ดเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว “คุณชายกู้ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ยังไงซะกู้ซึงก็เป็นแขกของตระกูลเย้น
กู้ซึงสีหน้าซีดขาว เดินขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่งอย่างกรุ่นโกรธ
กล่าวอย่างดุร้ายว่า “ไม่ได้ตั้งใจแค่นั้นก็จบแล้วเหรอ? บาดแผลของฉันเพิ่งสมานตัว ตอนนี้ปริออกแล้ว ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว แกพูดมาซิว่าจะทำยังไงดี?”
กู้ซึงชี้ไปที่ไหล่ของเขา ไม่ฟังถ้อยคำใดๆอีกแล้ว
พลันเขยิบเข้าไปใกล้ทีละก้าว ทีละก้าว
ท่าทีตอบสนองของบอดี้การ์ดหลายคนแทบจะถอยไปข้างหลังเรื่อยๆ แค่ยังตะลึงแต่ไม่กล้าแม้จะแตะกู้ซึง อีกเลยแม้แต่นิดเดียว
ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งตัวของเขา แค่แตะนิดเดียวจำต้องมีเลือดไหลออกมาทันที
“คุณชายกู้ ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ ครับ ผมจะพาคุณไปหาคุณป่ายฉีเดี๋ยวนี้เลยตกลงไหม?”
บอดี้การ์ดหนุ่มตัวโตคนหนึ่ง สีหน้าย่ำแย่จนใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“ฉันจะไปยังไง? ฉันเจ็บจนขยับไม่ได้แล้วเนี่ย!”
กู้ซึงพูดอย่างอารมณ์เสีย ร่างสูงเริ่มโงนเงนจนใกล้จะล้มลงบนตัวของบอดี้การ์ดอยู่แล้ว
บอดี้การ์ดตกใจจนถอยหลังไปอีกสองสามก้าว
จนหน้าผากผุดเม็ดเหงื่อเย็นๆ ออกมาไปทั่ว
คุณชายกู้คนนี้ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังเจอกับเครื่องเคลือบดินเผาเลยล่ะ?
“คุณชายกู้ พวกเราจะรีบจัดการหาเปลมา แล้วหามพาคุณไป”
บอดี้การ์ดอีกคนเหมือนเป็นหัวหน้า มีไหวพริบดี จากนั้นก็เดินไปยังด้านหน้าเพื่อพยุงกู้ซึงเอาไว้อย่างระมัดระวัง
ด้านข้างยังมีบอดี้การ์ดอีกสองคน ก็รีบไปหามเปลมา
พวกเขาเดินไปเดินมากวักไกว่ ประตูที่เดิมปิดสนิท ก็ปรากฏช่องว่างออกมา
กู้ซึงหันศีรษะมาทางเย้นหว่านแล้วขยิบตาให้ จากนั้นก็พิงไปที่ตัวของบอดี้การ์ดอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งคร่ำครวญครั้งแล้วครั้งเล่า “เร็วหน่อยสิ ไอหยา เจ็บชะมัด…”
เย้นหว่านมองท่าทางของกู้ซึงที่กำลังร้องระงมพร้อมทั้งยังขยิบตาให้ตนเอง ก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขากำลังเปิดโอกาสให้เธอได้เข้าไป
เพราะเหตุนี้ จึงทำร้ายตัวเองโดยไม่ลังเลสักนิด-
เย้นหว่านแสบจมูกทันที ทว่าก็รู้ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งคิดลังเลอีกแล้ว ถ้าพลาดโอกาสไปแล้ว คืนนี้ก็คงยากยิ่งที่จะเข้าไปในตัวบ้านของกงจืออวี
ด้านใน ก็ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรบ้าง
เย้นหว่านมองกู้ซึงด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง พร้อมทั้งไม่มีความลังเลอีกแล้ว จากนั้นก็วิ่งมุ่งหน้าเข้าไปด้านในตัวบ้านทันที
“เอ๊ะ! คุณหนู! คุณอย่าเข้าไปเลย!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ใกล้ไหวพริบดี พลางยื่นมือออกไปคว้าตัวเย้นหว่านเอาไว้
ด้วยความที่พวกเขาเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งรวดเร็วมาก
เมื่อเห็นว่ามือข้างนั้นใกล้จะคว้าตัวเย้นหว่านไว้ได้แล้ว เวลานั้นเอง กู้จื่อเฟยก็ขวางมือที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้
เธอตะโกนโหวกเหวกโวยวาย “แกกล้าจับเหรอ กูจะบอกว่ามันไม่มีมารยาท!”
มือข้างนั้น ขยับไปด้านหน้าอีกนิด เหมาะเจาะว่าเป็นหน้าอกของกู้จื่อเฟยพอดี
บอดี้การ์ดตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ราวกับรีบดึงมือกลับมาทันทีอย่างไม่คิดชีวิต พร้อมทั้งเร่งอธิบายอย่างรีบร้อน
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!”
ตลกแล้ว ผู้หญิงที่ความสัมพันธ์ยังคงคลุมเครือกับนายน้อย เขากล้าแตะต้องที่เสียที่ไหนกัน?
ยังไม่อยากตาย
ช่วงจังหวะการถ่วงเวลานั้นเอง เย้นหว่านก็ทำเหมือนเจ้ากระต่ายที่พุ่งตัวเข้าในบ้านแล้ว
สีหน้าของเหล่าบอดี้การ์ดนั่นเปลี่ยนไปหนักมาก ในใจพลันผุดคำออกมาสองคำ——
ซวยแล้ว
เย้นหว่านมีความคุ้นชินกับบ้านของกงจืออวี เมื่อวิ่งเข้าไปแล้ว ก็มุ่งหน้าไปที่โถงทันที จากนั้นก็วิ่งไปทางห้องนอนหลัก
แต่ว่า เธอรู้สึกแปลกใจมาก เพราะว่าด้านนอกนั้นมีบอดี้การ์ดตั้งมากมายมายืนเวรอยู่ แต่ว่าในห้องโถง ขนาดคนรับใช้ที่ปกติจะอยู่นั้นก็ไม่เห็นแม่แต่เงา
ห้องโถงทั้งห้องนั้นเงียบกริบ มันเวิ้งว้างว่างเปล่าซะเหมือนว่าไม่มีคนอยู่เช่นนั้น
เกิดอะไรขึ้น?
แล้วคนล่ะ?
เย้นหว่านเริ่มรู้สึกไม่สบายใจมาก เธอรีบจ้ำอ้าววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองทันที ตอนที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องของกงจืออวี แต่กลับสังเกตเห็นบางอย่าง บริเวณด้านหน้าประตูห้องรับรองแขกในทิศตรงกันข้ามนั้น กลับมีบอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่ทั้งสองคนยืนเฝ้ายามอยู่
ห้องนี้คนรับใช้สักคนก็ไม่อยู่ ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมประตูหน้าห้องรับแขกถึงมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่สองคนได้เล่า?
มีความน่าสงสัยปกปิดอะไรอยู่!
เย้นหว่านหันไปอีกทางทันที พร้อมทั้งมุ่งหน้าเดินไปทางห้องนั้นทันที
ตอนที่ระยะทางเหลืออีกไม่กี่ก้าว บอดี้การ์ดสองคนนั้นก็สังเกตเห็นเธอทันที
เมื่อเห็นเย้นหว่าน พวกเขาก็ตกใจเล็กน้อยอย่างชัดเจน และยังมีความตื่นตระหนกอยู่บ้าง
หนึ่งในบอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบพูดอย่างเคารพว่า “คุณหนู ดึกขนาดนี้แล้ว คุณมาได้ยังไงครับ? ห้องของคุณท่านอยู่ทางด้านนั้นครับ”
เขาพูด พลางชี้ไปทางด้านหลังของเย้นหว่าน เพื่อเป็นการเตือนเย้นหว่านว่าเดินผิดทาง
เย้นหว่านไม่ได้หยุดเท้าลง จากนั้นก็เดินตรงดิ่งมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
หลังจากประเมินพวกเขาอยู่นั้น พลันถามว่า “พวกนายมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทำไม? ด้านในมีใครอยู่เหรอ?”
สีหน้าของพวกบอดี้การ์ดยิ่งไม่เป็นธรรมชาติ
พวกเขาลังเลเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงกระด้างว่า “เป็นเพียง แขกกิตติมศักดิ์คนหนึ่งของคุณผู้หญิงเท่านั้นครับ”
เพราะว่าแขกกิตติมศักดิ์ ดังนั้นจึงต้องมีการเฝ้ายามเอาไว้
แทบไม่สมเหตุสมผลเลย
เย้นหว่านกลับรู้สึกว่า มีตรงไหนสักอย่างที่ไม่ค่อยถูกต้อง
เธอย่นคิ้ว พลันจ้องประตูห้องอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความครุ่นคิด
พวกบอดี้การ์ดถูกสายตาของเธอมองจนในใจเริ่มไม่เป็นสุขมากขึ้น
พวกเขาอาจจะรู้ชัดเจนอยู่แล้วว่า ข้างในคือใคร และกำลังเกิดอะไรขึ้น
บอดี้การ์ดกล่าวว่า “คุณหนูครับ ดึกแล้ว คุณอย่าเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกเลย ไปหาคุณผู้หญิงเถอะครับ”
คุณผู้หญิงต้องรั้งคุณหนูไว้แน่
เย้นหว่านจ้องมองการ์ดอย่างสงสัย ทำไมถึงรีบไล่เธอไปขนาดนี้เชียว? ไม่อยากให้เธอเห็นขนาดนั้นเชียวว่าข้างเป็นใครกัน?
พวกเขายิ่งหยุด เธอยิ่งไม่อาจจากไป
เย้นหว่านพูดว่า “เปิดประตู ฉันจะเข้าไปดู”
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าที่แสดงออกบนใบหน้าของการ์ดทั้งสองคนก็พังทลายลง
พวกเขากล่าวอย่างลำบากใจว่า “คุณหนูครับ คุณผู้หญิงสั่งการลงมาแล้ว ว่าไม่อาจรบกวนแขกผู้กิตติมศักดิ์ที่พักผ่อนอยู่ด้านใน คุณ…ต้องการจะดูจริงๆแล้ว ต้องไปขออนุญาตจากคุณผู้หญิงก่อนครับ พวกเราถึงจะกล้าปล่อยให้คุณเข้าไป”
ห้องของกงจืออวีอยู่อีกทางหนึ่ง ก็ไม่ไกลนัก ยังไงซะตอนนี้ก็เข้ามาแล้ว ไปหากงจืออวีเพื่อจะถามกับเจ้าตัว ก็คงไม่ใช้เวลาสักเท่าไหร่
เย้นหว่านลังเลเล็กน้อย ก็หมุนตัวเตรียมจะไปหากงจืออวี
“คุณอย่าดึงดันอีกเลย คุณทำอย่างนี้ต่อไป ร่างกายจะรับไม่ไหวเอานะ คุณรักเย้นหว่านขนาดนั้น จะทำใจทิ้งเธอไว้คนเดียวได้ยังไง เพื่อเย้นหว่านคุณจะตายไม่ได้นะ”
ในเวลานี้เอง ในห้องพลันมีเสียงผู้หญิงร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกดังขึ้นมา
เสียงของผู้หญิงแหบแห้ง ลำคอประหนึ่งว่าสึกหรอไปแล้ว
เป็นเสียงของคนแปลกหน้า
ทว่าเนื้อหาที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น กลับตรึงเท้าของเย้นหว่านให้หยุดนิ่ง
ข้างใน เป็นใครกัน?
“คุณยอมรับฉันเถอะนะ ฉันสามารถช่วยคุณได้ เพื่อเย้นหว่านคุณจะตายไม่ได้นะ โห้หลีเฉิน”
โห้หลีเฉิน!
ในสมองของเย้นหว่านราวกับเหมือนถูกทิ้งระเบิดลูกหนึ่ง พลันระเบิดทันที
คนที่อยู่ด้านใน คือโห้หลีเฉิน?
ยังมีผู้หญิงอีกคนที่กำลังขอร้องเขาอยู่?
ที่แท้แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ในสมองของเธอมีเสียงอื้ออึง ร่างกายสั่นเทา ราวกับจะพุ่งกระโจนเข้าไปที่ประตูแบบแทบจะไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ
เหงื่อเย็นผุดอยู่บนหน้าผากของบอดี้การ์ด พลันรีบร้อนที่จะหยุดเย้นหว่านเอาไว้
“คุณหนู คุณเข้าไปไม่ได้ครับ…”
“หลีกไป!”
เย้นหว่านผลักบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหน้าให้ออกไปอย่างแรง จากนั้นก็รีบใช้มืออันสั่นเทาไปเปิดประตูอย่างร้อนใจ
มีเสียง “ขลุกขลัก” แต่กลับไม่สามารถเปิดประตูได้
ประตูนี้ โดนล็อกอยู่
ภายในห้องเย้นหว่านได้ยินเสียงของกลอนประตู เสียงแหบเอ่ยถามอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้น? ใครอยู่ด้านนอก?”