สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 882 รักกัน
“ขอแค่เป็นเรื่องที่ฉันทำได้ ฉันก็สัญญากับเขาได้ทั้งนั้น ไม่ว่าเขาจะขออะไร ฉันก็จะทำให้เขาพอใจและยอมรับให้ฉันกับเธออยู่ด้วยกันให้ได้”
คำพูดของเย้นโม่หลิน เอ่ยอย่างจริงจังเป็นพิเศษ
กู้จื่อเฟยมองเขาอย่างเลื่อนลอย หัวใจเต้นรัวแทบหลอมละลาย
การตัดสินใจของเธอยิ่งแน่วแน่ขึ้นไปอีก
ผู้ชายแบบนี้ควรค่าให้เธอยืนหยัดจนถึงที่สุด และมั่นใจว่าเขาจะคงเส้นคงว่า
การได้อยู่กับเขา เป็นสิ่งที่เธอใช้ความโชคดีในชีวิตนี้แลกกับมันมา เธอไม่ปล่อยไปหรอก
กู้จื่อเฟยยิ้มพลางเดินเข้าไปหาเย้นโม่หลิน ยืนตรงหน้าเขาด้วยระยะห่างครึ่งก้าวแล้วหยุดลง
ด้วยความสูงที่ต่างกัน เธอจึงต้องเงยหน้าถึงจะสบตากับเขาได้
การเข้ามาใกล้อย่างกะทันหันทำให้ร่างของเย้นโม่หลินเกร็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขามองกู้จื่อเฟยด้วยสายตาวูบไหว
กู้จื่อเฟยมองไปที่เขา บนใบหน้าประดับรอยยิ้มแต่กลับพูดด้วยความจริงจังอย่างมาก
“เรื่องที่คุณต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้มันก็มีนะ”
เย้นโม่หลินเม้มปาก “เรื่องอะไร?”
กู้จื่อเฟยพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “รักกันกับฉัน”
เย้นโม่หลิน “…..”
เขาไม่รู้จะพูดอะไรขึ้นมาทันใด แต่หัวใจกลับเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ราวกับถูกไฟดูด
กู้จื่อเฟยมองท่าทางตื่นตะลึงนั้นของเขาก็อารมณ์ดีขึ้นมา เธอถึงกับแอบเห็นใบหูที่แดงเรื่อของเขาอีกด้วย
เขาคือหนุ่มน้อยแบบยอมโดนเต๊าะจริงๆ ด้วยสินะ
ในเมื่อเป็นอย่างนั้น เธอก็ยิ่งรู้มากขึ้นว่าจะทำยังไงทั้งยังมีประสบการณ์ จะได้ทำได้อย่างคล่องมือ
เธอขยับไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย เขย่งเท้าและโอบสองมือไว้รอบคอของเขา
ร่างเล็กของเธอเข้าไปใกล้ ริมฝีปากขมุบขมิบน้ำเสียงแผ่วเบายั่วยวน
“พี่เย้น เพื่อจะรักกันกับฉันให้เร็วที่สุด คุณต้องทำสิ่งหนึ่ง โอเคไหม?”
เย้นโม่หลินตกตะลึง ทั้งตัวแข็งเป็นท่อนไม้ทันที
หลังจากความแตกหักครั้งนั้นที่ชายทะเล เธอก็ไม่เคยเรียกเขาว่าพี่เย้นอีกเลยและรู้สึกแปลกแยกอยู่เสมอ
ตอนนี้ได้ยินคำเรียกนั้นอีกครั้ง เย้นโม่หลินมองเด็กสาวที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ตรงหน้า ราวกับว่าเขาได้กลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
เธอที่บ้าๆ บอๆ และมีชีวิตชีวา
แต่เธอที่เป็นแบบนั้น ทำให้เขาชอบมันจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างปฏิเสธไม่ได้
เย้นโม่หลินแววตาลึกซึ้ง เขาเอ่ยเสียงทุ้ม
“บอกมาสิ”
กู้จื่อเฟยกอดเขาอยู่ หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
หาได้ยากที่เธอจะรุกเขาขนาดนี้ แล้วยึดอยู่กับตัวเขาแบบนี้ ส่วนเขาก็ไม่ได้มีทีท่าจะปฏิเสธด้วยซ้ำ ปล่อยให้เธอทำทุกอย่างที่เธอต้องการ
ความกล้าของกู้จื่อเฟยอดไม่ได้ที่จะเพิ่มมากขึ้น เธอเอ่ยเสียงแผ่ว
“ฉันต้องการคุณ….”
ร่างกายของเย้นโม่หลินพลันสั่นสะท้าน แววตาของเขาพร่ามัวราวกับมีไฟลุก
เขาไม่คาดคิดว่าเธอจะขออะไรแบบนี้ ช่างใจกล้าจริงๆ
แต่เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธแม้แต่น้อย
เย้นโม่หลินกำลังเอื้อมมือจะไปโอบเอวของกู้จื่อเฟย ก็กลับได้ยินประโยคถัดมาของเธอ “ไปเดินเล่นกับฉัน”
เย้นโม่หลิน “…..”
การกระทำนั้นหยุดกะทันหัน ถึงกับรู้สึกอับอายและผิดหวังขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอพูดให้จบทีเดียวเลยไม่ได้รึไง?
แต่เขาตอบเธอไปอย่างไม่ลังเล “ได้สิ”
กู้จื่อเฟยไม่รู้เลยว่าการพูดจาเว้นวรรคคลุมเครือของเธอทำให้ใครบางคนล้มครืนไปแล้ว เธอมองท่าทางของเย้นโม่หลินแล้วก็อดรู้สึกภูมิใจในตัวเองขึ้นมาไม่ได้
ดูเหมือนเขาจะหลงเธอจริงๆ สินะ
คำขอเล็กๆ น่าเบื่ออย่างการเดินเล่น คุณชายเย้นจะต้องตกลงอย่างง่ายๆ อยู่แล้ว
กู้จื่อเฟยมองเขาพลางยิ้มร่า เธอก้าวถอยหลังแล้วยื่นมือเล็กออกมา
เย้นโม่หลินมองเธออย่างงุนงง เขาถาม “ทำไมเหรอ?”
“จับมือไง”
รอยยิ้มในดวงตาของกู้จื่อเฟยราวกับดาวตก “ระหว่างคู่รัก การจับมือกันจะแสดงให้เห็นว่ารักกันจริง”
รักกันจริง?
สำหรับคำคำนั้นเย้นโม่หลินรู้สึกว่ามันไม่เหมาะจะใช้กับเขาและกู้จื่อเฟยเลย
แต่เธอชอบ งั้นก็แล้วแต่เธอ
เย้นโม่หลินไม่พูดอะไร แต่กลับเอื้อมมือใหญ่ออกไปกุมมือเล็กของกู้จื่อเฟยเอาไว้
ฝ่ามือของเขากว้างมากจนแทบจะห่อมือเล็กของเธอเอาไว้ในฝ่ามือจนหมด
ความอบอุ่นที่ถูกห่อหุ้มไว้ทำให้หัวใจของกู้จื่อเฟยร้อนตามไปด้วย
ความจริงแล้วเธอกับโห้หลีเฉินได้จับมือกันแบบนี้เป็นครั้งแรก เหมือนกับคู่รักทั่วไป
แต่เขาเพียงแค่จับมือเธอ เธอก็รู้สึกสบายใจและยังหวั่นไหว
ความรู้สึกทั้งหมดนี้มีแค่เขาเท่านั้นที่ให้เธอได้
กู้จื่อเฟยมีความสุขและเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง
เย้นโม่หลินกุมมือเล็กนุ่มนิ่มของเธอ เขารู้สึกว่ามันเล็กเกินไปจริงๆ ราวกับออกแรงเพียงเล็กน้อยก็แหลกสลายไปได้
ถึงกับทำให้เขายิ่งอย่างจะดูแลเธอได้ดีขึ้นอีก
เธอจะต้องการหรือร้องขออะไร เขาก็อยากจะเติมเต็มเธอและทำให้เธอดีใจ
เย้นโม่หลินเอ่ยถามเสียงเบา
“อยากไปเดินเล่นที่ไหนล่ะ? ในสวนดอกไม้หรือข้างนอก?”
กู้จื่อเฟยพลันฉุกคิดขึ้นมาว่าเดินเล่นที่ว่านั้นยังไม่ได้ขึ้นถึงจุดหมายเลย แค่พูดออกไปอย่างนั้นเอง
“สวนดอกไม้”
สวนดอกไม้หลังบ้านเธอเองก็ใหญ่มาก
ที่สำคัญที่สุดคือการได้เดินเล่นกับเขา จะที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
เย้นโม่หลินเม้มปากก่อนจับมือของกู้จื่อเฟยแล้วเดินไปทางสวนดอกไม้
แต่กู้จื่อเฟยนั้นไม่ได้สนใจกับทิวทัศน์รอบตัวเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเธอแขวนไว้อยู่กับตัวของเย้นโม่หลินทั้งหมด สายตาเหลือบมองเป็นครั้งคราว เกาะติดหนึบไปกับตัวเขา
เย้นโม่หลินกดมุมปากอยู่ตลอดเวลา ต้องอดทนอย่างไม่เคยเป็นมากก่อน
มือเล็กของเธอที่จับอยู่ ราวกับจะเดินต่อไปแบบนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็ได้เสมอ
ที่ข้างหน้าต่างบนตึก ในมือของเย้นหว่านกำลังถือชานมแก้วหนึ่ง มองดูหนุ่มสาวที่จับมือเดินเล่นกันอยู่ในสวนดอกไม้อย่างสนุกสนาน
เธอทำปากดังจุๆ แล้วพูด “นี่ก็รอบที่8แล้ว”
แค่เดินรอบสวนดอกไม้หลังบ้าน เย้นโม่หลินและกู้จื่อเฟยก็เดินกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนตอนนี้ก็ถึงรอบที่แปดแล้ว
นั่นทำให้นึกถึงเรื่องตลกของหนุ่มสาวที่รักครั้งแรกไม่ได้ เธอส่งฉันกลับบ้าน ฉันส่งเธอกลับบ้าน ไปๆ มาๆ ก็ส่งกันไปหลายรอบ
เธอไม่นึกเลยว่าพี่ชายที่สูงเย็นชาเหมือนท่อนไม้ผู้กินอาหารบนโลกมนุษย์ของเธอ จะมีช่วงเวลาที่อาลัยอาวรณ์แบบนี้กับเขาด้วย
ดูเหมือนว่าความรักจะทำให้คนเราฉลาดน้อยลงได้จริงๆ
“มองขนาดนั้น อิจฉาเหรอ?”
โห้หลีเฉินเดินมาข้างกายเย้นหว่านแล้วโอบกอดเธอจากด้านหลัง
คางของเขาเกยบนไหล่ของเธออย่างสนิทสนม “ถ้าเธอคิดงั้น ฉันเองก็จะไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับเธอ เดินสัก80รอบก็ยังได้”
80รอบ?
จะให้ขาเธอเดินจนหักเลยรึไง
เย้นหว่านหัวเราะอย่างอดไม่ได้ มือข้างหนึ่งกุมหลังมือของโห้หลีเฉินเอาไว้ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความปลื้มปีติและโล่งใจ
“ฉันก็แค่ดีใจมากเท่านั้น พี่ชายฉันกับจื่อเฟยต่างก็หาความสุขเจอแล้ว”
เธอไม่ต้องกังวลอีกแล้วว่าพี่ชายของเธอจะกลายเป็นชายแก่ขึ้นคานไปทั้งชีวิต
ไม่ต้องคิดจะหาหนุ่มรูปงามมาให้กู้จื่อเฟยหรือจะเสียความงามไปอย่างโหดร้ายอีก
มุมปากของโห้หลีเฉินยกยิ้ม แววตาทอแสงอ่อนๆ มองไปยังหนุ่มสาวที่เดินวนไปวนมาข้างล่างคู่นั้น
กู้จื่อเฟยเองก็เป็นคนฉลาด เข้าใจรูปแบบที่ถูกต้องที่จะอยู่ด้วยกันกับเย้นโม่หลินได้เร็วขนาดนี้
เธอจัดการเย้นโม่หลินแล้ว เขาเองก็จะวุ่นวายน้อยลงแน่นอน
ต่อจากนั้น ก็จะได้อยู่กับเย้นหว่านได้อย่างเที่ยงธรรม หากเย้นโม่หลินมีความเห็นอะไรขึ้นมา ก็ให้กู้จื่อเฟยมาจัดการได้
รับประกันเลยว่าเย้นโม่หลินจะยอมแพ้ในไม่กี่นาที