สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 912 ความกล้าหาญทะยานขึ้นฟ้า
ท่านอาวุโสแปดเห็นว่าเย้นหว่านไม่เอ่ยพูดเสียทีจึงเรียกด้วยความสงสัย “คุณเย้น?”
“อ๊ะ?”
เย้นหว่านถึงได้สติกลับคืนมา รีบร้อนเก็บงำอารมณ์ความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงในใจเอาไว้ ใบหน้าแย้มรอยยิ้มบางๆอย่างมีมารยาท
“ฉัน ฉันก็ไม่ค่อยทราบชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานเท่าไรนักค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมเตรียมอัลบั้มมาแล้ว คุณสามารถดูแล้วเลือกจากในนั้นได้”
ท่านอาวุโสแปดยิ้มให้อย่างสุภาพอ่อนโยน เขายืนอยู่ที่หน้าประตู ประคองอัลบั้มเอาไว้ในมือ
เย้นหว่านเห็นการกระทำของเขาแล้ว ถึงได้สังเกตเห็นว่า ท่านอาวุโสแปดยืนอยู่หน้าประตูมาโดยตลอด คล้ายกับว่าถูกจำกัดให้ไม่สามารถเข้ามาในห้องของเธอได้ตามอำเภอใจ
เย้นหว่านแปลกใจเล็กน้อย คนปกติหลังจากพูดคุยกันแล้วก็จะเดินตรงเข้ามาในห้อง
ยิ่งไปกว่านั้น สถานะของฝ่ายตรงข้ามก็คือตำแหน่งท่านอาวุโสแปดของตระกูลหยู
แต่เห็นได้ชัดว่าการจัดการเรื่องราวต่างๆล้วนเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
เย้นหว่านเอ่ยยิ้มๆในทันที “เชิญคุณเข้ามาก่อนค่ะ มานั่งคุยกัน”
“ครับ รบกวนแล้ว”
ท่านอาวุโสแปดถึงได้เดินเข้ามาในห้อง และเลือกนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับเย้นหว่าน
หลังจากนั้นก็วางอัลบั้มเล่มหนาๆเล่มหนึ่งลงตรงหน้าเย้นหว่านอย่างเรียบร้อย
เขาเอ่ยแนะนำ “ด้านในเป็นภาพดีไซน์แบบร่างงานแต่งงานในสไตล์ที่แตกต่างกัน สถานที่ในการจัดงานก็มีโบสถ์ ชายหาด สนามหญ้า ป่า เป็นต้น คุณดูก่อนว่ามีแบบที่ชอบหรือไม่ ถ้าไม่มีล่ะก็ ผมจะให้นักออกแบบจัดการออกแบบใหม่”
เย้นหว่านที่ถืออัลบั้มเล่มหนาอยู่นั้นก็ตกตะลึงไปในทันที
ด้านในเป็นภาพงานแต่งงาน แต่กลับมอบหมายให้นักออกแบบออกแบบเป็นพิเศษอย่างนั้นหรือ อีกทั้งยังหนาเป็นตั้งด้วย
คนอื่นจัดงานแต่งงาน ส่วนใหญ่ล้วนจัดหาภาพงานแต่งงาน หรือไม่ก็รูปแบบการตกแต่งของโรงแรม ส่วนของเธอทุกขั้นตอนล้วนให้นักออกแบบดีไซน์แบบร่างงานแต่งงานออกมาด้วยความพิถีพิถัน เพื่อให้เธอเลือกเอาตามใจชอบ
สมกับที่เป็นตระกูลหยู ใจกว้าง ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวในการใช้เงินจริงๆ
เย้นหว่านทอดถอนใจ เปิดอัลบั้มดู แค่เห็นภาพแรกก็ถูกการตกแต่งอันงดงามที่ชายหาดเบื้องหน้าทำให้ตกตะลึงเสียแล้ว
เบื้องหลังคือทะเลสีฟ้าท้องฟ้าสีคราม เวทีงานแต่งปกคลุมไปด้วยดอกไม้สด จัดออกมาในรูปแบบที่งดงามเป็นอย่างมาก คล้ายกับว่ายืนอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น
เจือไปด้วยกลิ่นอายมายาแห่งเทพเซียน
ส่วนด้านหน้าทางเดิน ข้างๆก็มีทะเลสาบน้ำสีเขียวใสอยู่แห่งหนึ่งที่มีเรือลำเล็กอันงดงามประณีตจอดอยู่ลำหนึ่ง
นักออกแบบคนนี้ ต้องการจะให้เธอนั่งเรือลำนี้เข้ามา และเดินขึ้นไปบนเวทีงานแต่งที่ประดับไปด้วยดอกไม้สด
ทุกขั้นตอนล้วนเป็นภาพจินตนาการที่สวยงามมาก
เย้นหว่านดูแค่เพียงภาพนี้ก็สามารถจินตนาการภาพงานแต่งงานที่สวยงามงานหนึ่งออกมาได้แล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาว่า แบบร่างภาพแต่งงานภาพแรกสวยถึงขนาดนี้ ด้านหลังยังหนาอีกเป็นตั้งนั้นจะเป็นอย่างไรกัน
เธอพลิกหน้าถัดไปด้วยความคาดหวังเต็มอก ภาพถัดไปแต่ละภาพล้วนไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง
เพียงแค่หมวดหมู่ชายหาดชายทะเล ก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน มีทั้งดอกไม้สด มีทั้งความงดงามสดใสของสีเขียว มีสไตล์นอร์ดิกหรูหรา มีแนวอาร์ต และมีสไตล์หรูหราตระการตาเช่นกัน…
เกือบจะทั้งหมดที่เย้นหว่านสามารถนึกถึง ในอัลบั้มดีไซน์แบบร่างงานแต่งงานเล่มนี้แทบจะมีหมด
อีกทั้งแต่ละแบบก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน การออกแบบตกแต่งก็ไม่เหมือนกัน ไม่มีความเหมือนกันเลยแม้แต่น้อย แต่ละภาพล้วนทำให้ผู้คนตกตะลึง
เย้นหว่านที่ดูแต่ละภาพแล้วก็รู้สึกว่าสวยมาก มองไปมองมาก็ลืมเลือกสถานที่จัดงานแต่งงานให้กับตัวเอง แต่เป็นการชื่นชมทุกภาพ ทุกวิวทิวทัศน์แทน
เมื่อดูถึงภาพสุดท้าย เย้นหว่านก็รู้สึกว่าได้สัมผัสและเพลิดเพลินไปกับความงดงามด้วยสายตา
ท่านอาวุโสแปดมีความอดทนสูงมาก ยิ้มน้อยๆ มองมาทางเย้นหว่าน “คุณเย้น ชอบแบบไหนหรือ”
เย้นหว่านสับสน “ชอบหมดเลยค่ะ”
ท่านอาวุโสแปดยิ้ม สีหน้าท่าทางเมตตาอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
“งานแต่งงานจัดได้เพียงแค่ครั้งเดียว เลือกแบบที่ชอบที่สุดออกมาแบบหนึ่งเถอะครับ”
“อย่างนั้น ฉันจะดูอีกหน่อยค่ะ”
เย้นหว่านอุ้มอัลบั้มขึ้นมาพลิกดูต่ออีกรอบ
พวกนี้น่าจะเป็นภาพดีไซน์แบบร่างที่ให้นักออกแบบงานแต่งงานหัวกะทิทำออกมา ดังนั้นทุกใบแทบจะเรียกได้ว่าเป็นงานชั้นยอด สวยงามเป็นอย่างมาก
เย้นหว่านที่ต้องเลือกออกมาอันหนึ่งจากในบรรดาภาพทั้งหมดนี้นั้นก็ลำบากใจเป็นอย่างมาก
ถ้าหากว่าตอนนี้โห้หลีเฉินอยู่ด้วยก็ดี เขาจะได้แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เขาชอบ แบบนี้ก็จะเลือกได้ง่ายกว่าเยอะมาก เพราะสิ่งที่สามารถทำให้เขาชื่นชอบได้นั้นมีจำกัดมากเกินไป
เมื่อคิดถึงตรงนี้ การพลิกหน้ากระดาษของเย้นหว่านก็หยุดชะงักไป
งานแต่งงานของคนสองคน ตอนนี้คล้ายกับว่าต้องการให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจเองทั้งหมด โห้หลีเฉิน เขาไม่มีเวลามาสนใจเลยแม้แต่น้อย
ส่วนผู้ที่รับผิดชอบจัดการสิ่งเหล่านี้ ก็คือท่านอาวุโสแปดที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับเขาและเธอเลย
ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนกับการไปเข้าร่วมงานแต่งของคนแปลกหน้าโดยแท้จริง ดำเนินการตามแบบแผนขั้นตอนเดียวทั้งหมด
อารมณ์เบิกบานใจของเย้นหว่าน หม่นหมองลงในเสี้ยวพริบตา
เมื่อมองรูปภาพที่อยู่ในมือเหล่านี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้มีแรงดึงดูดมากมายขนาดนั้น ทั้งยังเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูเสียแล้ว
ท่านอาวุโสแปดที่ไวต่อความรู้สึกพบว่าอารมณ์ความรู้สึกของเย้นหว่านมีการเปลี่ยนแปลง จึงถามอย่างเป็นกังวลว่า
“คุณเย้น เป็นอะไรไปหรือ ไม่พอใจหรือเปล่า ผมสามารถให้คนทำใหม่ได้”
“เปล่า เปล่าค่ะ”
เย้นหว่านฝืนแย้มรอยยิ้มใหม่ รักษามารยาทเอาไว้ “ท่านอาวุโสแปด รบกวนคุณแล้ว ฉันเลือกอันนี้ค่ะ”
เย้นหว่านชี้ไปที่หน้าที่กำลังเปิดอยู่
นี่คือภาพดีไซน์แบบร่างงานแต่งงานในโบสถ์ใบหนึ่ง สวยงามมากเช่นกัน แต่ตอนนี้เย้นหว่านกลับไม่มีอารมณ์จะมาชื่นชมเท่าใดนัก
ถ้าหากว่าเป็นเพียงแค่งานแต่งงานที่ทำแบบขอไปที ก็สูญสิ้นความหมายแต่เดิมของมันแล้ว เธอจึงไม่รู้ว่าควรจะเอาใจใส่อย่างไร
ท่านอาวุโสแปดมองดูรูปภาพ เอ่ยยิ้มๆว่า “คุณเย้นสายตาดีมากจริงๆ ภาพนี้สวยมาก”
“ขอบคุณค่ะ”
เย้นหว่านยิ้มให้อย่างมีมารยาท และเอ่ยขึ้นทันทีว่า “ไม่ทราบว่ายังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องการให้ฉันให้ความร่วมมือไหมคะ”
“มีครับ แต่อยู่ระหว่างการจัดการ ในตอนที่ผมต้องการถามความเห็นของคุณ ค่อยมารบกวนคุณได้ไหมครับ”
ท่านอาวุโสแปดถามด้วยความสุภาพอ่อนโยน เต็มไปด้วยความเคารพที่มีต่อเย้นหว่าน
เย้นหว่านพยักหน้าให้ความร่วมมือ “ได้ค่ะ ฉันก็ไม่ได้มีธุระอะไรพอดี คุณสามารถมาหาฉันได้ทุกเวลา”
เมื่อส่งท่านอาวุโสแปดจากไปแล้ว ภายในห้องก็เหลือเย้นหว่านเพียงแค่คนเดียว
เธอคล้ายกับเป็นตะคริว ทรุดตัวล้มนอนลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรงในทันที
และไร้ซึ่งความตื่นเต้นเช่นกัน
“เฮ้อ”
เธอถอนหายใจครั้งหนึ่ง มองผ่านบานหน้าต่างออกไปยังทิศทางคลังสมบัติด้วยสายตาคับแค้นใจ
ไม่มีทาง โห้หลีเฉินกำลังยุ่ง กระทั่งเรื่องงานแต่งงานของพวกเขาก็ไม่มีเวลามานึกถึง
เธอก็เข้าใจเช่นกัน ถึงอย่างไรรากฐานอำนาจของตระกูลหยูก็ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเป็นอย่างมาก โห้หลีเฉินอาศัยเพียงแค่สายเลือดในการยืนหยัด
แต่คิดจะยืนให้มั่นคงในตระกูลหยูนั้นก็ต้องพยายามต่อไป
เรื่องใหญ่อย่างการขุดค้นคลังสมบัติตระกูลหยูเช่นนี้ เขายิ่งไม่สามารถพลาดมันได้
เพียงแต่เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ แต่การแต่งงานครั้งหนึ่งเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ในชีวิต งานแต่งงานที่เธอแค่ฝันก็อยากได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินจะไม่ได้เข้าร่วมในทุกขั้นตอน
เธอเพียงแค่ ผิดหวังเล็กน้อย
เป็นแบบนี้ติดต่อกันไปหลายวัน
ได้ยินมาว่าหยูฉู่สองกับผู้อาวุโสหลายท่านล้วนพักอยู่ในคลังสมบัติ พลิกอ่านเอกสารเหล่านั้นแข่งกับเวลาโดยไม่รู้วันรู้คืน
ส่วนโห้หลีเฉินก็ยุ่งมากเช่นกัน ช่วงเวลากลางวันแทบจะอยู่แต่ด้านนอก เพียงแต่หลังจากฟ้ามืดแล้วถึงได้กลับมา
และเป็นเพราะใกล้จะแต่งงานแล้ว ตามประเพณี ระหว่างคู่สามีภรรยาที่กำลังจะแต่งงานใหม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไม่ได้พบหน้า แต่ก็จำเป็นต้องแยกกันนอน
ดังนั้นตั้งแต่เช้ายันค่ำ ช่วงเวลาที่เย้นหว่านได้พบกับโห้หลีเฉินก็มีเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆสองชั่วโมง
ทั้งสองคนยังคลอเคลียกันไม่พอ ก็จำเป็นต้องแยกจากกันแล้ว
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานที่ท่านอาวุโสแปดคุยกับเย้นหว่านในช่วงเวลากลางวัน เย้นหวานแทบจะไม่มีเวลาแบ่งปันกับโห้หลีเฉิน
เธออยู่ร่วมกับเขาเหมือนในยามปกติ
เขาก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยถึงเรื่องที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน
อารมณ์อึดอัดใจของเย้นหว่านก็ยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม ความสนใจในเรื่องงานแต่งงานยิ่งน้อยลง
คล้ายกับว่า การแต่งงานในครั้งนี้เหมือนกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ