สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 791 โกหก คนโกหก
เย้นหว่านวิ่งเร็วมาก ใช้ความเร็วสุดชีวิตนี้พุ่งไป แค่แป๊บเดียวก็วิ่งไปไกลมากแล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น เธอก็ยังได้ยินเสียงปืนแว่วๆ อยู่ดี
เสียงปืนที่ดังขึ้น ก็เหมือนกับว่าทุบลงมาบนตัวเธอยังไงอย่างงั้น ทำให้เธอแข็งทื่อและเย็นเฉียบไปทั้งตัว
ข้างใน เกิดการปะทะขึ้นแล้วหรอ
กระสุนนั้นมันไม่มีตา โห้หลีเฉินเป็นคนคนหนึ่ง ยังต้องเจ็บหนักขนาดนั้น เขารับมือไหวได้ยังไงกัน
บนหน้าผากของเย้นหว่านนั้นมีเหงื่อออกเป็นชั้นๆ ขึ้นทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้น
โห้หลีเฉินกำลังหลอกเธออยู่!
เขารู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้คำพูดมายื้อซาอินติไว้นานๆ ได้ แล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่รอตั้งชั่วโมงหนึ่ง
เขาแค่ให้เธอไป ให้เธอมีชีวิตรอดก็แค่นั้น……
ร่างกายที่ฟิตเปี๊ยะของเย้นหว่าน กระวนกระวาย จนแทบจะหกล้ม
ต่อมา เธอก็กลัวแล้วก็หันตัวกลับไปในทางที่มาในตอนแรกแล้วก็วิ่งกลับไป ตาแดงจนเหมือนว่าจะฉีกออกได้ยังไงอย่างงั้น
เธอกลัวสุดๆ
กลัวว่ากลับไปแล้ว สิ่งที่เห็นนั้นจะเป็นศพของโห้หลีเฉิน
ถึงจะต้องตาย เธอก็จะต้องตายไปพร้อมเขา เธอตัวคนเดียว แล้วจะอยู่ได้ยังไงล่ะ
โกหก คนโกหก
ต่อไปเธอจะไม่เชื่อเขาอีกแล้ว จะไม่มีทางเชื่อเขาอีกแล้ว
ตลอดทั้งทาง รู้สึกว่าระยะทางนั้นไกลกว่าตอนที่เย้นหว่านเดินออกมากว่าสิบเท่าพันเท่าเลยล่ะ
ทุกนาทีทุกวินาที ราวกับกว่าเธอนั้นต้องข้ามผ่านหลายภพชาติอย่างทุกข์ทรมานยังไงอย่างงั้น
ยิ่งเดินกลับไป เสียงปืนก็ยิ่งดังขึ้น แล้วก็ยิ่งแสบแก้วหูมากขึ้น
เธอน้ำตาคลอจนตามัว จนเธอไม่กล้านึกเลยว่าสถานการณ์ตอนนี้ของโห้หลีเฉินนั้นเป็นยังไงบ้าง
จะทรมานขนาดไหน จะน่ากลัวขนาดไหน
“ปังๆๆ ——”
กระสุนนั้นยิงไปที่ต้นไม้หลายนัดต่อกัน
พวกองครักษ์ที่ล้อมอยู่ก็เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
กระสุนหลายนัดบวกกับระยะห่างแล้ว แม้แต่จะชักปืนโห้หลีเฉินก็ยังทำไม่ได้ แค่เขายื่นมือออกมาข้างหนึ่ง ก็คงจะโดนยิงตายแน่นอน
เขาไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว พิงอยู่ที่ต้นไม้ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
สีหน้าของเขาดูสงบและนิ่งเฉยเป็นพิเศษ จนไม่ได้สนใจอันตรายกับลูกกระสุนที่อยู่ข้างหลังแล้ว สายตามองตรงไปทางที่เย้นหว่านเดินจากไป แล้วก็หันกลับมาอย่างอ่อนโยน
เป็นเขาเองที่ผิดสัญญา
หลังจากที่เย้นหว่านกลับมา ก็คงจะโทษเขา คงจะเสียใจแย่เลย
แต่แค่ครั้งนี้ เขากลัวว่าจะไม่ได้เช็ดน้ำตาให้เธออีกแล้ว
“ปัง——”
กระสุนลูกหนึ่งทะลุผ่านขอบลำต้นมา แล้วก็ตั้งใจยิงตรงฝ่ามือของเขา
ร่างกายของโห้หลีเฉินสั่นไปด้วย เขาค่อยๆ ก้มหน้าลง มองดูแผลใหม่ที่เพิ่มมาบนมือ แต่สีหน้านั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนอะไร
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว คนพวกนั้นก็มากันแล้ว
“ปังปังปัง!”
เสียงปืนที่ดังกระหึ่ม จู่ๆ ก็ดังขึ้นจากอีกทางหนึ่ง
กระสุนแต่ละนัด ยิงมาที่พวกองครักษ์ที่ล้อมอยู่
เสียงดังเปรี้ยงปร้าง แล้วก็ล้มไปกันสองสามคน
โห้หลีเฉินถึงกับไม่มีชีวิตชีวาเลยจริงๆ ในตื่นเต้นกะทันหัน มองหน้าไปทางต้นปืนที่ยิงมา พอเห็นชัดๆ ว่ามีคนมา หน้าของเขาก็ตึงขึ้นทันที
ตะคอกอย่างโมโหว่า “เธอกลับมาทำไม”
ได้ยินเสียงตะโกนของโห้หลีเฉิน ใจของเย้นหว่านที่ห้อยอยู่ตรงคอหอย ในที่สุดก็ร่วงหล่นลงมา
ยังดีที่ เธอมาทันแล้ว
เขายังไม่ตาย
เธอไม่ได้รอช้า เอามือหยิบปืนขึ้นมา ใช้ประโยชน์จากการได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ หันหน้าไปทางกลุ่มคน แล้วยิงปืนออกไปไม่หยุด
ทะลุผ่านต้นไม้ใบหญ้าเสียงดังสนั่น แล้วเธอก็เห็นคนล้มลงบนพื้นทีละคนๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เย้นหว่านฆ่าคน
แต่เธอกลับกลัวจนตัวชาไปหมด เหมือนกับหุ่นยนต์ยิงปืนยังไงอย่างงั้น แล้วก็ยิงต่อเนื่องไม่หยุด
ในหัวของเธอนั้นมีแต่คำว่า ต้องช่วยชีวิตโห้หลีเฉิน ต้องกลับไปอยู่ข้างๆ เขาให้ได้
เธอยิงปืนไปด้วย ขยับเข้าไปใกล้เขาไปด้วย
ทั้งใจจดใจจ่อ ทั้งเร่งรีบอยู่แบบนั้น
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านอย่างงุนงง แววตาดูเปล่งประกาย โมโห แต่ก็หวั่นไหว
ผู้หญิงของเขา ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา
แววตาที่ดูบ้าคลั่งและมึนงงของเธอ ดูแล้วก็ทำให้เขาคับอกคับใจและทรมาน
“มีพวกแอบซุ่มโจมตีอยู่ รีบหนีเร็ว รีบหนีเร็ว”
จู่ๆ ก็มีไฟเกิดขึ้นจนทำให้พวกองครักษ์เกิดความโกลาหล ตะโกนให้ถอยทัพกลับ
แค่ชั่วพริบตาเดียว พวกเขาก็เสียหายอย่างหนักหน่วงไปแล้ว บนพื้นนั้นมีคนล้มลงกระจัดกระจายกันไปหลายคน
ซาอินติยืนอยู่ข้างหลังไกลๆ อยู่ที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด เธอมองดูฉากนี้อย่างเคียดแค้น สีหน้านั้นทั้งโกรธเคืองทั้งเคียดแค้น
นึกไม่ถึงเลย ว่าจะมีการซุ่มโจมตีด้วย
ไฟที่รุกโชนขนาดนี้ ถ้าเธอฝ่าเข้าไป ร่างของเธอคงกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วล่ะ
พอพวกองครักษ์สลายตัวแล้ว แววหน้าที่ตึงเครียดของเย้นหว่านก็ผ่อนคลายขึ้น ขาทั้งสองข้างนั้นอ่อนไปหมด ล้มลงบนพื้นอย่างควบคุมไม่ได้
“ยัยบื้อ”
ชายหนุ่มเป็นห่วงจนดุไปทีหนึ่ง จากนั้น เธอก็ล้มลงไปในอ้อมกอดที่กว้างใหญ่
ที่พุ่งเข้ามาใกล้หน้าก็คือความหอมอันเยือกเย็นที่เธอคุ้นเคย แต่กลับมีกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นและกำจัดไม่ได้อยู่ด้วย
เย้นหว่านเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่หน้าอันตึงเครียดของโห้หลีเฉิน ขมวดคิ้วแน่น แล้วสีหน้าของเขาก็ซีดจนแทบจะโปร่งอยู่แล้ว
เย้นหว่านเริ่มคัดจมูก น้ำตาคลอเบ้าอยู่ตลอด และทันใดนั้นก็เอ่อล้นออกมาทันที
“โห้หลีเฉิน โห้หลีเฉิน……”
เธอสะอึกสะอื้นเรียกชื่อของเขา มือทั้งสองข้างกอดเขาเอาไว้แน่นด้วยความตัวสั่น
ทันใดนั้น ความกลัวแล้วความสยดสยองของเธอที่เก็บเอาไว้นั้น ก็ได้ระเบิดออกมาทั้งหมด
มีแค่ฟ้าที่รู้ว่าตลอดทั้งทางของเธอนั้น กลัวว่าจะกลับมาไม่ทันมากแค่ไหน กลัวที่จะเห็นแค่ศพที่เย็นแข็งมากแค่ไหน
มีแต่ฟ้ารู้ว่าตอนที่เธอยิงปืนฆ่าคน ตอนที่กระสุนนัดนั้นได้คร่าชีวิตของคนไป เธอกลัวขนาดไหน กลัวจนตัวชาไปหมด
ราวกับว่าตาของเธอนั้นโดนย้อมเป็นสีแดงไปหมดแล้ว เหมือนว่าทั้งโลกนี้เป็นสีเลือดของวันสิ้นโลกไปแล้ว
ที่นี่ ก็เหมือนกับนรก
“ฉันอยู่นี่นะ ฉันอยู่นี่”
เธอตะโกนไปทีหนึ่ง แต่เขากลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
เขากอดเธอเอาไว้แน่น ฝ่ามือที่กว้างใหญ่ลูบไปที่หลังของเธอไม่หยุด และปลอบเธออยู่
เขารู้ ว่าเธอตกใจ
เมื่อกี้ที่เธอยิงปืนอย่างแข็งแกร่งจนชาไปทั้งตัวนั้นคือที่สุดของเธอแล้ว
โห้หลีเฉินเจ็บใจ แต่โมโหมากกว่า เขาโดนซาอินติเอาคืนจนได้ หมดหนทางแล้วก็ให้หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่ตัวเองรัก ต้องมาโดนบังคับถึงขั้นนี้
กลัวว่านี่จะกลายเป็นฝันร้ายของเย้นหว่านไปตลอดชีวิต
“โห้หลีเฉิน ฉันไม่อยากไปแล้ว……ฉันไม่อยากแยกกับนาย……ฮือๆ นายอย่าไล่ฉันเลย นายไล่ฉัน ฉันก็จะไม่ไปแล้ว……จะตาย ก็ต้องตายด้วยกัน ให้ตายฉันก็จะไม่แยกกันกับนายแล้ว……”
ใบหน้าของเย้นหว่านซบอยู่บนคอของโห้หลีเฉิน ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ พูดคำเดิมซ้ำๆ หลายๆ รอบ
เธอกลัวมากจริงๆ ระหว่างทางขึ้นมาที่น่าสยดสยองนั้น ทำให้เธอทนไม่ได้มากกว่าการตายซะอีก
โห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านเอาไว้ แววตาสลัว สูดหายใจเข้าลึก
มาถึงตอนนี้แล้ว เขาจะไล่เธอไปอีกได้ยังไง
เขาตบไปที่หลังเธอเบาๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า
“เราไม่ตายหรอก พวกเขาถอยทัพหมดแล้ว ยังมีโอกาสนะ”
โห้หลีเฉินก็ไม่ได้คาดหวัง ในเวลาแบบนี้ เย้นหว่านที่ไม่เคยแม้แต่จะจับปืนมาก่อน ได้ระเบิดพลังความแข็งแกร่งออกมาขนาดนี้
ใช้แรงของคนคนเดียว ทำเอาองครักษ์เป็นหมู่กลัวไปหมด
พวกเขาคิดว่ามีกับดัก งั้นเขาก็สามารถวางแผนอะไรบางอย่างได้แล้ว
ยังมีโอกาสอีกอยู่เหรอ
ราวกับว่าเย้นหว่านได้เห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด เงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน มองโห้หลีเฉินทั้งน้ำตา
ร้องไห้จนสะอึกสะอื้นแล้วพูดว่า “ยังมีโอกาสอยู่อีกเหรอ”
“อื้ม”
โห้หลีเฉินพยักหน้า แล้วก็เอาปืนพกอีกอันวางไว้ในมือของเย้นหว่าน