สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 758 ใกล้เข้ามาทุกที
เย้นหว่านดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เกิดความทึ่งกับตรรกะอันแข็งแกร่งของผู้ชายตรงหน้า เหลือเชื่อจนรู้สึกพูดไม่ออก
ร่างสูงใหญ่ของเซอร์ยุนซีเข้าใกล้เย้นหว่าน แต่คราวนี้ยังคงรักษาระยะห่างเล็กน้อย
สายตาเขาจ้องตรงไปที่เธอ พูดเน้นทุกคำทุกประโยคอย่างจริงจัง
“เสี่ยวหว่าน ผมรู้ว่าคุณหัวโบราณ ไม่อยากมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน งั้นผมจะไม่บังคับคุณอีก คุณก็ไม่ต้องทดสอบผมอีกแล้ว ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทำให้ผมประทับใจมากเท่าคุณมาก่อน ผมจะแต่งงานกับคุณแน่นอน”
คำพูดที่ดูเหมือนจะรักใคร่ลึกซึ้ง ทำให้เย้นหว่านยิ่งพูดไม่ออก
เธอไม่ได้ทดสอบว่าเขามุ่งมั่นอยากแต่งงานจริงๆ หรือไม่ เธอแค่อยากให้เขาตัดใจต่างหาก
เย้นหว่านอ่อนใจ ชี้ไปตามทางและพูดว่า
“คุณไปดูพวกเขาปลูกกระบองเพชรเถอะ ฉันจะเดินไปเอง”
เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดซ้ำสองอีก จึงต้องทำอะไรสักอย่าง
เซอร์ยุนซีคิดว่าเย้นหว่านยังติดใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงค่อนข้างกระวนกระวายและไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ได้ดึงดันปฏิเสธข้อเสนอนี้
“ได้ ผมจะมารับคุณทีหลัง”
เซอร์ยุนซีเป็นผู้ชายเปิดเผยตรงไปตรงมา พูดคำไหนคำนั้น หันหลังทันทีและเดินไปตามทาง ไม่นานก็หายไปไม่เห็นแม้เงา
รอบตัวเย้นหว่านเหลือเธอเพียงคนเดียว ในที่สุดเธอถึงได้โล่งใจ
ในใจเต็มไปด้วยความอ่อนใจ
เธอไม่ได้อยากทำร้ายเซอร์ยุนซี แต่คนปัญญาอ่อนที่ไร้สมองนั่นกลับไม่แม้แต่ฟังการปฏิเสธของเธอ
ดูไปแล้วอาจจะต้องรีบตามหาเมล็ดแมกโนเลีย เธอกับโห้หลีเฉินจะได้ออกไปจากที่นี่โดยเร็ว จะได้ให้เขาเลิกคาดหวัง
เมื่อคิดแล้ว เย้นหว่านก็มองตรงไปยังเส้นทางข้างหน้าด้วยสายตาร้อนแรงเผาไหม้
ที่นี่อุณหภูมิค่อนข้างเย็น เป็นไปได้มากว่าเมล็ดแมกโนเลียจะอยู่ในนั้น
เธอต้องไปค้นหาดู
เย้นหว่านไม่ล่าช้าอีก เดินเข้าไปข้างใน ขณะที่เดินก็สังเกตพืชรอบๆ อย่างระมัดระวัง รายละเอียดเล็กน้อยก็ไม่มีพลาด
เมล็ดแมกโนเลียเป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หายาก และมีขนาดเล็กมาก
เย้นหว่านเดินไปข้างหน้าต่อไปเป็นเวลานานจนขาสองข้างปวดมาก แต่พืชที่อยู่ในพื้นที่นี้ ไม่มีร่องรอยของเมล็ดแมกโนเลียเลย
เมล็ดแมกโนเลียปลูกอยู่ที่ไหนกันแน่
ยิ่งค้นหานานเท่าไรเธอก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น กลัวว่าตัวเองจะผิดทิศทางแล้วเสียโอกาสที่ครั้งนี้ได้เข้ามาในสวนพฤกษศาสตร์หลวง
ในตอนที่เย้นหว่านเกือบจะหมดหวัง ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่มข้างหน้า กลับมีประตูเหล็กแข็งแกร่งขนาดใหญ่
ตรงประตูมีกุญแจเข้ารหัสล็อกอยู่ เหนือขึ้นไปมีตาข่ายไฟฟ้าหนาแน่น ล้อมรอบด้วยราวเหล็ก และมีตาข่ายไฟฟ้าล้อมแยกต่างหากเป็นพื้นที่อิสระ
ด้านนอก ยังมีการ์ดสี่คนพร้อมกระสุนจริงอยู่ด้วย
ที่นี่คือสถานที่อะไร ทำไมถึงมีการ์ดคุมเข้มงวดขนาดนี้
มีการเฝ้าระวังสองชั้นในสวนพฤกษศาสตร์หลวง จะต้องเป็นพืชที่มีค่ามากอย่างเช่นเมล็ดแมกโนเลียใช่หรือไม่
เย้นหว่านดวงตาสดใส จิตใจค่อนข้างตื่นเต้น
เธอรีบเดินเข้าไป เพิ่งเข้าไปใกล้ ปืนสีดำสี่กระบอกก็เล็งมาที่ศีรษะของเธอแล้ว
การ์ดตะคอก “พื้นที่หวงห้าม ออกไป”
เพราะสถานะผู้หญิง บวกกับเป็นคนแปลกหน้าของพระราชวัง เมื่อเย้นหว่านมาที่เขตวัง จึงได้รับการปฏิบัติด้วยการเตือนเช่นนี้หลายครั้งแล้ว
จากตอนแรกเริ่มที่กลัวเล็กน้อย ตอนนี้เธอชินแล้ว
เธอเม้มริมฝีปาก เธอหยิบเอาป้ายท่านดยุกออกมาจากอ้อมแขนด้วยสีหน้าเยือกเย็น
การ์ดทั้งสี่เห็นป้ายท่านดยุก ก็เหมือนอย่างที่จินตนาการไว้ สีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลันและเก็บปืนไปอย่างไม่อิดออด
โค้งคำนับเก้าสิบองศา พร้อมกับพูดด้วยความเคารพ
“คุณเย้น”
พูดกันมาหนาหูปากต่อปาก ตอนนี้การ์ดเกือบทุกคนในสำนักราชวังรู้หมดแล้วว่าผู้หญิงที่ถือป้ายท่านดยุกคือเย้นหว่าน
พระชายาในอนาคตของท่านดยุก เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถขัดใจได้
เมื่อเห็นผลที่ต้องการแล้ว ใบหน้าเย้นหว่านจึงแต้มรอยยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับพูดว่า
“ฉันอยากเข้าไปดู เปิดประตู”
ในราชสำนักนี้ ด้วยประกาศิตของป้ายท่านดยุก เธอสามารถเดินทางไปได้แทบทุกที่โดยไร้ซึ่งอุปสรรค
ทว่าครั้งนี้บรรดาการ์ดกลับไม่ขยับในทันที
พวกเขามองเย้นหว่าน พลางพูดอย่างค่อนข้างลำบากใจ
“คุณเย้น ที่นี่คุณไม่สามารถเข้าไปได้ สวนพฤกษศาสตร์หลวงมีพื้นที่กว้างมาก คงจะดีกว่าหากคุณไปเดินเล่นที่อื่น”
ไม่สามารถเข้าไปได้เหรอ
เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่าทางจริงจังขึ้นอีกหน่อย “ทำไมเข้าไม่ได้ ฉันแค่อยากเข้าไปดูเฉยๆ เองนะ”
การ์ดปวดหัว รีบอธิบาย
“เข้าไม่ได้จริงๆ ครับ กุญแจของที่นี่อยู่ในการเก็บรักษาของท่านเสนาฯ พืชที่ปลูกด้านในมีค่ามาก และยังมีคุณค่าทางการแพทย์ด้วย ทั้งหมดล้วนถูกเตรียมไว้ใช้ในอนาคต
แม้ว่าราชวงศ์จะเข้าไปก็ต้องมีการยื่นคำร้อง ต้องได้รับการอนุมัติจากท่านเสนาฯถึงจะสามารถเข้าไปได้”
คุณค่าทางการแพทย์งั้นเหรอ
คำเหล่านี้เป็นเหมือนกับคำใบ้ ทำให้เย้นหว่านยิ่งตื่นเต้น
การ์ดเฝ้าแน่นหนาเช่นนี้ ทั้งยังเป็นพื้นที่เขตเย็นชื้น เมล็ดแมกโนเลียเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าและมูลค่าสูง แน่นอนว่าต้องอยู่ในนั้น
เย้นหว่านจ้องมองประตูด้วยสายตาเปล่งประกายร้อนแรงพร้อมกับถามว่า
“ต้องยื่นคำร้องต่อท่านเสนาฯยังไงถึงจะสามารถเข้าไปได้ ต้องยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่า”
เธอคิดว่าด้วยความสัมพันธ์ของเซอร์ยุนซี หากยื่นคำร้องไป การเข้าไปก็คงจะง่าย
แต่การ์ดกลับยิ่งมีสีหน้าลำบากใจหนักขึ้น
พวกเขาพูดอย่างอ่อนแอว่า
“คุณเย้นครับ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แค่ยื่นคำร้องเฉยๆ จะถูกปฏิเสธ นอกจากราชวงศ์จะป่วยหนักร้ายแรงจนต้องการยาฉุกเฉิน หลังจากหมอหลวงยืนยันแล้ว ถึงจะสามารถเปิดที่นี่ส่งคนเข้าไปเอายาได้ครับ
ถ้าเป็นปกติ แม้ว่าองค์กษัตริย์อยากเข้าไปดู มันก็ไม่ง่าย”
เรียกว่ายื่นคำร้อง แต่มันเท่ากับไม่มี
เย้นหว่านตกใจ ในเวลาปกติแม้แต่กษัตริย์จะเข้าไปก็ไม่ง่ายงั้นเหรอ
เกือบจะเท่ากับว่าสถานที่แห่งนี้แทบจะเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของรัฐบาล
ท่านเสนาฯนั้นมองแวบเดียวก็รู้ว่ามีอำนาจสูง ต้องได้รับความยินยอมจากเขา การได้กุญแจมาเกรงว่าจะยากมาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแอบเข้าไปเอาเมล็ดแมกโนเลีย
เรื่องนี้ เกรงว่าจะเกินมือไปหน่อย
เย้นหว่านขมวดคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง เข้าไปไม่ได้ ได้แต่ต้องกลับไปคิดหาวิธี
เธอมองผ่านประตูเหล็กเข้าไป ต้นไม้เขียวชอุ่มเหมือนป่าดงดิบ พื้นที่ภายในเหมือนจะไร้ขอบเขตไม่มีที่สิ้นสุด
เธอทำหน้าตาสงสัยพลางถามว่า
“ยังอยากเข้าไปดูจริงๆ นะ พวกคุณรู้ไหมว่าข้างในปลูกอะไรเอาไว้บ้าง”
การ์ดเห็นว่าในที่สุดเย้นหว่านก็ล้มเลิกที่จะเข้าไป ก็ถอนหายใจโล่งอก
เมื่อผ่อนคลายลงก็ไม่คิดอะไรมาก จึงตอบอย่างสบายๆ ว่า
“รู้บ้างนิดหน่อยครับ อย่างเช่น หญ้าไผ่น้ำ ผลมะซักภูถี ต้นเก็ดถะหวา …”
การ์ดพูดชื่อเป็นขโยงออกมาเจื้อยแจ้ว
ส่วนใหญ่เย้นหว่านไม่เคยได้ยินมาก่อน มีบ้างที่เคยได้ยิน และทุกชื่อที่เธอรู้จักก็เป็นพันธุ์ที่มูลค่าสูงและเป็นวัสดุทางยาที่ล้ำค่า ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรที่หาได้ยาก
ภายในนี้เป็นขุมทรัพย์ขนาดใหญ่
เย้นหว่านยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีก ฟังการ์ดพูดไปทีละชื่อ คาดหวังจะได้ยินเชื่อเมล็ดแมกโนเลีย