สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 994 เจ็บปวดหรือหวานละมุน
กู้จื่อเฟยถอนหายใจ ก่อนพูดเสียงต่ำ “อยากฟังฉันอธิบายไหมคะ?”
ท่าทางอย่างนี้ของเขา มันทำให้เธอไม่รู้ว่าควรจะเปิดปากพูดไหม
บรรยากาศที่เย็นยะเยือกของเย้นโม่หลิน เหมือนว่าตอนนี้มันจะกดต่ำกว่าเดิม
ร่างกายของเขาตึงและแข็งทื่อ
สักพัก เขาก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
“ผมไว้ชีวิตเขา ภายหลังก็จะไม่ฆ่าเขา คุณชอบเขา ก็ไปกับเขาเถอะ”
กู้จื่อเฟยนิ่งงันด้วยความมึนงง เย้นโม่หลินพูดเรื่องอะไร?
ไปไหนกับใคร?
ไปกับไอ้ชิวเจ๋อนั่นนะเหรอ?
กลิ่นอายของเย้นโม่หลินซึมกะทือ ก่อนจะพูดออกมาทีละคำจากปากของเขา
“เขาเป็นไอดอลของคุณ คุณชอบเขามาหลายปี คุณมีงานอดิเรกที่ชอบเหมือนเขา ไม่น่าเบื่อเหมือนผม ตอนนี้เขามาแล้ว พวกคุณรักกัน ผมไม่ห้ามคุณหรอก”
กู้จื่อเฟยมองไปที่เขาอย่างมึนงง ในใจมันผสมปนเปกันไปหมด ความรู้สึกหลากหลายผสมเข้าด้วยกัน
เขาเข้าใจผิดจริงๆ และยังเชื่อคำพูดโน้มนำของชิวเจ๋อ ถึงได้คิดว่าเธอชอบชิวเจ๋อ
เขาคิดว่า ความรู้สึกของคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปรักคนอื่นได้เร็วปานนั้นเลยหรือ?
กู้จื่อเฟยจุกจนพูดไม่ออกและไม่รู้จะทำอย่างไร
เธอมองไปที่เขา ก่อนถามเสียงต่ำ
“ถ้าฉันไป คุณจะเจ็บไหม?”
เย้นโม่หลินเหยียดริมฝีปาก ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “คุณไม่ต้องสนใจผม”
“ฉันถาม ว่าคุณจะเจ็บไหม?”
กู้จื่อเฟยยังคงบี้ถามอย่างดื้อรั้น จ้องมองไปที่เขาด้วยดวงตาที่แผดเผา เธอต้องได้คำถาม
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว พยายามจะยับยั้งบางสิ่งเอาไว้
เขามองจ้องไปที่สายน้ำ เสียงของเขาเบาราวกับถูกเค้นออกจากฟัน
“เจ็บ”
หนึ่งคำง่ายๆ ทำให้กู้จื้อเฟยราวกับถูกไฟฟ้าช็อต หัวใจเธอเต้นแรงและรักใคร่
เธอระงับอารมณ์ในหัวใจของเธอและถามว่า:
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว คุณอยากให้ฉันอยู่ต่อไหม?”
คิ้วของเย้นโม่หลินขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม
ท่าทางถามสักไซ้ของกู้จื่อเฟย ทำให้เขาหงุดหงิด
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ต้องพูดให้ชัดเจน
“อยาก แต่ผมจะไม่ฝืนใจคุณ”
หลักการที่เขายึดถือมาโดยตลอดคือ เขาจะไม่บังคับเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
กู้จื่อเฟยอดไม่ได้ที่จะเอนตัวไปทางเย้นโม่หลิน และพูดอย่างรีบด่วน
“ไม่ฝืนใจค่ะ ฉันชอบที่จะอยู่กับคุณ”
เย้นโม่หลินชะงักไปนิด และหันไปมองกู้จื่อเฟย
แววตาของเขาดูตื่นตระหนก และมึนงง
เมื่อเขาพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่ไล่ตามอีกต่อไป และจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แต่ถ้าเธอชอบชิวเจ๋อ เธอควรใช้โอกาสนี้รีบจากไปโดยเร็วที่สุด
แต่เธอกลับบอกว่าอยากอยู่กับเขา……
กู้จื่อเฟยมองตรงไปยังเย้นโม่หลิน ด้วยแววตาที่ตั้งใจ ก่อนจะพูดออกมาทีละคำว่า
“เย้นโม่หลิน จำไว้ให้ดี คนที่ฉันกู้จื่อเฟยคนนี้ชอบคือคุณ และคนที่ฉันอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตก็คือคุณ ชั่วชีวิตนี้ฉันจะไม่มีใครอีก”
เย้นโม่หลินมองไปที่กู้จื่อเฟยด้วยความตกใจ ทุกคำพูดของเธอกระแทกเข้าที่หัวใจของเขาเหมือนค้อน
ด้วยดวงตาที่แน่วแน่ของเธอ ความโศกเศร้าและความหดหู่ภายในอกของเขามลายหายไปในทันที
ความรู้สึกปีติยินดีที่หายไป ก็พรั่งพรูเข้ามาที่ใจของเขา
เขามองเธอด้วยสีหน้าสั่นไหว ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
กู้จื่อเฟยมองเขาอย่างนิ่งๆ รู้สึกทั้งโกรธทั้งตลก
เย้นโม่หลินฉลาดมาตลอดชีวิต แต่ในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก ไม่ชัดเจนเลยจริงๆ
เขาไม่เข้าใจเลย จากคำเกลี้ยกล่อมของชิวเจ๋อ จะนึกว่าเธอเปลี่ยนไปรักมัน แต่คำสารภาพสาบานรักของเธอ ความแค้นในใจของเขาก็มลายหายไป
กู้จื่อเฟยที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้ทั้งรักทั้งชัง
เธอกะพริบตา ฉับพลันใบหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นน้อยใจ “พี่เย้น คุณไม่เชื่อในความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณเลย ฉันเสียใจนะ”
เย้นโม่หลินเพิ่งได้สติกลับคืนมา เมื่อเห็นกู้จื่อเฟยทำหน้าเศร้าและกำลังจะร้องไห้ เขาก็มือไม้อ่อนไปหมด
เขาจับไหล่เธออย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะตบอย่างฝืนๆ
“ขอโทษนะ ทีหลังผมจะไม่ทำอีก”
ในขณะเย้นโม่หลินตบบ่าเธอ กู้จื่อเฟยก็เอนตัวลงไปข้างหน้า ร่างกายที่เล็กบางของเธอ ก็อยู่ในอ้อมแขนของเย้นโม่หลิน
เย้นโม่หลินชะงักไป
กู้จื่อเฟยชี้นิ้วไปที่หน้าอกของเจา และพึมพำอย่างขมขื่น:
“ชิวเจ๋อนั่นใช้ลวดมาสะเดาะกลอนประตู เขาเข้ามาลวนลามฉัน ตอนที่ฉันขัดขืน ของที่พอขว้างปาได้ก็แตกไปหมดแล้ว แต่ฉันเอาชนะแรงของเขาไม่ได้ จนมันกลายเป็นฉากที่คุณเห็นนั่นแหละค่ะ เขายังไม่ทันได้แตะตัวฉัน คุณมาทันเวลาพอดี”
ถ้าหากมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย กู้จื่อเฟยไม่กล้าคิดถึงเรื่องราวภายหลังเลย
ทันใด ความเกลียดชังของเย้นโม่หลินก็เพิ่มขึ้นมาอีก นิ้วมือกำแน่นส่งเสียงกรอบแกรบ
“ไอ้ชาติชั่วนี่ มันกล้าดียังไง!”
เขาเสียใจที่ไม่ได้ฆ่าไอ้ชิวเจ๋อ และยังปล่อยให้มันมีชีวิตรอด
และยิ่งหงุดหงิดตัวเองยิ่งกว่าเดิมที่โง่งมได้ขนาดนี้ ขนาดนี้ที่ว่ากู้จื่อเฟยถูกรังแกยังมองไม่ออก คิดไปเองว่ากู้จื่อเฟยและชิวเจ๋อรักกันจริงๆ
“รอก่อนเดี๋ยวผมจะไปฆ่ามัน”
เย้นโม่หลินขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางพูด
กู้จื่อเฟยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยใจที่เป็นสุข ในที่สุดก็ปลอดภัย
พี่เย้นของเธอ ง้อเก่งมาก และยังเป็นคนมีเหตุผล
เธอเข้าใจ เขาไม่เคยมีประสบการณ์ความรักมาก่อน แม้กระทั่งความรู้สึกตัวเองเขายังจัดการไม่ได้ เขาปัญญาอ่อนมากในด้านนี้
แถมก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้รักษาระยะห่างของเธอกับชิวเจ๋อให้ดีด้วย เพราะว่าเขาคือไอดอล และเธอตื่นเต้นมากที่ได้เห็นชิวเจ๋อ กระทั่งพูดออกไปว่าเธอชอบเขาออกมา
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เย้นโม่หลินเข้าใจผิดได้ แล้วยังเห็นเธอกับชิวเจ๋ออยู่บนเตียงเดียวกันอีก เลยยิ่งทำให้รู้สึกว่า ระหว่างสองคนมันเป็นความรัก
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เขาเห็นเหตุการณ์ในห้อง มันทำให้เขาเชื่อได้ง่าย แต่เมื่ออารมณ์โกรธจบลง ยิ่งกว่านั้นมันคือสนใจ มันเลยกลายเป็นความตาบอด
กู้จื่อเฟยในอ้อมแขนเย้นโม่หลินเงยหน้าขึ้น ก่อนพูดอย่างใคร่ครวญว่า
“พี่เย้น คุณหึงนี่”
ดวงตาของเย้นโม่หลินเป็นประกาย แต่คราวนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธ เม้มริมฝีปากแน่นไม่ได้พูดอะไร
เขาจ้องมองไปที่กู้จื่อเฟยด้วยสายตาล้ำลึก
หึงเหรอ?
ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ แต่ดูเหมือนจะปฏิเสธไม่ได้
หึงหวงคือสนใจ และมันเป็นอารมณ์ที่คู่รักมี
นี่เขา……กำลังหึงกู้จื่อเฟยเหรอ?
กู้จื่อเฟยมองสายตาของเย้นโม่หลิน ก่อนจะเอามือเล็กๆ ของเธอปิดบังใบหน้าอย่างเขินอาย ก่อนจะพูดอย่างเขินอายว่า
“พี่เย้น มองคนอื่นด้วยสายตารักใคร่อย่างนี้ อยากจูบฉันเหรอ? นี่มันในป่าในเขานะ คนผ่านไปผ่านมา ถ้าคนเห็นจะน่าอายขนาดไหนกันน้า”
เย้นโม่หลินตัวแข็งทื่อ “……” เขาไม่มีความคิดนี้เลยสักนิด
อีกอย่าง ที่นี่คือสวนดอกไม้ตระกูลเย้น ไม่ใช่ในป่าในเขาสักหน่อย
ผียังไม่มีสักตน นับประสาอะไรกับคน……
“ไม่ได้สิ จะทำเรื่องอะไรก็ต้องทำให้สุดสิ อย่าทำแบบครึ่งๆกลางๆ”
ทันใดกู้จื่อเฟยก็เงยหน้าขึ้น แตะริมฝีปากสีแดงเชอรี่ลงบนขอบปากบางของเย้นโม่หลิน