สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 927 ต่อต้าน
เขาขนาบข้างด้วยบอดี้การ์ดเป็นโหล เนื้อตัวเต็มไปด้วยไอพิฆาต บนมีดในมือยังมือเลือดหยด
ภายใต้เท้าของพวกเขา บอดี้การ์ดตระกูลหยูล้มไปทีละคน
ดวงตาโห้หลีเฉินเย็นชาเป็นที่สุด ไอเย็นแผ่รอบกาย ร่างสูงใหญ่เดินไปหาเย้นโม่หลินแล้วหยุดลง
เขาก้มลงมองพวกเย้นโม่หลิน หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่ตายยังมีลมหายใจ จึงหันไปมองท่านอาวุโสสี่และห้าอย่างเย็นชา
ริมฝีปากบางอ้าเปิดเล็กน้อยพ่นคำพูดออกมา ราวกับน้ำแข็งเย็นยะเยือกทิ่มแทงใส่
“พวกคุณ อยากตายยังไง”
ท่านอาวุโสสี่และห้าสูดอากาศเย็นทันที รู้สึกเหมือนว่าเลือดในกายถูกแช่แข็ง
พวกเขาหน้าตามีแต่ความตื่นตระหนกตกใจ
อย่างไรก็ไม่เคยคิด ว่าโห้หลีเฉินที่ถูกทิ้งไว้ในคลังสมบัติ จะออกมาเร็วขนาดนี้!
แถมยังพาคนมามากกว่าสิบคน แหวกวงล้อมของพวกเขาให้แตกได้
พวกบอดี้การ์ดตระกูลหยูเห็นโห้หลีเฉินมา ก็ทยอยกันหยุดนิ่ง ไม่กล้าโจมตีต่อ
ท่านอาวุโสสี่ทั้งตกใจทั้งโมโห อีกนิดเดียวเขาก็จะสามารถฆ่าพวกเย้นโม่หลินได้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะรอด
ท่านอาวุโสสี่เผชิญหน้ากับโห้หลีเฉินอย่างเครียดขรึมกล้าหาญ แล้วพูดว่า
“นายน้อย พวกเราทำตามคำสั่งของท่านผู้นำตระกูล พวกเย้นโม่หลินต้องตาย”
“หึ”
โห้หลีเฉินยิ้มเย็นชา รอยยิ้มมุมปากราวกับเปื้อนเลือด
เขาเดินไปหาท่านอาวุโสสี่และห้าด้วยสีหน้าเย็นชา แต่ละคำเยือกเย็นและสนุก “ในเมื่อไม่เลือกเอง งั้นก็แล้วแต่ผมตัดสินใจ”
ในมือของเขา ทันใดนั้นจู่ๆ ก็พลิกมีดสั้นปรากฏออกมา ความรวดเร็วทั้งว่องไวทั้งเหี้ยมเกรียม ภายใต้สถานการณ์ซึ่งดวงตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ได้ทะลวงลึกเข้าท้องท่านอาวุโสสี่
ท่านอาวุโสสี่เบิกตากว้างสยดสยอง มองมีดสั้นที่เสียบท้องอย่างไม่เชื่อสายตา รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ประดังเข้ามา
เขาริมฝีปากสั่น “คุณ คุณ…คุณกล้าดียังไง…ผมเป็นตระกูลหยู ท่านอาวุโสสี่ตระกูลหยู…”
“กล้าแตะต้องพี่ภรรยาของผม ถึงคุณจะเป็นเทพเจ้า ก็ไม่สำคัญ”
โห้หลีเฉินดึงมีดออกมาด้วยความรวดเร็วเฉียบคม
เลือดทะลักออกมาทันใด ย้อมเสื้อสีขาวของเขาเป็นดวงๆ ดูราวกับดอกไม้ปีศาจสีเลือด
ทั้งน่าทึ่งและน่าสยดสยอง
พวกบอดี้การ์ดตระกูลหยูได้เห็นภาพนี้ ต่างหวาดกลัวจนสีหน้าโง่เขลา
ไม่น่าเชื่อว่าโห้หลีเฉินจะถึงกับฆ่าท่านอาวุโสสี่!
ท่านอาวุโสสี่เป็นบุคคลสำคัญของตระกูลหยู แม้ผู้นำตระกูลอยากลงโทษ ก็ต้องมีเหตุผลเพียงพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเขาง่ายๆ
แต่โห้หลีเฉินกลับบอกว่าจะฆ่าก็ฆ่าเลย ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
ท่านอาวุโสสี่เบิกตามองโห้หลีเฉินอย่างไม่อยากเชื่อ ความเคียดแค้นพุ่งสูง แต่กำลังกลับเหือดหาย ล้มลงไปกับพื้นอย่างมึนเบลอ
กระตุกอยู่หลายครั้ง ก่อนจะตาค้างหมดลมหายใจไป
ถึงตายเขาก็ไม่เชื่อ ว่าตัวเองจะตายด้วยน้ำมือโห้หลีเฉิน
อย่างง่ายดายและลวกๆ
ท่านอาวุโสห้าถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความกลัว มือสั่นหวาดผวาชี้โห้หลีเฉินและพูดว่า
“คุณ คุณๆๆ กล้าดียังไงฆ่าท่านอาวุโสสี่! โห้หลีเฉิน คุณทำผิดกฎตระกูล ถึงคุณเป็นนายน้อยก็ไม่มีข้อยกเว้น”
โห้หลีเฉินมองมีดที่ยังเลอะเลือดในมือด้วยความขยะแขยง ถึงเลอะเลือดท่านอาวุโสสี่ มันก็สกปรกมาก
แต่รออีกสักพักค่อยโยนทิ้งแล้วกัน
เขาถือมีดสั้น มองท่านอาวุโสห้าสีหน้าเย็นชา ขายาวก้าวเดินไปหาเขาทีละก้าว
“คุณก็มีส่วน ไม่รอดเช่นกัน”
ท่านอาวุโสห้าหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว สองขาสั่นเทา มองโห้หลีเฉินราวกับเห็นปีศาจผุดขึ้นมาจากนรก
คิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินยังต้องการฆ่าเขาด้วย!
ท่านอาวุโสห้าถอยหลังอย่างหวาดผวา ด่าด้วยท่าทีดุร้ายแต่ในใจอ่อนแอ
“โห้หลีเฉิน คุณบ้าไปแล้ว! ผมเป็นท่านอาวุโสห้านะ คุณฆ่าท่านอาวุโสสี่ไปแล้ว ยังคิดจะฆ่าผมอีก คุณทรยศตระกูลหยู! คุณต้องถูกแขวนคอ! ตระกูลหยูจะไม่ยกโทษให้คุณ!”
โห้หลีเฉินยิ้มเย็นชาอย่างไม่สนใจ
สายตาเย็นชาและน่ากลัว ความเย็นชาที่มีแต่เจตนาฆ่าอันรุนแรง
เขาก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ย่างก้าวเข้าไปหาท่านอาวุโสห้า
เพิ่งเห็นท่านอาวุโสสี่ถูกฆ่า ศพก็ยังอยู่ตรงนั้น แล้วมองโห้หลีเฉินอีกที เขากลัวแล้วจริงๆ
เขาตะโกนเสียงดัง “ยังจะมัวยืนเซ่ออยู่ทำไม ขวางเขาไว้เร็ว ขวางเขาสิ!”
พวกบอดี้การ์ดที่ยืนอึ้งตัวแข็งทื่อ เหมือนกลับเพิ่งตื่นจากฝัน
รีบพุ่งขึ้นหน้ามาขวางตรงหน้าท่านอาวุโสห้า ปกป้องเขาไว้ข้างหลัง
โห้หลีเฉินมองบอดี้การ์ดของตัวเองอย่างค่อนข้างเครียดขรึม พร้อมกับหมุนมีดสั้นในมือ
พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกนายรนหาที่ตายหรือไง”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์สนุกสนานนั่น พวกบอดี้การ์ดเห็นแล้วหนาวสั่น รู้สึกถึงการคุกคามฆ่าอันน่าครั่นคร้าม
จิตใต้สำนึกสั่งให้พวกเขาก้าวถอยหลัง
โห้หลีเฉินกับพวกเย้นโม่หลินไม่เหมือนกัน เขาเป็นนายน้อยตระกูลหยู พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดตระกูลหยู การต่อต้านนายน้อยตระกูลหยู มันไม่สมเหตุสมผล
“ขวางเขาเดี๋ยวนี้ ถ้าเขากล้าบุก ก็ฆ่าเขาเลย!”
ท่านอาวุโสห้าตะโกนก้องอย่างเกรี้ยวกราด “โห้หลีเฉินฆ่าท่านอาวุโสสี่ ทำผิดกฎตระกูลหยู ต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายน้อยตระกูลหยูแล้ว เขาเป็นนักโทษ ถ้าเขากล้าเข้ามา ก็ฆ่าเขาเลย ฆ่าเขาไปเลย!”
โห้หลีเฉินต้องการเอาชีวิตเขา เขาก็ต้องลงมือรุนแรงก่อน
ในเมื่อต้องตายกันไปข้าง งั้นก็ให้โห้หลีเฉินตายซะ!
เมื่อพวกบอดี้การ์ดได้ยิน จากที่ยังมีความลังเล และตอนนี้แม้ยังมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ปฏิบัติตามไม่ได้
เพราะถึงอย่างไรครั้งนี้พวกเขาก็ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอาวุโสสี่และห้า
ท่านอาวุโสสี่ตายแล้ว คำพูดของท่านอาวุโสห้าถือเป็นสำคัญ
โห้หลีเฉินมองเหล่าบอดี้การ์ดด้วยสายตาเย็นชา จิตสังหารไหลเวียนออกมาช้าๆ
ทำให้พวกเย้นโม่หลินบาดเจ็บขนาดนี้ คนพวกนี้มันสมควรตาย
เขาไม่ได้พูดอะไรมาก ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ยกมีดพุ่งเข้าใส่
โลหิตผลิบานราวดอกบัวหิมะบานบนพื้นดิน
บอดี้การ์ดล้มลงทีละคน
ศพเย็นชืดทั่วพื้น
โห้หลีเฉินเหมือนอสูรกาย ปีศาจ เครื่องเก็บเกี่ยวชีวิตมนุษย์
พวกบอดี้การ์ดแต่ละคนพากันหวาดกลัวตื่นตระหนก
ถึงแม้ตอนแรกจะยังมีความกังวลเรื่องสถานะของโห้หลีเฉิน แต่ตอนหลังก็ยังเข้าต่อสู้ทุ่มเทเต็มกำลัง แต่ก็กลับไม่สามารถหยุดการโจมตีของโห้หลีเฉินได้
บอดี้การ์ดบางส่วนกำลังล้อมพวกโห้หลีเฉิน เพื่อกันไม่ให้พวกเขาหลบหนีในขณะเหตุการณ์วุ่นวาย และคนอีกส่วนที่กำลังคุ้มกันท่านอาวุโสห้า ก็ต่างล้มลงไปทีละคน
ไม่นาน กลุ่มคนก็น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือไม่เท่าไร
ท่านอาวุโสห้าถูกบังคับให้จนมุม ด้านหน้าเขายังมีสามคนขวางอยู่
ตอนนี้เวลานี้ ในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกแน่ชัดว่าความตายใกล้เข้ามาทุกที
กระทั่งบอดี้การ์ดคนสุดท้ายล้มลงตรงเท้าเขา เขาพลันแข้งขาอ่อนแรง ทรุดก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดทันที
ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง
เขามองดูร่างที่ยืนเลือดโทรมกายด้วยความหวาดผวา ราวกับโห้หลีเฉินเป็นอสูรกาย
“คุณ คุณฆ่าผมไม่ได้นะ ผมเป็นท่านอาวุโสห้าตระกูลหยูนะ!”
โห้หลีเฉินเหล่มองเขาที่อยู่ต่ำกว่า สายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก มีเพียงความไม่แยแสเท่านั้น
การมองเขา เหมือนกับการมองซากศพ
โห้หลีเฉินไม่มีความลังเลแต่อย่างใด ยื่นมีดสั้นออกมา มือที่ถือมีดพุ่งลง
“เคร้ง!”
ขณะที่มีดสั้นแทงลงไปตรงหัวใจของท่านอาวุโสห้า กระสุนหนึ่งก็ลอยมาแระแทกเข้าใส่ตัวมีด
ทำให้มีดสั้นของโห้หลีเฉินเบี่ยงไปเล็กน้อย แทงตรงใกล้ๆ หัวใจ
ใบมีดเข้าร่าง ท่านอาวุโสห้าเจ็บปวดจนแทบสิ้นสติ
เขาตาแดง ทนความเจ็บ ตะโกนขอความช่วยเหลือ “ท่านผู้นำตระกูล ช่วยผมด้วยครับ!”