สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 895 ให้ใครเข้าไป
หยูฉู่สองหน้าบึ้งขึ้นมาทันที มีความน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งฟุ้งกระจายอยู่ทั้งตัว
ฝู้ยวนรู้สึกเกรงกลัวผู้นำตระกูลที่กุมอำนาจใหญ่โตไว้คนนี้อยู่
บนหน้าผากเขามีเหงื่อไหลออกมาทันที แทบอยากจะถอยหลังยอมแพ้ด้วยสัญชาตญาณ
แต่เขากัดฟันและตัวเกร็งไว้ พร้อมมองไปที่โห้หลีเฉินและพูดว่า “คุณโห้ นี่เป็นสิ่งที่คุณรับปากผม ของที่ผมต้องการ ผมต้องเข้าไปเอาที่ด้านในเอง”
“ของอะไร ที่ดันต้องให้นายเข้าไปเอาเอง?”
หยูฉู่สองถามด้วยเสียงเคร่งขรึม สายตาที่มองฝู้ยวนเต็มไปด้วยการสำรวจและความระแวงที่เฉียบคม
จิตใจเขายิ่งกระวนกระวายและตึงเครียดเข้าไปใหญ่ เพราะฝู้ยวนเป็นคนที่โห้หลีเฉินพามา ถ้าโห้หลีเฉินก็เห็นด้วยที่ให้ฝู้ยวนเข้าไป มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่รับมือยากและจัดการยาก
คลังสมบัติของตระกูลหยูคือสมบัติของตระกูลหยู เขาจะให้คนนอกเข้าไปสอดแนมความลับไม่ได้เด็ดขาด
ฝู้ยวนหันไปมองหยูฉู่สอง ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ได้เปิดปากพูดว่า “เป็นหนังสือเล่มหนึ่งครับ ตำราสมุนไพรร้อยแปดที่หนังสือโบราณได้บันทึกไว้ครับ”
“ตำราสมุนไพรร้อยแปด?”
ป่ายฉีส่งเสียงตกตะลึงออกมา “เป็นหนังสือเล่มที่ผู้เชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพรของหลายประเทศร่วมมือกัน สืบเสาะยาสมุนไพรและสรรพคุณทั้งหมดของโลกรวบรวมออกมาเมื่อร้อยปีก่อนเหรอ?”
สามารถบอกได้ว่า หนังสือเล่มนี้ก็คือหนังสือที่รวบรวมสิ่งมีชีวิตและยาสมุนไพรทั้งหมดบนโลกใบนี้
แค่นี้ไม่คุ้มค่ากับความล้ำค่าสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ในนั้นได้บันทึกไว้อย่างละเอียดเกี่ยวกับสรรพคุณของยาทุกชนิด แท้กระทั่งยาสมุนไพรมากมายที่ล้ำค่าและสูญพันธุ์ไปแล้ว
แม้กระทั่ง ในนั้นก็ได้บันทึกวิธีทดลองมากมายไว้ด้วย สามารถผสมยาสมุนไพรบางตัวเข้าด้วยกัน สามารถได้สรรพคุณทางยาบางอย่างที่ล้ำค่าแต่หาไม่เจอจากในนั้น
ตอนนี้หนังสือเล่มนี้โผล่มาปุ๊บ ก็ได้ไขโรคมากมายที่ตอนนั้นรักษาไม่หาย
แม้กระทั่งสามารถบรรลุระดับทักษะความสามารถของการแพทย์ที่เมื่อก่อน
ไม่สามารถบรรลุได้
แต่ที่น่าเสียดายคือ เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ยังไม่ทันได้เปิดเผยให้ชาวโลกและนำไปใช้ในแต่ละประเทศ จู่ๆฐานวิจัยก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ แทบจะตายไปกันหมดทุกคน
ส่วนหนังสือเล่มนี้ บ้างก็ลือกันว่าถูกเผาไปแล้ว บ้างก็ลือว่าหายสาบสูญไปแล้ว
ร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครเคยเห็นเลยว่ามันอยู่ที่ไหน
ตาของฝู้ยวนลุกวาว เขาพยักหน้าแล้วพูด “ใช่ หนังสือเล่มนั้นเลยครับ”
เขาชอบสะสมยาสมุนไพรมากเป็นพิเศษ ถ้ามีตำราสมุนไพรร้อยแปด แทบจะสามารถเก็บยาสมุนไพรของโลกใบนี้มาไว้ในมือหมด
สิ่งที่เขาชื่นชมที่สุดในตำราสมุนไพรร้อยแปด ก็คือได้บันทึกแหล่งกำเนิดของยาสมุนไพรที่ล้ำค่าทั้งหมดเอาไว้
ป่ายฉีมีแววตาระยิบระยับ ยับยั้งความตื่นเต้นไว้พร้อมถามว่า “นายรู้ได้ยังไงว่าตำราสมุนไพรร้อยแปดอยู่ในคลังสมบัติของตระกูลหยู?”
เท่าที่เขารู้ ตอนนี้ในคลังสมลัติของตระกูลหยูมีอะไรบ้าง แม้แต่หยูฉู่สองที่เป็นผู้นำตระกูลยังไม่รู้แน่ชัดเลย
ฝู้ยวนได้อธิบายอย่างตรงไปตรงมา “ผมคลั่งไคล้การรวบรวมยาสมุนไพรมากๆ หลายปีมานี้ ในมือมีของสะสมมากมายที่บนโลกใบนี้แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหยิงหลิงที่ล้ำค่าขนาดนี้ ถึงได้มาตกอยู่ในมือของผมครับ
ปกติผมให้ความสนใจมาก ก็เลยได้รู้ภายใต้สถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายครับ ว่าตำราสมุนไพรร้อยแปดถูกเก็บอยู่ในคลังสมบัติของตระกูลหยู”
นี่ต้องเป็นสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายมากแค่ไหนเชียว ถึงได้รู้ความลับของคลังสมบัติตระกูลหยู และรู้ว่าตำราสมุนไพรร้อยแปดอยู่ข้างในนี้เอง?
หยูฉู่สองมองเขาด้วยความสงสัยพร้อมพูดว่า “ในเมื่อนายจะเอาตำราสมุนไพรร้อยแปด เดี๋ยวฉันเข้าไปเอาออกมาให้นายก็พอแล้ว”
ในเมื่อโห้หลีเฉินได้ตอบตกลงไปแล้ว แค่หนังสือเล่มเดียวเอว เขาให้ฝู้ยวนก็ได้
สำหรับหยูฉู่สองแล้ว ถึงหนังสือแบบนี้ล้ำค่า แต่สำหรับเขาไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ สามารถตัดใจยกให้ได้
ฝู้ยวนส่ายหัวแล้วพูด “ถ้าเป็นแบบนี้จริง ผมก็ไม่ละลาบละล้วงขอเข้าไปในคลังสมบัติของตระกูลหยูหรอกครับ แต่คนที่เผยข้อมูลให้ผมรู้ในตอนนั้นเคยบอกไว้ว่า ตำราสมุนไพรร้อยแปดไม่เหมือนหนังสือธรรมดา มีชื่อและเนื้อหาชัดเจน กลับกันมันมีสิ่งอำพรางอยู่ชั้นหนึ่ง ภายนอกมันก็เป็นแค่หนังสือธรรมดาเล่มหนึ่ง อาจจะเป็นหนังสือที่มีชื่อดังเล่มหนึ่ง หรือหนังสือการแพทย์ธรรมดาเล่มหนึ่ง อยากแยกแยะหนังสือเล่มนั้นออก มันจะมีตราประทับพิเศษอยู่ ต้องจับละเอียดถึงจะจับออก ตอนนั้นผมเคยจับภาพจำลองนั้นพอดี ตอนนี้ยังพอจำความรู้สึกของมือได้เท่านั้น แต่ถ้าจะให้ผมวาดมันซับซ้อนเกินไป วาดไม่ออกครับ”
คำพูดชุดใหญ่ พูดได้เพอร์เฟคจนไม่สามารถโต้แย้ง
ถ้าเป็นหนังสือที่พิเศษขนาดนี้ คนอื่นเข้าไปหาไม่เจอจริงๆ คงต้องให้ฝู้ยวนเข้าไปเอง
สีหน้าของหยูฉู่สองดูแย่สุดๆ พูดแบบนี้ แสดงว่าฝู้ยวนต้องเข้าไปให้ได้สินะ?
แต่คลังสมบัติลับของตระกูลหยู จะให้คนนอกเข้าไปได้ยังไง?
เขาครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ก็ได้เดินมาที่ข้างกายโห้หลีเฉิน กดเสียงต่ำ ใช้เสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนแล้วพูดอย่างซีเรียส “เฉิน คลังสมบัติเป็นความลับขั้นสุดยอดของตระกูลหยู ถ้าให้คนนอกเข้าไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น สำหรับตระกูลหยูแล้วเป็นการโจมตีที่ถึงตายได้นะ
ในเมื่อหลานได้กินหยิงหลิงลงไปแล้ว ฝู้ยวนก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เรื่องที่หลานรับปากเขาไม่จำเป็นต้องรักษาคำพูดก็ได้
ตระกูลหยูของเรามีของล้ำค่าที่มูลค่ามหาศาลมากมาย เลือกชิ้นหนึ่งมาชดเชยให้เขาก็ได้แล้ว ถ้าเขาไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ฆ่าทิ้งโดยตรงก็ใช่ว่าจะไม่ได้”
พูดถึงสุดท้าย แววตาของหยูฉู่สองมีแสงเยือกเย็นระยิบระยับอยู่
แม้กระทั่งได้เริ่มวางแผนอยู่ในใจแล้วว่าจะอาศัยตอนที่ฝู้ยวนไม่ได้ป้องกันตัว ให้ลูกน้องกำจัดฝู้ยวนทิ้งในที่เกิดเหตุเลย
คนที่ไม่มีคุณค่าให้หลอกใช้แล้ว สำหรับเขาสามารถกำจัดทิ้งได้ทุกเมื่อ
ฝู้ยวนก็เซนซิทีฟดี เหมือนจะสังเกตเห็นความอาฆาตของหยูฉู่สอง ทันใดนั้นสีหน้าเขาซีดเล็กน้อยทันที ได้รีบมองไปที่โห้หลีเฉินแล้วพูดว่า “คุณโห้ หยิงหลิงเป็นของรักของหวงที่ช่วยชีวิตผม ผมให้มันกับคุณโดยที่ไม่ลัง ก็หวังว่าจะได้ตำราสมุนไพรร้อยแปด หายาสมุนไพรตัวอื่นมาชดเชยช่วยชีวิตของผมไว้
คุณโห้เป็นคนมีศีลธรรม ผมถึงได้มอบหยิงหลิงให้คุณก่อนโดยที่ไม่หวงกั๊กเลย คุณคงจะรักษาคำพูดทำข้อตกลงให้เสร็จ ใช่มั้ยครับ?”
คำพูดนี้คือย้ำเตือน แม้กระทั่งยังค่อนข้างอ้อนวอน
พูดตามตรง ตอนนี้นอกจากคำมั่นสัญญาของโห้หลีเฉินแล้ว ฝู้ยวนไม่มีของสิ่งใดที่สามารถพึ่งพาได้เลย
แม้กระทั่งสามารถสูญเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ
หยูฉู่สองหน้าบึ้งไว้พร้อมพูดต่อ
“อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ทำลายผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีศีลธรรมหรอก ตระกูลหยูของเรามีอำนาจใหญ่ค้ำฟ้า ย่อมเป็นผู้กำหนดอยู่แล้ว เฉิน หลานอย่าใจดียอมอ่อนข้อให้เด็ดขาด จัดการฝู้ยวนเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ”
ท่าทีของหยูฉู่สองมีแรงอาฆาตที่ปิดไม่มิดเลย
แม้แต่บรรยากาศของรอบๆก็เริ่มจะตึงเครียดและหนาวแล้ว
โหเหลีเฉินกลับมีสีหน้าแววตาเย็นชาตลอด ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย
สายตาเรียบเฉยของเขาได้มองฝู้ยวนที่ตื่นเต้นแว๊บหนึ่ง น้ำเสียงไม่ตระหนกวิตกเลย
“ในเมื่อผมได้รับปากคุณแล้ว ก็ต้องให้คุณเข้าไปแน่นอน”
ฝู้ยวนโล่งอกไปที
หยูฉู่สองหน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันที ไม่ได้กดเสียงไว้อีก ได้พูดเสียงดัง “โห้หลีเฉิน แกไม่ได้ยินคำพูดของฉันหรือไง?คลังสมบัติของตระกูลหยูไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า!ตอนนี้ฉันยังเป็นผู้นำตระกูลอยู่ ต้องเอาคำพูดฉันเป็นใหญ่”
โห้หลีเฉินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย หันไปมองหยูฉู่สองด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ มุมป่กเต็มไปด้วยความเหน็บแนม
“ถ้าผมดึงดันที่จะทำแบบนี้ล่ะ?คุณปู่คือเตรียมจะลงมือฆ่าคน ขวางผมไว้ข้างนอก หรือว่า ให้คลังสมบัติของตระกูลหยูปิดผนึกต่อไป?”
ชะงักไปครู่หนึ่ง โห้หลีเฉินได้ยักไหล่อย่างไม่แคร์ “ปิดผนึกต่อไป ผมก็ไม่มีข้อขัดข้องอะไร”