สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 921 คุณต้องไม่หุนหันพลันแล่น
เย้นหว่านร้อนใจกระวนกระวาย ยืดคอมองลงไป แต่อย่างไรมันก็ยังไกลเกินไป มองไม่เห็นเลยว่าสถานการณ์ในห้องของเย้นโม่หลินเป็นอย่างไรบ้าง
ประตูตรงเธอก็ออกไปไม่ได้
เย้นหว่านมองรอบนอกหน้าต่างทันที ก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ทำการเปิดหน้าต่างนั้น
แต่อย่างไรชั้นห้าก็ค่อนข้างสูง เย้นหว่านปีนขึ้นบนกรอบหน้าต่าง มองไปที่ใต้เท้า เริ่มรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงเล็กน้อย
เธอสุดหายใจเข้าลึก ปลอบใจตัวเองว่า ระวังหน่อยก็จะไม่มีเรื่องอะไรหรอก
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรขึ้นบ้าง เธออยู่ในห้องมีแต่จะนั่งรอความตาย
เธอต้องออกไป
เย้นหว่านรวบรวมความกล้า เท้าเหยียบลงบนส่วนเว้า ปีนลงอย่างระมัดระวัง
หลังจากปีนไปสักพัก เธอเหงื่อออกมากจนเปียกชุ่ม จนในที่สุดก็ปีนไปถึงกรอบหน้าต่างชั้นสอง
เธอรีบเดินไปตามกรอบหน้าต่างแตก แล้วมุดเข้าไปอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่เข้าไป สิ่งที่เหยียบลงไปคือพื้นที่มีแต่เศษเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของที่แตกหัก
ทั่วทั้งห้องของเย้นโม่หลินดูยุ่งเหยิงไปหมด เหมือนการเป็นอยู่ที่ผ่านมหันตภัยมา
ถึงขนาดที่ว่าบนพื้นและบนผนังยังมีรอยเลือด
เย้นหว่านสูดหายใจอย่างตึงเครียด สถานการณ์นี้ เกรงว่าจะเลวร้ายกว่าที่เธอคิด
เกิดเรื่องร้ายอะไรกับพี่ชายของเธอกันแน่
แล้วคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน
เย้นหว่านไม่แน่ใจอะไรเลย รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที พยายามตามหาร่องรอยการต่อสู้ก่อนหน้านี้
เธอออกไปไม่ไกล ก็เห็นบอดี้การ์ดสองคนตรงโถงทางเดิน
เย้นหว่านรีบพูดว่า “นี่ ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกคุณเห็นพี่ชายฉัน…”
ยังพูดไม่ทันจบ เสียงของเย้นหว่านก็ถูกเสียงตะโกนของบอดี้การ์ดขัดขึ้น
“เธอออกมาได้ยังไง รับจับเธอไว้เร็ว!”
เมื่อสิ้นเสียง สองบอดี้การ์ดก็เดินเข้ามาหาเย้นหว่านด้วยท่าทางโหดเหี้ยม ไร้ซึ่งความสุภาพและความเคารพดังเช่นปกติ
เย้นหว่านตื่นตัว สัญญาณแห่งการเตือนภัยดังขึ้นทันที
มันผิดปกติเกินไปแล้ว
พวกเขาจะจับเธอ!
ไม่ทันได้สายเกินไปจะถามให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น เย้นหว่านหันหลังวิ่งหนีไปตามสัญชาตญาณทันที
สองบอดี้การ์ดไล่ล่าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนว่า
“จับเธอไว้! ให้เธอหนีไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่ๆ!”
เย้นหว่านรู้สึกขนหัวลุก ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น
เธอวิ่งลงตรงไปตามบันไดชั้นสอง วิ่งด้วยความเร็วแปดร้อยเมตร รีบวิ่งไปที่สวนด้านหลังในอึดใจเดียว
ที่นี่ น่าจะมีสัญญาณนะ?
ตราบใดที่มีเวลานิดหน่อยให้ติดต่อโห้หลีเฉินได้ก็พอ
เย้นหว่านวิ่งอย่างหอบเหนื่อย แต่สองบอดี้การ์ดข้างหลังกลับไล่ตามมาติดๆ ยิ่งไล่ตามใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เย้นหว่านใจเต้นรัวแรงดั่งฟ้าร้อง ตื่นตระหนกอย่างมาก สัญญาตญานบอกชัดว่าถ้าถูกพวกเขาจับได้เมื่อไรย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่
เธอไม่กล้าหยุดอยู่นิ่ง จึงวิ่งต่อไปข้างหน้า เมื่อผ่านมุมทางเลี้ยวไป ก็เห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคยอยู่ไกลๆ
เป็นเย้นโม่หลิน!
เย้นหว่านดีใจมาก กำลังจะวิ่งไปหาเขา แต่กลับเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดเข้าเสียก่อน ที่ด้านหลังของเย้นโม่หลินไม่ไกล ก็มีกลุ่มบอดี้การ์ดตามติดกระชั้นชิดอยู่ด้วย
ดูจากชุด นั่นคือคนของตระกูลหยู
ในมือพวกเขาแต่ละคนถืออาวุธ หน้าตาชั่วร้ายไล่ตามเย้นโม่หลิน
เย้นหว่านเย็นยะเยือกไปทั่วกายทันที ความคิดที่คาดเดาอยู่ในหัวที่สุดแล้วก็ได้รับการยืนยัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่กลับดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริง
คนของตระกูลหยู กำลังไล่ฆ่าเย้นโม่หลิน!
ดังนั้นจึงล็อคกลอนขังเธอเอาไว้
เย้นหว่านแทบคลั่ง ทั่วร่างเย็นยะเยือก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ทั้งทั้งที่เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย ขนาดหยูฉู่สองยังตรวจดูสินสอดสมรสด้วยตัวเอง ยินดีจะดองกับตระกูลเย้น วาดหวังให้สองตระกูลยิ่งแน่นแฟ้น
แล้วทำไมเพียงชั่วข้ามคืนเรื่องมันกลับตาลปัตรไปแบบนี้
ท่าทางของบอดี้การ์ดพวกนั้น เหมือนกับจะอยากฆ่าเย้นหว่านให้ตายอย่างโหดเหี้ยม
“พี่ชาย…”
เย้นหว่านตื่นตระหนกสับสนมาก กำลังจะวิ่งไปหาเย้นโม่หลินเพื่อร่วมมือกับเขา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะยืนเคียงข้างเขา
และอีกอย่าง เธอก็กำลังถูกคนไล่ตามด้วย
ทว่า เย้นหว่านเพิ่งวิ่งไปไม่กี่ก้าว ก็มีมือหนึ่งยื่นออกมาจากพุ่มไม้ มาดึงเธอให้เข้าไป
เย้นหว่านต้องการต่อต้านโดยจิตใต้สำนึก แต่คนผู้นั้นกลับกอดเธอจากข้างหลัง เอาฝ่ามือปิดปากเธอไว้แน่น
เสียงผู้ชายดังขึ้นเบาๆ ว่า “คุณเย้น อย่าเข้าไป!”
เสียงนี้คุ้นเคยเล็กน้อย ดูเหมือนจะเป็นของท่านอาวุโสแปด?
“อือ” เย้นหว่านส่งเสียงออกไป คนคนนั้นยิ่งออกแรงปิดปากเธอ
“อย่าส่งเสียง พวกเขากำลังมา”
สิ้นเสียงของเขา สองบอดี้การ์ดที่ไล่ตามเย้นหว่านก็วิ่งผ่านมา
พวกเขามองไปตามทางรอบๆ แล้วพูดอย่างสงสัยว่า
“แล้วเธอล่ะ”
“แม่งเอ๊ย ปล่อยให้เธอหนีรอดไปไม่ได้ นายไปทางนั้น ฉันจะไปทางนี้ จริงสิ บอกท่านอาวุโสสามด้วยว่าเย้นหว่านหนีไปแล้ว ให้ส่งคนออกมาค้นหาที่สวนด้านหลัง”
สองบอดี้การ์ดพูดจบ ก็วิ่งแยกกันไปซ้ายคนขวาคน
เป็นคนของฝ่ายท่านอาวุโสสามเหรอ
เย้นหว่านจิตใจหนักอึ้ง ไม่รู้เลยว่าเรื่องมันกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร
สองคนนั้นไปแล้ว มือที่ปิดปากเย้นหว่านจึงคลายออก
เขาปล่อยเย้นหว่านทันที แล้วรีบถอยหลังไปสองก้าว รักษาระยะห่างกับเย้นหว่าน
ก่อนจะโค้งให้ด้วยความเคารพ และพูดอย่างขออภัยว่า “คุณเย้น ขออภัยด้วย เมื่อครู่ร้อนใจไปจึงล่วงเกินแล้ว”
เย้นหว่านเพิ่งเห็นเขาชัดๆ เป็นท่านอาวุโสแปดจริงๆ
เมื่อครู่เป็นเพราะเขา เย้นหว่านถึงได้รอดพ้นจากสองบอดี้การ์ดนั่นมาได้
เย้นหว่านพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็คิดจะวิ่งไปหาเย้นโม่หลิน
ท่านอาวุโสแปดรีบขวางเย้นหว่านไว้ และพูดอย่างรีบร้อนว่า
“คุณเย้น คุณไปไม่ได้นะ”
ที่ที่เย้นหว่านอยู่ตรงนี้ ยังสามารถมองเห็นเย้นโม่หลินในระยะไกลได้ลางๆ
เขาวิ่งเร็วมาก ด้านหลังมีกลุ่มคนติดตาม หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ไม่เห็นเขาอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการไล่ตามไปให้ทัน
ท่านอาวุโสแปดรีบอธิบาย
“คุณไปไม่ได้จริงๆ ท่านผู้นำตระกูลออกคำสั่งตายแล้ว ต้องฆ่าเย้นโม่หลิน ถ้าอาศัยความสามารถของเขา ยังเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสหนีรอด แต่ถ้าคุณเข้าไปอีกคน เขาต้องดูแลความปลอดภัยของคุณ มันง่ายจะถูกคนเจาะช่องโหว่ กลับกันจะกลายเป็นทางตันมีแต่ตายกับตาย”
ได้ยินดังนั้น เย้นหว่านที่กำลังจะก้าวเดินไป พลันแข็งทื่ออยู่กับที่
เธอสีหน้าซีดเผือด ตัวสั่นอย่างรุนแรง แทบจะไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
หยูฉู่สองออกคำสั่งให้ฆ่าเย้นโม่หลินงั้นเหรอ
“เพราะอะไร” เย้นหว่านถามอย่างร้อนรน
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้มันไม่มีเหตุผลเลย
ท่านอาวุโสแปดมองเย้นหว่านด้วยสายตาซับซ้อน ลังเลอยู่มาก ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยพูดว่า
“คุณเย้น หลังจากที่ผมบอกคุณแล้ว คุณต้องไม่หุนหันพลันแล่นนะ”
“คุณรีบบอกมาเร็ว”
เย้นหว่านพูดอย่างร้อนใจ ดวงตาสับสนกระวนกระวายมองไปทางเย้นโม่หลิน แล้วเห็นว่าอีกทางหนึ่ง มีคนอีกกลุ่มวิ่งมา
ล้อมหน้าล้อมหลังเย้นโม่หลินไว้ตรงกลาง
ถึงหนีก็หนีไม่ได้
เย้นหว่านเหงื่อเย็นออกทันที อยากเข้าไปช่วยเย้นโม่หลิน แต่คำพูดของท่านอาวุโสแปด กลับเหมือนตะปูตอกเธอติดอยู่ที่เดิม
ตอนนี้เธอก็เป็นเป้าหมายในการตามล่า หากเธอเข้าไป มีแต่จะไปเพิ่มภาระและเป็นตัวถ่วงให้เย้นโม่หลินเท่านั้น ช่วยเขาไม่ได้ กลับกันยังจะไปทำให้เขาเดือดร้อนด้วย
ท่านอาวุโสแปดรู้ว่าเย้นหว่านกังวลร้อนใจ จึงไม่ทำการเสียเวลา รีบบอกกับเธอว่า