สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 849 การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
“เอาล่ะ ไปเช็คบิลกันเถอะ เสื้อตัวนี้ราคาแพงอยู่นะ ตอนนี้คุณเย้นกำลังมั่งคั่งร่ำรวย ก็เลยจับจ่ายใช้เงินอย่างใจกว้างหรูหราสุดๆ”
หันหน้าไปมอง กู้จื่อเฟยก็ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขอีกครั้ง
ราวกับว่าเรื่องเมื่อตะกี้ แค่ตาลายเห็นภาพหลอนเท่านั้น
เย้นหว่านก็ไม่ได้พูดอะไร เดินตามพนักงานไปที่เคาน์เตอร์เช็คบิลทันที
ในเวลานี้เอง พวกเขากลับเจอกับคนคนหนึ่งโดยบังเอิญ
ฝู้เหวยข่ายนั่นเอง
เขาพาผู้หญิงสาวสวยอายุน้อยคนหนึ่งมาด้วย กำลังจะเดินไปเลือกเสื้อผ้ากันอีกที่หนึ่ง พนักงานสองคนที่เดินตามหลังเขา ในมือถือเสื้อผ้าเต็มไปหมด
ดูจากรูปแบบเสื้อผ้าแล้ว น่าจะเป็นเสื้อผ้าของชายวัยกลางคน
เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยยังไม่ทันได้มองอย่างละเอียด ฝู้เหวยข่ายก็สังเกตเห็นพวกเขาเข้าพอดี สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
สายตาของฝู้เหวยข่ายกวาดมามองที่เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟย สุดท้ายก็มองเสื้อผ้าที่พนักงานกอดอยู่ในมือ
ก่อนจะยกมุมปากขึ้นอย่างขี้เล่นทันที น้ำเสียงดังก้องไม่มีการยับยั้งเลยสักนิด พูดเยาะเย้ยขึ้นมา
“คุณเย้น ตอนนี้ยังมีกะจิตกะใจซื้อเสื้อผ้าอีกเหรอครับ? ตระกูลโห้เผชิญกับปัญหาความทุกข์ยากเต็มไปหมด ไม่แน่ว่าอาจจะล้มละลายปิดตัวลงก็ได้ คุณซื้อเสื้อผ้าที่แพงขนาดนี้ มันเหมาะสมแล้วเหรอ?”
คำพูดที่พูดออกมาเหน็บแนมทิ่มแทงจิตใจ
เย้นหว่านขมวดคิ้ว ความรู้สึกไม่ดีที่มีต่อฝู้เหวยข่ายตั้งแต่คืนนั้น เปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่รังเกียจสุดๆ
ตอนที่ไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กัน ท่าทีการแสดงออกของเขาสุภาพบุรุษและอ่อนโยนมาก แต่พอตัดความสัมพันธ์แล้ว ก็กลายเป็นคนชั้นต่ำแบบนี้ไปในทันที
มันทำให้คนรู้สึกขยะแขยงจริงๆ
เย้นหว่านมองเขาอย่างเย็นชา“เหมาะไม่เหมาะมันก็ขึ้นอยู่กับฉัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”
พูดพลาง เย้นหว่านก็ยื่นบัตรให้กับพนักงานไปรูดบัตรทันที
พนักงานหยิบบัตรมาอย่างยิ้มๆ กำลังจะรูดบัตร
ฝู้เหวยข่ายก็ก้าวเท้าเดินเข้ามา พูดเสียงดัง
“ตอนที่รูดบัตรดูให้ดีๆล่ะ ว่าเงินพอหรือเปล่า ถึงยังไงตระกูลโห้ก็ใกล้จะพังทลายลงแล้ว คุณก็จะไม่มีเงินให้ใช้แล้ว”
เย้นหว่านแทบอยากจะอุดหูด้วยความหงุดหงิดรำคาญ
ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจเหมือนกับแมลงวันจริงๆ
แต่พอคิดถึงว่าตอนนี้พวกโห้หลีเฉินกำลังคิดวางกับดักล่อให้ฝู้เหวยข่าย ถลำตัวเข้ามาติดอยู่นั้น แล้วตอนนี้เธอก็มาเจอเข้ากับฝู้เหวยข่ายพอดีอีก นี่ถือเป็นโอกาสที่จะได้ใส่ฟืนเพิ่มไฟลงไปซะเลย
เย้นหว่านเก็บความขยะแขยงเอาไว้ในใจ ก่อนจะพูดกับฝู้เหวยข่าย
“ตอนนี้มันก็ยังไม่ได้พังทลายลงสักหน่อย”
เย้นหว่านยิ้มอย่างเยาะเย้ย“คุณลงมือลงทุนเล่นใหญ่ซะขนาดนี้ แต่ทำได้แค่ปั่นป่วนโห้ถิงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ตอนนี้ตระกูลโห้ไม่ได้พังทลายลง แล้วก็จะไม่มีวันพังทลายลงด้วยฝู้เหวยข่ายคุณก็ทำได้แค่นี้เท่านั้นแหละ”
คำพูดคำจาที่ดูถูกดูแคลน แต่ละคำแต่ละประโยคเหมือนกับเข็มที่ทิ่มแทงเข้ามาถึงจุดอ่อนที่อยู่ในใจของฝู้เหวยข่าย
ช่วงหลายวันมานี้เป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นมามากพออยู่แล้ว ความโกรธสุมเต็มทรวง
เงินของเขาเรียกได้ว่ามีเยอะมากถึงขนาดที่ว่าคนทั่วไปคิดไม่ถึง แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ เขาควักเงินออกมาจนหมดแล้ว กลับไม่สามารถยุบทำลายโห้ถิงลงภายในเวลาอันสั้นได้สักที
แม้ว่าเขาจะปั่นป่วนก่อความวุ่นวาย ดูแล้วอันตรายมากก็จริง แต่กลับยังคงยืนหยัดอยู่ได้
ขอเวลาให้เขาได้ตั้งตัวก่อนสักหน่อย เขากล้ารับประกันเลยว่า โห้หลีเฉินจะต้องกู้โห้ถิงกลับมาให้เจริญรุ่งเรืองใหม่อีกครั้งได้แน่ๆ
ถ้าเป็นแบบนี้ เงินที่เขายัดเข้าไป ก็จะเสียเปล่าไปทันที
“แค่ตอนนี้ยังไม่ได้ล้มลงเท่านั้นโห้ถิง ยืนหยัดอยู่ต่อไปไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์แน่นอน!”
ฝู้เหวยข่ายกัดฟันพูดขึ้น ท่าทางมั่นใจสุดๆ
เย้นหว่านหรี่ตาลง ฝู้เหวยข่ายเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน? หรือว่าเขาเตรียมแผนการอื่นไว้แล้ว?
ฝู้เหวยข่ายกัดฟัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย
นิ้วมือชี้ไปที่กู้จื่อเฟย พร้อมกับพูดขึ้น
“แล้วก็คุณ ถ้าโห้ถิงล้มลงแล้ว ต่อไปผมก็จะทำให้ตระกูลของคุณล้มละลาย กู้จื่อเฟย ถึงตอนนั้นคุณจะไม่เหลืออะไรเลย จะดูซิว่าคุณจะขอร้องอ้อนวอนผมไหม”
ทุ่มเงินทั้งหมดเพื่อผู้หญิงคนเดียว เพื่อความโกรธแค้นในใจ
กู้จื่อเฟยสองมือกอดอก ยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ฝันไปหรือเปล่า”
ฝู้เหวยข่ายก้าวมาข้างหน้าสองก้าว รูปร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าของกู้จื่อเฟย ความได้เปรียบจากความสูง ทำให้รู้สึกถึงการข่มเหงที่รุนแรง
เขาพูดขึ้นอย่างนิ่งขรึม
“คุณจะต้องขอร้องอ้อนวอนผม กู้จื่อเฟย โห้ถิงใกล้จะล้มลงแล้ว ต่อไปก็จะเป็นตระกูลกู้ ถ้าคุณไม่อยากสูญเสียทุกอย่าง ถูกคนกลั่นแกล้งดูถูก ตอนนี้ก็คุกเข่าลงขอร้องอ้อนวอนผมซะ ผมยังมีความเมตตาให้คุณมาเป็นคนรักของผมได้อยู่”
“ถุ้ย!”
กู้จื่อเฟยขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ เตะเข้าไปที่ขาของฝู้เหวยข่าย
ฝู้เหวยข่ายถูกเตะโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ความเจ็บปวดที่ขา ทำให้เขากอดขากระโดดถอยหลังไปหลายก้าว
รังสีความทะนงที่อยู่รอบตัว สลายหายไปไม่น้อย
เขาโกรธสุดๆ พูดด่าทอออกมา
“กู้จื่อเฟย คุณนี่ไม่รู้ถูกไม่รู้ผิดเลยสินะ ให้หน้าแล้วก็ไม่เอา!คุณคอยดูผมไว้เถอะ คุณ แล้วก็เย้นหว่าน หลังจากนี้ผมจะฆ่าพวกคุณสองคนให้ตายซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยคอยดูเถอะ”
คำพูดที่โหดร้าย ราวกับว่ากำลังสบประมาทอยู่
กู้จื่อเฟยพูดอย่างเย้ยหยัน“แค่วิธีการที่โง่เขลาที่สุดโดยการใช้เงินมาโจมตีเนี่ยนะ? กะอิแค่เงินผิดกฎหมายเล็กๆน้อยแค่นั้นก็นึกว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตในโลกแล้ว? ในเมื่อมีเงินมีความสามารถ คุณก็อวดรวยให้ถึงที่สุดให้ฉันดูหน่อยสิ แค่ทำให้โห้ถิงสั่นคลอนแค่นั้น มันมีความสามารถตรงไหน? เป็นการแก้แค้นของเด็กน้อยที่กำลังเล่นกันอยู่หรือไง? คุณนี่ช่างน่าดูถูกจริงๆ”
ความรังเกียจดูถูกนั้น ก็เหมือนกับเข็มพิษที่ทิ่มแทงเข้ามาที่ผิวหนังของเขา
ทำให้ฝู้เหวยข่ายรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาทำให้โห้ถิงสั่นคลอนถึงขนาดที่เกือบจะล้มลงมาแล้ว การที่ทำได้ถึงระดับนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนในเมืองหนานต่างก็พากันเคารพและหวั่นเกรงเขา เริ่มมาประจบประแจงทำดีกับเขาแล้ว
แต่กู้จื่อเฟยกลับรังเกียจเขา ดูถูกดูแคลนเขาอย่างเปิดเผยแบบนี้
เยี่ยม เยี่ยมมาก
“กู้จื่อเฟย จำคำพูดในตอนนี้ของคุณไว้ให้ดี!ผ่านไปไม่กี่วัน ผมจะทำให้คุณได้เห็น ว่าอะไรเรียกว่าผู้ชาย อะไรเรียกว่าความสามารถ!”
เขามองไปยังเย้นหว่านด้วยสายตาชั่วร้าย ทุกคำทุกประโยค ล้วนแต่เป็นการกล่าวเตือน
“กลับไปบอกผู้ชายของคุณซะ ให้เขาเตรียมตัวให้ดี ตอนนี้การต่อต้านทุกอย่างมันไร้ประโยชน์แล้ว ผมจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ไปให้กับเขาเร็วๆนี้ ให้เขาได้จบสิ้นไปทั้งแบบนั้น”
แววตาของเย้นหว่านแฝงไปด้วยความดำมืด นี่เป็นคำพูดที่เธออยากได้ยิน
ดูท่าแล้ว ในที่สุดฝู้เหวยข่ายก็กลวงจนไม่เหลืออะไรแล้ว อดทนไม่ไหวอีกต่อไป เริ่มเคลื่อนไหวสักที
ส่วนความเสียหายที่เขาคิดเอาเองนั้น จริงๆแล้วเป็นโอกาสที่โห้หลีเฉินรอคอยมาโดยตลอด
จับหางของเขาไว้ ฝู้เหวยข่ายก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะทำตัวยโสโอหังได้อีก
เย้นหว่านยกไหล่ จงใจตีความเจตนาของเขาผิด“ของขวัญอะไร? เงินของคุณใกล้จะใช้หมดแล้ว แล้วยังไง จะแอบฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งระเบิดมาอย่างนั้นเหรอ?”
ฝู้เหวยข่ายสีหน้ายิ่งดูแย่ลงกว่าเดิม
โกรธจนไฟสุมทรวงไปหมด
เขาอยากจะให้ถึงสองสามวันหลังจากนี้แทบใจจะขาด ทำให้โห้ถิงพังทลายลงตบหน้าของพวกเธอซะ ให้พวกเธอคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องอ้อนวอนเขาให้ปล่อยไป
“เหอะ ยิ้มไปเถอะ คุณยิ้มได้แค่สองวันนี้เท่านั้นแหละ ใช้ชีวิตให้ดีๆก็แล้วกัน”
ฝู้เหวยข่ายกัดฟันพูดเยาะเย้ย ก่อนจะโยนบัตรหนึ่งใบไปที่เคาน์เตอร์บริการ
“เช็คบิลให้หมด แล้วเอาไปส่งที่บ้านของฉัน”
พูดจบ เขาก็ไม่เอาบัตร หันตัวเดินจากไปทันที
ขืนอยู่ที่นี่ต่อไป เขาจะต้องโกรธจนบ้าแน่ๆ ไม่แน่ว่าอาจจะบีบคอพวกเธอตายตรงนี้เลยก็ได้
แต่เขายังต้องอดทนเอาไว้
สองวันนี้ เขาจะทำพลาดไม่ได้ เขาต้องทำลายอาณาจักรของโห้หลีเฉินในห้างสรรพสินค้า บดขยี้ตระกูลกู้ แล้วค่อยยึดครอบครองกู้จื่อเฟยมาเป็นของตัวเองเยี่ยงราชา