สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 848 มันดูฝืนไม่น้อย
เขาปฏิเสธไปโดยที่ไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อย“ช่วงบ่ายผมไม่มีเวลาว่างเลย ไปไม่ได้”
ถ้าเขากล้าไปซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนกู้จื่อเฟย เดินซื้อของกันสองคน จะต้องไม่ชีวิตกลับมาแน่นอน
กู้หรงพอเห็นท่าทางที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวของป่ายฉี ก็รู้สึกว่าน่าปวดหัว ถ้าเขาไม่ทำความสนิทสนมเพิ่มความสัมพันธ์กับกู้จื่อเฟยให้มากกว่านี้อีกล่ะก็ แฟนของตัวเองก็จะกลายเป็นของคนอื่นไปแน่ๆ
กู้หรงพูดโน้มน้าวอย่างจริงจังและหนักแน่น
“อาชีพการงานสำคัญ แต่การแบ่งเวลามาอยู่กับคนข้างกาย สำคัญยิ่งกว่า ตอนบ่ายไม่มีเวลาไม่เป็นไร ตอนค่ำไม่ก็พรุ่งนี้ มะรืน ก็หาเวลาออกไปก็ได้”
ความหมายนี้ จะเป็นจะตายยังก็จะให้ป่ายฉีไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนกับกู้จื่อเฟยให้ได้
ป่ายฉีสีหน้าไม่ดีแล้ว หน้าเริ่มเขียว แววตาสั่นไม่นิ่ง
เจตนาที่กู้หรงจะยัดเยียดกู้จื่อเฟยให้กับเขามันชัดเจนเกินไป มันปกปิดไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ยิ่งเป็นแบบนี้ บรรยากาศก็ยิ่งหนาวเหน็บยิ่งขึ้น ป่ายฉีก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ จะช้าจะเร็วก็ต้องเสียชีวิตอยู่ดี
เขาต้องคิดหาวิธีที่เด็ดขาด จัดการเรื่องเรื่องนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ!
ป่ายฉีครุ่นคิดหาวิธีการ ก่อนจะพูดขึ้น
“ฝู้เหวยข่ายจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ช่วงหลายวันมานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ผมเจียดเวลาว่างไม่ได้จริงๆ เอาแบบนี้ไหม ให้เสี่ยวหว่านกับกู้จื่อเฟยไปซื้อเสื้อผ้าด้วยกันแทนไหม ผู้หญิงเดินซื้อของ ก็น่าจะเข้าขาคุยกันถูกคอมากกว่า จะได้เที่ยวสนุกด้วย”
พูดพลาง ป่ายฉีก็ขยิบตาไปหาเย้นหว่าน“เสี่ยวหว่าน คุณบอกว่าหมกตัวอยู่แต่ในบ้านมันอุดอู้น่าเบื่อ อยากจะออกไปเดินเที่ยวซื้อของไม่ใช่หรือไง?”
เธอบอกแบบนั้นกับป่ายฉีตั้งแต่เมื่อไรกัน? ช่างหลอกลวงจริงๆ
แต่เย้นหว่านกลับไม่ได้พูดแฉป่ายฉี พยักหน้ายิ้มๆ
“ก็ดีเหมือนกันนะ จื่อเฟย ตอนบ่ายพวกเราไปเดินเที่ยวซื้อของที่ห้างด้วยกันสิ ฉันเห็นkissออกสินค้าใหม่ด้วย สวยมากๆเลยล่ะ ไปลองกันสักหน่อยนะ”
กู้จื่อเฟยไม่อยากไปเดินเล่นซื้อของกับป่ายฉี จึงรีบพยักหน้าตอบรับทันที
“ได้สิ พวกเราไปด้วยกัน”
หญิงสาวทั้งสองคนพูดคุยกันไปมา วางแผนโปรแกรมในช่วงบ่าย
ความตั้งใจของกู้หรงพังทลายลง รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
ทำได้แค่มองจ้องป่ายฉีที่พลาดโอกาสไปแล้วอีกครั้ง
แม้ว่าจะหาข้ออ้างมารับมือ แต่เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยทั้งสองคน ก็ออกไปเดินซื้อของกันจริงๆ
เดินเที่ยวซื้อของ ก็คือเรื่องที่พวกผู้หญิงชอบมากที่สุด
ตั้งแต่เห็นเรื่องหายาเริ่มคืบหน้าขึ้น จิตใจของเย้นหว่าก็ดีขึ้นไม่น้อย มีความหวังในทุกๆวัน ก็เลยมีกะจิตกะใจเดินเล่นซื้อของเป็นธรรมดา
พูดๆดูแล้ว ตั้งแต่ที่จากเมืองหนานมา เธอก็ใช้ชีวิตด้วยความวุ่นวายไม่สงบอยู่ตลอด ไม่มีเวลามาเดินเล่นซื้อของเลย
“จื่อเฟย จู่ๆฉันก็คิดถึงความรู้สึกที่เดินเล่นซื้อของสบายๆแบบนี้ขึ้นมา”
“แล้วก็ยิ่งคิดถึงความรู้สึกที่มีฉันอยู่ด้วยใช่ไหม?”
กู้จื่อเฟยจูงเย้นหว่านเดินไปพร้อมกับหัวเราะเหอะๆ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างมีความสุข
อารมณ์ของเธอถือว่าไม่เลวเลย
ออกมาก็จะไม่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเย้นโม่หลินแล้ว เธอก็จะได้ไม่ต้องเผลอไปสังเกตการณ์มีอยู่ของเขาเป็นระยะๆอีกแล้วด้วยเหมือนกัน
อารมณ์ของเธอ รู้สึกสบายขึ้นมาอย่างแทบไม่เคยมีมาก่อน
ทั้งสองคนอารมณ์ดีมาก เดินไปยังห้างสรรพสินค้าพลางพูดคุยยิ้มแย้มกัน ซื้อเสื้อผ้ามาเป็นหอบเป็นกอง
ตอนที่เดินผ่านร้านเสื้อผู้ชาย ฝีเท้าของเย้นหว่านก็หยุดลงอย่างช่วยไม่ได้ ถูกเสื้อผ้าชุดหนึ่งในร้านดึงดูดสายตาเข้าแล้ว
กู้จื่อเฟยมองเธอ ก่อนจะจูงเธอเข้าไปข้างในร้านเสื้อผู้ชายทันที
เย้นหว่านมองเธอด้วยความตกใจ พูดถามขึ้นด้วยความสงสัย
“จื่อเฟย คุณกำลังทำอะไร? ที่นี่เป็นร้านเสื้อผ้าผู้ชายนะ”
“ถึงเป็นร้านเสื้อผ้าผู้ชายก็ต้องเข้าไปดูๆเหมือนกัน ซื้อกลับไปให้โห้หลีเฉินของคุณสักชุดสิ”
เย้นหว่านอึ้งตะลึงไป แก้มเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เธอแค่มองดูเล่นๆเท่านั้น กลับถูกกู้จื่อเฟยจับความคิดที่อยู่ในใจของเธอได้ คำว่า“ของคุณ”คนนั้น มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีความสุขแล้วก็รู้สึกอึดอัดมากๆ
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธเจตนาที่ดีของกู้จื่อเฟย เย้นหว่านเดินตามเธอเข้าไปในร้านเสื้อผ้าผู้ชาย
พนักงานคนนั้นต้อนรับอย่างกระตือรือร้น“ยินดีต้อนรับ คุณผู้หญิงทั้งสองท่านค่ะ มาเลือกเสื้อผ้าให้คุณสามีเหรอคะ?”
คำว่าสามีดังก้องไปมาอยู่ภายในใจ เย้นหว่านส่ายหัวด้วยใบหน้าที่แดงทันที
“แฟนค่ะ”
พนักงานยิ้มๆอย่างเข้าใจ ผายมือออกไปอีกทางหนึ่งอย่างมีมารยาท
“เชิญทางนี้ค่ะ มาดูสินค้าทางนี้สักหน่อยว่ามีชิ้นไหนที่เหมาะกับแฟนของคุณไหม”
เป็นครั้งแรกที่เย้นหว่านออกมาซื้อเสื้อผ้าข้างนอกให้กับโห้หลีเฉิน ความกระตือรือร้นแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกต้านทานไม่ได้อยู่เล็กน้อย
กู้จื่อเฟยชำเลืองตามองท่าทางเขินอายของเย้นหว่าน อดไม่ได้ที่จะพูดแซวออกมา
“ที่คุณมองตาค้างอยู่เมื่อตะกี้ ไม่ใช่ชุดนั้นหรือไง? พวกเราไปดูกันสักหน่อยสิว่าเหมาะไหม”
เย้นหว่านถูกกู้จื่อเฟยลากไป จนมาถึงตรงด้านหน้าของหุ่นที่อยู่ตรงกลาง
ชุดสูทสีดำเข้มที่สวมอยู่บนหุ่น เป็นสีดำสะอาด เนื้อสัมผัสดีเยี่ยม เส้นลายดูเรียบ ให้ความรู้สึกดูสูงส่งน่าเกรงขามนิดๆ
เหมาะกับสไตล์ของโห้หลีเฉินมากๆ
เย้นหว่านแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิด พูดขึ้น
“ตัวนี้แล้วกัน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของพนักงานสดใสขึ้นมาทันที ชุดนี้เป็นสมบัติของร้านของพวกเขา ราคาแพงมากอย่างไร้เหตุผล
คิดไม่ถึงว่าจะขายออกไปทั้งอย่างนี้
เธอพูดขึ้นอย่างทันที“คุณผู้หญิงคะ ไม่ทราบว่าต้องการไซส์อะไรคะ? นี่เป็นสินค้าจำนวนจำกัด ไซส์อื่นพวกเราไม่มีแล้วค่ะ”
มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
เหมาะสมกับโห้หลีเฉินพอดี
เย้นหว่านบอกไปหนึ่งไซส์พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
กู้จื่อเฟยยิ้มหยอกล้อ“โอ้ จำได้แม่นขนาดนี้เลยเหรอ? ดูไม่เหมือนกับซื้อเสื้อครั้งแรกเลย เหมือนกับลูบไล้ทุกวันจนจำได้ขึ้นใจแล้วเลยนะ”
เย้นหว่านอึ้งตะลึงไป แก้มแดงทันที
กู้จื่อเฟยนี่จริงๆเลย ไม่ทันตั้งตัวก็แจกวาร์ปมาแล้ว
เย่นหว่านผลักเธอด้วยความเขินอาย พูดเถียง
“คุณมีแฟนก็รู้นี่ ไม่ต้องให้ฉัน……”
ยังไม่ทันพูดจบ เย้นหว่านก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เสียงหยุดชะงักไปทันที
ปัญหาทางความรู้สึกของกู้จื่อเฟย เพิ่งจะผ่านความเจ็บปวดทางใจที่หนักหนาขนาดนั้นจากเย้นโม่หลินมา……
ถ้าเกิดพูดถึงแฟน ก็เท่ากับว่ากำลังพูดถึงเย้นโม่หลินอยู่ไม่ใช่หรือไง?
เป็นอย่างที่คิดไว้ กู้จื่อเฟยที่กำลังหัวเราะคิกคักเมื่อตะกี้ สีหน้าท่าทีนิ่งชะงักลงทันที
เย้นหว่านแทบจะดึงลิ้นของตัวเองออกมา พูดไม่คิดจริงๆ เธอรีบตบปากตัวเอง กู้คำพูดทันที
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่าคิดเยอะนะ”
กู้จื่อเฟยแววตาสั่นไม่นิ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง
พูดขึ้นอย่างไม่แยแสไม่สนใจ“คิดอะไรกันล่ะ? ฉันไม่ใช่คนที่ล้อเล่นไม่ได้สักหน่อย”
นิ่งไปสักพัก เธอก็พูดขึ้นมาต่อ“อีกอย่าง ฉันปล่อยวางเย้นโม่หลินไปตั้งนานแล้วด้วย ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรสักนิดแล้ว มองเขาเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างปกติเลย”
เธอพูดอย่างสดใสร่าเริงไม่สนใจอะไร
แต่ข้างหลังกำมือไว้แน่น เผยให้เห็นถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ
เคยใช้ชีวิตอยู่เพื่อดิ้นรนไล่ตาม ตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่จินตนาการความเพ้อฝันแล้ว มีเพียงแค่ความสิ้นหวังที่ดำมืดเท่านั้น
เธอกับเย้นโม่หลินถูกลิขิตมาเหมือนกับเส้นคู่ขนานสองเส้นที่ไม่มีวันได้มาบรรจบกัน หรือไม่ก็ไม้กางเขนที่ยิ่งอยู่ยิ่งออกห่างขึ้นเรื่อย
เย้นหว่านมองกู้จื่อเฟยด้วยสายตานิ่งขรึม มองเป็นแค่เพื่อนจริงๆเหรอ?
แต่เธอกลับดูออก ว่ารอยยิ้มของกู้จื่อเฟย มันดูฝืนไม่น้อย