สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 997 ช่วยให้สมหวัง?
ชิวเจ๋อปฏิเสธทันที “ผมไม่ทำ ผมทำเรื่องที่ตกลงกันไว้เสร็จแล้ว ตอนนี้ผมต้องรีบออกไปจากที่นี่”
ถ้ารู้ว่าเย้นโม่หลินจะโหดร้ายเสียขนาดนี้ เขาคงไม่มาแต่แรก
ใบหน้าของเจียงเป้ยนีน่าเกลียดมา ทันใดนั้นเธอก็ยื่นนิ้วเรียวยาวออกมาบีบคางของชิวเจ๋อเอาไว้ เล็บแหลมคมของเธอจิกติดอยู่ในเนื้อของเขา
ปรายตามองต่ำมองหน้าเขา ก่อนจะพูด
“ฉันไม่ให้นายเลือก ชิวเจ๋อ ฉันสามารถมอบความมั่งคั่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดในชีวิตให้นายได้ และฉันก็ยังทำให้นายสูญเสียทุกอย่างที่นายมีได้ ไม่มีอะไรเลย”
ดวงตาของชิวเจ๋อเบิกกว้างด้วยความงงงัน ไม่ได้สงสัยในสิ่งที่เจียงเป้ยนีพูดเลยสักนิด
เอาความมั่งคั่งคับฟ้าออกมาได้ตามใจชอบ จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร? อย่างน้อยที่สุดฐานะของเขา ตลอดชีวิตนี้คงผิดใจด้วยไม่ได้
เดิมทีก็มาหาเงิน ตอนนี้ก็ถูกบังคับมาจนถึงจุดนี้
ชิวเจ๋อตัวสั่นด้วยความโกรธ กัดฟันของเขาและพูดว่า
“เจียงเป้ยนี ผมมาทำธุรกิจร่วมกับคุณ ไม่ใช่สังเวยชีวิตเพื่อคุณ”
เจียงเป้ยนีสัญญาว่า “ฉันสัญญา หลังจากเสร็จเรื่องนี้ ฉันจะส่งนายออกไปทันทีและปล่อยให้นายหนีไปให้ไกล เรื่องที่ฉันเคยรับปากกับนายด้วยสิ่งของ ฉันเพิ่มให้สามเท่า”
หลังจากนิ่งไปชั่วคราว เจียงเป้ยนีคิดอะไรบางอย่าง และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ไม่ต้องกังวล เสียเลือดเนื้อเพียงแค่นั้น นายไม่ตายหรอก”
หากเสียเลือดเสียเนื้อ แล้วจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นอีกสามเท่า?
สิ่งที่ชิวเจ๋อจะได้รับ คือเงินทองที่หลานเหลนโหลนของเขาก็ยังใช้ไม่หมด เขาสามารถใช้เงินนี้เพื่อเปลี่ยนชื่อ หรือแม้แต่ใช้เงินนี้เพื่อสร้างบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรากฐานแข็งแกร่ง
ใช้เงินเพื่อทำเงิน จากนี้ไปเขาจะเป็นCEOที่ควบคุมทุกอย่าง ไม่ต้องตกเป็นทาสใครอีก
เมื่อคิดถึงความสำเร็จและชื่อเสียงในอนาคต หัวใจของชิวเจ๋อก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกัดฟันและพยักหน้า
“ครั้งสุดท้าย” ดวงตาของเขาทอแววอำมหิต “ถ้าหากคุณยังกลับไปกลับมา ผมจะเอาเรื่องระหว่างเรา ออกไปเปิดเผยให้หมด”
เขากัดฟันขมขู่ ถึงแม้เพิ่งจะมาตระกูลเย้น แต่เขาก็มีสายตาในการมองสิ่งอื่นออก เขาแทบจะมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน
อย่างน้อยก็ดูเหมือนว่ายังมีคนที่สามารถปราบปรามเจียงเป้ยนีได้ และเธอกลัวยิ่งกว่าคือชื่อเสียงของตัวเองจะถูกทำลาย
ใบหน้าของเจียงเป้ยนีเปลี่ยนไป ดวงตาส่องประกายวาววับ
ไอ้ชิวเจ๋อสมควรตาย กล้าที่จะขู่เธอ
ถ้าตอนนี้ไม่ได้ต้องการใช้งานมันล่ะก็ ก็แค่นักแสดง ตอนนี้เธอคงฆ่ามันไปแล้ว
เจียงเป้ยนีระงับความโกรธในอกของเธอ ก่อนจะพูดอย่างดุเดือด
“ทำตามที่ฉันบอก นายจะไม่เป็นอะไร”
……
ตอนเที่ยง แดดร้อนมาก และพื้นก็ร้อนจัด
ในเวลานี้ ทุกคนสามารถอยู่ในที่ร่มได้โดยไม่ต้องออกไปไหน
แต่ตระกูลเย้นตอนนี้ ไม่ได้เงียบสงบขนาดนั้น มีคนหลายคนรวมตัวกันเดินไปทางตึกเล็กของเย้นโม่หลิน
พวกเขาไปดูความสนุก
เห็นเพียงแค่ชิวเจ๋อซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใต้แสงแดดจ้า ปกคลุมด้วยผ้าพันแผลทั่วตัว และกำลังคุกเข่าที่ทางเข้าตึกหลังเล็กด้วยใบหน้าซีดขาว
ยิ่งเขาคุกเข่า ใบหน้าของเขาก็ยิ่งซีดเผือดเหงื่อที่หยดจากหน้าผากของเขาไหลลงสู่หลังคอ ทำให้ผ้าพันแผลของเขาเปียกไปหมด
ทุกคนต่างสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เขามานั่งคุกเข่าอะไรที่นี่?”
“เย้นจือฮวนก็เคยถูกลงโทษด้วยการคุกเข่าตรงที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ หรือไอ้ชิวเจ๋อนี่ที่ทำให้นายน้อยไม่พอใจ? กำลังถูกทำโทษด้วยการคุกเข่า?”
ทุกคนพูดคุยจอแจอย่างสงสัย และยังตั้งตารอที่จะรับชมความตื่นเต้นอีกด้วย
เป็นผลให้ กระจากจากสิบเป็นร้อย ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลกันเข้ามาดูเรื่องน่าสนุกนี่
ชิวเจ๋อคุกเข่าอยู่นาน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ และบาดแผลบนร่างกายของเขาก็เจ็บปวดอย่างมาก
เขาหน้าซีดจนแทบจะเป็นลม
แต่เขาก็มองไปทางตึกเล็กอย่างดื้อรั้น ตะโกนเสียงแหบว่า
“คุณเย้นครับ ได้โปรดให้กู้จื่อเฟยออกมา ผมกับเธอรักกันด้วยใจจริง ขอร้องให้คุณช่วยทำให้ผมกับเธอสมหวังกันด้วย”
เพียงสิ้นประโยค พื้นที่ทั่วทั้งบางต่างระเบิดด้วยเสียงพูดคุยจอแจ
นี่มันอะไรกัน?
นี่เขามาคุกเข่าขอร้องเย้นโม่หลิน เพื่อจะได้สมหวังกับกู้จื่อเฟยหรือ?
อะไรกันนี่ ไม่ใช่ว่ากู้จื่อเฟยเป็นผู้หญิงของเย้นโม่หลินหรือ ประกาศโอ้อวดความสัมพันธ์ รักกันมาก
แล้วทำไมถึงปลูกต้นรักกับชิวเจ๋อ?
ผู้คนต่างตกใจ อยากรู้อยากเห็น และโกรธ
อย่างไรที่นี่ก็ตระกูลเย้น กู้จื่อเฟยเป็นแฟนของเย้นโม่หลิน เป็นหน้าเป็นตาให้แก่ตระกูลเย้น
เย้นโม่หลินถูกสวมเขา คนตระกูลเย้นก็หน้าแห้งไปตามๆกัน
มีคนก่นด่า
“มาพูดเรื่องไร้สาระอะไรที่นี่? กู้จื่อเฟยจะเป็นคุณนายของตระกูลเย้นเราในอนาคต ไม่ใช่จะให้แกมาใส่ร้ายตามอำเภอใจได้นะ”
“รีบออกไปจากที่นี่เสีย ถ้าพูดมั่วอีก ระวังถึงผลที่จะตามมาด้วย”
ชิวเจ๋อหันไปมองคนที่พูด ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะพูดอย่างโศกเศร้า
“ผมบาดเจ็บเสียขนาดนี้ ถ้าหากไม่จริงใจ จะมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงนี้ทำไม? ยกเว้นเสียแต่ว่าผมทรมานตัวเองเสียจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ความจริงแล้วเหตุผลที่ผมได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ก็เพราะผมถูกเย้นโม่หลินทำร้าย แน่นอน ผมไม่โทษเขาหรอก ผมกับจื่อเฟยตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ไม่ได้ควบคุมตัวเอง เรื่องเลยเลยเถิด……สมควรแล้วที่คุณเย้นจะโกรธ สมควรแล้วที่จะทุบตีผม แต่ผมกับจื่อเฟยรักกันจริง เรารักกันจริง ตอนนี้ผมทำได้แค่ขอร้องให้ปล่อยจื่อเฟยออกมา ให้ผมพาจื่อเฟยไป”
เนื้อหาในคำพูดมันค่อนข้างจะสมบูรณ์หมดแล้ว
ผู้ชมรอบด้านต่างก็ตกตะลึง
พวกเขาได้ยินอะไร กู้จื่อเฟยและชิวเจ๋อมีอะไรกัน และสวมเขาให้เย้นโม่หลินจริงหรือ?
และเย้นโม่หลินก็เข้าไปเห็น จนชิวเจ๋อมีสภาพเป็นเช่นนี้……
นี่มันจริงเท็จแค่ไหน?
ถ้าหากจริง นั่นมันเกินความหมาย
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจและสงสัย เย้นโม่หลินก็เดินออกมาจากตึกน้อย ร่างสูงและออร่าที่แผ่ออกมากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในทันที
ชิวเจ๋อมองไปยังเขา โดยสัญชาตญาณ บาดแผลบนร่างกายของเขาก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อคิดถึงจุดประสงค์ในการมาของเขา เขาแสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้านอีกครั้ง ก่อนจะใช้ทักษะการแสดงของเขา ทันใดก็มองไปที่เย้นโม่หลินอย่างน่าสังเวชและวิงวอนว่า
เขาตะโกน “คุณเย้น ผมกับกู้จื่อเฟยเรารักกันด้วยใจจริง ขอร้องให้ผมได้พบกับเธอได้ไหม? ได้โปรดอย่าโทษเธอในเรื่องนี้เลย คุณจะทำอะไรกับผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายเธอเลย”
คำพูดแสดงความรักที่พูดออกมา ราวกับรักกู้จื่อเฟยอย่างลึกซึ้ง
แม้กระทั่งผู้คนที่มองอยู่รอบด้าน ก็รู้สึกว่าระหว่างชิวเจ๋อและกู้จื่อเฟยไม่ใช่รักแรกพบแล้ว แต่เป็นความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานแล้ว
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเชื่ออีกครั้ง
เย้นโม่หลินยืนจ้องชิวเจ๋ออยู่ที่ประตูด้วยสายตาที่เย็นชา ดวงตาของเขาเฉียบคมราวกับมีด เหมือนกับจะฟันเขาด้วยดาบพันเล่ม
ถ้าหากสายตาฆ่าคนได้ ตอนนี้ชิวเจ๋อคงตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว
ร่างกายเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา ก่อนจะยิ่งพูดเพิ่มความจริงใจว่า “คุณเย้น ได้โปรดละ ได้โปรดให้พวกเราสมหวังเถอะ”
“สมหวัง? อา”
เย้นโม่หลินยิ้มเย็น แผ่กลิ่นอายน่ากลัว
ทุกคนที่มอง ถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว นี่คือความรู้สึกอันตรายที่ปรากฏขึ้นก่อนที่นายน้อยจะฆ่าใครสักคน
แต่พวกเขากลับตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อนายน้อยไม่ปฏิเสธคำพูดของชิวเจ๋อ เป็นไปได้ไหมว่า……
เรื่องของกู้จื่อเฟยและชิวเจ๋อ จะเป็นเรื่องจริง?