สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 969 ฉันยังพูดไม่จบเลย
กู้จื่อเฟยอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มกว้างออกมา ความเจ็บปวดตามร่างกาย ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกดีของเธอไม่ได้เลย
เธอเอ่ยหยอกล้อ “ฉันยังพูดไม่จบเลย ทำไมคุณถึงเอาเปรียบฉันล่ะ?”
เย้นโม่หลินตกตะลึง มึนงงเล็กน้อย
นั่นไม่ใช่เพราะปกติกู้จื่อเฟยใช้ลูกไม้แหย่เขา เขาถึงได้ถูกแหย่ให้ทำตามเงื่อนไขไง? เธอต้องการเขาด้วยเหตุผลนี้ ดูเหมือนกู้จื่อเฟยเอ่ยขอมากกว่าแล้ว”
ทว่า เย้นโม่หลินอดทนและอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก
“งั้นเธอต้องการอะไร ค่อยๆ พูด ฉันรับปากเธอหมด”
กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินด้วยสายตาแวววาว น้ำเสียงออดอ้อนเอาแต่ใจ
“ฉันต้องการให้คุณดูแลบาดแผลฉัน จนฉันแผลหายดีหมด”
เมื่อครู่เธอเฉียดไหล่กับเทพแห่งความตายแล้ว ทำให้กู้จื่อเฟยคิดขึ้นได้ในทันที
ขอเพียงเธอยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ขอเพียงเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะมัดติดอยู่ข้างกายเย้นโม่หลิน จ้องมองเขาปกป้องเขาคอยอยู่กับเขาทุกเมื่อเชื่อยาม จึงจะไม่ทำให้ตัวเธอเองนั้นผิดหวัง
เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟยด้วยสายตาหนักแน่น ในทรวงอกเกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมา
เธอบาดเจ็บจนเป็นแบบนี้ เขาดูแลเธอ เดิมทีก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ
ทว่าต้องให้เธอเอ่ยข้อเรียกร้องแบบนี้
เขาช่างไม่แสดงความรับผิดชอบเอาเสียเลย
ในลำคอของเย้นโม่หลินเหมือนมีไฟก้อนหนึ่งอุดไว้อยู่ รู้สึกร้อนทรมาน
เขาค่อยๆ ก้มหัวลงอย่างแข็งกระด้าง จูบลงบนหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา
เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ได้สิ”
ไม่เพียงแค่ช่วงที่ดูแลบาดแผล นับจากวันนี้ไป เขาจะให้เธออยู่เคียงข้างกาย จะดูแลเธอและปกป้องเธอ
ในตอนนี้ เย้นโม่หลินเพิ่งจะเข้าใจ ทำไมโห้หลีเฉินต้องให้เย้นหว่านอยู่ข้างกายตลอดเวลา ดูแลเสมือนแก้วตา ไม่ให้เธออยู่ห่างจากสายตาเขาแม้เพียงวินาทีเดียว
เพราะว่าหญิงสาวนั้นช่างบอบบางเหลือเกิน
ถ้าเกิดไม่เอาใจใส่ ถ้าเกิดหันตัวไป ถ้าเกิดมองไม่เห็น เธอก็อาจจะได้รับบาดเจ็บ อาจจะเกิดเรื่องขึ้น
ก่อนจะเกิดเรื่องซ้ำสอง เย้นโม่หลินคิดไม่ถึงเลย คนที่เขาพากลับตระกูลเย้นด้วยตัวเอง แฟนของเขา จะถูกแผนสังหารอันโหดเหี้ยมในตระกูลเย้น
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนใจกล้าบุ่มบ่ามมาทำร้ายกู้จื่อเฟย
เย้นจือฮวนรนหาที่ตายมากเกินไป ส่วนเขาก็ปกป้องน้อยเกินไป
“ตอนนี้ฉันพาเธอกลับไป ดีไหม?”
เย้นโม่หลินเอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยนมาก
เขาไม่กล้าอุ้มเธอง่ายๆ ทุกที่ตามร่างกายล้วนเป็นแผล เขากลัวว่าเธอจะเจ็บ
กู้จื่อเฟยพยักหน้าโดยไม่ลังเล สถานที่ผีแบบนี้ สักวินาทีเดียวเธอก็ไม่อยากจะอยู่
ถ้าไม่ใช่เย้นโม่หลินมาได้ทัน เกรงว่าเธอจะกลายเป็นคนตาบอดแล้ว
เย้นโม่หลินเอ่ยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “อาจจะเจ็บหน่อย เธอทนหน่อยนะ ไม่นานก็จะดีขึ้นแล้ว”
พูดแล้ว การกระทำของเขาระมัดระวังและนุ่มนวลเป็นอย่างมาก โอบตัวกู้จื่อเฟยแล้วอุ้มเธอขึ้นมา
ตามตัวส่วนใหญ่เป็นแผล พอโดนหน่อยจะเจ็บมาก
แต่เมื่อกู้จื่อเฟยถูกเย้นโม่หลินอุ้ม กลับไม่ได้รู้สึกว่าตรงไหนถูกดึงจนเจ็บ ในอ้อมอกของเขากว้างใหญ่อ่อนนุ่มเหมือนเตียงน้ำที่นุ่มละมุน
ใบหน้าของกู้จื่อเฟยแนบชิดในอ้อมกอดของเขาอย่างสบายใจ ความเหนื่อยล้าก็ตามมาถาโถม
เธออยากนอนแล้ว
แต่เมื่อมองดูเขา เธอกลับฝืนหนังตาไว้นอนหลับไม่ลง
สองสามวันนี้ผ่านไปโดยยากที่จะทนได้ เธอไม่ได้เจอเขาเลย เมื่อครู่ก็เพิ่งผ่านความหวาดเสียวและความน่าหวาดกลัวไป เธอเกือบจะไปเข้าเฝ้ายมบาลแล้ว
ตอนนี้ได้อยู่ในอ้อมกอดเขา ทำให้เธออาลัยอาวรณ์หลับตาไม่ลง
เย้นโม่หลินมองเธออย่างเจ็บปวดใจ “นอนสักหน่อยเถอะ ฉันรับรอง ตอนที่เธอลืมตาขึ้นมา ฉันจะอยู่ด้วยตลอด”
คำพูดที่ทำให้รู้สึกสบายใจขนาดนั้น
ความสับสนวุ่นวายในใจของกู้จื่อเฟยถูกทำลายในชั่วพริบตา หนังตาของเธอหนักอึ้ง ก่อนค่อยๆ ปิดสนิทลง
ไม่รู้ว่าดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา หรือว่าสลบไม่ได้สติ
เย้นโม่หลินเหลือบมองท่าทีสบายใจของกู้จื่อเฟยที่หลับตานอนในอ้อมกอด แต่ไอสังหารรอบตัวเขา กลับสูงขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว
สายตาเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง กวาดไปที่ทุกคนในที่แห่งนี้อย่างไร้ความปราณี
เอ่ยคำสั่ง “เก็บกวาดที่นี่ซะ”
“ครับนายน้อย ”
หัวหน้าหน่วยหนึ่งทีมหนึ่งที่ติดตามมารับคำสั่ง
จากนั้น คนชุดดำกลุ่มหนึ่งเดินเป็นแถวยาวเหยียดเข้ามา ยกมือขึ้นวางมีดลงแล้วลงมือกับบอดี้การ์ดพวกนั้น
ชั่วพริบตากลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่ว เสียงกรีดร้องดังขึ้น
เย้นโม่หลินกลับไม่ชายตาแลมองพวกเขาสักนิด อุ้มกู้จื่อเฟยอย่างระมัดระวัง เดินมุ่งหน้าไปด้านนอกทีละก้าว
เย้นจือฮวนที่นอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดข้างล่างมองเห็นเหตุการณ์ที่เข่นฆ่านี้ ตกใจจนไม่สนใจความเจ็บปวดจากแขนที่ขาดแล้ว
ร้องตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “พี่เย้นฉันคือจือหฮวนไง เป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ของพี่นะ!”
“แขนของฉันเจ็บมาก พี่รีบมาช่วยฉัน ช่วยฉัน”
“ฮึกฮือพี่เย้น พ่อของฉันเป็นคุณอาแท้ๆ ของพี่นะ พวกเรามีความสัมพันธ์ทางสายเลือด พี่จะไม่ทำร้ายฉันหรอก ใช่ไหม?”
เธอกลัวแล้ว
เพราะว่าในคำสั่งของเย้นโม่หลิน ให้คนเก็บกวาดที่นี่ให้หมด ในนั้นก็อาจจะรวมถึงเธอด้วย
แต่เธอเป็นคุณหนูของตระกูลเย้นนะ จะถูกจัดการแบบนี้ได้ยังไง?
เหมือนกับขยะ?
ฟังเสียงร้องไห้และอ้อนวอนของเย้นจือฮวน ฝีเท้าที่เดินไปหน้าประตูของเย้นโม่หลินก็หยุดลง
เขาไม่ได้หันตัวมา เอ่ยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง
“พาเธอกลับตระกูลเย้น”
เมื่อได้ยินดังนั้น เย้นจือฮวนก็ดีอกดีใจมาก เย้นโม่หลินยังคงเห็นแก่สถานะของเธอจึงได้ปล่อยเธอไปอย่างที่คาดไว้
เธอดีใจจนกำลังจะพูด กลับได้ยินคำพูดที่ไร้ความเห็นอกเห็นใจของเย้นโม่หลินต่อ
“ไม่อนุญาตให้ให้ยากับเธอ”
เย้นจือฮวนตกตะลึง ไม่อนุญาตให้ให้ยากับเธอ?
เธอมองดูแขนของตัวเองที่เลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุดอย่างหวาดกลัว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เธอกลัวว่าจะเลือดไหลจนตาย
เย้นโม่หลินต้องการปล่อยเธอ หรือต้องการฆ่าเธอกันแน่?
เย้นจือฮวนหวาดกลัวสุดขีด ตะโกนด้วยความกลัว
“พี่เย้น ฉันเจ็บ แขนฉันเจ็บมากเลย พี่สั่งให้คนรีบมารักษาได้ไหม? เลือดไหลเยอะมากเลย ฉันตายได้เลยนะ”
จากนั้น เย้นโม่หลินก็ทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ รีบสาวเท้ายาวเดินออกไปด้านนอก
เย้นจือฮวนมองดูภาพแผ่นหลังที่เย็นชาเดินจากไป ความรู้สึกสิ้นหวังก่อขึ้นในหัวใจ
ส่วนสิ่งที่ทำให้เธอยิ่งหวาดกลัวคือ คนที่เย้นโม่หลินพามานั้น ไม่มีคนไหนมีจิตใจที่เคารพและสงสารเธอเลยสักนิด ถึงกับจับเธอลากไปข้างนอกอย่างหยาบคายมาก
แขนที่ขาดของเธอเดิมก็เลือดไหลไม่หยุดอยู่แล้ว พอถูกดึงแบบนี้ เลือดสดก็ไหลพุ่งออกมาอีก
เจ็บมากเสียจนเย้นจือฮวนขอตายเสียดีกว่า
“อ๊าก พวกแกปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ!เจ็บเจ็บเจ็บ พวกแกต้องการให้ฉันเจ็บจนตายหรือไง?”
“คนใกล้จะตายอยู่แล้ว ปล่อยนะ”
“ฉันเป็นคุณหนูของตระกูลเย้นนะ ฉันเป็นเจ้านายของพวกแก ทำไมพวกแกถึงได้……แขนของฉัน แขนของฉัน……”
เย้นจือฮวนร้องเสียงแหลม เสียงก็ยิ่งแหบแห้งลง
ทั่วทั้งร่างกายของเธอ ถูกย้อมไปด้วยสีแดงจากเลือดที่ไหลออกมาจากแขน บนพื้นก็ถูกหยดลงมากลายเป็นทางสายเลือด
เย้นโม่หลินอุ้มกู้จื่อเฟยอย่างระมัดระวังมาตลอดทาง ถึงบนรถแล้วก็สังเกตเธอคร่าวๆ แล้วทายา
อาการบาดเจ็บสาหัสมาก
แผนการชั่วร้ายนั่น ทำให้กระดูกของกู้จื่อเฟยหักไปหลายท่อน อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บในระดับที่ต่างกันไป ตามร่างกายถูกทำร้ายจนผิวปริออก
เขาใช้กล่องยาฉุกเฉินจัดการบาดแผลภายนอกให้เธอชั่วคราวแล้ว แต่สภาพของเธอยังคงเต็มไปด้วยคาวเลือดอย่างน่าสงสาร
เขาก็ไม่รอช้า อุ้มกู้จื่อเฟยตรงไปที่ลานใหญ่ของเย้นเจิ้นจื๋อทันที
ป่ายฉีอยู่ที่นั่น
เขาต้องให้ป่ายฉีรักษาบาดแผลของกู้จื่อเฟย คนอื่นเขาไม่วางใจทั้งนั้น
จากนั้น ตอนที่ฝีเท้าที่เร่งรีบของเย้นโม่หลินเดินมาถึงหน้าประตูลานใหญ่แล้ว หน้าประตูกลับมีกลุ่มคนล้อมไว้ก่อนแล้ว สกัดกั้นถนนไว้หมด
คนที่นำอยู่นั้น ต่างเป็นญาติพี่น้องทางสายเลือดของตระกูลเย้นที่มีฐานะและมีตำแหน่ง