สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 955 เซอร์ไพรส์ที่มาเยือนกะทันหัน
หัวใจของโห้หลีเฉินคล้ายกับถูกคนใช้มือบีบ เจ็บปวดจนรู้สึกอึดอัดไม่สบาย
เขาหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดเหงื่อที่ไหลไม่หยุดให้เธอ ปลอบประโลมเสียงเบาว่า “คุณหมอใกล้จะมาแล้ว ไม่ตรงกลัว ผมอยู่ข้างกายคุณ”
เสี่ยวย่ายืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่หน้าประตู มองเย้นหว่านที่นอนอยู่ในห้องด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ร่างกายสั่นระริก
สีหน้าของเธอซีดเผือดลงเรื่อยๆ ร่างกายก็สั่นเทาเล็กน้อย
เธอคิดไม่ถึงว่าเย้นหว่านจะหมดสติกะทันหัน สถานการณ์ย่ำแย่เสียจนต้องนอนอยู่บนเตียง
แต่คล้ายกับอยู่ในการคาดเดา
เธอกัดฟัน ร่างกายสั่นไม่หยุด
ในตอนนี้เองที่เธอได้ยินเสียงเปิดประตูที่ชั้นล่าง และก็เห็นหมอหญิงวัยกลางคนสวมชุดกาวน์สีขาวถือกล่องยาเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบบนระเบียงทางเดิน
ลมหายใจของเสี่ยวย่าถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อเย็นบนหน้าผากไหลไม่หยุด
คุณหมอก็มาแล้ว
ทำไมจู่ๆเย้นหว่านถึงได้หมดสติไปล้วนสามารถมองออกหมด ถึงตอนนั้นเธอ……
ร่างกายของเสี่ยวย่าสั่นไปทั้งตัว
เธอลังเลอยู่สองวินาที กัดริมฝีปากแน่น เดินเข้าไปในห้องทันที เสียง “ตุบ” จากการคุกเข่ากับพื้นดังขึ้น
“นายน้อย ขอโทษค่ะ เป็นฉันที่ละเลยความรับผิดชอบ ความจริงแล้วหลายวันมานี้คุณเย้นกินอาหารไม่ค่อยลง กินแล้วบางครั้งก็อาเจียนออกมา ความอยากอาหารแย่มากค่ะ
แต่เธอไม่ให้พวกเราบอกคุณ พวกเราจึงไม่กล้าบอกกับคุณมาโดยตลอด
ฉันนึกว่าเธอเพียงแค่อยากอาหารน้อยลง ผ่านไปไม่กี่วันก็ดีขึ้นแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะ…….จะหมดสติ”
ร่างกายผอมแห้งจนสามารถหมดสติไปได้ อย่างนั้นอาการอยากอาหารน้อยลง กินน้อยลง ในหลายวันมานี้ก็เป็นโทษมหันต์แล้ว
สายตาของโห้หลีเฉินเย็นยะเยือกขึ้นมา ราวกับน้ำแข็งทิ่มแทงไปยังร่างของเสี่ยวย่า
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าสาวใช้เหล่านี้จะกล้าทำเหมือนต่อหน้าปฏิบัติตาม แต่ลับหลังกลับไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา
เรื่องอย่างการที่เย้นหว่านกินได้น้อย และยังอาเจียน ก็ถึงกับกล้าที่จะปิดบังเขา
สมควรตาย!
กลิ่นอายสังหารน่าหวาดกลัวรอบตัวโห้หลีเฉินทำให้เสี่ยวย่าตกใจกลัวจนร่างกายสั่นไม่หยุด หมอบอยู่บนพื้น โขกศีรษะร้องไห้
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ขอให้นายน้อยลงโทษด้วยเถอะค่ะ”
“ลงโทษหรือ เหอะ หากว่าเธอมีอันตรายถึงชีวิต พวกเธอ ใครก็อย่าคิดว่าจะสบายดี”
เสียงของโห้หลีเฉินเย็นเยียบ หากไม่ใช่ว่าจับมือของเย้นหว่านอยู่ ตอนนี้เขาจะลุกขึ้นบีบหญิงสารเลวคนนี้ให้ตายกับมือ
เสี่ยวย่าตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม
หมอหญิงวัยกลางคนถือกล่องยาเดินเข้ามาด้วยความเร่งรีบ เพิ่งจะเข้าประตูมาก็รู้สึกได้ถึงลมหนาวเย็นเสียดกระดูกที่พัดมาปะทะใบหน้า ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะตัวหนาวสั่น
เธอชะงักอยู่ที่หน้าประตู รู้สึกหวาดหวั่นจนไม่กล้าเข้ามา
สายตาเย็นชาของโห้หลีเฉินมองไปทางเธอ ตวาดด้วยความหงุดหงิดว่า
“รีบไสหัวเข้ามาตรวจ ดูสิว่าเธอเป็นอะไรไป”
กลิ่นอายสังหารทั่วทั้งร่างโห้หลีเฉินใกล้จะระเบิดแล้ว
หมอวัยกลางคนตกใจจนขาทั้งสองข้างสั่นระริก กัดฟันเดินเข้าไป “ค่ะ ฉันจะรีบ จะรีบตรวจเดี๋ยวนี้”
คุณหมอจ้องมองความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูกที่แผ่ออกมาจากภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลัง จงใจละเลยสาวใช้ที่ตัวสั่นระริกอยู่บนพื้นไป ฝืนรับความกดดันอันยิ่งใหญ่ บีบบังคับให้ตัวเองแสดงฝีมือการรักษาอย่างเป็นมืออาชีพออกมา สังเกตอาการของเย้นหว่าน
ตั้งแต่ต้นจนจบ โห้หลีเฉินล้วนนั่งอยู่ข้างเตียงอีกด้านหนึ่ง จับมือเล็กของเย้นหว่านเอาไว้โดยไม่ยอมออกห่างแม้แต่ครึ่งก้าว
สายตายิ่งเหมือนกับเครื่องยิงแสงเลเซอร์ จ้องมองทุกความเคลื่อนไหวของหมอหญิงอย่างใกล้ชิด
เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีเวลาหาตัวคุณหมอที่ประวัติสะอาดบริสุทธิ์มา หมอคนนี้ก็คือคนที่ตระกูลหยูจับมา
จึงนับว่าเป็นคนของหยูฉู่สอง
หยูฉู่สองมีความคิดชั่วร้ายต่อเย้นหว่านมาโดยตลอด สถานการณ์แบบนี้ อาจจะให้คุณหมอเล่นตุกติกกับเย้นหว่าน
หรือถ้าเย้นหว่านมีอาการอะไรจริงๆ คุณหมอคนนี้แค่หันกลับไปก็จะรายงานเรื่องทั้งหมดให้หยูฉู่สองทราบ
ดังนั้นโห้หลีเฉินจึงต้องจับมองทุกการกระทำอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เธอมีโอกาสที่จะทำร้ายเย้นหว่านได้แม้แต่น้อย
จนถึงขั้นที่ว่าหากร่างกายของเย้นหว่านมีอะไรผิดปกติ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะปิดปากคุณหมอเช่นกัน
ดังนั้นจึงถูกกลิ่นอายของโห้หลีเฉินทำให้ตกใจแทบตาย จนถึงขั้นรู้สึกได้ว่าเทพแห่งความตายกำลังกวักมือเรียกตัวเองอยู่ แต่สามารถเข้ามาในตระกูลหยูได้ ฝีมือในการรักษาย่อมยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก
หลังจากคุณหมอตรวจดูอาการไปรอบหนึ่งแล้ว กลับถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง
เธอเช็ดเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผากเพราะตกใจ ทั้งยังยกยิ้มออกมาด้วย
“นายน้อย ยินดีด้วยค่ะ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว มองเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
หมอหญิงหัวเราะฮ่าๆ พลางเอ่ยว่า
“คุณเย้นไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เธอตั้งครรภ์แล้ว”
โห้หลีเฉินตะลึงค้างในทันที ร่างกายแข็งทื่อราวกับท่อนไม้
สีหน้าเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง มองไปที่เย้นหว่าน และมองไปที่หมอหญิง ถามด้วยความไม่แน่ใจอย่างสุดซึ้งว่า
“คุณพูดจริงๆหรือ คุณพูดอีกครั้งหนึ่งสิ!”
“เป็นความจริงค่ะ จริงแท้แน่นอน คุณเย้นตั้งครรภ์แล้วจริงๆ”
คำพูดนี้ราวกับกระสุนปืนใหญ่ระเบิดในสมองของโห้หลีเฉิน คนที่เฉลียวฉลาดคิดมองการณ์ไกลอย่างเขาในตอนนี้กลับปรากฏความยินดีที่ไม่อยากจะเชื่อขึ้นมา
ตั้งครรภ์แล้ว?
เย้นหว่านตั้งครรภ์แล้ว?
ตั้งครรภ์ลูกของเขากับเธอ!
ความปีติยินดีแทบจะกลบฝังโห้หลีเฉินทั้งร่าง เขาจับมือเย้นหว่านแน่น แต่กลับหยุดอาการสั่นของมือและความตื่นเต้นในใจเอาไว้ไม่ได้
“เย้นหว่าน คุณได้ยินไหม”
“คุณตั้งครรภ์แล้ว ตั้งครรภ์ลูกของพวกเรา”
“พวกเรามีเจ้าตัวน้อยแล้ว คุณจะเป็นแม่แล้ว”
โห้หลีเฉินกระซิบเสียงเบาข้างหูเย้นหว่าน ถูกความปีติยินดีที่จะได้เป็นพ่อคนทำให้เขาเกิดความดีใจและความตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่อยู่
ราวกับได้รับของล้ำค่ามา เป็นความรู้สึกนี้แหละ
คุณหมอก็โล่งอกตาม เย้นหว่านตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องน่ายินดี เธอจะไม่ถูกระบายความโกรธใส่เพราะเหตุนี้
กระทั่งความกดอากาศต่ำภายในห้องก็จางหายตามไปด้วย
คุณหมอจึงมีความกล้าขึ้นเล็กน้อย เอ่ยยิ้มๆว่า
“อาการในช่วงตั้งครรภ์ของคุณเย้นน่าจะปรากฏขึ้นแล้ว ระยะนี้เธอจะอ่อนเพลียเผลอหลับโดยไม่รู้ตัว ไม่มีความอยากอาหาร กินน้อย อารมณ์แปรปรวนมาก ทนรับเรื่องสะเทือนใจไม่ได้
ร่างกายของเธอก็ไม่ค่อยจะดี การตั้งครรภ์ในระยะแรกนั้นสำคัญมาก นับตั้งแต่ตอนนี้ เธอต้องบำรุงให้ดี”
เมื่อได้ยินคำพูด รอยยิ้มยินดีบนใบหน้าเสี่ยวย่าก็หายไป
เธอหมอบตัวร้องไห้อยู่บนพื้น “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย เป็นฉันที่ประมาทชะล่าใจ ไม่ทราบว่าคุณเย้นตั้งครรภ์แล้ว ทั้งยังไม่ได้ดูแลเธอให้ดี เป็นความผิดของฉันเอง เชิญคุณลงโทษฉันเถอะค่ะ”
โชคดีที่เด็กไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเธอตายเป็นหมื่นครั้งก็ยากที่จะหลุดพ้นความผิดนี้
สายตาของโห้หลีเฉินจับจ้องอยู่ที่ร่างของเย้นหว่านตลอด สักวินาทีหนึ่งก็ไม่อยากเบนสายตาออกจากเธอ
เขาจับมือเธอแน่น ราวกับว่าสิ่งที่จับอยู่นั้นคือโลกทั้งใบ
เขาไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจคนอื่น “พวกเธอออกไปรอข้างนอกก่อน”
ไม่มีการสั่งให้เขียนใบสั่งยาบำรุงครรภ์
และไม่มีการลงโทษอย่างเฉพาะเจาะจง
ทั้งหมดล้วนถูกสั่งให้รอก่อน
คุณหมอกับสาวใช้ล้วนเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ จึงทำได้เพียงแค่ถอยออกไปอย่างเรียบร้อย ทิ้งห้องให้กับโห้หลีเฉินและเย้นหว่านสองคน
ภายในห้องเงียบสงบลง
โห้หลีเฉินนั่งอยู่ข้างเตียง จับมือเล็กของเย้นหว่านแน่น แววตาไหววูบค่อยๆมองไปที่หน้าท้องแบนราบของเธอ
ดวงตาของเขาราวกับถูกลวกทันที
ข้างในนั้นมีลูกของเขาที่กำลังเจริญเติบโตอยู่
ลูกของเขากับเย้นหว่าน
ความรู้สึกประหลาดนี้ทำให้โห้หลีเฉินทำอะไรไม่ถูก ดีใจไปชั่วขณะหนึ่งจนไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง โห้หลีเฉินถึงจะได้สติกลับมาจากความปีติยินดีมากมาย และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา