สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 931 ต่อจากนี้จะทำยังไง
ได้แต่รั้งตรึงและตีเสมอกันและกันเท่านั้น
แม้จะบอกว่าโห้หลีเฉินอาจฆ่าหยูฉู่สองแล้วฆ่าปิดปากทุกคนในที่นั้น จากนั้นก็มาสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลหยู ควบคุมผลประโยชน์ส่วนรวม
แต่วิธีการแบบนั้นกลับเป็นวิธีการโง่เขลาที่มีปัญหายุ่งยากวุ่นวายที่สุด
อย่างแรก ถึงจะไร้ความรู้สึก แต่โห้หลีเฉินก็ไม่ใช่คนที่จะลงมือสังหารปู่แท้ๆ ได้อย่างสบายใจ
อย่างที่สอง อำนาจอิทธิพลของตระกูลหยูนั้นซับซ้อนยุ่งยากและแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ครอบคลุมทุกในด้านบนโลก
แม้ว่าเขาจะฆ่าหยูฉู่สองเพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลก็คงจะนั่งไม่ติด หากประมาทเพียงนิดเดียวก็อาจจะแพ้ทั้งกระดานและตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า
ในตอนนี้ การหยั่งเชิงกันและกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เมื่อโห้หลีเฉินเห็นว่าพวกเย้นโม่หลินหนีไปไกลแล้ว ก็ออกคำสั่งกับท่านอาวุโสรอง
“ท่านผู้นำตระกูลกำลังตกใจ คุณดูแลอยู่ข้างๆ เขาให้ดี”
ท่านอาวุโสรองเอ่ยอย่างรวดเร็วด้วยความเคารพ “ครับ”
หยูฉู่สองสีหน้าบึ้งตึงอย่างดูไม่ได้
ดูแล? พูดได้ดีนี่
มันคือการให้ท่านอาวุโสรองมาข่มขู่จับตามองเขาชัดๆ ให้เขาไม่สามารถลงมือกับเย้นโม่หลินได้อย่างรวดเร็ว
เฮอะ แค่เวลาอันน้อยนิดแค่นั้น คิดว่าเย้นโม่หลินจะหนีออกจากอาณาเขตของตระกูลหยูได้จริงๆ งั้นเหรอ?
ไม่มีทาง!
หยูฉู่สองคิดอย่างลับๆ จิตสังหารแทบจะถึงจุดสุดยอด
โห้หลีเฉินไม่สนใจเขาอีกต่อไป เขาหมุนตัวเดินไปยังสวนดอกไม้ที่ทางอีกเส้นหนึ่ง
เขาจะไปแล้ว
หยูฉู่สองไม่ต้องถามก็รู้ โห้หลีเฉินนั้นต้องการจะไปหาเย้นหว่าน
เดิมทีเขากักตัวเย้นหว่านเอาไว้ โดยคิดจะใช้เย้นหว่านเป็นเครื่องต่อรองกับโห้หลีเฉิน แต่กลับไม่คิดว่าเย้นหว่าผู้หญิงคนนั้นจะหนีไปแล้ว
ตอนนี้ยังจับตัวไม่ได้ ซึ่งหมายถึงเขาสูญเสียคนที่จะควบคุมโห้หลีเฉินไปแล้ว
“เวรเอ้ย”
หยูฉู่สองก่นด่าอย่างโกรธเกรี้ยว หัวเสียที่แผนการของวันนี้จะพังไม่เป็นท่า
โห้หลีเฉินเดินไปอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อออกมาจากคลังสมบัติ สิ่งแรกที่เขากังวลนั้นคือเย้นหว่าน
และรีบไปหาเย้นหว่านโดยทันที แต่ในห้องของเธอนั้นไม่มีใครอยู่เลย
ถึงได้รู้ว่าเย้นหว่านเองก็หนีไปแล้ว
ผู้หญิงของเขาเฉลียวฉลาดที่สุดเลย
ไม่ได้ตกอยู่ในกำมือของหยูฉู่สอง
โห้หลีเฉินเดินตรงไปยังสวนดอกไม้ ร่างสูงจมหายไปในเส้นทางจนมองไม่เห็นเงาร่างนั้นอีก
หยูฉู่สองมองไปทิศทางนั้นด้วยสีหน้ามืดทะมึน ท้ายที่สุดก็เดินไปอย่างบึ้งตึง
เหล่าบอดี้การ์ดทยอยแยกกันไป บนพื้นเหลือเพียงเลือดข้นที่นองอยู่บนพื้น
โห้หลีเฉินเดินตามทางตรงไปยังพุ่มไม้เขียวชอุ่มตรงหน้าแล้วมองไปข้างใน
เขาเอ่ยเสียงทุ้ม “ออกมาเถอะ”
สิ้นเสียงของเขา พุ่มไม้ก็ถูกแหวกออก ร่างเล็กร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากข้างในแล้วโผเข้าสู่อ้อมแขนของโห้หลีเฉิน
คือเย้นหว่านนั่นเอง
เย้นหว่านกอดโห้หลีเฉินเอาไว้แน่น น้ำตาที่ยังไม่ทันแห้งสนิทซับลงบนเสื้อผ้าของโห้หลีเฉิน
เธอพูดสะอึกสะอื้น “ฮือฮือฮือ ในที่สุดนายก็มา ฉันกลัวแทบตายอยู่แล้ว”
“ขอโทษนะ ฉันมาสายซะแล้ว”
โห้หลีเฉินกอดหญิงสาวตัวเล็กในอ้อมแขน หัวใจที่โหวงเหวงจึงสงบลงในที่สุด
ได้กอดเธอ ได้เห็นกับตาตัวเองว่าเธอปลอดภัยดี เขาก็วางใจ
ฝ่ามือกว้างของเขาลูบผมของเธอแล้วเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรแล้ว มีฉันอยู่ทุกอย่างก็จะดีเอง จะไม่มีใครทำร้ายเธอได้อีกต่อไป ไม่เป็นไรแล้ว”
คำพูดอันอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้ปลายจมูกของเย้นหว่านยิ่งแสบตื้อ น้ำตาไหลพรากออกมาอีกครั้ง
เธอตกใจกลัวแทบตายไปเลยจริงๆ
เมื่อเห็นพวกเย้นโม่หลินถูกล้อมสังหารอย่างน่าสังเวช เห็นความเป็นความตายท่ามกลางกลิ่นคาวเลือด เธอแทบหยุดหายใจ อยากจะพุ่งเข้าไปตายด้วยกันกับพวกเขาอย่างไม่สนอะไรทั้งสิ้น
โชคดีที่โห้หลีเฉินมาในเวลานั้น
เขามาถึงราวกับพระเจ้าที่ช่วยพวกเย้นโม่หลินและควบคุมสถานการณ์เอาไว้
หัวใจที่แขวนอยู่ที่ลำคอของเย้นหว่าน ในที่สุดก็ปล่อยวางลงได้แล้ว
ขอแค่มีเขาอยู่ เธอก็อุ่นใจ
ขณะร้องไห้ไป เย้นหว่านก็ยังถามอย่างเป็นกังวล “พวกเว่ยชีพกยาติดตัวรึเปล่า? พวกพี่ชายฉันบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น ถ้ารักษาไม่ทันเวลาจะเป็นเรื่อง”
เธอยิ่งรู้ดีว่า หยูฉู่สองคงไม่ยอมรามือ และต่อจากนี้ก็จะตามล่าอย่างไม่จบไม่สิ้น
หากผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ได้พักฟื้นและไม่ได้คุณภาพ ก็จะถึงแก่ชีวิตได้เลย
โห้หลีเฉินแววตาหม่นลงแล้วเม้มปาก “มาไม่ทันน่ะ”
เมื่อเขาออกมาจากคลังสมบัติแล้วไม่เจอเย้นหว่าน เขาก็ตรงมาที่สวนดอกไม้ทันที
เรื่องในวันนี้ สำหรับโห้หลีเฉินแล้วก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้สังหรณ์ไว้เลย
เขารีบมาช่วยเย้นโม่หลินไว้ได้ทัน ก็เป็นความโชคดีใหญ่หลวงท่ามกลางความโชคร้ายแล้ว
เย้นหว่านได้ยินดังนั้นก็ตื่นตระหนกและวิตกขึ้นมาทันที
“งั้นการบาดเจ็บของพี่ชายฉัน…..”
“ไม่ต้องห่วง หลังจากพวกเขาหนีออกจากตระกูลหยูก็คงคิดวิธีหายามาได้ เธอต้องเชื่อใจเย้นโม่หลิน เขาไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ เขามีวิธีรักษาชีวิตของตัวเอง”
หยุดไปเล็กน้อย โห้หลีเฉินก็พูดเสริมขึ้นอีก “ผู้ชายน่ะเพื่อผู้หญิงของตัวเองแล้ว ก็จะเค้นพลังแฝงที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมาได้ แม้จะเพื่อกู้จื่อเฟย พี่ชายของเธอก็จะต้องมีชีวิตต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวได้แน่”
เย้นหว่านจ้องมองโห้หลีเฉินอย่างเลื่อนลอย เธอพบว่าที่เขาพูดนั้นก็ดูสมเหตุสมผล
หัวใจที่สั่นระริกด้วยความไม่สบายใจของเธอก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
ในเวลานั้น ข้างหลังของเธอก็มีเสียงใบไม้ไหวเสียดกันดังขึ้น
เป็นท่านอาวุโสแปดนั่นเองที่เดินออกมาจากด้านหลัง
เย้นหว่านรีบหันกลับไป ก็เห็นท่านอาวุโสแปดที่ค้อมตัวคำนับให้โห้หลีเฉินด้วยความเคารพ
“นายน้อย”
โห้หลีเฉินมองท่านอาวุโสแปดแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณมาก”
ท่านอาวุโสแปดยิ้ม “นี่เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำครับ”
เย้นหว่านมองการกระทำของทั้งสอง นึกไปว่าโห้หลีเฉินนั้นเอ่ยขอบคุณท่านอาวุโสแปดเพราะเมื่อครู่เขามาช่วยปกป้องเขาไว้
เธอพูดด้วยความสงสัย “โห้หลีเฉิน เมื่อกี้นายเดินมาที่นี่โดยตรงได้ยังไง? นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
คนของหยูฉู่สองหาเธอไปทั่วสวนนี้อยู่หลายรอบก็ยังตามหาเธอไม่เจอ
ตำแหน่งที่ซ่อนของท่านอาวุโสแปดนั้นเป็นความลับจริงๆ หากว่าตามเหตุผลโห้หลีเฉินก็ควรจะไม่รู้
โห้หลีเฉินมองท่านอาวุโสแปดแล้วพูดขึ้น
“ตอนที่ฉันมา ท่านอาวุโสแปดก็ให้คนมาบอกฉันแล้วว่าเขาซ่อนเธอไว้ที่นี่ ทำให้ฉันจัดการเรื่แงข้างนอกได้อย่างสบายใจ”
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตามหาเย้นหว่านต่อ
เย้นหว่านก็รู้ได้ในฉับพลัน เธอมองไปที่ท่านอาวุโสแปดอย่างนับถือ
เขาช่างคิดได้รอบคอบจริงๆ
โห้หลีเฉินไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ ต่อกรกับหยูฉู่สองได้อย่างวางใจแล้วช่วยพวกเย้นโม่หลินไว้
“ท่านอาวุโสแปด ขอบคุณท่านมาก”
เย้นหว่านหันไปโค้งตัวเก้าสิบองศาให้กับท่านอาวุโสแปดด้วยความเคารพ
เรื่องในวันนี้ ท่านอาวุโสแปดได้ช่วยเหลือไว้มากมาย หากไม่มีเขา เย้นหว่านที่ถูกคนของหยูฉู่สองจับตัวไว้ก็จะต้องกลายเป็นจุดอ่อนของโห้หลีเฉินแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นเรื่องในวันนี้ก็คงไม่สามารถจัดการได้ดีขนาดนี้
ท่านอาวุโสแปดรีบโค้งตอบเย้นหว่าน “คุณหนูเย้น หาไม่ได้หาไม่ได้ นี่ล้วนเป็นสิ่งที่สมควรทำ คุณคือนายหญิงในอนาคตของผม การปกป้องคุณเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม”
หยุดไปเล็กน้อย เขาก็มองเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินอย่างเป็นกังวลอีกครั้ง ก่อนพูดขึ้น
“ตอนนี้ได้ล่วงเกินผู้นำตระกูลและเป็นปฏิปักษ์กับเขาอย่างสมบูรณ์ ต่อจากนี้สถานการณ์ของพวกคุณที่ตระกูลหยูจะยากลำบากอย่างแน่นอน พวกคุณคิดจะทำอย่างไรต่อไปหรือครับ?”