สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 887 ตระกูลฝู้
“ดี”
เย้นโม่หลินพยักหน้ารับอย่างน่าเอ็นดู ท่าทางนั้นอย่างกับหมาตัวใหญ่แสนรู้
ขอเพียงไม่ทอดทิ้งเขา ทุกอย่างก็พูดง่าย
สิ่งที่ทุกคนเห็นทั้งทึ่งทั้งตลก ไม่คิดว่าเย้นโม่หลินที่แสนสูงส่งจะมีวันนี้
เขาจะรู้สึกอย่างไรกับพฤติกรรมของเขา หลังจากที่เขาสร่างเมา
หลังจากหาทางออกให้เย้นโม่หลิน ป่ายฉีช่วยพยุงกู้หรงไปนอนในห้องอย่างรวดเร็วและง่ายดาย จากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถทันทีรีบไปเมืองเจียง
เพื่อความสะดวก พวกเขาทั้งหมดจึงนั่งรถคันเดียวกัน
เย้นโม่หลินถูกจ้องมองอยู่ตลอด ตัวติดกับกู้จื่อเฟยตลอดเวลา
จากนั้นเริ่มหลับอย่างมีความสุข
ตลอดทางกู้จื่อเฟยไม่กล้าขยับตัว เพราะว่าขยับเพียงเล็กน้อย แค่ขยับเปลี่ยนท่า เย้นโม่หลินก็ตื่นตกใจขึ้นทันทีในสภาพที่ยังไม่สว่าง กลัวว่าเธอจะหนีไป
กู้จื่อเฟยก็ไม่ขยับเสียเลย เพื่อไม่ให้เขาตื่น
หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองเจียง
เป็นเมืองที่มีฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมดีมาก แถมยังเป็นที่รู้จักอีกด้วย
เว่ยชีซึ่งนั่งตรงคนขับหันกลับมารายงาน ด้วยความเคารพต่อโห้หลีเฉิน
“ท่านครับ มีข้อมูลใหม่เข้ามา ฝู้เหวยข่ายไปหาหัวหน้าตระกูลฝู้แล้วครับ ”
นี่เป็นตระกูลที่พวกเขาตรวจสอบเอาไว้ แถมฝู้เหวยข่ายไปแล้ว ก็เป็นการยืนยันสุดท้าย
แท้ที่จริงฝู้เหวยข่ายเป็นคนตระกูลฝู้ที่อยู่เมืองเจียง
เป็นตระกูลที่รากฐานมั่นคง และทรงอำนาจมาก ว่ากันว่าสร้างฐานะจากภูเขาทองคำในตอนนั้น ทำให้ตระกูลมีเงินมากมายจนคนไม่กล้ามอง
และตระกูลนี้พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน อำนาจเองก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
ขุมอำนาจทั่วไป ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยววุ่นวาย ไม่เห็นด้วยที่จะเป็นศัตรูกับพวกเขา
โห้หลีเฉินหลี่ตารีบพูดทันที “ตามไป”
จนกระทั่งไปถึงบ้านตระกูลฝู้
แววตาของเย้นหว่านวูบไหว ในใจสังเกตอยู่บ้าง เธอมองท่าทางของโห้หลีเฉิน เขาไปตระกูลฝู้ เหมือนกับจะไปหาเรื่องอย่างนั้น
เธอไม่กังวลฝีมือโห้หลีเฉิน แต่มองเย้นโม่หลินด้วยความกังวล
เขายังนอนซบกู้จื่อเฟย ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้วยังไม่ตื่นอีก
หลังจากไปบ้านตระกูลฝู้ยังไม่รู้เขาจะเจอเหตุร้ายอย่างไรบ้าง สถานการณ์การตอนนี้ จะปลอดภัยรึเปล่า
……
ฝู้เหวยข่ายกลับมาที่บ้านตระกูลฝู้ ตรงไปยังห้องโถง
ในเวลาเดียวกัน มีชายวัยกลางคนรอเขาอยู่ภายในห้องโถง ทุกคนต่างดูจริงจังและโกรธจัด
ฝู้เหวยข่ายเดินเข้ามา ค้อมตัวให้กับชายวัยห้าสิบปีที่นั่งตรงหน้าอย่างเคารพ
“ท่านเจ้าบ้าน ผมกลับมาแล้ว”
ฝู้ยวนที่มีสีหน้าหมองคล้ำเอ่ยถาม
“แกบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับฝู้หง จริงเหรอ?”
คนอื่นๆ ต่างก็ให้ความสนใจกับคำถามนี้
พวกเขาเป็นทายาทของตระกูลฝู้ สี่คนนี้เป็นน้องชายของฝู้หง
ฝู้หง ท่านรองคนนี้ อยู่ในตำแหน่งสูงของตระกูลฝู้
ฝู้เหวยข่ายโมโหขึ้นทันที ตะโกนเสียงดัง
“ใช่ โห้หลีเฉินร่วมมือกับเย้นโม่หลินฆ่าอารอง! พวกมันกำเริบเสิบสาน แถมยังหักแขนของผมอีก”
พูดแล้ว ฝู้เหวยข่ายชี้ไปที่แขนของตัวแอง ที่ถูกพันด้วยผ้าก๊อซสีขาว
หลักฐานที่ออกจากปากของฝู้เหวยข่าย แขนที่ได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้ แทบจะไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเลย
“เพล้ง!”
เสียงดังสนั่น แก้วชาในมือของฝู้ยวนตกแตกลงกับพื้น
เขาด่ากราดด้วยความโกรธจัด
“โห้หลีเฉินช่างกล้า ไม่นึกเลยว่าจะกล้าทำคนของตระกูลฝู้ คิดว่าตระกูลฝู้เราไม่มีพรรคพวกรึไง? แค่พวกอิทธิพลเล็กๆ ในเมืองหนาน ฉันอยากจะบีบให้ตายจริงๆ เลย”
ฝู้เหวยข่ายได้ยินก็ดีใจมาก
ด้วยฝีมือของฝู้ยวน จะมาอีกสักสิบตระกูลก็กำจัดได้ในไม่กี่นาที
ทว่านั่นยังไม่พอ
เขากัดฟันด้วยความแค้น “โห้หลีเฉิน แกฆ่าอารองพวกฉันไม่ปล่อยให้แกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหรอก”
“ใช่แล้ว นายท่าน ตระกูลฝู้ของพวกเราจะถูกใครมาข่มเหงไม่ได้”
ผู้ชายอีกหลายคนพูดด้วยความคับแค้นใจ
“พวกแกไม่มีความเมตตา ก็อย่าหาว่าพวกฉันไม่มีความเป็นธรรม พวกแกฆ่าอารองมันก็สมแล้วที่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต! นายท่าน อย่าไปใจอ่อนเด็ดขาด! ”
ฝู้ยวนมีจิตใจกว้างขวางแต่ไหนแต่ไร มือของเขาแทบจะไม่เคยเปื้อนเลือด
แต่เรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกัน โห้หลีเฉินกับเย้นโม่หลินไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
พวกเขาเป็นหนี้มัน แต่ชีวิตของอารอง
ฝู้ยวนขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม รู้สึกลังเลใจอยู่บ้าง
แม้ว่าฝู้หงเป็นน้องชายต่างมารดา แต่ความสัมพันธ์แบบพี่น้องของตระกูลฝู้ก็ปรองดองกันเสมอ พวกเขาสนับสนุนพี่ใหญ่ของเขาด้วย ซึ่งทำให้ครอบครัวนี้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้ฝู้หงเกิดเรื่อง ด้วยอารมณ์หรือเหตุผล เขาก็จะล้างแค้นให้ฝู้หง
แต่ ต้องชดใช้ด้วยชีวิต……
อาจจะนองเลือดไปหน่อย แต่ถ้าไม่ เขาต้องอับอายให้ฝู้หงอีก
ระหว่างลังเลใจ พ่อบ้านรีบร้อนวิ่งเข้ามารายงาน
“นายท่าน เกิดเรื่องแล้วครับ!!นอกคฤหาสน์มีผู้ชายชื่อโห้หลีเฉิน เอาร่างของท่านรองมาทิ้งไว้หน้าประตูครับ”
“!”
ทุกคนลูกขึ้นยืนด้วยความโกลาหล ชั่วพริบตาก็ระเบิดอารมณ์ขึ้น
ฝู้ยวนตัวสั่น หน้าเริ่มถอดสี เสียงกัดฟันพูด
“แกว่าอะไร พูดอีกทีสิ!”
พ่อบ้านเหงื่อท่วมศีรษะ “นายท่าน ร่างของท่านรอง ถูกคนโยนไว้หน้าประตูครับ”
พูดมาทุกคำ กวนประสาทกันชัดๆ
พี่น้องสี่คนตบโต๊ะตะโกนเสียงดัง “มันจะมากไปล่ะ ฆ่าพี่รองของเรา ไม่นึกว่าจะกล้าดูถูกศพของเขาอีก”
“นี่มันยั่วโมโห ! ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวแล้วโว้ย”
“ฆ่าโห้หลีเฉิน ! ต้องฆ่ามัน ! ไม่เช่นนั้น ทุกคนในตระกูลฝู้จะไม่มีวันโงหัวขึ้นมาได้อีก”
นี่ไม่ใช่แค่ความเป็นความตายของคุณท่านรองแห่งตระกูลฝู้เท่านั้น แต่เป็นเกียรติของตระกูลฝู้ทั้งหมด
นี้มันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีพวกเราทุกคน
ท่าทางโกรธจัดด้วยความหยิ่งผยอง
ร่างของฝู้ยวนเกร็งแน่น ความลังเลใจกลายเป็นความว่างเปล่าทันที เหลือไว้แต่ความโกรธและจงใจฆ่า
รังแกคนอื่นมากไปแล้ว !
อย่ามาโทษว่าลงไม้ลงมือ
“ไปเว้ย ออกไปเจอมัน ! ให้มันรู้ว่า วิธีจัดการของตระกูลฝู้เป็นยังไง ”
ตระกูลฝู้ไม่อยากลงไม้ลงมือหรอกนะ ในเมื่อเกิดเรื่อง ใครก็รับไม่ได้
ในเมื่อโห้หลีเฉินมันร้นหาทีตาย งั้นก็ให้มันตายซะ
ยั่วโมโหด้วยการเอาร่างไปโยนหน้าประตู เรื่องนี้ ใครมันจะไปทนได้แหละ
กลุ่มคนเดินออกไปด้วยความโกรธเคือง ขณะเดียวกัน บอดี้การ์ดของตระกูลฝู้รวมตัวกัน ล้อมประตูพร้อมกับอาวุธครบมือ
ฝู้เหวยข่ายปลื้มใจสุดๆ ที่ได้เห็นการต่อสู้ครั้งนี้
ไม่ยอมแพ้ให้กับการตายของท่านฝู้รอง ช่วยให้มันได้รับผลลัพธ์ที่ดีด้วย
ฝู้เหวยข่ายอารมณ์ดี แต่มีสีหน้ายังเจ็บใจ เดินออกไปพร้อมกับพรรคพวกของคุณลุง
ในเวลานี้ หน้าบ้านตระกูลฝู้สถานการณ์ตึงเครียดมาก วุ่นวายไปหมด
มองร่างของฝู้หงที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เลือดไหลอย่างน่าเวทนา
ชายที่ออกคำสั่งให้ทำเรื่องนี้ ยืนพิงรถท่าทางแผ่วๆ
น้ำเสียงนั้นไม่ได้เย็นชา แต่กลับน่าเกรงขาม