สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 879 ไม่เป็นวิทยาศาสตร์
ป่ายฉีอึ้งตะลึง ตอนนี้เพิ่งจะได้สังเกตเห็นว่าที่หน้าของกู้จื่อเฟยมีขอบตาดำวงใหญ่ๆอยู่จริงๆด้วย
เขายกมุมปาก ยิ้มออกมา”ฮ่าๆ กู้จื่อเฟย คุณกำลังแต่งเป็นหมีแพนด้าอยู่หรือไง?”
กู้จื่อเฟยจ้องเขม็งเขาด้วยความโมโห กัดฟันอย่างแรง
ปากเสียจริงๆ
กู้หรง”……”
หมอนี่มันคิดไม่ได้หรือไม่มีสมองกัน ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ กล้ามาพูดหยอกล้อลูกสาวต่อหน้าพ่อของเธอ
แทบอยากจะห่อป่ายฉีเอาไปโยนทิ้งข้างนอกซะเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ
สูดหายใจเข้าลึกๆ ทน ทนไว้ ถึงยังไงป่ายฉีก็เป็นแฟนหนุ่มเพียงคนเดียวที่กู้จื่อเฟยคบอย่างจริงจังแถมยังพามาที่บ้านในช่วงหลายปีมานี้อีกด้วย เพื่อที่จะให้ลูกสาวได้แต่งงานสักที เพื่อความสุขของชีวิตแต่งงานของลูกสาว เพื่อให้ลูกสาวไม่อยู่ลำพังจนแก่
กู้หรงตบๆลงไปที่ไหล่ของป่ายฉี พูดขึ้นอย่างอดทนอดกลั้น
“ป่ายฉี เวลาคบกันต้องใส่ใจกัน แม้จะไม่ถึงขั้นควบคุมบงการอีกฝ่าย แต่ก็ต้องใส่ใจดูแลอีกฝ่ายตลอดเวลาสิ ไม่อย่างนั้น สิ่งล่อตาล่อใจมากมายขนาดนั้น ไม่รู้ว่าแฟนสาวอาจจะหนีไปเมื่อไรก็ได้”
ป่านฉีมุมปากกระตุก อึ้งตะลึงไปกับท่าทางที่พูดเกลี้ยกล่อมอย่างไม่หยุดไม่หย่อนของกู้หรง
เรื่องแฟนอะไรแบบนี้ มันเกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย
กู้หรงถอนหายใจ”ฉันก็เป็นพ่อแม่ที่เปิดกว้าง ไม่ห้ามปรามความรักอิสระของพวกหนุ่มสาวแบบพวกนายหรอก เรื่องของนายกับจื่อเฟย ฉันรู้ตั้งนานแล้ว พวกนายก็ควรจะสารภาพได้แล้ว รีบคุยเรื่องงานแต่งงานกันสักที”
พอคำพูดนี้ออกมา ในตอนนี้ทั้งห้องอาหารก็เงียบกริบไม่มีเสียงเลยแม้แต่น้อย
เย้นหว่านที่กำลังกินข้าวอยู่ก็หยุดลงทันที มองเย้นโม่หลินด้วยสายตาสั่นไม่นิ่งบวกกับความเห็นอกเห็นใจ
นี่เพิ่งจะยืนยันความสัมพันธ์กับกู้จื่อเฟย ก็ถูกพ่อตาในอนาคตเข้าใจผิดซะแล้ว ไม่รู้ว่าในตอนนี้เขาจะรู้สึกแย่มากขนาดไหน
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว รังสีรอบตัวจู่ๆก็เปลี่ยนไปเป็นน่าหวาดกลัวน่าเกรงขามไม่น้อย ดูโหดเหี้ยมอำมหิต
เป็นอย่างที่คิดไว้ ป่ายฉีไม่ควรจะปล่อยไว้
ป่ายฉีตัวสั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ รู้สึกถึงจิตสังหารที่มาจากฟากฟ้า
เขาเกร็งไปทั้งตัว อยากจะชี้แจงความสัมพันธ์กับกู้จื่อเฟยให้กระจ่างแจ้ง
ในเวลานี้ กู้จื่อเฟยกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน
“พ่อ พ่อเข้าใจผิดแล้ว หนูกับป่ายฉีไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น แฟนของหนูคือเย้นโม่หลิน”
คำพูดที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง ดังก้องไปทั่วห้องอาหาร
ผู้คนต่างพาประหลาดใจ เงียบกริบลงอีกครั้ง
เย้นหว่านมองกู้จื่อเฟยด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะยอมรับความสัมพันธ์กับเย้นโม่หลินอย่างตรงไปตรงมาในเวลาแบบนี้
นี่กะจะรวบรวมความกล้าเพื่อเผชิญไปข้างหน้าแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ป่ายฉีที่มีมีดจ่ออยู่ที่คอก็ถอนหายใจออกมาจนได้ ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องแบกรับไว้อีกแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขสักที
เย้นโม่หลินสายตาเป็นประกายเล็กน้อย มองกู้จื่อเฟยด้วยความประหลาดใจ แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ทุกคนตรงนั้นนอกจากโห้หลีเฉินที่นิ่งสงบแล้ว กู้หรงก็เป็นคนเดียวที่ท่าทีตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เขาตกตะลึง อึ้งไปแล้ว
ว่าไงนะ?
นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
เขาตบโต๊ะพูดขึ้น”จื่อเฟย ถึงลูกจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ของลูกกับป่ายฉีในตอนนี้ พ่อก็จะไม่บังคับ แต่ลูกจะใช้คำโกหกแบบนี้มาหลอกลวงพ่อไม่ได้”
กู้จื่อเฟยมองพ่อของตัวเอง ไม่เข้าใจปฏิกิริยาที่ตื่นตัวของเขาอยู่ไม่น้อย
ว่ากันตามหลักแล้วป่ายฉีกับเย้นโม่หลินก็รู้จักกันทั้งนั้น ถึงตอนแรกเขาจะนึกว่าเป็นป่ายฉี แต่ตอนนี้อธิบายอย่างชัดเจนแล้ว ก็ควรจะยอมรับเย้นโม่หลินด้วยความยินดีสิถึงจะถูก
ยิ่งไปกว่านั้น เย้นโม่หลินก็ยอดเยี่ยม เพอร์เฟกต์ยิ่งกว่าป่ายฉีตั้งหลายเท่า
กู้จื่อเฟยมองกู้หรง พูดขึ้นอย่างจริงจัง
“พ่อ หนูพูดความจริง หนูกับป่ายฉีเป็นแค่เพื่อนกันตั้งแต่แรกแล้ว เย้นโม่หลินต่างหากที่เป็นคนที่หนูชอบตั้งแต่ตอนแรก”
เย้นโม่หลินเม้มปาก ลุกขึ้นยืน พูดกับกู้หรงอย่างจริงจัง
“คุณอากู้ คุณวางใจได้เลยครับ ผมจะปฏิบัติกับจื่อเฟยอย่างดีเลย จะไม่ทำให้เธอโดนเอาเปรียบใดๆทั้งนั้น”
กู้หรงมองทั้งสองคน จู่ๆก็รู้สึกว่าความโกรธพุ่งขึ้นมาสุมในอก ทำให้เขา ทำให้เขาโมโหเกรี้ยวกราดสุดๆ
แสดงว่า กู้จื่อเฟยอยู่กับเย้นโม่หลินจริงๆ
เขาพูดถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ”เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? ในคืนวันนั้น พ่อเห็นชัดแจ๋วว่าลูกกับป่ายฉีทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกันตรงทางเดิน”
แค่ประโยคเดียวก็ทำให้เกิดการตอบสนองที่รุนแรง
กู้จื่อเฟยสะดุ้งอย่างแรงทันที หันไปมองเย้นโม่หลินด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะพูดหักล้างอย่างกระวนกระวาย
“พ่อ!พ่อพูดแบบนี้ได้ยังไง? หนูกับป่ายฉีไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก่อน”
ในความทรงจำ เธอถึงขนาดที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับป่ายฉีเลยสักครั้ง เพราะว่าเรื่องที่ทำอุปกรณ์พัง ป่ายฉีก็เอาแต่คิดแผนการฆ่าเธอมาโดยตลอด
ใช่แล้ว อุปกรณ์
กู้จื่อเฟยคิดอะไรขึ้นมาได้ พูดถามกู้หรง
“พ่อ พ่อบอกว่าเห็นหนูกับป่ายฉีใกล้ชิดสนิทสนมกัน หรือว่าในคืนที่พวกเขาเพิ่งจะมาคืนนั้น หนูกับป่ายฉีเดินพูดคุยอยู่ตรงทางเดิน พ่อเห็นเหรอ?”
ยิ่งคิด กู้จื่อเฟยก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นแบบนี้แน่ๆ
นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่เธอกับป่ายฉีอยู่ด้วยกัน แต่หลังจากวันนั้น กู้หรงก็เอาแต่พูดมีนัย จะจับคู่เธอกับป่ายฉีอยู่ตลอดเวลา
กู้หรงสีหน้าเข้มงวด”ใช่ พ่อเห็นกับตาว่าพวกลูกยืนกอดจูบกันอย่างสนิทสนม”
เขาไม่มีทางมองผิดไปแน่ๆ
เสียงดัง”แกร๊ก” เกาอี้ที่เย้นโม่หลินนั่งอยู่ ที่วางแขนหักไปเรียบร้อยแล้ว
ป่ายฉีสั่นสะดุ้งไปทั้งตัว รีบพูดอธิบาย”เข้าใจผิด!เข้าใจผิดแน่นอน!ในคืนนั้นเพื่อที่จะคิดค่าเสียหายให้เธอชดใช้อุปกรณ์ให้กับผม พวกก็เลยยืนใกล้กัน เนื่องจากปัญหาจากมุมที่มอง ก็เลยดูเหมือนว่าพวกเรากำลังกอดกำลังจูบกันอยู่ แบบนี้แน่นอน!พี่ใหญ่ ผมสาบานได้ ผมรู้ว่ากู้จื่อเฟยเป็นผู้หญิงที่คุณชอบ ผมไม่เคยแตะต้องแม้แต่เสื้อผ้าของเธอเลยด้วยซ้ำ!”
ป่ายฉียกนิ้วสาบาน ท่าทางแบบนั้นเรียกได้ว่าจริงใจสุดๆ
ส่วนกู้หรงก็รู้สึกสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง
ท่าทางของป่ายฉีก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่า กู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินต่างหากที่เป็นคู่รักกัน
เขาเข้าใจผิดตั้งแต่แรก ยังจะจับคู่มั่วซั่วอีก
มันช่าง……
สร้างบาปจริงๆ
กู้หรงทั้งหดหู่ทั้งโมโห พูดถามกู้จื่อเฟย
“พวกลูกคบกันตั้งแต่ตอนไหน?”
กู้จื่อเฟยตอบกลับไปตรงๆ”สามวันก่อน”
กู้หรง”……”
มันช่างเป็นความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากแล้วจริง ๆ
เขาลุกขึ้นยืนทันที จูงกู้จื่อเฟยออกไปข้างนอกด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด
กู้จื่อเฟยถูกบังคับให้วิ่งตามไป พูดตะโกนออกมาด้วยความหดหู่”พ่อ พ่อจะทำอะไร? ยังกำลังกินข้าวเช้าอยู่เลยนะ!”
“กิน? กินอะไรอีก? พ่อไม่ได้เข้ามาจัดการดูแลลูกจริงๆจังๆ ทำให้ลูกจัดการกับเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเองไม่ได้”
กู้หรงด่าทอออกมาด้วยความโมโห โกรธอย่างจริงๆจังๆ
เย้นโม่หลินมองไปยังทางที่พวกเขาจากไปด้วยสายตานิ่งๆ ในใจรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
เย้นหว่านมองไปยังทางที่พวกเขาจากไปด้วยความตกใจ แล้วหันมามองสำรวจเย้นโม่หลิน
“พี่ พี่มีไปยุแหย่อะไรคุณอากู้ตอนไหนหรือเปล่า?”
เย้นโม่หลินส่ายหัว”ไม่มี”
ช่วงนี้ไม่มีการทะเลาะอะไรเลย ถึงขนาดที่เมื่อตะกี้ก็ยังพูดคุยกับเขาอย่างมีมารยาทด้วยซ้ำ
เย้นหว่านก็ยิ่งตกใจขึ้นไปอีก”ถ้าอย่างนั้นเกิดอะไรขึ้น? ดูแล้ว คุณอากู้เหมือนจะต่อต้านที่พี่กับกู้จื่อเฟยคบกันแล้วล่ะ”
เย้นโม่หลินสีหน้ายิ่งดูแย่ขึ้นไปไม่น้อย
เหมือนกับว่าในโลกของเขา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพ่อของภรรยาในอนาคตที่เขาเลือกไว้ จะไม่ถูกชะตากับเขา
นี่มันช่างไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลยจริงๆ