สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่447 สามีของฉัน
บทที่447 สามีของฉัน
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินก็ลงจากเขาด้วยกัน ไปเดินเล่นในเมือง
มีเย้นโม่หลินไปด้วย เป็นการท่องเที่ยวของทั้งสี่คน ความปรารถนาของเย้นหว่านที่อยากจะอยู่เพียงลำพังกับโห้หลีเฉินก็ลดลงอีกครั้ง
เธอทำได้แค่เดินควงแขนกับกู้จื่อเฟยอยู่ด้านหน้า เดินไปรอบๆ ร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับ
ผู้ชายตัวโตอย่างโห้หลีเฉินและเย้นโม่หลินสองคนเดินอยู่ด้านหลังของพวกเธอ ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ชักไม่ช้า
ซื้อข้าวซื้อของ ก็ถือว่าเป็นงานหนัก
ผู้ชายทั้งสองคนที่น่าดึงดูด ระหว่างทางก็ดึงดูดสายตาและก็การติดตามจากพวกผู้หญิงได้มากมาย ด้านหลังของพวกเขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็มีคลื่นหญิงสาววัยรุ่นเดินตามมา
เย้นหว่านหันกลับมา เกือบใจหาย
“พวกเธอตามพวกเราเข้ามายังงั้นเหรอ? ”
ก็เห็นว่าร้านเครื่องประดับที่ตอนแรกคนไม่เยอะเท่าไหร่ ตอนนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้หญิงกลุ่มใหญ่ เหมือนกับว่า เบียดเสียดยัดเยียดจนน้ำแทบจะไม่สามารถแทรกเข้ามาได้ด้วยซ้ำ
และในสายตาของพวกเธอ ก็จ้องมองไปที่โห้หลีเฉินและเย้นโม่หลินด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว
ความบ้าผู้ชายนั้น ไม่ได้ถูกปกปิดเลยแม้แต่นิดเดียว
เย้นหว่านเห็นสายตาที่เกาะติดโห้หลีเฉินเหนียวแน่น เหมือนกับว่าอยากจะคว้าเขาไป ในใจเธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ผู้ชายของเธอ ถูกผู้หญิงพวกนั้นจ้องตาเป็นมันแบบนี้ มันดีจริงๆ เหรอ?
“เกินไปแล้วนะ! ” กู้จื่อเฟยหน้าดำเพราะไม่พอใจ “พี่เย้นคือคนที่พวกเธออยากจะมองก็มองได้ยังงั้นเหรอ? จริงๆ เลย พวกเธอแทบจะเข้ามาแล้วก็แย่งพี่เย้นไปแล้ว”
เย้นหว่านก็รู้สึกเหมือนกัน ดูท่าทาง ผู้หญิงพวกนั้นไม่ใช่แค่มุงดูเท่านั้น มีหลายคนเหมือนกันที่อยากจะลอง
ไม่แน่ว่าอาจจะเข้ามาพูดคุย และแย่งชิงไปเมื่อไหร่ก็ได้
เย้นหว่านกลับทำอะไรไม่ได้ “แต่พวกเราก็ไปขอร้องให้คนอื่นไม่มองไม่ได้หรอก”
ดวงตาอยู่บนร่างกายของคนอื่น ขาก็เช่นกัน
กู้จื่อเฟยกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “พวกเธอตามมาแบบนี้ พวกเรายังจะชอปปิ้งได้ยังไงกัน? ”
ร้านนี้คนแน่นแล้ว แล้วอีกอย่าง ถูกสายตาหลายคู่จับจ้องตาเป็นมันอยู่แบบนี้ ก็ไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเลือกของแล้ว
เย้นหว่านไม่มีกะจิตกะใจจะชอปปิ้งแล้ว
เธอขมวดคิ้วแล้วก็คิด ลังเลที่จะหยุดชอปปิ้ง
“สร้อยเส้นนั้นดูดีมากเลยนะ เหมาะกับเธอมากเลย ชอบไหม? ”
โห้หลีเฉินที่ตอนแรกยืนอยู่ห่างกันหนึ่งเมตร จู่ๆ ก็ก้าวยาวเข้ามาหาเย้นหว่าน แล้วก็ยืนเคียงข้างเธอ
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน แล้วก็ชี้ไปที่สร้อยคอเส้นนั้นที่อยู่ในตู้
สไตล์นั้นเรียบง่ายและเก๋ แถมยังดูทรงเกียรติ
เย้นหว่านแค่มองก็รู้สึกชอบแล้ว แต่เธอแค่มองไปที่โห้หลีเฉินอย่างแปลกใจเล็กน้อย
ตลอดทั้งทางเขาก็เอาแต่เดินกับพี่ชายของเธอ เหมือนเป็นพื้นหลัง รักษาระยะห่างแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย ตอนนี้จู่ๆ ก็มาช่วยเธอเลือกสร้อยยังงั้นเหรอ?
พอเห็นสายตาที่สงสัยของเย้นหว่าน โห้หลีเฉินก็รอยยิ้มที่รักและทะนุถนอม ยื่นมือไปลูบผมของเย้นหว่าน
“ถ้าชอบเดี๋ยวฉันให้”
หัวใจของเย้นหว่านเต้นรัว มองหน้าผู้ชายรูปหล่อที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองอย่างมึนงง
สายตาที่อ่อนโยนและลึกซึ้งของเขาแทบจะทำให้เธอเลี่ยน
ในขณะเดียวกัน รอบๆ สี่ด้านก็มีเสียงกระซิบกระซาบของผู้หญิงที่ผิดหวัง
“ที่แท้พี่ชายคนนั้นก็มีแฟนแล้ว”
“ดูแล้วเข้ากันมากเลย พวกเราสิ้นหวังแล้ว”
“โชคดีที่มีพี่ชายอีกคนหนึ่ง หล่อมากเหมือนกัน ห้ามมีใครแย่งไปอีกนะ ฉันจะจีบเขา”
หลังจากเสียงพูดคุยกัน สายตาของผู้หญิงพวกนั้นก็ละจากโห้หลีเฉินมาอยู่ที่เย้นโม่หลินแทน
สายตาแผดเผาและร้อนแรงเหมือนกับไฟ
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว กวาดตามองกู้ซึงอย่างไม่พอใจ สมควรตายจริงๆ อาศัยเสี่ยวหว่านเพื่อให้ผู้หญิงพวกนั้นมองไปทางอื่น ตอนนี้ทุกสายตาต่างก็จับจ้องมาที่เขาแล้ว
สิ่งที่เขาไม่ถนัดที่สุดก็คือการรับมือกับผู้หญิง
แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความกล้าหน่อย เดินออกมาจากกลุ่มคน แล้วก็เดินมาหาพวกเขาด้วยสีหน้าเขินอาย
“พี่ชายคะ ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ? ”
สีหน้าของเย้นโม่หลินจมดิ่งลงทันที ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาขึ้นอีกครั้ง
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ไม่ได้”
ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ยอมตายใจ เธอพูดอย่างยั่วยวน “พี่ชายขา การบังเอิญเจอกันก็ถือว่าเป็นโชคชะตานำพานะคะ พวกเราแลกเบอร์กัน ต่อไปจะได้ติดต่อกัน ถ้าเกิดว่าต่อไปเจอเรื่องอะไร จะได้ช่วยเหลือกัน สะดวก แล้วก็เป็นเรื่องที่ดีจะตาย
พี่ไม่ต้องเขิน ให้เบอร์ฉันหน่อยโอเคไหมคะ? ”
เสียงที่ออดอ้อนนั้น ทำให้เย้นโม่หลินรู้สึกขนลุก
ปากของเย้นหว่านกระตุก แล้วก็มองไปที่เย้นโม่หลินอย่างเห็นอกเห็นใจ แล้วก็มองไปที่โห้หลีเฉินพร้อมกับกระซิบว่า “นายนี่ใจดำจริงๆ ”
โห้หลีเฉินคลี่ยิ้ม แล้วก็โน้มตัวลงมา กระซิบที่ข้างหูของเย้นหว่าน
“วางใจเถอะ พี่ชายของเธอมีคนปกป้องอยู่”
พอพูดจบ ก็เห็นกู้จื่อเฟยเดินเข้าไปข้างๆ เย้นโม่หลิน แล้วก็ยื่นมือไปกอดแขนของเขาไว้
“สามี ทำอะไรอยู่น่ะ? ฉันเห็นสร้อยเส้นหนึ่งสวยมากเลย คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าขอแค่ฉันชอบ ก็จะซื้อให้ฉันหมดเลย”
น้ำเสียงออดอ้อน ตุ้งติ้งยิ่งกว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้อีก
เย้นโม่หลินแข็งทื่อไปทั้งตัวทันที มองไปที่กู้จื่อเฟยอย่างตะลึง
เมื่อกี้เธอเรียกเขาว่าอะไรนะ?!
ชื่อเรียกแบบนี้มันสามารถเรียกมั่วๆ ได้รึยังไงกัน ผู้หญิงคนนี้นี่ช่าง……
ผู้หญิงที่เข้ามาชวนคุยเมื่อกี้สีหน้าเปลี่ยนไปทันที มองกู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินอย่างไม่อยากจะเชื่อ มือสั่นอย่างรุนแรง เหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า
“พวก พวกคุณ……เป็นสามีภรรยากันเหรอ? ”
“ไม่งั้นจะอะไรล่ะ? ”
ตอนนี้เองกู้จื่อเฟยก็หันหน้าไปมองผู้หญิงคนนั้น มุมปากสีแดงของเธอคลี่ยิ้มที่เหยียดหยาม แล้วก็มองผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า
“สวยแค่นี้ ก็อยากจะจับสามีของฉันแล้วยังงั้นเหรอ? ทำไมไม่กลับบ้านไปส่องกระจกดูหน่อย ว่าเธอคู่ควรรึเปล่า? แล้วอีกอย่าง ถึงแม้ว่าเธอจะสวยงามจนทำให้บ้านเมืองล่มสลายได้ แล้วจะยังไง สามีของฉันรักฉันเท่าชีวิต ในใจของเขามีเพียงแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น ต่อให้พวกเธอมีปีศาจคอยช่วยเหลือก็ไม่มีโอกาสได้คบหรอก”
คำที่เอาแต่พูดว่าสามีฉันๆ เธอพูดได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ ราวกับว่าเป็นเรื่องจริงยังไงยังงั้น
เย้นโม่หลินได้กลายเป็นก้อนหินไปแล้ว กู้จื่อเฟยผู้หญิงคนนี้ช่างหน้าไม่อายเสียจริง คำพูดพวกนี้ ผู้หญิงอย่างเธอกล้าพูดออกมาได้ยังไงกัน?
สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นทั้งแดงทั้งขาว สายตาแดงก่ำเพราะความโกรธ
การจะเข้ามาติดต่อคนอื่นในที่สาธารณะต้องการความกล้า ผลก็คือเสียหน้าครั้งใหญ่ แถมยังถูกภรรยาของเขาดูถูกทำให้ขายหน้าอีกด้วย
เธอปิดหน้าของตัวเอง ร้องไห้แล้วหันหลังวิ่งหนีไป
ผู้หญิงคนอื่นเห็นสถานการณ์ดังนี้ สีหน้าก็แย่ลง เสียหน้าไปหมด
ที่แท้พี่ชายสุดหล่อที่พวกเธอตามมา คนหนึ่งก็มีแฟนแล้ว อีกคนหนึ่งก็มีภรรยาแล้ว
พวกเธอไม่มีโอกาสแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้น พวกเธอก็นอบน้อม แล้วก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุด ทั้งร้านก็เงียบลงอีกครั้ง
ตอนที่ทุกคนจากไป เย้นโม่หลินก็รีบดึงแขนจากอกของกู้จื่อเฟยกลับมา หน้าดำเหมือนกับก้นหม้อ
“ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีก”
แน่นอนว่าเขารู้ว่าที่กู้จื่อเฟยทำแบบนี้ มันไม่มีอะไรนอกเสียจากการช่วยแก้หน้าให้เขา แต่ว่าที่เธอเข้ามาใกล้ คำพูดที่เธอพูด กลับทำให้เขารู้สึกโกรธมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้แต่งงาน และก็ยังไม่มีผู้หญิงที่เขาชอบ แต่ว่าตัวตนของสามี ภรรยาอะไรแบบนี้ เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์สำหรับเขา