สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 802 เหมือนกับเม่น
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยสายตาลึกซึ้ง เขากำลังอดกลั้นกับบางอารมณ์
เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เขาจะไม่แก้แค้น เซอร์ยุนซียังนับว่าเป็นคนใจกว้าง”
เรื่องราวนี้ก็เพราะความรักกลายเป็นความเกลียดชัง เขาจึงมั่นใจว่าเซอร์ยุนซีจะทำแบบนั้นไม่ลง
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างตกในภวังค์ คำพูดหนักแน่นของเขาก็เหมือนฝ่ามืออบอุ่นที่คลายความกังวลในใจของเธอให้สงบลง
“เหอะ”
เย้นโม่หลินมองโห้หลีเฉินอย่างเยือกเย็น แล้วกล่าวประชดประชันว่า “คุณวิเคราะห์จิตใจของคนได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนจริง ๆ ช่วงเวลาที่เรามาประเทศเบียนหนาน ก็ต้องพึ่งวิธีหลอกใช้มนุษย์ และให้น้องสาวของฉันน้อยใจไป ก็เพื่อเป้าหมายของคุณสินะ?”
คำพูดนั้นมีนัยนะสำคัญอันระอุดุเดือด
โห้หลีเฉินมองเย้นโม่หลินด้วยดวงตานิ่งเฉย ก่อนจะอธิบายอย่างอดทนว่า
“เหตุการณ์ของซาอินติเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ฉันก็มีภาระหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ฉันก็แค่ทำไปตามน้ำ”
“เป็นการทำตามน้ำที่ดี ถ้าในอนาคตคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็ไม่จำเป็นต้องให้น้องสาวของฉันทำผิด จนเธอต้องตกอยู่ในอันตรายอีกต่อไป”
สีหน้าของเย้นโม่หลินเย็นชา คำพูดของเขายิ่งก้าวร้าวคุกคามมากขึ้น
ราวกับใบมีดคมออกจากฝักที่จะพุ่งเข้าแทงคอของคน
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะพูดออกไป เย้นหว่านก็ก้าวไปข้างหน้ายืนอยู่ตรงหน้าโห้หลีเฉิน แล้วคั่นอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองคน
เธอมองเย้นโม่หลิน ด้วยความโกรธฉุน ก่อนจะพูดว่า
“พี่ห้ามรังแกโห้หลีเฉินนะ ตอนนี้เขาเป็นคนป่วยแล้ว!”
เย้นโม่หลินมองท่าทางของน้องสาวเขา แล้วก็ชะงัก คนป่วยสามารถทำทุกอย่างตามใจโดยไม่ต้องสนใจว่าถูกหรือผิด?
นี่มันจะปกป้องตามใจกันมากเกินไปแล้ว
สีหน้าของเย้นหว่านจริงจังแน่วแน่ “โห้หลีเฉินต้องพักฟื้นดี ๆ ไม่สามารถรับการปลุกเร้าอะไรได้อีกแล้ว พี่ อย่าพูดอะไรต่ออีกเลย”
เย้นโม่หลิน “…”
พี่ชายก็ทำเพื่อปกป้องน้องสาวผู้โง่เขลาอย่างคุณ
เขาถอนหายใจ “เฮ้อ น้องสาวที่แต่งงานก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป”
ท่าทีโกรธเคืองของเย้นหว่านเปลี่ยนไปในทันที ดวงตาของเธอเย็นชาส่งประกายวาววับราวคริสทัลมองดูเย้นโม่หลิน
“พี่ คุณเห็นด้วยที่ฉันกับโห้หลีเฉินแต่งงานแล้วเหรอ? อย่างนั้นฉันกับเขาจะจดทะเบียนสมรส จัดงานแต่งงานเดี๋ยวนี้เลย”
“ฝันไปเถอะ”
กำปั้นของเย้นโม่หลินก็เขกลงบนหัวของเย้นหว่าน “กำหนดการไม่เปลี่ยนแปลง หากยังไม่หายาทั้งหมดพบจนกลายเป็นคนสุขภาพแข็งแรงดีได้ พวกคุณก็อย่าคิดเรื่องแต่งงาน”
“อีกอย่้าง” สายตาเยือกเย็นของเย้นโม่หลินเหลือบมองร่างของโห้หลีเฉิน “เมื่อคุณกินเมล็ดแมกโนเลียไปทำให้สรรพคุณของยาถูกระงับไว้บางส่วนแล้ว พวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันทั้งวัน ไม่มีข้อผูกมัดสามวันแล้ว พวกคุณควรทำอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นล่ะ”
เมื่อเย้นโม่หลินพูดถึงเรื่องนี้ อารมณ์ของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนหน้านี้เขาถูกบังคับจากบาปของแม่ตัวเอง รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตของโห้หลีเฉิน จึงจำใจยอมให้เย้นหว่านและโห้หลีเฉินทำอะไร ๆ กันในทุก ๆ สามวัน
จนทำให้โห้หลีเฉินเอาเปรียบเย้นหว่านก่อนที่จะแต่งงานกัน
ตอนนี้โห้หลีเฉินกินยาแล้ว สรรพคุณของยาก็ถูกระงับ เงื่อนไขชั้นต่ำแบบนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
เย้นหว่านชะงักไปครู่หนึ่ง แก้มของเธอก็แดงก่ำทีแล้วพลันซีดขาวที
แดงก่ำเพราะความเขินอาย ซีดขาวเพราะความพ่ายแพ้
เธอไม่รู้ว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่ที่ตัวเองกับโห้หลีเฉินสนิทสนมกันโดยไม่รู้ตัว เธอชอบที่จะเห็นเขาเป็นคนแรกในทุกเช้าที่ตื่นนอน เพียงเอื้อมมือออกไปก็สามารถสัมผัสความอบอุ่นของเขาได้
ความสุขอันหวานล้ำนั้นก็เปรียบเหมือนคู่รักหนุ่มสาวที่จะอยู่เคียงคู่กันไปตลอดชีวิต
แต่ตามคำพูดของเย้นโม่หลิน พวกเขาจะไม่สามารถนอนร่วมเตียงกันในเวลากลางคืนอีกแล้ว นี่เป็นการบังคับให้เธอกับโห้หลีเฉินต้องแยกจากใช่ไหม?
กว่าเธอจะเปิดเผยตัวตนกับโห้หลีเฉินเพื่อที่จะสามารถนอนร่วมห้องกันได้อย่างไร้เจตนาซ่อนเร้น
เย้นหว่านกะพริบตา แล้วพูดว่า “ตอนนี้โห้หลีเฉินบาดเจ็บสาหัส จนไม่สามารถทำอะไรได้ ฉันก็แค่ดูแลเขาเท่านั้น”
เธอตั้งใจไม่ผ่านหลบหลีกด้วยการโกหก
แต่เธอกลับไม่คิดว่าเย้นโม่หลินจริงจังมุ่งมั่นกับเรื่องนี้มาก และยังเฉียบแหลมเฉียบคม ก่อนจะพูดตรง ๆ ว่า “ดูแลตอนกลางวัน ต่างคนต่างนอนตอนกลางคืน”
เย้นหว่าน “…”
เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ !
เธอโต้กลับว่า “ตอนนี้โห้หลีเฉินป่วยหนักมากขนาดนี้ ถ้าเขามีอาการเจ็บปวดตรงไหนตอนกลางคืน ถ้าฉันไม่อยู่ข้างตัวเขา เขาจะทำอย่างไร ฉันไม่สบายใจ ฉันอยากดูแลเขา”
น้ำเสียงของเย้นโม่หลินทำให้ไม่อาจขัดขืนได้ “ป่ายฉีจะดูแลเขาในเวลากลางคืน”
ป่ายฉี “…” ใบหน้าของเขากลับมีเครื่องหมายคำถามสีดำ ทำไมเขาถึงถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องได้?
ตอนกลางคืนจะให้เขาต้องนอนหลับเพื่อรักษาความงามไหมล่ะ แล้วเคยถามความคิดเห็นของเขาหรือยัง?
เย้นหว่านเผชิญหน้ากับพี่ชายผู้มุ่งมั่นแน่วแน่ของเธอ ก็นิ่งงันด้วยไม่สามารถหาคำพูดอะไรตอบกลับมาได้
เธอคิดไม่ตกว่าทำไมเย้นโม่หลินที่เติบโตมาจากต่างประเทศในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ไม่นึกเลยว่าเขาจะยังหัวโบราณขนาดนี้
น่าเสียดายที่เธอจะไม่ได้เจอโห้หลีเฉินในเวลากลางคืนอีก?
ก่อนทั้งสองจะแยกจากกัน เธอก็คิดถึงเขาแล้ว
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านผู้น่ารักที่มีท่าทีอึดอัด เขาเม้มปาก แล้วเอื้อมมือออกถูผมของเธอ
เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “วันเวลาในอนาคตของเรายังอีกยาวนาน”
ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในหลายวันมานี้
เมื่อเย้นหว่านได้ยินคำพูดนั้น แก้มของเธอก็แดงเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้ และหัวใจของเธอก็เต้นแรงราวกับลูกกวางที่กระโดดโลดแล่นไปมา
วันเวลาในอนาคตหลังการแต่งงานจะคงอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย
ตอนนี้โห้หลีเฉินได้กินเมล็ดแมกโนเลียแล้ว จากจุดเริ่มต้นที่ไร้หนทางไม่รู้ว่าจะหายาอย่างไร มีเพียงความไม่แน่นอนและความสับสนอันแสนลำบาก จนถึงตอนนี้ก็มีความมั่นใจมากอย่างชัดเจน
เมื่อเขาเจออย่างที่หนึ่ง ก็ต้องเจออย่างที่สอง และอย่างที่สามแน่นอน
สามปีหลังจากนั้น โห้หลีเฉินจะต้องมีชีวิตอย่างดี แต่งงานกับเธอ เลี้ยงลูกกับเธอ และสร้างครอบครัวที่มีความสุขกันสามคนพ่อแม่ลูก
อนาคตที่สวยงามจนทำให้ใจเต้นโลด
เซอร์ยุนซีเดินอย่างเด็ดเดี่ยวและโซเซ จนมุ่งออกนอกประตูไป
แต่บาดแผลบนหน้าอกของเขาฉีกขาด จนเลือดจำนวนมากแผ่ซ่านออกมา สีหน้าของเขาซีดเซียวลง และเหงื่อเย็นยะเยือกร่วงหล่นบนหน้าผากของเขา
แต่ทว่าเขากลับเดินไปข้างหน้าอย่างดึงดัน ย่างก้าวของเขาส่ายไปส่ายมาราวกับถึงระดับสุดทน เมื่อเขาเดินลงบันได ร่างกายของเขาก็เสียการทรงตัว แล้วล้มลงในทันที
“เหอะ”
ริมฝีปากของเซอร์ยุนซีขยับ เขาช่างไร้ความสามารถจริง ๆ
เขาถูกหลอกจนหัวหมุนไม่ว่า แต่ตอนนี้แม้แต่เดินถนนยังล้มลงจนน่าอับอาย
“ท่านดยุก!”
เสียงกังวลใจของหญิงสาวดังขึ้น ฉู่ฉู่รีบวิ่งเข้าตรงหน้าเขา แล้วกอดเขาแน่น
ร่างเล็กนุ่มนิ่มของเธอต้องใช้เรี่ยวแรงมาก จึงจะปกป้องร่างกายของเขาให้มั่นคง
แต่เพียงครู่หนึ่ง หน้าผากของฉู่ฉู่ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เธอกัดฟันพลางกอดเขา ถึงจะประคองเขาได้
หากแต่เธอไม่สนใจ แล้วมองเซอร์ยุนซีอย่างเป็นห่วง “ท่านดยุก คุณเป็นอย่างไร? คุณได้กระทบกระเทือนหรือเปล่า?”
เซอร์ยุนซีมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็พลันฉายแววประชดประชันเย็นชามากขึ้น ความโมโหโกรธาฟุ้งไปทั่วศีรษะ แล้วเขาก็ผลักฉู่ฉู่ออกไป
เขาเยาะเย้ยว่า “คุณทำอะไร คุณสนุกกับความลำบากของฉันไหม คุณก็มาดูเรื่องน่าตลกของฉันด้วยใช่ไหม”
เซอร์ยุนซีเป็นเหมือนเม่นพองขนที่ทั้งร่างปกคลุมไปด้วยหนามแหลมทิ่มแทงทำร้ายคน