สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 944 เหนือความคาดหมาย
ท่านอาวุโสสามโบกมืออย่างพึงพอใจ เอ่ยพูดอย่างได้ใจว่า
“เอาล่ะ กระผมได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกท่านฟังแล้ว ทุกท่านมีเครื่องลงคะแนนเสียงอยู่ในมือกันทุกคน ตอนนี้เริ่มทำการโหวตได้
สนับสนุนให้โจมตีตระกูลเย้นเพื่อชิงยาถอนพิษกลับมา กด1 ไม่สนับสนุนกด2”
พันกว่าคนในหอประชุม รีบหยิบเครื่องลงคะแนนเสียงออกมา เริ่มทำการกดในทันที
ท่านอาวุโสรองไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป เขาตบโต๊ะพร้อมกับลุกพรวดขึ้นมา
“ท่านอาวุโสสามท่านทำอย่างนี้ไม่ค่อยถูกนะ! ที่ท่านพูดมาแอบแฝงไปด้วยกลิ่นอคติความเกลียดชังส่วนตัวซะจนเหม็นหึ่ง แถมยังลำเอียง มันไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเสียหน่อย ยังพูดไม่กระจ่างก็ให้เริ่มโหวตแล้ว มันไม่ยุติธรรมกับนายน้อยไปหน่อยเหรอ”
ราวกับท่านอาวุโสสามคาดการณ์สถานการณ์แบบนี้เอาไว้ตั้งแต่แรก จึงเอ่ยพูดออกมาอย่างไร้ความลนลาน
“ความจริงทั้งหมด กระผมพูดออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอคติใดๆเลยสักนิด ท่านอาวุโสรองครับ เรื่องที่ท่านประมุขตัดสินใจโจมตีตระกูลเย้น แต่นายน้อยกลับกางร่มปกป้องตระกูลเย้น กระผมก็พูดถูกแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็ถูก แต่ว่า……..”
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ก็แปลว่าถูกต้อง”
ท่านอาวุโสสามพูดตัดบทท่านอาวุโสรอง สีหน้าท่าทางเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม
“คนของตระกูลหยูกว่าหลายพันคน เลือกทิ้งการงานเพื่อมาที่นี่ เวลาทุกวินาทีมีค่า จบจากนี้ก็ต้องรีบกลับไปรับผิดชอบงานต่อ การประชุมในครั้งนี้ก็ต้องยกประเด็นที่สำคัญที่สุดมาพูด เรื่องอื่นที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรยกมาพูดให้เสีย”
ความหมายก็คือ คำพูดปลุกปั่นนอกบริบทเหล่านั้นของเขาล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นสำคัญ ส่วนประเด็นที่แท้จริงกลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเสียอย่างนั้น
“น้องสาม แกอย่าคิดว่าคำพูดลื่นไหลของแก จะสามารถปกปิดความจริงได้ เชื่อไหมว่าฉันฆ่าแกตายได้!”
“โอโห ตั้งแต่ที่ท่านอาวุโสรองติดตามนายน้อย นอกจากจะไม่เห็นท่านประมุขในสายตา ยังคิดที่จะฆ่ากระผมเหมือนที่เหมือนนายน้อยฆ่าท่านอาวุโสอีกเหรอ?”
เขาพูดประโยคเหล่านี้ออกมาดังๆ จนทุกคนได้ยินกันหมด
เมื่อได้ยินแบบนั้น ในหอประชุมก็กลับมาโกลาหลอีกครั้ง
บางคนก็ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ “อะไรนะ? นายน้อยฆ่าท่านอาวุโสของตระกูลเหรอ?”
นอกจากท่านประมุขและนายน้อยแล้ว ยังมีท่านอาวุโสทั้งแปดในตระกูลหยู ที่เป็นผู้มีเกียรติและมีอำนาจมากที่สุด ทั้งยังเป็นผู้ที่ทุกคนในตระกูลหยูเคารพนับถือ
ท่านอาวุโสอยู่สูงขาดนั้น ยังถูกฆ่าอีกเหรอ?
พวกเขาเริ่มตื่นตระหนก ทั้งยังไม่อยากจะเชื่อ
รอยยิ้มแสยะพาดผ่านนัยน์ตาของท่านอาวุโสสาม จากนั้นก็แสร้งทำเป็นเศร้าโศกเสียใจ เอ่ยพูดอย่างลำบากใจว่า
“เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด กระผมผิดเองที่วู่วามพูดมันออกมา ทุกท่านอย่าโทษนายน้อยเลย นายน้อยก็แค่ทำไปเพื่อปกป้องเย้นโม่หลิน ถึงได้พลั้งมือฆ่าท่านอาวุโสสี่ และพลาดทำร้ายท่านอาวุโสห้า”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมา ทั่วทุกบริเวณต่างโกลาหล
ผู้คนหันมามองโห้หลีเฉินอย่างเจ็บปวดและกรุ่นโกรธ เริ่มเคลือบแคลงในตัวนายน้อยที่เดิมทีก็ไม่น่าไว้วางใจเสียเท่าไหร่
ถึงกับฆ่าคนในตระกูลของตัวเองเพื่อคนนอก นายน้อยแบบนี้ เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของตระกูลหยูในอนาคตจริงๆเหรอ?
คงไม่ใช่ว่าในภายภาคหน้าจะเข้าข้างคนนอก ยอมเสียสละผลประโยชน์มากมายของตระกูลหยู เพื่อเอาใจคนตระกูลเย้น อย่างที่ท่านอาวุโสสามกล่าวมาหรอกหรือ?
จะเต็มใจให้คนรุ่นหลังของตระกูลถูกตระกูลเย้นข่มขู่และควบคุมด้วยหรือเปล่า?
ทุกคนถกเถียงกันเบาๆด้วยความโกรธ “นายน้อยทำเกินไปแล้วจริงๆ เพื่ออนาคตของตระกูลหยู ฉันจะสนับสนุนให้โจมตีตระกูลเย้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมาในภายหลัง”
“ฉันเองก็สนับสนุนท่านประมุข”
“ฉันก็ด้วย”
ผู้คนพูดกระซิบกระซาบกันเสียงเบา แต่พอหลายๆคนพูดรวมกันก็ดังสะท้อนมาถึงที่นั่งข้างบน ทำให้ได้ยินอย่างชัดเจนว่าทุกคนจะสนับสนุนท่านประมุข
ท่านอาวุโสรองชี้หน้าท่านอาวุโสสามอย่างกรุ่นโกรธ “แก แกจงใจ!”
แต่ช้าแต่นานไม่เคยพูดถึงเรื่องที่ท่านอาวุโสสี่ถูกฆ่า แต่เวลานี้ดันมาพูดเพื่อตัดสินความผิดให้โห้หลีเฉินอย่างอ้อมๆ
ท่านอาวุโสรองไร้วาทศิลป์ในการพูด เขาอยากโต้แย้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี เพราะถึงยังไงโห้หลีเฉินก็ฆ่าท่านอาวุโสสี่จริงๆ
ท่านอาวุโสสามยิ้มอย่างได้ จากนั้นก็เอ่ยเตือนทุกคนว่า
“ทุกท่านเริ่มโหวตได้”
ทุกคนกดปุ่มโหวตอย่างมุ่งมั่น
ท่านอาวุโสรองร้อนใจจนเหงื่อผุด มองมาที่โห้หลีเฉินอย่างกระวนกระวาย “นายน้อย น้องสามล้างสมองคนพวกนี้หมดแล้ว ทุกคนต้องโหวตให้ท่านประมุขแน่ๆ เราจะทำอย่างไรดี?”
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ โห้หลีเฉินยังคงนั่งอย่างสงบ เฉยชาราวกับว่าเรื่องมันไม่เกี่ยวกับตัวเอง
เธอยกชาขึ้นมาจิบ แล้วพูดอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า
“แค่รอผลโหวต”
“แต่ว่า มัน มัน……..”
ท่านอาวุโสรองแทบจะเต้นเร้าๆ ยังต้องรออะไรอีก ยังไงก็แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
แต่เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของโห้หลีเฉิน เขาไม่มีท่าทีจะพูดอะไร และทำอะไรเลยสักนิด
หรือว่าพอนายน้อยได้ยินที่ท่านอาวุโสสามพูดมาแบบนั้น ก็คิดจะยอมแพ้เสียแล้ว?
ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก เขาน่าจะเชื่อท่านอาวุโสแปดเรื่องแผนเดิมพันใจคนอะไรนั่น ไม่น่าเห็นดีเห็นชอบให้จัดประชุมตระกูลในครั้งนี้เลย
นี่มันใช่การประชุมเสียที่ไหน นี่มันงานรวมตัวเพื่อล้างสมองของท่านอาวุโสสามชัดๆ โอกาสนี้แหละ โห้หลีเฉินได้ถูกคนทั้งตระกูลเกลียดชังแน่ๆ
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป หยูฉู่สองก็จะได้ใจของทุกคนในการประชุมครั้งนี้ ต่อจากนั้นก็จะตัดสินโทษให้โห้หลีเฉินทรยศตระกูลได้อย่างง่ายดาย
โห้หลีเฉินกำลังขุดหลุมฝังตัวเองอยู่ไม่ใช่หรือไง?
“เฮ้อ!”
ท่านอาวุโสรองถอนหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้อย่างสิ้นหวัง
ยิ่งเห็นทุกคนกำลังกดเครื่องลงคะแนนในมือ ก็ยิ่งรู้สึกเหี่ยวเฉา
“การโหวตสิ้นสุด!”
เมื่อท่านอาวุโสสามสะบัดมือ ในหอประชุมก็เงียบลงอีกครั้ง
เขาหันไปมองหยูฉู่สอง ทั้งสองสบตากันด้วยแววตาของผู้ชนะ รอฟังผลแทบทนไม่ไหว
เขาเอ่ยพูดว่า “ฉายผลโหวตได้”
ผลโหวตถูกบันทึกโดยโปรแกมคำนวณข้อมูลเฉพาะทาง แม้แต่ตัวของท่านอาวุโสสามเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าผลโหวตจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เขามั่นใจ ว่าครั้งนี้โห้หลีเฉินต้องแพ้แน่ๆ
สิ่งที่เขาต้องเจอ มีแค่ความพ่ายแพ้และความดับอนาถ
ทันทีที่เสียงพูดถูกเปล่งออกมา ลูกน้องที่เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรกก็วางมือลงบนเมาส์ แล้วกดลงไปเบาๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จ้องมองมา
ชั่วขณะนั้น หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของท่านอาวุโสสาม ก็ปรากฏภาพกราฟขึ้นมาสองแท่ง
ท่านอาวุโสสามรีบหันไปมองอย่างดีใจ ทว่า ในตอนที่ได้เห็นกราฟข้อมูลชัดๆ เขาก็แข็งค้างไปทั้งตัว
เขาคิดว่าตัวเองตาฝาด จึงขยี้ตาแล้วดูใหม่ แต่ก็ยังเป็นภาพที่กราฟทั้งสองแท่งสูงไล่เลี่ยกัน
นี่มันอะไร?
ทำไมคะแนนโหวตของโห้หลีเฉินถึงได้ใกล้เคียงกับท่านประมุขอย่างนี้ล่ะ?
คนจำนวนสามพันคน มีคนเลือกเขา1295คน จำนวนที่สนับสนุนท่านประมุขมีแค่1305 ส่วนที่เหลือเลือกไม่ลงคะแนน
โหวตจากจำนวนคนพันกว่าคน แถมยังเป็นการประชุมใหญ่ๆแบบนี้ แต่คะแนนกลับห่างกันแค่สิบคน มันไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด
แบบนี้ก็แปลว่า คนที่สนับสนุนโห้หลีเฉินกับคนที่สนับสนุนท่านประมุขก็มีพอๆกัน
“ท่านประมุข นี่…………”
ท่านอาวุโสสามหันไปมองหยูฉู่สองอย่างงุนงงและลำบากใจ สถานการณ์แบบนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขา เขาไม่รู้เลยว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งๆที่พวกเขาอ้างชื่อท่านประมุขเพื่อกำชับคนพวกนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ต้องสนับสนุนท่าประมุขเท่านั้น
คำพูดที่ท่านอาวุโสสามพูดมาเมื่อสักครู่ ล้วนแล้วแต่หยิบยกเรื่องที่ไม่ดีต่อโห้หลีเฉินมาพูด ซ้ำยังพูดแทงใจดำเรื่องผลประโยชน์ของทุกคน แค่นี้ก็พอเป็นเหตุผลให้พวกเขาไม่สนับสนุนโห้หลีเฉินแล้วสิ
แต่1295คน นี่มันเรื่องอะไรกัน?