สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่463 เกิดเรื่องแล้ว!
บทที่463 เกิดเรื่องแล้ว!
เย้นหว่านนอนหลับอยู่บนเตียง แต่ว่าต้องตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บ
หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ลืมตาขึ้นมา ก็ขดตัวทันที แล้วก็เอามือกุมท้องที่จุกเสียดของตัวเองเอาไว้
“เจ็บ……”
เย้นหว่านร้องออกมาพร้อมกับตัวสั่น ปากสั่นไปหมด
เธอไม่รู้ว่าจู่ๆ ตัวเองเป็นอะไรขึ้นมา อาการปวดแบบนี้ ราวกับว่าบิดไปทุกเซลล์ในร่างกายเธอ ปวดจนเธอไม่สามารถอดทนได้
เหมือนกับว่า เธอจะตายไปได้ทุกเมื่อ
เย้นหว่านรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก ร่างกายอ่อนแอ ตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เธอยกแขนขึ้นมา เธอไม่มีแรงแม้แต่จะกดเปิดโคมไฟด้วยซ้ำ
ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอไม่รู้ว่าเธอจะตายไปในค่ำคืนที่เงียบงันแบบนี้หรือไม่
“ปัง——”
เสียงดังขึ้น ร่างของเย้นหว่านร่วงลงไปกองกับพื้น
ความเจ็บปวดจากการกระแทกที่ข้อต่อนั้น สำหรับการเจ็บปวดของเธอตอนนี้แล้ว เธอไม่ได้รู้สึกถึงมันเลยแม้แต่นิดเดียว
เย้นหว่านหดตัวอย่างเจ็บปวด เธอไม่มีแรงแม้แต่จะปีนกลับขึ้นมาด้วยซ้ำ
ทำยังไงดี? ใครก็ได้มาช่วยเธอหน่อย
เย้นหว่านเจ็บปวดจนร่างกายไร้เรี่ยวแรง สมองขาวโพลนไปหมด เหมือนกับว่าจะหมดสติไปได้ตลอดเวลา
แต่ว่าเธอรู้อย่างหวาดกลัวว่า ถ้าเกิดว่าเธอหมดสติไปตอนนี้ มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าเธอจะตื่นขึ้นมาไม่ได้อีกเลย……
“ไม่นะ ไม่……”
เธอไม่อยากตาย เธอยังอยากใช้ชีวิตที่ยาวนานอยู่กับโห้หลีเฉิน
เธอไม่อยากตาย ความสุขของเธอยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเลย
ในใจของเธอก็มีกำลังใจขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว เย้นหว่านยกมือขึ้นมาอย่างยากลำบาก นิ้วที่สั่นเทาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา
โทรศัพท์เหมือนกับว่ามีน้ำหนักเท่าทอง500กิโล เย้นหว่านถืออย่างมั่นคงไม่ได้ แล้วมือของเธอก็ตกลงสู่พื้นพร้อมกับโทรศัพท์
เธอไม่มีแม้แต่แรงจะหยิบโทรศัพท์ด้วยซ้ำ!
สรุปแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่?
เย้นหว่านนิ่งรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวมากกว่าเดิม เธอเอาโทรศัพท์วางไว้ที่พื้น แล้วก็เปิดหน้าจออย่างตื่นตระหนก พร้อมกับโทรหาเบอร์ส่วนตัวของโห้หลีเฉิน
“ตู้ด——ตู้ด——ตู้ด——”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าไม่มีคนรับสาย
ด้านนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ามืดมิด ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว แล้วก็มีเสียงฝนตกหนัก
เสียงฝนดังขึ้นตามอำเภอใจท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงัดนี้
เหมือนกับว่าจะกลบทุกเสียงไปหมด
ในใจของเย้นหว่านยิ่งรู้สึกหนาวสั่น หมดหวัง ค่ำคืนแบบนี้ บางทีโห้หลีเฉินอาจจะนอนไปตั้งนานแล้ว ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์……
สายใยแห่งความหวังในใจของเธอ ค่อยๆ ขาดไปตามเสียงตู้ดๆ จากโทรศัพท์
เย้นหว่านเริ่มหน้ามืด เริ่มหายใจไม่สะดวก เหมือนกับว่ามีอะไรติดอยู่ที่ลำคอของเธอ……
เจ็บปวด ขาดออกซิเจน
ดวงตาของเย้นหว่านเริ่มสูญเสียการมองเห็น เรี่ยวแรงในร่างกายของเธอน้อยลงเรื่อยๆ น้ำตาร่วงหล่นที่มุมตาของเธอ
น้ำเสียงของเธออ่อนแอ จนแทบจะเป็นการกระซิบ “ช่วย……ช่วย……” ฉัน……
เสียงของเธอ แทบจะหายไปในความมืด
ขนตาของเย้นหว่านสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเธอค่อยๆ ปิดลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เธอ ยื้อไม่ไหวอีกแล้ว
“ปัง!”
ตอนนี้เอง ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก
โห้หลีเฉินสวมใส่ชุดคลุมอาบน้ำ ผมยังคงเปียก เขาไม่ได้แม้แต่สวมใส่รองเท้าด้วยซ้ำ สภาพดูจนตรอก แต่ว่าเขาไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว เขามองเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก
เห็นเย้นหว่านนอนอยู่ที่พื้นด้วยใบหน้าที่ซีดราวกับกระดาษ หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้นในทันที
“เย้นหว่าน!”
โห้หลีเฉินตะโกน แล้วก็ก้าวยาวเข้าไปตรงหน้าของเย้นหว่าน แล้วก็อุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นที่เย็นยะเยือก
พออุ้มเธอขึ้นมา ถึงได้รู้ว่า ร่างกายของเธอร้อนเหมือนกับถ่ายร้อน ร้อนจนน่ากลัว
เธอหลับตา แทบจะมองไม่เห็นแม้แต่ลมหายใจของเธอด้วยซ้ำ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอยังดีๆ อยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
“เย้นหว่าน ฉันมาแล้ว เธอตื่นก่อน! เธอทนไว้นะ ฉันจะพาเธอไปหาป่ายฉีเดี๋ยวนี้! ”
โห้หลีเฉินไม่เคยตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา รีบอุ้มเย้นหว่านขึ้นมา แล้วก็คว้าเสื้อคลุมมาคลุมตัวเธอไว้ แล้วก็วิ่งออกไปด้านนอก
เมื่อกี้เขาอาบน้ำอยู่ ออกมาก็เห็นว่าเย้นหว่านโทรหาเขา พอรับสาย ก็เงียบเชียบได้ยินแต่เสียงฝน
เขานึกว่าเธอคิดถึงเขา ตอนที่กำลังจะพูดอะไรนั้น กลับได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างแผ่วเบา
เสียงนั้นอ่อนแอมาก เหมือนกับว่าจะตัดไปได้ทุกเมื่อ
โห้หลีเฉินเป็นคนที่ไวต่ออันตรายเสมอ เขาตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ในทันที เขารู้สึกกลัวจนไม่ทันแม้แต่จะใส่รองเท้าด้วยซ้ำ แล้วก็พุ่งมาที่ห้องของเย้นหว่านทันที
หลังจากนั้น ก็เห็นภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเกือบตกใจตาย
อาการของเย้นหว่านตอนนี้เร่งด่วนมาก อาจตายได้ทุกเมื่อ!
“เย้นหว่าน เธอทนไว้ก่อน อย่าหลับเด็ดขาดเลยนะ ฉันอยู่นี่ เธอจับฉันไว้ให้แน่นๆ นะ”
โห้หลีเฉินพูดกับเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ ในขณะเดียวกัน ก็พุ่งออกมาที่ห้องโถง
ด้านนอกนั้น มีฝนที่เทกระหน่ำลงมาจากท้องฟ้า เหมือนกับว่าเป็นม่านที่ขวางโห้หลีเฉินไม่ให้ออกไปด้านนอก
แต่ว่าเขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เอาแจ็คเก็ตคลุมตัวเย้นหว่าน แล้วก็พุ่งเข้าไปในฝนทันที
ฝนตกลงมาอย่างหนัก เพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น ก็ทำให้เนื้อตัวของเขาเปียกโชก
เขาเดินเท้าเปล่าท่ามกลางสายฝน ทำให้แอ่งน้ำฝนกระเด็น ก้าวยาวไปด้านหน้า รวดเร็วและรีบเร่ง
ไม่ได้สนใจน้ำฝนที่เย็นเข้ากระดูกเลยแม้แต่นิดเดียว ฝ่าเท้าของเขาเจ็บปวดอย่างคมชัด
สายฝนไหลผ่านเสื้อแจ็คเก็ต ซึมเข้าไปโดนผิวหนังของเย้นหว่านเล็กน้อย ความเย็นกัดแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนัง ใบหน้าของเธอซีดลงกว่าเดิม แต่ว่ากลับไม่มีสีหน้าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอหลับตาสนิทมาก เหมือนกับว่ากำลังนอนอยู่ยังไงยังงั้น
แต่ว่าไม่ได้เหมือนนอนหลับไปเฉยๆ ตอนนี้ไม่แม้แต่จะเห็นการหายใจของเธออีกต่อไป……
“เย้นหว่าน!”
โห้หลีเฉินเดินไปด้วย แล้วก็มองเย้นหว่านไปด้วย ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ต่ำและหนักแน่น
“เธอรับปากฉันแล้ว ว่าจะแต่งงานกับฉัน พวกเรายังไม่ทันได้แต่งงานกันเลย เธอห้ามทำผิดสัญญาอีกแล้วนะ เธอเคยโกหกฉันไปแล้ว”
คำพูดที่เศร้าโศก เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกที่หวาดกลัวการสูญเสีย
แต่ไหนแต่ไรมาโห้หลีเฉินไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความหวาดกลัวทำให้เขาเหมือนไม่เป็นตัวเอง
เย้นหว่านที่นอนอยู่ที่อ้อมแกของเขา เหมือนกับตุ๊กตาเคลือบดินเผาที่ไม่มีชีวิต นอนเงียบอยู่แบบนั้น ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เขากลัว กลัวว่าเขาจะมาไม่ทัน
ที่อยู่ของเย้นหว่านห่างจากที่อยู่ของป่ายฉี จะบอกว่าไกลก็ไม่ไกล จะบอกว่าใกล้ก็อยู่ห่างกันหลายหลังอยู่ แต่โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าสิบนาที แต่มันกลับทำให้โห้หลีเฉินรู้สึกว่า ต้องทุกข์ทรมานเหมือนผ่านไปหลายศตวรรษ
เขาไม่รู้ว่าทนมานานแค่ไหน ในที่สุดก็เดินมาถึงบ้านของป่ายฉี
เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เอาเท้าถีบประตูเข้าทันที
แรงนั้นเยอะมาก ประตูคุณภาพดีของป่ายฉีนั้นพังลงไปทันที นอนอยู่กับพื้น
ป่ายฉีนึกว่ามีโจรมาที่บ้าน ตกใจจนตื่นขึ้นมาจากความฝัน เสื้อผ้ายังไม่ทันจะใส่ เขาวิ่งออกมาจากห้องพร้อมกับกางเกงบ็อกเซอร์
“ใครมันใจกล้าบ้าบิ่น ถึงขั้นกล้าพังประตูบ้านคุณชายเลยงั้นเหรอ? ”
“ช่วยเย้นหว่าน!”
โห้หลีเฉินอุ้มเย้นหว่านเข้ามาในห้องรับแขก แล้วก็สั่งด้วยน้ำเสียงโมโห
ป่ายฉีเป็นคนนิสัยแปลกๆ แต่ไหนแต่ไรมาเวลาผู้คนมาขอให้เขารักษา ก็ต้องดูอารมณ์ก่อนว่าอารมณ์ดีหรือไม่ดีถึงจะลงมือ แต่ว่าไม่เคยมีใครกล้าสั่งให้เขาช่วยชีวิตคนอย่างดุร้ายแบบนี้