สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 84 ที่เขาพูดมา มันจริงแต่แรกแล้ว
บทที่ 84 ที่เขาพูดมา มันจริงแต่แรกแล้ว
มองเห็นสายตาที่คาดหวังของเธอแล้ว เขาไม่อยากจะตอบเธอเลยสักนิด
ตอนนี้ “ตู้ดๆๆ” เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ โห้หลีเฉินเมินเย้นหว่านแบบนี้แล้วก็รับโทรศัพท์
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินนั้นขรึมเป็นปกติ “มีเรื่องอะไร”
ทางปลายสายมีเสียงทที่กระวนกระวายของคนรับดูแลบ้าน
“คุณผู้ชายครับ คุณนายหญิงเกิดเรื่องแล้วครับ คุณพาคุณเย้นกลับมาด้วยสิครับ คุณท่านยังเรีบกหาแต่คุณเย้นด้วยครับ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เราจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้”
พอวางสายแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วก็พูดแบบไม่ให้ปฏิเสธได้
“ไปที่คฤหาสน์ตระกูลโห้กับผมหน่อย”
มองเห็นระหว่างคิ้วของโห้หลีเฉินมีความร้อนรนแฝงอยู่ เย้นหว่านเลยรู้สึกเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นหรอคะ คุณโห้หลีเฉิน”
“คุณย่าไม่สบายน่ะ”
พูดแล้ว โห้หลีเฉินก็ก้าวเท้ายาวแล้วก็เดินออกไปข้างนอก
นึกถึงคุณย่าที่ใจดีและเมตตาแล้ว ในใจของเย้นหว่านรู้สึกกังวล เลยรีบเดินตามโห้หลีเฉินไป
คฤหาสน์ตระกูลโห้
เย้นหว่านตามโห้หลีเฉินไป เป็นครั้งที่สองที่เข้ามาในห้องของคุณนายท่าน
ตอนนี้ ในห้องก็ล้อมไปด้วยหลายคน พากันมุงดูคนแก่ที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง
เฝิงเสวียนหลันกำลังยืนอยู่ใกล้เตียงสุด พอเห็นเย้นหว่านมา ก็หลบสายตาแล้วสายตาก็หมองลงทันที
จากนั้น เขาก็รู้ตัวแล้วก็ถอยออกมา เพื่อหลีกทางให้
โห้หลีเฉินพาเย้นหว่านเดินไปข้างเตียง เขาค่อยๆ โน้มตัวลง มองดูจูเหลียนอีง หว่างคิ้วนั้นเห็นได้ถึงความเป็นห่วง
“คุณย่าครับ เป็นยังไงบ้างครับ”
ได้ยืนเสียงของโห้หลีเฉินแล้ว จูเหลียนอีงรีบกระตุกตา ดูลำบากมากกว่าจะลืมตาได้
เธอมองดูโห้หลีเฉินด้วยสายตาที่เศร้าหมอง แล้วก็มองไปหาเย้นหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา แล้วก็พูดอย่างไม่มีแรงว่า “ไม่เป็นไรหรอก”
พูดแล้ว เธอก็มองไปที่เย้นหว่านแล้วก็ยื่นมือออกไปอย่างสั่นๆ
“เสี่ยวเย้น……”
พูดด้วยความอ่อนแอ ท่าทางที่ดูอ่อนแรง ทำให้คนที่ดูแล้วนั้นรู้เลยว่าอาการของจูเหลียนอีงนั้นไม่ดีเลย ทำอะไรก็ลำบากไปหมด
เย้นหว่านรีบก้าวไปข้างหน้า จับมือของจูเหลียนอีง
“คุณย่า”
สายตาของจูเหลียนอีงจ้องมองตรงไปที่เย้นหว่าน เต็มไปด้วยความเมตตาและเอ็นดู
มืออีกข้างของเธอค่อยๆ ดึงสร้อยหยกที่คอลงมา แล้วก็วางไปในมือของเธออย่างแน่วแน่
“เย้นหว่าน อันนี้ย่าให้หนูนะ”
หยกที่เย็นๆ เข้ามาอยู่ในมือ ด้านบนนั้นแกะสลักเป็นรูปดอกได้ที่สวยจนไม่มีอะไรเทียบได้ สีเขียวขจี เป็นหยกที่ดีและหายากมากเลยทีเดียว
มันล้ำค่ามาก
คุณย่าจูเหลียนอีงให้เขาแบบนี้เลยหรอ เย้นหว่านรู้สึกกดดัน
“คุณแม่ นี่เป็นหยกเก่าแก่ของบรรพบุรุษเราเลยนะคะ แล้วก็มีแค่คุณนายหญิงของบ้านเท่านั้นที่ควรได้ครอบครอง เป็นคนที่คุมทุกอย่างในคฤหาสน์ตระกูลโห้ เย้นหว่านยังไม่ได้แต่งเข้ามาในบ้านเราเลย โห้หลีเฉินก็ยังไม่ได้สืบทอดอย่างเป็นทางการ แล้วจะให้เธอตอนนี้ได้ยังไงล่ะคะ”
เฝิงเสวียนหลันเอ่ยปากโต้แย้ง สายตาที่มองดูเย้นหว่านนั้น ยากที่จะปกปิดความรู้สึกในใจเอาไว้
ถ้าเกิดเย้นหว่านได้หยกนี้ไปล่ะก็ โห้หลีเฉินก็จะมีอำนาจในบ้านนี้อย่างเต็มตัว แล้วลูกชายของเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย
เย้นหว่านอึ้งไป เธอรู้แค่ว่าหยดนี้นั้นแพงมาก แต่ไม่คิดว่าจะมีค่ามากมายขนาดนี้
เป็นตัวแทนของความเป็นคุณนายหญิงที่มีอำนาจในคฤหาสน์ตระกูลโห้
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่าหยกก้อนนี้หนักเหมือนภูเขาขึ้นมาทันที แล้วก็รีบเอ่ยปากพูดว่า “คุณย่าคะ หนูรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
เฝิงเสวียนหลันจ้องมองจูเหลียนอีงด้วยความไม่พอใจ แล้วก็ยังคงจับมือของเย้นหว่านไว้เหมือนเดิม แล้วก็เอาหยกนั้นไว้ในมือเธอ
“ร่างกายของย่าตอนนี้แย่ไปทุกๆ วัน ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน หนูเป็นคนที่ย่าเลือกให้เป็นหลานสะใภ้คนเดียวของบ้าน ไม่ว่ายังไงคุณนายหญิงของคฤหาสน์ตระกูลโห้ก็คือหนู ย่าก็แค่ให้หยกก้อนนี้กับหนูไว้ก่อน เพื่อถึงวันนั้นจะได้ไม่……”
นิ่งไปสักพัก น้ำเสียงของจูเหลียนอีงเศร้าลง “เผื่อวันไหนที่ฉันจากไปแบบกะทันหัน ไม่ได้มีโอกาสเอาหยดให้เธอกับมือ ย่าก็คงจะเสียใจไปตลอดชีวิตเลยล่ะ”
เสียงของคนแก่นั้นฟังดูเศร้าจนใจอ่อน ทำใจปฏิเสธไม่ได้
ในใจของเย้นหว่านนั้นวุ่นวายไปหมด ค่าของหยกที่อยู่ในมือนั้น เขายอมรับไว้ไม่ได้จริงๆ
เดี๋ยวเธอกับโห้หลีเฉินก็ต้องถอนหมั้นกันแล้ว……
เย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยความว้าวุ่นใจนั้น หวังว่าเขาจะให้ความช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น คนส่วนใหญ่พากันอึ้งบ้าง ไม่พอใจไม่ยอมบ้าง โห้หลีเฉินนั้นเป็นคนที่เฉยชาที่สุด ใบหน้าที่ดูหล่อเหลานั้นไม่ได้มีอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เสียงของเขาก็หนักแน่นและเฉยชา “รับไว้เถอะ”
คำธรรมดาสามคำ แต่ตัดสินใจไปได้หลายเรื่องเลยล่ะ
ทุกคนต่างพากันมองมาที่เย้นหว่านด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ได้หยกจากคุณนายท่านที่สืบทอดให้ ได้ความเห็นด้วยจากโห้หลีเฉิน เรื่องที่เย้นหว่านจะแต่งเข้ามาในบ้านนั้นก็คงไม่มีอะไรให้ต้องใจจดใจจ่อแล้วล่ะ
แค่รอวันที่คุณนายท่านจากไป เธอที่ยังสาวอยู่ ก็จะกลายเป็นคุณนายของตระกูลโห้
เฝิงเสวียนหลันกัดฟันเต็มทน แล้วก็เอ่ยปากด้วยความไม่พอใจว่า :
“ถ้าเย้นหว่านแต่งเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลโห้แล้วล่ะก็ เราจะไม่ว่าอะไรเกี่ยวกับหยกก้อนนี้ แต่เธอเป็นแค่ว่าที่เจ้าสาวของโห้หลีเฉิน อีกอย่างก็ยังไม่ได้มีเวลากำหนดเลยด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า สุดท้ายจะได้แต่งเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลโห้รึเปล่า
แล้วก็เอาหยกของตระกูลสืบทอดให้เขา มันไม่รีบร้อนเกินไปหน่อยหรอคะ”
คนที่ยืนอยู่รอบๆ ดูเหมือนเห็นด้วยแล้วก็พากันพยักหน้า
ในตอนนี้โห้หลีเฉินถึงได้เงยหน้าขึ้น มองดูเฝิงเสวียนหลันด้วยความเวทนาและสายนั้นก็เย็นชามากเลยล่ะ
น้ำเสียงของเขาดูเฉยชา “คุณป้าใหญ่กำลังจะแช่งให้ผมกับเย้นหว่านไม่ได้แต่งงานกันอยู่หรอครับ”
เฝิงเสวียนหลันสัมผัสได้ถึงความเสียวสันหลัง ในใจเขานั้นรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
หลายปีมานี้ โห้หลีเฉินยิ่งออกลายขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางดูก้าวร้าวห้าวหาญ ได้สร้างศึกนองเลือดในทางธุรกิจไว้ แล้วอารมณ์ของเขาก็ยิ่งหยิ่งผยอง ทำให้คนเกรงกลัว ไม่กล้าหือกล้าอือ
หน้าของเธอขาวซีด แล้วก็อธิบายว่า “ป้าไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”
“ถ้างั้นก็อย่าพูดคำที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดขึ้นมาอีก”
โห้หลีเฉินเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา รอบตัวเขากำลังแผ่รังสีอันตรายออกไปอยู่
โดนคนที่อายุน้อยกว่าสอนแบบนี้แล้ว หน้าของเฝิงเสวียนหลันหมองทันที รู้สึกอับอาย แต่อยู่ต่อหน้าโห้หลีเฉินแบบนี้ เธอไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเอ่ยปากเถียง
ผู้หญิงคนนี้ ดูแข็งแรงและอันตรายมาก
ตอนนี้ที่ต้องฟาดฟันกับเขา กลับต้องอดทนเอาไว้
โห้หลีเฉินไม่ได้สนใจเฝิงเสวียนหลันอีก หันหน้ามองไปทางจูเหลียนอีง แล้วความเย็นชาบนหน้าก็หายไปไม่น้อย
เสียงของเขาไม่สูงไม่ต่ำ แต่ก็หนักแน่นจนแย้งไม่ได้
“คุณย่าวางใจเถอะครับ ยังไงผมก็จะแต่งงานกับเย้นหว่าน”
นี่ดูเหมือนคำสาบานที่ทำให้ใจของเย้นหว่านนั้นสั่นไปหมด
เธอมองดูสายตาที่จริงจังของเขา จนรู้สึกได้ทันทีว่าที่เขาพูดนั้นคือเรื่องจริง
น่าจะเป็นเพราะเขาแสดงได้ดีไปหน่อยน่ะ
จูเหลียนอีงพยักหน้าด้วยความพอใจ มือที่ผอมแห้งกำมือของเย้นหว่านแน่น สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
“เสี่ยวเย้นคือหลานสะใภ้ที่ฉันเลือกเองแล้วฉันก็ยอมรับแค่หนูมาเป็นหลานสะใภ้ของฉัน เย้นหว่าน ย่าจะรอวันที่หนูแต่งงานเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลโห้นะ”
มองดูหน้าตาที่รอคอยของคนแก่แล้ว เย้นหว่านถึงกับไปไม่เป็น อ้าปากด้วยความอึ้งจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ในใจนั้นมีแต่ความรู้สึกที่รู้สึกผิด
ถ้าเธอถอนหมั้นกับโห้หลีเฉินล่ะก็ คุณย่าจะโกรธหรือเสียใจขนาดไหนกันนะ