สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 890 ต้องการอะไร พูดมา
ในอย่างที่เล่าลือกัน ตระกูลหยูวางอำนาจบาตรใหญ่ทั่วโลก มีเพียงแค่ตระกูลนั้น จึงจะสามารถทำให้ตระกูลฝู้ก้มหัวและเงยหน้ามอง
แต่ตระกูลที่ทรงอำนาจที่พูดถึงกัน ทำไมถึงเป็นโห้หลีเฉินไปได้?
แล้วเขาก็สกุลโห้ด้วย!
ฝู้ยวนถลึงตามองฝู้เหวยข่ายแวบหนึ่งอย่างโหดเหี้ยม แทบอยากจะตบเขาให้ตายกับฝ่ามือ
ก่อเรื่องกับใครไม่ว่า ดันจะต้องก่อเรื่องกับเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่โห้หลีเฉิน
“แกเงียบปากไป คอยดูว่ากลับไปฉันจะจัดการแกยังไง!”
ฝู้ยวนด่าไปประโยคหนึ่ง แล้วพูดเอาใจกับโห้หลีเฉิน
“คุณโห้ ขอโทษครับ ขอประทานโทษจริงๆ เป็นเพราะหลานชายผมและพี่น้องผมมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้สถานะของคุณ ถึงได้ไม่เคารพนพนอบคุณ
คุณอย่านำมาใส่ใจ พันผิดหมื่นผิดล้วนเป็นความผิดของพวกผม ผมไม่โกรธแค้นที่ฝู้หงตาย ฝู้เหวยข่ายก็ควรจ่ายค่าตอบแทนสำหรับความโง่เขลาของเขา
ที่พวกเขาล่วงเกินคุณ หวังว่าคุณจะให้อภัย คุณอยากจะจัดการพวกเขาอย่างไรก็ได้ครับ”
ทุกคน “……”
ทุกคนมองฝู้ยวนอย่างตกตะลึงและผิดหวัง
ถ้าเป็นแบบนี้ เป็นการนำข้างในของตัวเองวางไว้ใต้ฝ่าเท้าให้ผู้อื่นเหยียบย่ำโดยสมบูรณ์แบบ ไม่เหลือศักดิ์ศรีของตระกูลใหญ่เลยแม้แต่น้อย
แต่ดันจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่มีสถานะทรงอำนาจที่ขัดสวรรค์อย่างโห้หลีเฉิน พี่น้องสี่คนตระกูลฝู้ก็พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ไปล่วงเกินคนแบบนี้ ซ้ำยังเป็นนายน้อยตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเขามาตลอด นี่ไม่ใช่คนหนุนหลังพังลงมา แต่เป็นฟ้าถล่มดินทลายเลย
ชั่วพริบตาการตายของคุณท่านรองกลายเป็นไร้คุณค่า แม้กระทั่งความผิด
แผนการที่ฝู้เหวยข่ายคำนวณไว้ทั้งหมด แตกร้าวออกมาเละเทะชั่วพริบตา แม้แต่เศษซากก็ไม่เหลือ
แม้แต่ตัวเขาเอง ก็ลงเข้าไปในหลุมนั้นแล้ว
เขาเคยเห็นวิธีการที่ป่าเถื่อนไร้ศีลธรรมของพวกโห้หลีเฉินมาก่อน เพียงแค่คุณท่านรองที่พบกันแค่ครั้งเดียว ก็ใช้ยาพิษที่รุนแรงที่สุดฆ่า ตายได้อย่างน่าเวทนามาก
ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกเผาร่าง หลังจากตายไปก็ไม่ได้สงบ
ส่วนเขาเป็นปฏิปักษ์กับพวกโห้หลีเฉินมาตั้งนาน สร้างปัญหาให้มาตั้งนาน ล่วงเกินโห้หลีเฉินจนเต็มที่และละเอียดถี่ถ้วน
งั้นผลลัพธ์ของเขา ไม่ต้องคิดเยอะ จะต้องน่าเวทนายิ่งกว่าฝู้ยวน
ร่างกายของฝู้เหวยข่ายเย็นเฉียบ ทนไม่ได้จนต้องถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าขาวซีดเหมือนผี
เขาตัวสั่นเทาพลางพูดว่า “ฉัน ฉันฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นนายน้อยตระกูลหยู……”
เขาพูดติดอ่างจนไม่รู้ว่าพูดอะไร ควรจะแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไรดี
ตอนนี้แรงสนับสนุนค้ำยันของเขาไม่มีแล้ว ถึงขนาดในระหว่างชั่วพริบตาเดียว ก็กลายเป็นนักโทษของตระกูลแล้ว
ด้วยท่าทีของฝู้ยวนในตอนนี้ ไม่ลังเลที่จะโยนเขาออกไปรับโทษเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่ทำให้โห้หลีเฉินไม่โกรธแค้นแล้วไประบายกับตระกูลฝู้ ฝู้ยวนก็คงไม่สนความเป็นความตายของเขา
ล่วงเกินนายน้อยตระกูลหยูถูกตระกูลของตัวเองทอดทิ้ง ฝู้เหวยข่ายสูญเสียทุกอย่างในพริบตา ถึงขนาดถูกตัดหนทางเอาตัวรอด อยู่ในสภาพอับจน
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน
ส่วนสาเหตุ เป็นเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง จึงวู่วามไปชั่วขณะ
โห้หลีเฉินชำเลืองมองฝู้เหวยข่ายด้วยสายตาเย็นชา นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม “เขา ฉันจะจัดการเอง ฉันมาตระกูลฝู้ เพราะมีจุดประสงค์อื่น”
จะจัดการฝู้เหวยข่าย คงไม่ใช่เป็นเขาลงมือ
รอให้บางคนหายเมาก่อนแล้วจะมาแก้ไขปัญหาเรื่อง “ศัตรูหัวใจ” แน่นอน
พอฝู้เหวยข่ายได้ยิน ร่างกายก็แข็งทื่อ ไม่รู้ว่าจะดีใจที่ตัวเองยังมีชีวิตได้อยู่ หรือว่าหวาดกลัวคำว่า ‘จัดการ’ ที่จะต้องเผชิญหน้าในอนาคตจากนี้ไป
ฝู้ยวนเป็นคนรอบคอบละเอียดลออ ในพริบตาก็เข้าใจได้ทันที
ตอนที่โห้หลีเฉินอยู่ที่เมืองหนานเขาตั้งใจหาเรื่องฝู้เหวยข่าย ถึงขนาดมีสงครามการค้าอยู่ช่วงหนึ่ง ทว่าตอนนี้ฝู้เหวยข่ายสามารถกลับมามีชีวิตได้ดี ไม่ได้เป็นเพราะความสามารถของฝู้เหวยข่าย แต่เป็นเพราะโห้หลีเฉินใช้ประโยชน์จากเขาอยู่ตลอดเท่านั้น
จุดประสงค์สุดท้ายของเขา ก็น่าจะเป็นตระกูลฝู้
ฝู้เหวยข่ายเป็นเพียงแค่มดนำทาง
ฝู้ยวนเข้าใจเหตุผลในนั้น ในที่สุดก็โล่งใจ เมื่อเป็นแบบนี้ โห้หลีเฉินคงไม่ทำลายตระกูลฝู้เพื่อระบายความโกรธแค้น
เขาพูดด้วยความเคารพอย่างรีบร้อน
“คุณโห้ มาที่ตระกูลฝู้เพราะมีธุระใช่ไหมครับ? คุณวางใจได้ ขอเพียงเป็นเรื่องที่ตระกูลฝู้ทำให้ได้ จะต้องทุ่มเททำอย่างเต็มที่และไม่หลบซ่อนเห็นแก่ตัวครับ”
โห้หลีเฉินเลิกคิ้วมองฝู้ยวน แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันต้องการหยิงหลิง”
ฝู้ยวนรู้สึกตกใจมาก แววตาสั่นเครืออย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าตกใจอย่างมาก
หยิงหลิง
นั่นเป็นสมบัติที่เขาเก็บรักษาไว้เป็นความลับส่วนตัว ในบรรดาของสะสมทั้งหมดของเขา ถือเป็นของที่ล้ำค่ามากที่สุดและให้ความสำคัญมากที่สุด
อีกทั้งมูลค่าของมันบอกได้เลยว่าไม่สามารถตีออกมาเป็นราคาได้
เพราะว่าความจริงบนโลกใบนี้ก็หาของสิ่งนี้ไม่เจอ ร้อยปีมานี้ไม่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ ต้นที่อยู่ในมือของเขานี้ ล้วนเป็นเหตุบังเอิญประจวบเหมาะถึงได้มา
สาเหตุที่มันเป็นของล้ำค่าตีราคาไม่ได้ เป็นเพราะคุณสมบัติทางยาของมัน เป็นของดีที่สามารถยืดอายุให้ยืนยาวนานได้จริง
เขาเก็บรักษามัน ก็เพื่อเมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปี ตอนที่สุขภาพของเขาประคองอยู่ต่อไปไม่ไหว กินมันเข้าไป ก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกยี่สิบสามสิบปี
ใบหน้าของฝู้ยวนสั่นเทาอย่างรุนแรง มองโห้หลีเฉินอย่างไม่สบายใจ พลางพูดอย่างลังเล
“คุณโห้ คือว่า…… ตอนนี้สุขภาพของผมไม่ดีแล้ว ดังนั้นเลยเก็บรักษาหยิงหลิงไว้ เพื่อจะได้บำรุงร่างกายตัวเองให้ผ่านช่วงเวลานั้น ไม่อย่างนั้นผมอาจจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ไม่อีกกี่ปี”
ความหมายนี้ หยิงหลิงเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับชีวิตของเขา
คนทั่วไปคงไม่ไปแย่งยาช่วยชีวิตของคนอื่น นี่เป็นน้ำใจขั้นพื้นฐานของมนุษย์
แต่ทว่า คำพูดนี้สำหรับโห้หลีเฉินแล้ว ไม่ได้มีความหมายอื่นใด
โห้หลีเฉินใบหน้าเย็นชา มุมปากค่อยๆ กระตุกยิ้มเย็นชา เย็นเยียบขั้นสุด
สิ่งเขาต้องการ แค่จะยืนยันว่าหยิงหลิงนั้นอยู่ในมือของฝู้ยวน จริงไหม
เขาค่อยๆ เอ่ยปากพูด
“เอาหยิงหลิงให้ฉัน คุณยังมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายปี ไม่ให้ฉัน ไม่กี่ปีคงไม่อยู่แล้ว”
คำพูดที่แฝงรอยยิ้มบางๆ ความเย็นทะลุเข้าไปกระชากวิญญาณคน
ฝู้ยวนควบคุมตัวเองไม่ได้จนสั่นเทาด้วยความหนาว พริบตาใบหน้าก็ซีดขาวไม่มีเลือดฝาด
คนอื่นๆ ในตระกูลฝู้ ก็เริ่มพากันเคร่งเครียด ในใจก็ทนไม่ไหวจนเริ่มสั่นเทา
หลังจากรู้ว่าโห้หลีเฉินมีสถานะเป็นนายน้อยตระกูลหยูแล้ว ในใจพวกเขาก็เริ่มเกรงกลัวเขาอย่างห้ามไม่ได้
ต่างก็เข้าใจหลังจากได้รู้เรื่องราวทีหลัง โห้หลีเฉินมาวันนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการจะเผาร่าง แต่ยังต้องการจะฆ่าพวกเขาทุกคนให้ตายหมดจริงๆ
ตอนนี้ยังไม่ได้ลงมือ เป็นเพราะว่าฝู้ยวนรู้จักเขาและยังแสดงท่าทีถ่อมตนอย่างแน่นอน
ฉะนั้น เขาต้องการหยิงหลิง ไม่ได้ต้องการปรึกษาหารือกับฝู้ยวน หรอก
หน้าผากของฝู้ยวนมีเหงื่อไหลเป็นทาง หัวใจเจ็บจนอยากตาย
อย่างไรก็ตามเขาเป็นฉลาด เกือบจะยอมแพ้ในตอนนี้ รู้ดีว่าเขาคงเก็บหยิงหลิงไว้ไม่ได้
จะยืดอายุขัย หรือจะตายตอนนี้ มันไม่ใช่การเลือกตั้งแต่แรก
เขากัดฟันตัวเองจนเจ็บ สักพักหนึ่ง ถึงเอ่ยปากอย่างยากลำบาก
“คุณโห้ หยิงหลิงผม ผมให้คุณได้ครับ แต่หยิงหลิงเป็นสิ่งที่ผมพยายามอย่างมากถึงจะได้มา เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของผม มันเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากจริงๆ ผม……”
“ต้องการอะไร พูดมา”
โห้หลีเฉินขัดคำพูดเขาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
เขาก็ไม่ใช่คนหื่นกระหายเลือด ในเมื่อฝู้ยวนยอมสวามิภักดิ์ด้วยตัวเอง เขาก็จะไม่ทำลายตระกูลฝู้ เพียงแต่จะลงโทษผู้ที่สมควรโดน
แต่ว่าข้อเสนอนี้ เป็นเพราะฝู้ยวนอ่านสถานการณ์ออกและรู้ว่าต้องทำอย่างไร
ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่ถือสาที่จะยืดเส้นยืดสายกระดูกหน้าแข้ง
พวกเขาเคารพยำเกรงเขาที่มีสถานะเป็นนายน้อยตระกูลหยูกลับไม่รู้เลย เฉพาะแค่คนกลุ่มนี้ บอดี้การ์ดหลายร้อยคนที่เขาพามา ก็ยังนับว่าน้อย