สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่482 การแลกเปลี่ยนบรรลุผล
บทที่482 การแลกเปลี่ยนบรรลุผล
กู้ซึงไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร เขาพยักหน้าด้วยความดีใจ
“OK!”
การแลกเปลี่ยนบรรลุผล เย้นหว่านรีบไปหาผ้าปูเตียงกับผ้าห่มชุดใหม่ แล้วก็เอาอันที่โห้หลีเฉินเคยใช้ออก เปลี่ยนเป็นอันใหม่ทั้งหมด
กู้ซึงมองดูเย้นหว่านยุ่งวุ่นวายอยู่บนเตียง ในมือของเขาถือไวน์ พลางส่ายหน้า แล้วก็จิบลงไปอย่างสบายใจ
เขาพูดหยอกล้ออย่างมีความสุขว่า “เสี่ยวหว่าน ตอนนี้เธอดูเหมือนภรรยาที่ดูแลฉันดีมากเลยนะ”
มือของเย้นหว่านหยุดในทันที ตกใจจนแทบจะฉีกผ้าห่มออก
ไอ้เลวนี่มันพูดอะไรของมัน?
เธอหันหน้ามา แล้วก็มองเขาอย่างจริงจัง “นายไม่ต้องคิดเยอะ”
กู้ซึงเลิกคิ้วอย่างหยอกล้อ แล้วก็คลี่ยิ้มร้ายๆ
“ฉันต่างหากที่คือกู้ซึง อยู่ในสถานะแฟนที่ไม่ชัดเจนกัน เป็นลูกเขยของแท้ที่ครอบครัวของเธอชอบ ที่จริงแล้ว พวกเราอยู่ด้วยกัน เหมาะสมจะตาย ฉันไม่ถือสาหรอก”
แต่ว่าเธอถือ!
เย้นหว่านถลึงตาใส่กู้ซึงด้วยความโกรธ ผู้ชายคนนี้นอกจากที่ใบหน้าจะดูดีนิดหน่อย แต่ว่านิสัยช่างน่าเกลียด แถมปากเสียอีกต่างหาก
วันนี้ เขารังแกเธอไปกี่ครั้งแล้ว?
เย้นหว่านขบฟันแน่น แล้วพูดว่า “นายมีความคิดแบบนี้ โห้หลีเฉินรู้เหรอเปล่า? ”
กู้ซึงนิ่งไป
เย้นหว่านเห็นปฏิกิริยาของเขา ก็เข้าใจอะไรบางอย่าง สุดท้ายแล้วอารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาหน่อย
เธอยิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอกแล้วพูดว่า “รอให้ฉันเจอโห้หลีเฉินก่อน แล้วฉันจะเล่าให้เขาฟังในสิ่งที่นายพูด……”
“ฉันก็แค่ล้อเล่น เธออย่าเอามาเป็นจริงเป็นจังสิ! ”
กู้ซึงรีบร้อนพูดขึ้นมา ตัดบทเย้นหว่าน
เขาวางแก้วไวน์ในมือของตัวเอง จากสีหน้าที่เหยียดหยามอย่างไม่เคารพเมื่อกี้นั้นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นมองหน้าเย้นหว่านอย่างจริงใจอย่างมาก
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “พวกเราอาจจะต้องใช้เวลาที่ต้องคบกันอีกนาน สามัคคีกันไว้น่าจะดีกว่านะ”
ต้องใช้เวลา
ประโยคนี้ทำให้อารมณ์ของเย้นหว่านที่พึ่งจะดีขึ้นมานิดหน่อย ตกลงไปด้านล่างอีกครั้งในทันที
มีหมายความว่าอีกเนิ่นนานเลยที่โห้หลีเฉินจะไม่ได้กลับมาอยู่ที่นี่ในฐานะของกู้ซึง
สรุปแล้วเขาวางแผนยังไงกันแน่?
เย้นหว่านทายไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
เดิมทีเธอนึกว่า การที่โห้หลีเฉินปลอมตัวเป็นกู้ซึงมาที่บ้านตระกูลเย้น ก็เพื่อที่จะใช้ชื่อของกู้ซึงเพื่อมาอยู่กับเธอ หลังจากนั้นก็แสดงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของพวกเขาให้พ่อกับแม่เห็น ทำให้พ่อกับแม่ยอมรับ และเห็นด้วย หลังจากนั้นก็พูดว่าความจริงแล้วเขาก็คือโห้หลีเฉิน ต่อให้พ่อแม่ไม่พอใจ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเป็นห่วงความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคน
พอเป็นแบบนี้ สุดท้ายแล้วโอกาสที่พวกเขาจะยอมตกลงก็มีมากขึ้น
แต่ว่าตอนนี้โห้หลีเฉินกลับทิ้งกู้ซึงไว้ที่นี่ แล้วเขาก็กลับหนีไปคนเดียว ไม่รู้ว่าทำอะไร ถ้ายังงั้นวิธีที่จะใช้ชื่อของกู้ซึงเพื่อให้ได้การยอมรับจากพ่อแม่ อาจจะ ไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่แล้ว
ช่วงงนี้เย้นหว่านไม่สามารถแสดงความรักต่อกู้ซึง เพื่อที่จะได้รับความยินยอมจากพ่อแม่งั้นไง?
เย้นหว่านทั้งหดหู่ทั้งอารมณ์เสีย รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกับว่าไม่มีที่ให้ยืน
คืนนี้ เย้นหว่านรู้สึกหนักใจ จนเกือบนอนไม่หลับ
ยังมีความหวังอยู่ในใจของเธอ ว่าอยู่ดีๆ โห้หลีเฉินก็จะกลับมา
ดังนั้นเธอก็เลยตื่นขึ้นมาแต่เช้า นั่งอยู่บนโซฟาห้องรับแขก มองไปที่ห้องของกู้ซึงตาไม่กะพริบ
รออยู่นาน สุดท้ายเขาก็เปิดประตูออก
หลังจากร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นตรงประตู ก็ยังคงเป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคย
“ไฮ อรุณสวัสดิ์”
กู้ซึงคลี่ยิ้ม ทักทายเย้นหว่านอย่างมีความสุข
ความคาดหวังในแววตาของเย้นหว่าน กลายเป็นฟองสบู่ไปในทันที
โห้หลีเฉินไม่เคยทักทายแบบนั้นมาก่อนเลย
เขาคือกู้ซึงตัวจริง ไม่ผิดเลย
“เฮ้อ”
เย้นหว่านถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แล้วก็ยืนขึ้น เดินออกไปด้านนอก
“ได้เวลากินข้าวเช้าแล้ว”
วันเวลาก็ผ่านไปในแต่ละวัน
กู้ซึงรับบทเป็นโห้หลีเฉิน ทุกวันก็เอาแต่อยู่กับเย้นหว่าน ในสายตาของคนอื่นนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดำเนินไปได้ด้วยดีเหมือนปกติ
แต่ว่าสุดท้ายแล้วเย้นหว่านก็ไม่เคยชินกับการต้องเผชิญหน้ากับชายแปลกหน้าสองคน แถมยังต้องเสแสร้งทำเป็นรักกันอีก ส่วนมากเธอก็จะพากู้จื่อเฟยไปด้วย
ไปไหนก็ไปกันสามคน
แน่นอนว่ากู้ซึงก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรอยู่แล้ว
วันนี้ เหมือนกับว่ากู้ซึงรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป ก็เสนอความเห็นว่า
“ออกไปเล่นข้างนอกหน่อยไหม? ว่ากันว่ามีทะเลสาบธรรมชาติในเขตชานเมืองทางตะวันตก ไปพายเรือได้ด้วย แถมยังมีป่าที่วิวสวยมากอีก พวกเราไปเดินเล่นกันเถอะ”
เย้นหว่านไม่ได้รู้สึกสนใจมากเท่าไหร่ แต่พอคิดว่าอยู่บ้านก็เอาแต่เดินเตร่ อยู่แบบน่าเบื่อ เธอก็เลยตกลง
พอเย้นโม่หลินได้ยินเรื่องนี้ ตอนที่พวกเขาจะออกไปจากบ้านนั้น ก็ขับรถมาขวางหน้าพวกเขาทั้งสามคนไว้
เย้นหว่านมองไปที่เย้นโม่หลินที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับอย่างประหลาดใจ “พี่ มีเรื่องอะไรเหรอ? ”
เย้นโม่หลินพูดอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า “ที่นั่นมนุษย์ไม่ได้เป็นคนสร้าง มีสัตว์ป่าปรากฏตัวอยู่ ไม่มีการป้องกันความปลอดภัย เดี๋ยวพี่ไปด้วย”
เย้นหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ในเมื่อไม่ปลอดภัย งั้นไม่ต้องไปก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอก มีพี่อยู่ เธอก็เที่ยวเล่นอย่างสบายใจได้เลย”
เย้นโม่หลินตัดสินใจแล้ว
เย้นหว่านหดหู่ใจ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นทริปสี่คนอีกแล้วเหรอ? ถ้าเกิดว่าเย้นโม่หลินไปด้วย ถ้ายังงั้นเธอก็ต้องเสแสร้งเป็นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกู้ซึงอีกน่ะสิ
การเที่ยวเล่นครั้งนี้ ก็รู้สึกเหนื่อยอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน
ตอนที่เธอกำลังสับสนอยู่ว่าควรจะหาเหตุผลที่ไม่ไปไหม ตอนนี้เอง กู้ซึงก็กลับพูดอย่างเห็นด้วยมาก
“ถ้ายังงั้นก็ต้องขอบคุณคุณชายเย้นมากนะครับ เสี่ยวหว่าน ไป พวกเราขึ้นรถกันเถอะ”
กู้ซึงเดินไปข้างรถ แล้วก็เปิดประตูด้านหลังอย่างเป็นสุภาพบุรุษ
คำพูดที่เย้นหว่านอยากจะพูดก็สำลักในลำคอของตัวเองทันที ขึ้นก็ไม่ได้ ลงก็ไม่ได้เหมือนกัน
เธอจำเป็นต้องไป
ไม่มีทางเลือก เย้นหว่านก็เลยต้องจำใจขึ้นรถ กู้ซึงเองก็ขึ้นรถตามไปเหมือนกัน นั่งข้างๆ เธอ
รถคันนี้มีที่นั่งสองแถว เย้นหว่านกับกู้ซึงนั่งแถวหลัง เธอเหลือเพียงแค่ตำแหน่งข้างคนขับแล้ว
กู้จื่อเฟยยืนอยู่ข้างรถ ก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้
เธอโน้มตัว แล้วพูดกับเย้นโม่หลินที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับว่า “พี่เย้นคะ ไม่มีที่นั่งแล้ว คงไม่ถือสาถ้าฉันจะนั่งที่นั่งข้างพี่นะ? ”
ตอนแรกเย้นโม่หลินจะให้เย้นหว่านนั่งที่นั่งข้างคนขับ
แต่พอมองกระจกหลังแล้วเห็นภาพที่เย้นหว่านกับกู้ซึงนั่งชิดกัน ท่าทางดูหวานแหวว เขาก็ไม่กล้าที่จะบอกให้พวกเขาสองคนแยกกันนั่ง
เย้นโม่หลินก็ทำได้แค่เลือกทางเลือกอีกทางหนึ่ง หันไปมองกู้จื่อเฟย เตรียมจะให้เธอนั่ง แต่ว่ายังไม่ทันจะพูดอะไร เขาก็เห็นภาพที่ไม่สามารถอธิบายได้ตอนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
กู้จื่อเฟยใส่ชุดเดรสสายเดี่ยว โน้มตัวมาคเหรอ่งหนึ่ง รูปร่างที่ดูดีมากอยู่แล้ว ก็น่าดึงดูดมากขึ้นไปอีก
ลมหายใจของเย้นโม่หลินติดขัดในทันที
เขาตกใจมาก สีหน้าตัวไม่เป็นตัวของตัวเองสุดๆ คนที่ควบคุมตัวเองได้ยอดเยี่ยมอ่างไม่เคยมีช่องโหว่วแบบเขา ไม่คิดเลยว่าแค่พอมองกู้จื่อเฟยแล้ว จะกลับ……
สมควรตายจริงๆ
น่าจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้รับการปลดปล่อยมานานเกินไป
เย้นโม่หลินหายใจถี่ รีบละสายตาไปทางอื่นเหมือนกับว่าตื่นตระหนก แล้วเขาก็ฝืนบีบคำสองคำออกมาจากลำคออย่างแข็งกระด้าง
“นั่งเถอะ”
กู้จื่อเฟยไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้เหมือนกับว่าจิตใจของเขาได้ผ่านการขึ้นๆ ลงๆ ภูเขาสูงมา เธอขึ้นไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับอย่างเป็นธรรมชาติ
เธอหันไปมองผู้ชายรูปหล่อที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ มุมปากของเธอก็คลี่ออกอย่างช่วยไม่ได้
การมาที่นี่ในครั้งนี้ ไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ยังงั้นเธอคงไม่มีโอกาสได้สัมผัสเทวดาใกล้ๆ แบบนี้