สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 982 คุณยินดีไหม
“วันหลังคุณก็แต่งงานได้กับผมคนเดียวเท่านั้นแล้ว”
น้ำเสียงที่แข็งกระด้างของเย้นโม่หลินระคนความตื่นเต้นเล็กน้อย”กู้จื่อเฟย คุณต้องไตร่ตรองให้ดีนะ?ถ้าออกไปพร้อมกับผมแล้วก็กลับคำไม่ได้อีก”
กู้จื่อเฟยตะลึงงัน คาดไม่ถึงว่ายังมีแบบนี้ด้วย
ประกาศสถานะแฟนสาวก็ยังพอว่า ทว่านี่กระทั่งงานแต่งก็ถือเป็นอันตกลงแล้วหรือ?
หากเธอพยักหน้าออกไปด้วยกัน ไม่ใช่กลายเป็นว่ายอมแต่งงานกับเย้นโม่หลินแล้วหรอกหรือ?
นี่มันรวบรัดตัดตอนผ่านขั้นตอนการขอแต่งงานไม่ใช่หรือ?
ทันใดนั้นกู้จื่อเฟยรู้สึกเลิ่กลั่กเล็กน้อย
เธอชอบเย้นโม่หลินมากและมั่นใจว่าเย้นโม่หลินก็มีใจต่อเธอ ทว่าถึงอย่างไรเย้นโม่หลินก็ยังไม่ยอมรับว่ารักเธอ เรียกได้ว่ายังไม่เข้าใจความหมายของคำว่ารักเท่าใดนัก
ถ้าหากแต่งงาน เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะเข้าใจความหมายของคำว่ารักแล้วค่อยแต่งงานกับเธอ
เย้นโม่หลินเห็นกู้จื่อเฟยลังเลและกระอักกระอ่วน จากที่ไม่ค่อยสบายใจอยู่แล้วก็จมดิ่งในหุบเหวลึก จากนั้นก็มีแต่ความมืดมน ไม่เห็นแสงตะวันเลย
สีหน้าเขามืดครึ้ม กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า”หากคุณไม่ยินดี ผมจัดการให้คุณเข้างานคนเดียวก็ได้”
สิ้นเสียง เย้นโม่หลินหันกายเตรียมจะจากไป
กู้จื่อเฟยยิ่งมึนหนักกว่าเดิม เธอยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะ?
ทำไมจึงกลายเป็นไม่ยินดีซะงั้น
กู้จื่อเฟยรีบจับข้อมือของเย้นโม่หลินไว้ กล่าวด้วยความร้อนรนว่า”ฉันไม่ได้บอกว่าไม่ยินดีสักหน่อยนี่ค่ะ”
เย้นโม่หลินพลันหันหลังกลับมากะทันหัน ดวงตาฉายประกายความสดใสอันน่าสะดุดตา
กล่าวด้วยความดีอกดีใจว่า”หมายความว่าคุณยินดีหรือ?”
กู้จื่อเฟย”……”
ก็ไม่ใช่จะยินดีโดยตรงหรอกนะ
ทว่าเห็นท่าทางของเย้นโม่หลินมีให้เลือกเพียงสองทางเท่านั้น ขมับของกู้จื่อเฟยก็เต้นกระตุกไม่หยุด
มันทำให้เธอลำบากใจเหลือเกิน
เธอลังเลสักครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า”งั้นถือว่ายินดีไปก่อนชั่วคราวค่ะ”
“คุณยินดีก็ดีแล้ว”
เย้นโม้หลินฟังแค่ใจความสำคัญเท่านั้น ขยับมือไปจับมือเล็กของกู้จื่อเฟย ใบหน้าที่หล่อเหลา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
หล่อแบบมีเสน่ห์มาก
เขากล่าวเสียงเข้ม”ผมจะส่งคนไปสู่ขอที่บ้านของคุณนะ จะเตรียมงานแต่งให้ดีแน่นอน คุณไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”
กู้จื่อเฟยเบิกตากว้างกะทันหัน มองเย้นโม่หลินด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมคุยไปถึงเรื่องสู่ขอ เรื่องงานแต่งงานแล้วล่ะ?
จังหวะของเย้นโม่หลินรวดเร็วสายฟ้าแลบเกินไปหรือเปล่า
ใครบอกว่าเย้นโม่หลินเฉื่อยชาด้านความรักกันล่ะ?จังหวะของเขาเยี่ยมกว่าการวางอุบายเสียอีก!
กู้จื่อเฟยไม่รู้ตัวเลยว่าตนออกจากห้องและไปถึงงานเลี้ยงได้อย่างไร
เธออยู่ในภวังค์ตกตะลึงหลังถูกฟ้าผ่าไม่หาย
ในใจมีความเบิกบานอย่างไม่เอาไหนร่วมด้วย
จัดงานเลี้ยงในสวนดอกไม้อันกว้างใหญ่ ประดับประดาไปด้วยดวงไฟอันเจิดจรัส บรรยากาศงดงามยิ่งนัก
กู้จื่อเฟยถูกเย้นโม่หลินจูงมือ เดินไปยังจุดศูนย์กลางท่ามกลางสายตาฝูงชน ก่อนจะยืนอยู่ข้างกายเย้นเจิ้นจื๋อกับกงจืออวี
เย้นโม่หลินยืนโค้งตัวคำนับผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองท่าน
“คุณพ่อ คุณแม่”
ภายใต้สายตาจดจ้องของทุกคน กู้จื่อเฟยยิ้มทักทายอย่างหวานละมุน
“สวัสดียามเย็นค่ะ คุณลุง คุณป้า”
ร่างกายเย้นเจิ้นจื๋อยังอ่อนแอ จำเป็นต้องพักรักษาตัว ทว่าเขายืนกรานจะเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ให้ได้ จึงนั่งรถวีลแชร์มา
นี่ถือเป็นงานประกาศข่าวแต่งงานของเย้นหว่าน เขาในฐานะพ่อบังเกิดเกล้า จำเป็นต้องมาเพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ลูกสาวอยู่แล้ว
และอีกอย่าง ไม่เพียงแต่เรื่องนี้เรื่องเดียว คืนนี้ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ
นั่นก็คือเรื่องของลูกชายตรงหน้ากับว่าที่ลูกสะใภ้ของตน
เขามองกู้จื่อเฟยด้วยแววตาเมตตาเอ็นดู กล่าวด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก
“ดี ดี ดี จื่อเฟย มีหนูอยู่ข้างกายเสี่ยวโม่ฉันก็วางใจแล้ว”
กู้จื่อเฟยตอบเสียงหวานแหวว”มีแต่พี่เย้นดูแลหนูค่ะ”
เย้นเจิ้นจื๋อผงกศีรษะด้วยความพอใจอย่างล้นหลาม เธอไว้หน้าเย้นโม่หลินต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้
กงจืออวียืนอยู่ข้างกายเย้นเจิ้นจื๋อ พลางมองกู้จื่อเฟยด้วยใบหน้าชื่นมื่น จากนั้นก็เอื้อมมือคว้ามือของกู้จื่อเฟยมา
กล่าวเสียงนุ่มนวลและอ่อนหวาน
“เฟยเฟย ขอโทษด้วยนะ ช่วงก่อนหน้านี้ตระกูลเย้นเกิดเรื่องมากมาย จึงไม่ทันต้อนรับหนูอย่างเป็นทางการ งานเลี้ยงคืนนี้ถือว่าจัดขึ้นเพื่อเสี่ยวหว่านกับการต้อนรับหนูนะ
จัดงานกะทันหัน หวังว่าหนูคงไม่รังเกียจนะ”
กู้จื่อเฟยปลื้มใจยิ่งนัก เมื่อถ้อยคำนี้เปล่งจากปากของกงจืออวี สถานะของเธอก็แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จัดงานเลี้ยงเพราะการมาเยือนของเธอ ช่างอลังการงานสร้างจริงๆ
ได้รับความใส่ใจจากผู้นำและนายหญิงของตระกูลเย้นเช่นนี้ วันหน้าเวลาอยู่ในบ้านตระกูลเย้น ใครยังกล้ารังแกหรือไม่เคารพเธอ?
เป็นการให้หน้ากู้จื่อเฟยยิ่งนัก
แขกเหรื่อในงานเลี้ยงล้วนเข้าใจความนัยของเรื่องดี แววตาที่มองกู้จื่อเฟยพลันเป็นรอยยิ้มที่เป็นมิตรอย่างรู้จักดูสถานการณ์
ไม่มีแววตาเย็นเยียบหรือแววตาศัตรูอีกต่อไป
เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่โดนประณามว่าเป็นตัวซวยตัวถ่วง ซึ่งข่าวลือกระฉ่อนไปทั่วตระกูลเย้น ตอนนี้กู้จื่อเฟยจึงอยู่ในช่วงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
กงจืออวีจับมือกู้จื่อเฟยไว้ ก่อนจะถอดกำไรหยกในมือของตนออกมา พลางวางไว้ที่ฝ่ามือเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า
“เฟยเฟย ป้ามอบของขวัญเจอหน้ากันให้นะ เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆนะ”
เฟยจื่อเฟยดูออก รู้ว่ากำไรหยกชิ้นนี้ราคาไม่ธรรมดาเลย เป็นของชั้นเลิศที่มีมูลค่ามหาศาล
เธอปลาบปลื้มใจยิ่งนัก รู้สึกไม่กล้ารับด้วยความเกรงใจ
“คุณป้าค่ะ มันล้ำค่าเกินไปค่ะ หนูรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
กงจืออวีกลับมีท่าทีแน่วแน่”นี่เป็นของที่สืบทอดจากบรรพบุรุษของพวกเรา เมื่อก่อนแม่สามีให้ฉันตอนแต่งเข้าบ้าน ตอนนี้ฉันก็มีโอกาสส่งต่อแล้ว หนูเท่านั้นที่มีคุณสมบัติได้ครอบครองมัน”
ในขณะที่พูด กงจืออวีพลางสวมกำไรหยกที่ข้อมือของเธอ
กู้จื่อเฟยมองกำไรชิ้นนี้ด้วยความอึ้ง ทันใดนั้นหัวใจเต้นรัวแรงในบัดดล
ความหมายก็คือ ต่อหน้าเครือญาติตระกูลเย้น ได้ยอมรับสถานะลูกสะใภ้ของตระกูลเย้นเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมีนายหญิงยอมรับ กู้จื่อเฟยก็จะอยู่ในบ้านตระกูลเย้นได้อย่างสมเกียรติแล้ว
คนมุงดูเห็นก็อดส่งเสียงดังบ้าง เบาบ้างด้วยความตกตะลึง
ไม่ว่าเมื่อก่อนพวกเขาคิดเช่นไร หรือตอนนี้มองกู้จื่อเฟยในแง่ใด เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตายตัวแล้ว กู้จื่อเฟยกำลังจะกลายเป็นนายหญิงน้อยของพวกเขา
อนาคตนายหญิงผู้ดูแลบ้าน
เย้นโม่หลินจูงมือกู้จื่อเฟยเดินไปด้านหน้าผู้คน
กล่าวเสียงใสกังวาน”งานแต่งของผมกับกู้จื่อเฟยกำลังเตรียมการแล้ว วันหลังพวกคุณเจอหน้าเธอก็ต้องเคารพมากกว่าที่เคารพผม”
เกิดเสียงซุบซิบเซ็งแซ่อีกครั้ง
กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินด้วยความตะลึง ตอนอยู่ในห้องแต่งตัวก็อึ้งกับเขามากอยู่แล้ว คาดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังประกาศต่อหน้าสาธารณะอีก
งานแต่งถูกเตรียมไว้อย่างนี้เลยหรือ ……
กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินด้วยคนมึนงง ประหนึ่งยืนอยู่บนก้อนเมฆอันเบานุ่มและยังเหมือนได้ตกหลุมเข้า
ความรู้สึกหลากหลายแบบ ไม่อาจจะพรรณนาเป็นคำพูดที่ชัดเจนได้
คนในงานไหวพริบไวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าแทบทุกคนพลันเผยรอยยิ้มอวยพรไว้ในที
บางคนถึงกลับยกแก้วในมือขึ้น พลางส่งเสียงอวยพรกันยกใหญ่
“ยินดีกับนายน้อยด้วยครับ ยินดีกับคุณกู้ด้วยครับ”
“ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ”
“ช่างเป็นเรื่องยินดีมากเลยครับ รีบเตรียมงานแต่งนะครับ พวกเรารอไปร่วมฉลองอยู่ครับ”
ท่ามกลางเสียงอื้ออึง ล้วนเป็นการอวยพรทั้งสิ้น
กู้จื่อเฟยเห็นภาพตรงหน้า หัวใจราวกับมีกระต่ายน้อยกำลังกระโดดโลดเต้นไปมากอย่างว่องไว